BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562

#วันนี้น้องยูนโดนบรีฟอะไรมาบ้าง ตอนที่ 20

#วันนี้น้องยูนโดนบรีฟอะไรมาบ้าง

ตอนที่ 20 ; Cut scene​



ซังโน้มตัวลงก่อนจะท้าวแขนลงบนพื้นที่ข้างโซฟาที่เหลือ

ริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อย ตอบรับสัมผัสบางเบาจากคนแก่กว่าโดยง่ายตามห้วงอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบเชียบ

อาจจะเพราะว่าพอลืมตาตื่นขึ้นมา เวลาเย็นย่ำกับแสงแดดที่พระอาทิตย์กำลังตกนั้นส่องมาสะท้อนให้เห็นนัยน์ตาสีอ่อนของคนที่นั่งเฝ้า พร้อมหนังสือในมือเรื่องหนึ่งที่จำได้ว่าพะยูนชอบมันมาก ๆ

มันเป็นหนังสือที่พะยูนแนะนำให้อีกฝ่ายอ่านตั้งแต่สมัยที่เราเริ่มแลกเปลี่ยนความสนใจเกี่ยวกับตนเองทีละเล็กละน้อย

ไม่นึกว่าจะจำได้แล้วไปซื้อมาอ่านจริง ๆ

"พี่..."

ห้วงคำพูดหายไปอีกรอบ ตอนที่คนพี่ตัดสินใจรั้งอีกฝ่ายจนชิดขอบโซฟาตัวยาว ถ้อยคำที่คนน้องตั้งใจจะเอ่ยออกมาถูกกลืนหายตอนเห็นว่าคนพี่จ้องมาด้วยความจริงจัง

มันเป็นเสี้ยววินาทีหนึ่งที่พะยูนรู้สึกใจเต้นแรงมากกว่าทุกครั้งที่เคยได้รู้สึกกับคนคนนี้

เป็นวินาทีที่เขาเองก็ไม่อยากจะรออะไรอีก ไม่อยากแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยบอกอีกฝ่าย

ว่าเขาโอเค

ว่าเขาเองก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องอดทนอดกลั้นอะไรเพื่อตนเองเลย

แค่อยากให้คนพี่ได้ทำตามใจตัวเองบ้าง แค่อยากให้ได้รู้ว่าการรักนั้นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความเสียสละและอดทนรอ

พะยูนสอดมือเข้ากับท้ายทอยของซัง ชันเข่าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกดริมฝีปากแนบหน้าผากของคนแก่กว่า

ซังหลับตา รองรับสัมผัสนั้นที่ชวนใจเต้น ในขณะที่สองมือประคองสะโพกเจ้าตัวให้แนบหน้าตักกว้างของตนอย่างระมัดระวัง

หน้าผาก ดวงตาทั้งสองข้าง

และปลายจมูกถูกสัมผัสชื้นแตะลงเบาบาง

เพียงแค่นั้นซังก็สั่นไปทั้งใจ

เราทั้งคู่แลกจูบลึกซึ้งกว่าทุกครั้งที่เคยทำมา กอดก่ายกันอย่างไม่เก็บกักความในใจ เพราะต่างคนต่างรู้ว่าด้วยช่วงวัยนั้น กับเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสิ่งน่าอายเลย

มันก็แค่ภาษาบอกรักอีกภาษา

พะยูนเงยหน้า หายใจหอบเหนื่อยเมื่อรับรู้ถึงเรียวลิ้นชื้นที่ไล้ที่ลำคอ ซังกดจูบก่อนจะขบเม้มเบา ๆ เขาไม่อยากให้ร่องรอยนั้นเด่นชัดเกินไปเพราะยังห่วงน้องที่ต้องไปทำงานในอีกสามวันข้างหน้า

"กัดได้นะ"

น้องกระซิบเสียงเบา ขณะที่ซังห้ามใจอย่างยิ่งยวด

ให้ตายเถอะ

จะทำให้คลั่งไปถึงไหน

"เดี๋ยวเพื่อนน้องยูนล้อ" ซังกระซิบ "อีกอย่าง...เจ้านายเราก็หวงน้องยูนกับพี่มาก แค่พี่ขอให้เขาเซ็นอนุมัติให้เรามากับพี่ พี่ก็แทบโดนตีให้ตายแล้ว"

พะยูนหัวเราะเสียงเบากับคำตอบนั้น อีกฝ่ายดูน่ารักดีเวลาที่เอ่ยออกมาทั้งที่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เรื่องราวระหว่างเราในตอนนี้เสียเปล่า

ร่างกายท่อนบนของเราเปลือยเปล่าโดยง่าย ยามที่ได้รับความร่วมมือจากกันและกัน สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากของซังนั้นราวกับจะปลอบโยนให้ใจเย็น แต่บางครั้งก็เร่งเร้าเสียจนพะยูนเผลอจิกมือลงที่ไหล่เปลือยของคนพี่เสียเต็มแรงด้วย

ซังกัดฟันเล็กน้อย ตอนที่คนน้องจูบเบา ๆที่กกหู ก่อนจะรู้สึกเจ็บที่ไหล่ตอนถูกจูบและขบเม้ม เขาไม่ต้องส่องกระจกดูก็รู้ว่าในวันรุ่งขึ้นมันจะยิ่งกว่าแดงก่ำในตอนนี้เสียอีก

"รอตรงนี้"

ซังมองตามอีกคนที่เดินหายเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะเดินออกมาทั้งที่โยนของบางอย่างที่ซังแอบซ่อนไว้ในกระเป๋าอย่างลวก ๆ

ทั้งที่ตั้งใจจะแอบไว้ไม่ให้น้องเห็น แต่น้องดันจับได้เสียนี่

"ใจเย็นครับ..."

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เหมือนกับกล่อมตัวเองมากกว่า ตอนที่เห็นพะยูนใช้ฟันเขี้ยวเล็ก ๆ กัดมุมซองฟรอยด์แล้วฉีกจนมันร่วงหล่นลงมาด้วยตัวเอง บอกตามตรงว่าเขาแทบจะพุ่งเข้ารั้งอีกฝ่ายให้นอนแนบกับพื้นพรมที่น้องนั่งคุกเข่าอยู่ด้วยซ้ำ

แต่เพราะรู้ว่าถ้าอดทนสักนิด รางวัลที่ได้มันจะงดงามกว่า

เขาเลยรอแม้ใจจะร้อนรุ่ม

พะยูนปลดกางเกงคนพี่อย่างลวก ๆ มองเห็นส่วนดุนดันใต้อันเดอร์แวร์สีดำสนิทยิ่งรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนกว่าเดิม แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขากลับไม่อยากละสายตากับทุกการกระทำที่เกิดขึ้นด้วยมือของนเอง

เขาอยากจะรู้จักกับอีกฝ่ายมากกว่านี้ ผ่านทางร่างกายของเขา...

หมายถึง กับการใช้ริมฝีปากทักทาย

ซังคำรามออกมาในลำคอ ตอนที่น้องกัดลงที่หน้าท้องของตนเองสองสามครั้ง เขาลูบลงที่กลุ่มผมสีอ่อน มองน้องค่อย ๆ ทักทายส่วนนั้นด้วยปลายลิ้น และริมฝีปากร้อนที่อ้อยอิ่งราวกับจะยั่วให้เขาหมดความอดทน

และใช่

มันได้ผล

ซังรั้งท้ายทอยคนเด็กกว่า ขยับสะโพกสอบใส่แผ่วเบาราวกับจะเตือนน้องไม่ให้ซนไปมากกว่านี้ แต่น้องกลับรั้นเหลือเกิน จนทำให้เขาทำได้เพียงแค่ขย้ำกลุ่มผมน้องและครางออกมาเสียงต่ำอย่างอดกลั้นไม่ไหว

"น้องยูนㅡ"

"พี่ซังชอบไหม?"

เขาไม่ได้ตอบ ทำเพียงแค่รั้งไหล่น้องขึ้นมาให้แนบตักกว้าง แลกจูบเสียจนเปรอะเปื้อนด้วยน้ำลาย ก่อนจะหอมแก้มน้องซ้ายขวาหลายหน

"เราไหวไหม?"

คนเด็กกว่าพยักหน้า ตอนค่อย ๆ ขยับครอบครองตัวตนของเขาอย่างเงียบเชียบ เขาบีบช่วงเอวของน้องเบา ๆ พรมจูบแถวอกเพื่อให้น้องผ่อนคลายกว่านี้สักหน่อย

มันรัดแน่นไปหมด

ได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจของน้อง ซังเอ่ยขอบคุณเบา ๆ อีกครั้งเพราะรู้ว่าน้องทำเพื่อตนเองขนาดไหน กระชับกอดพร้อมกระซิบให้รับรู้ว่าเขาเองก็ความอดทนน้อยลงกว่าเดิมเหมือนกัน

"เก่งมาก เด็กดี"

ซังเอนตัวลงพิงพนักโซฟา ภาพตรงหน้ายิ่งกว่าเทพบนสวรรค์ที่เคยนึกคิดในเทพนิยายที่อ่านผ่านตา

ผิวขาวของน้องขึ้นเจือสีแดงไปเกือบทั้งตัว

แสงอาทิตย์ที่ตกดินเร้นลอดผ่านม่านพาดทับร่างกายของน้องที่กำลังขยักโยกบนตัวตนของเขา

ราวกับสาดส่องจากสวรรค์

น้องเป็นยิ่งกว่าทุกอย่างในโลกใบนี้เสียอีก

ซังมองคนเด็กกว่าที่เริ่มขยับช้าลง น้องกอดรัดช่วงลำคอ เราไร้ซึ่งบทสนทนามาสักพักใหญ่เพราะเสียงครางที่ดังกลบเสียงเพลงที่เปิดทิ้งไว้ เพลย์ลิสโลดแล่นไปเรื่อยไม่ต่างจากแรงโถมใส่ของซังที่มอบให้พะยูนไม่มีตก

"มะ ไม่ไหว"

"อีกนิด" ซังกดปลายจมูกลงข้างแก้มน้อง "เด็กดี อีกนิดนะ"

พะยูนส่ายหน้า สะดุ้งเฮือกยามที่แรงตอกอัดเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเป็นสัญญาณว่าเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน ฝ่ามือกดลงที่ไหล่ของคนพี่ก่อนจะกระตุกกายเต็มแรงเมื่อฝ่ามือของคนพี่ปลอบโยนจนปลดปล่อย

พะยูนมองซังที่ผละตัวออกเล็กน้อย เหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผมคนพี่หยดลงตามข้างลำคอที่มีร่องรอยที่ตัวเองทำไว้

และนั่นเป็นภาพสุดท้ายที่พะยูนเห็น ก่อนจะหลุบตาลงพร้อมคำรามต่ำออกมา

รับรู้ถึงแรงสอดใส่สุดท้าย ซังรั้งเรียวขาน้องให้อ้ากว้างพาดผ่าช่วงไหล่ตนเองและพนักโซฟาแคบ สอบอัดสอดใส่เร่งเร้า ก่อนหยาดน้ำขุ่นจะปลดปล่อยออกมาทั้งหมดในเครื่องป้องันที่สวมใส่

เราป้อนจูบพัวพันเพื่อปลอบโยน ก่อนจะผละริมฝีปากออกเพื่อผ่อนลมหายใจ

"...ไปในห้อง"

นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่พี่ซังบอกเขาให้รู้ ก่อนจะถอนตัวตนออกจากร่างกายเขาจนส่วนเติมเต็มนั้นว่างเปล่า

...และแสงอาทิตย์ตกดินก็ไม่ได้มีโอกาสมองเห็นคนสองคนที่กอดก่ายในเย็นวันนั้นอีก




END CUT SCENE
กลับไปบรีฟกันต่อในจอยนะคะ เริ้บ

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560

[FICLET] SONG MINHO X KANG SEUNGYOON : BEST OF ME






BEST OF ME

(side story – BREA+HE)





“จะหมดปีแล้ว มีแผนเคาท์ดาวน์กับใครหรือเปล่า?”

คำถามนี้ทำให้มินโฮที่ยังนั่งอยู่หลังห้องเลกเชอร์ขณะที่เรียนในคลาสนั้นต้องเลิกคิ้ว มินโฮไม่ได้ตอบคำถามอะไร นั่นไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีคำตอบในใจ

เขามี แต่กำลังรู้สึกลังเลว่าจะเริ่มมันดีไหมมากกว่า

คำถามนั้นตกตะกอนในใจ ในช่วงใกล้สิ้นปีที่หิมะตกเบาบาง แม้จะเป็นช่วงแห่งการเรียนอยู่ แต่เขากลับไม่มีสมาธิจดจ่อกับมันมากนัก เหตุเพราะคนตรงหน้าห้องที่เป็นตัวแปรสำคัญให้เขารู้สึกเช่นนั้น

จะเริ่มทำความรู้จักดีไหมนะ?

จะทำยังไงดี ถึงจะเริ่มบทสนทนาได้แบบไม่แปลกประหลาด

มินโฮรู้สึกว่ามันช่างแสนงี่เง่า ที่เขายังคิดเช่นนั้นวนเวียนไปมาตั้งแต่หลังวันคริตสมาสต์แล้ว เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีและมันคล้ายกับหนูที่ติดจั่นจนไปไหนไม่ได้ เหตุเพราะเขารู้สึกสะดุดตากับคนคนนี้มากเป็นพิเศษ

คนตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อย ผิวขาวและริมฝีปากสีแดงสดแสนอวบอิ่ม

เขารู้ว่าอีกฝ่ายชื่อคังซึงยุน จากการที่ได้ยินเพื่อนในคลาสเรียก เราเรียนคณะเดียวกัน เจอกันค่อนข้างบ่อย(ก็เฉพาะเวลาเรียน)แต่ไม่เคยคุยกันเลยเพราะอีกฝ่ายดูจะติดเงียบกว่าที่คิด

“สมมตินะ” มินโฮเกริ่นหลังจากนั่งคิดนานสองนาน “ถ้าฉันไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แล้วจู่ๆเดินไปทัก มันจะแปลกไหม?”

“เฮ้ นายหน่ะ” เพื่อนของเขาพูดขึ้นมา “ตกหลุมรักหรอ? ใครหน่ะ?”

“ถามก็ตอบดิ”

มินโฮรู้สึกอายนิดหน่อย เขาไม่น่าเกริ่นคำถามแบบนี้เลย เพื่อนของเขาหัวเราะก่อนจะยกมือปิดปากเมื่ออาจารย์หน้าคลาสหันมามองก่อนจะกระซิบ

“ไม่ยากเลยเพื่อน นายหล่อ รุกเลย”

“เอางั้นเลยหรอ”

“ใช่” เพื่อนคนั้นยืนยัน “หาโอกาสเหมาะๆ รุกแล้วป้าบเลย โอ้ย!

“นี่นักศึกษาสองคนด้านหลังหน่ะ คุณเงียบๆหน่อย!!!




มินโฮเลิกคลาสลงทั้งกลับมาคิดถึงสิ่งที่คุยกับเพื่อน ก่อนจะทำหน้าคิดไม่ตก

พูดอ่ะมันง่าย แต่ทำอ่ะมันเหมือนกับที่คิดซะที่ไหน แน่ละมินโฮไม่เคยเข้าหาในเชิงรุกจีบกับใครมาก่อน ถึงเพื่อนหลายคนจะบอกว่าเขาไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ก็เถอะ แต่ว่าเขาไม่ใช่คนประเภทนั้นซะหน่อย

มินโฮมองด้านนอก ก่อนจะต้องถอนใจเมื่อหิมะตกหนัก เขาอุตส่าห์รอให้มันซาลงแล้วเชียว มินโฮหยิบร่มออกมาก่อนจะตัดสินใจกางมัน ที่คณะตอนนี้ไม่มีใครแล้ว มินโฮจึงเดินออกไปก่อนจะชะงัก

นั่นมัน...

ทำไงดี นั่นมันคนนั้น...

มินโฮชะงักฝีเท้า เพราะเขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร การเริ่มบทสนทนาช่างยากเย็น ก่อนคำพูดของเพื่อนในคลาสจะดังในหัว

เอาวะ...

เห้ย นายอ่ะ

“…”

ไปยืนตากหิมะตรงนั้นทำไม จะไปไหน เดี๋ยวไปส่ง

...ให้ตาย ทำไมห่ามขนาดนั้น

มินโฮไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้เลย เขาตั้งใจจะพูดให้มันดูดีกว่านี้ แต่ก็นั่นแหละ เขารู้สึกเขินเกินกว่าจะทำแบนั้น อีกฝ่ายหันกลับมามองหน้านิ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มจางบนใบหน้า

มินโฮรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัดอย่างรุนแรง

น่ารัก...โคตรน่ารัก ยิ่งยิ้มยิ่งน่ารัก

“ขอบคุณนะ”

น้ำเสียงนั่นใสกว่าที่คิด มินโฮรู้สึกเหมือนถูกกระชากดวงใจเมื่ออีกฝ่ายขยับเข้ามาอยู่ในร่มคันเดียวกัน ก่อนจะบอกว่าจะไปร้านกาแฟข้างหน้าเสียหน่อย

มินโฮไม่ปฏิเสธคำขอร้องนั้น ก่อนจะเดินกางร่มให้อีกฝ่าย

เราเดินคู่กัน ผ่านหิมะที่เริ่มตกหนักขึ้น และบรรยากาศยามพลบค่ำที่มีแสงไฟตกแต่งตามท้องถนน

ให้ตาย...รู้สึกดีเป็นบ้าเลย




“....ยังจำได้อีก”

มินโฮเกาหัวเมื่อซึงยุนนั่งอยู่ตรงข้ามทั้งที่ยิ้มจาง ก่อนซึงยุนจะหัวเราะคิกคัก

“ก็หน้านายตลก ตอนที่พูดชวนฉันไปเคาท์ดาวน์ด้วยกัน แต่พอฉันแกล้งถามย้ำนายก็เปลี่ยนเรื่อง”

“มันเขิน...”

“เขินอะไรหล่ะ”

“นายไม่เข้าใจฉันหรอกซึงยุน”

ซึงยุนหัวเราะก่อนจะผละมือมากุมมือของมินโฮ มินโฮตาโต ก่อนอีกฝ่ายจะยกยิ้มจาง

“ฉันแก้ตัวก็ได้”

“...”

“มินโฮ ปีนี้อยู่เคาท์ดาวน์กับฉันนะ”

“...ปฏิเสธได้ที่ไหนหล่ะ”

ซึงยุนหัวเราะออกมาก่อนจะมองซ้ายขวา เมื่อบริเวณร้านไร้ซึ่งผู้คน ก่อนจะยื่นตัวข้ามโต๊ะมากดริมฝีปากลงที่ริมฝีปากหยัก มินโฮตกใจ ก่อนจะพูดออกมา

“เฮ้ นาย!!!

ซึงยุนหัวเราะคิกคักก่อนจะพูดย้ำ

“ปีนี้...อยู่ด้วยกันนะ มินโฮยา”



-END-









วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

[OS] LEE SEUNGHOON X KANG SEUNGYOON : adrenaline 07

[OS] LEE SEUNGHOON X KANG SEUNGYOON
Story : adrenaline 07







[OS] LEE SEUNGHOON X KANG SEUNGYOON

Story : adrenaline 07


เราขยับริมฝีปากใกล้กัน

ความรู้สึกระหว่างเราดึงดูดกันและกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ทั้งที่มันเป็นแบบนั้น ผมกลับรู้สึกว่ามันเป็นสัญญาณแสนน่าเศร้า

“สัญญาณสุดท้ายระหว่างความสัมพันธ์ของเรา”




“ขอโทษทีนะ ทั้งที่ผมควรจะไปส่งคุณที่ร้าน”

ซึงยุนส่ายหน้า ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย วันนี้ซึงฮุนไปรับซึงยุนที่มหาวิทยาลัยมา หลังจากที่เราทั้งคู่ตกลงว่าจะออกไปดูหนังด้วยกันในช่วงบ่าย แต่เพราะงานเร่งด่วนกะทันหันทำให้ซึงฮุนต้องมาที่บริษัทก่อน

“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย” ซึงยุนกวาดสายตาดูรอบห้อง “ผมเพิ่งเคยมาครั้งแรกเลย”

“หรอ...” ซึงฮุนนั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน ก่อนจะเหลือบตาดูอีกคนที่ดูตื่นเต้นกว่าที่คิด ดวงตาใสจดจ้องไปวิวด้านนอกของอาคารที่อยู่อีกฝั่ง นั่นพอทำให้เบาใจบ้างว่าอีกฝ่ายจะไม่เบื่อเกินไประหว่างรอ “ห้องพักผมอยู่ทางประตูซ้ายมือนะซึงยุน ถ้าคุณอยากนอนก่อน หรือจะเข้าห้องน้ำ ผมแนะนำให้ไปห้องนั้น ที่นี่อาจจะไม่สะดวกเพราะพนักงานจะเข้ามาเป็นระยะๆ”

ซึงยุนพยักหน้า วันนี้เจ้าตัวมาในชุดนักศึกษาแถมยังใส่แว่นที่ปกติซึงฮุนไม่เคยเห็นมัน ก่อนเจ้าตัวจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าซึงฮุนจ้องครู่หนึ่งแล้ว

“ผมดูแปลกหรอ?”

ซึงยุนถามซึงฮุน ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้และตัดสินใจยืนพิงฝั่งที่ซึงฮุนนั่งอยู่บนเก้าอี้

ซึงฮุนยิ้มออกมาก่อนจะวางมือลงที่หน้าขาของอีกฝ่าย ฝ่ามือขาวกุมแผ่วเบาเป็นกำลังใจให้รู้สึกดีกว่าที่คิด

“เปล่า” ซึงฮุนตอบ “แต่ปกติผมไม่ค่อยเห็นคุณในลุคนี้....เอาจริงๆ คุณก็ดูเซ็กซี่แบบไม่โป๊ดี”

“คุณชอบแบบนี้?”

“ผมชอบมากกว่าถ้าคุณถอด” ซึงฮุนตอบ “ถอดมันแล้วอยู่ในอ้อมกอดผม”

ซึงยุนหัวเราะออกมาเสียงเบากับคำตอบนั้น ก่อนจะก้มหน้าเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มแตะลงที่ข้างแก้มอีกฝ่าย ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว

“ผมก็ชอบนะ...ตัวคุณที่อยู่ในชุดสูทมันอุ่นมากเหมือนกัน”

ส่งยิ้มยั่วยวน ก่อนจะขยับเข้าใกล้มากขึ้น ปลายจมูกของเราแตะกันแผ่วเบา ก่อนจะทาบทับริมฝีปาก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะผละออกจากกันด้วยเสียดายไม่น้อย ซึงฮุนถอนใจเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมา

“คุณรอผมก่อน เดี๋ยวผมจะรีบทำงานให้เสร็จ...เราจะได้ทานข้าวกัน”

“โอเค”

ซึงยุนตอบรับ ก่อนจะแนบริมฝีปากที่อวัยวะเดียวกัน จูบแผ่วเบาทำให้ซึงฮุนยิ้มออกมา ก่อนจะอนุญาตให้พนักงานเข้ามาเมื่อเห็นว่าซึงยุนเดินออกไปจากเก้าอี้ ซึงยุนนั่งที่โซฟาไม่ไกลกันนัก เจ้าตัวไม่มีท่าทีว่าจะหลบเข้าไปด้านใน ซึ่งซึงฮุนไม่ได้เอ่ยว่าอะไรอีกก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย

“นี่เอกสารของคุณค่ะประธานอี”

“นอกจากนี้หล่ะ?”

“ฝ่ายการตลาดกำลังทำให้ค่ะ”

“ขอบคุณมาก” ซึงฮุนรับแฟ้มก่อนจะยิ้มเล็กน้อย พนักงานสาวยิ้มออกมา ซึงยุนมองนิ่ง เมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนแก้มแดงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มมุมปาก

“ฮอตไม่เบานะคุณ”

ซึงยุนพูดขึ้นมา เมื่อพนักงานคนนั้นออกจากห้องไป ซึงฮุนเลิกคิ้ว ก่อนจะเห็นว่าซึงยุนดูจะไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ซึงฮุนยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงาน

ซึงยุนยิ่งขัดใจขึ้นมา แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายงานคืองาน

ซึงฮุนพูดขึ้นมาหลังจากผ่านไปได้สักพัก

“ผมจะรีบทำให้เสร็จละกัน คุณดูหงุดหงิด”

“ผมไม่ได้หงุดหงิด”

“หึงก็พูดว่าหึงสิ”

ซึงยุนเบิกตากว้างกับคำนั้น

หึงหรอ?

เขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับใครมาก่อน แต่ซึงฮุนกำลังจะบอกว่าเขาหึงอีกฝ่ายเนี่ยนะ?

“ผม..ไม่---“

“มานั่งนี่สิ”

ซึงยุนเม้มปาก รู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ๆซึงฮุนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานตีมือลงที่หน้าขาตัวเอง เป็นสัญญาณให้ลุกไป ซึงยุนขมวดคิ้ว แม้จะทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะนั่งลงบนตักอีกฝ่าย

“จูบผมหน่อยสิ”

“ห้ะ?”

ซึงยุนงงไปกันใหญ่ เมื่อซึงฮุนวางปากกาและปิดแฟ้มลง ก่อนจะวางมือที่เอวของคนที่นั่งอิง

“คุณนี่นะ” ซึงฮุนอดพูดออกมาไม่ได้ “น่าเอ็นดูจริงๆนะ”

“เดี๋ยวนะ---อื่อ!

ซึงฮุนรั้งให้อีกฝ่ายนั่งคร่อมบนตัก ก่อนจะรั้งลำคอขาวให้แนบชิด ริมฝีปากแตะลงที่แก้มขาวก่อนจะกดจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปาก ซึงยุนพยายามผละออก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะแรงเยอะกว่าเขาพอสมควร

ยิ่งดิ้นยิ่งกอด ยิ่งจิกมือยิ่งรุกล้ำริมฝีปากจนวูบไหว

ท้ายที่สุด ซึงยุนจึงได้แต่ถอนใจ ก่อนจะตอบรับจูบเร่าร้อนนั้น แก้มร้อนผ่าวเมื่อฝ่ามือของอีกฝ่ายไล้ลงที่แผงอกของตัวเอง ซึงฮุนผละริมฝีปากออกก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงแผ่ว

คำพูดที่ไร้ซึ่งสัญญาณเตือน

“ซึงยุน....”

“?”

“เรา...เลิกเป็นแค่คนที่รู้จักกันผิวเผินไหม?”

“...”

“ผมอยากให้คุณเป็นคนรักของผมนะ”

มันเป็นคำพูดที่ซึงยุนไม่คิดว่าจะได้ยินมาก่อน แม้จะรู้ว่าสถานะระหว่างเรามันเกินเลยกว่าที่จะพูดคำนี้มานานมากแล้ว ซึงยุนไม่ได้ยิ้มออกมา และสีหน้าไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆนอกจากการครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง

ซึงฮุนเห็น ก่อนเขาจะถอนใจออกมาและพูด

“ผมรู้ว่าคุณคงไม่รู้สึกดีกับคำขอร้องของผม” ซึงยุนเงยหน้าก่อนจะมองซึงฮุน ใบหน้าของเราใกล้กันจนซึงยุนเห็นทุกอย่าง

ทั้งความกังวลเล็กๆ ใบหน้านั่น ซึงฮุนกำลังรู้สึกกังวลใจชัดเจน ด้วยหนึ่งเขาไม่เคยนึกจริงจังกับใครขนาดนี้มาก่อน ซึงยุนเองก็เช่นกัน เจ้าตัวเงียบงันแม้ว่าร่างกายของเราสองคนจะอิงชิด ซึงฮุนให้เวลาซึงยุนคิด...แม้จะพอเดาทางอะไรได้บางอย่าง แต่เขาไม่อยากจะเป็นฝ่ายนึกไปเองคนเดียว

ซึงยุนเม้มปาก ก่อนจะพูดขึ้นมา มือขาวนั้นเกาะเกี่ยวที่ไหล่ของซึงฮุน กำและคลายเล็กน้อยด้วยกังวล

“เอาตามจริงนะ...”

“...”

“ผมไม่รู้...ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”

ซึงยุนตอบออกมาตามตรง ก่อนจะก้มหน้าเล็กน้อย เขาไม่กล้าสบตากับเจ้าของตักอุ่นที่ตัวเองนั่งอยู่ ซึงยุนรู้สึกว่ามันเป็นคำถามที่ยากมากกว่าที่ตัวเองเคยได้รับมา

ซึงฮุนยิ้มจาง ก่อนจะถาม

“ผมเร่งคุณเกินไปหรือเปล่า”

ซึงยุนส่ายหน้า ก่อนซึงฮุนจะเบาใจลงไปมากโข อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ไม่ได้อึดอัดกับคำขอของเขา ซึงฮุนแตะริมฝีปากลงที่คอของคนบนตัก ก่อนจะพูดถาม

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าคุณไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไง” ซึงฮุนลองเสนอ “ผมจะถามคำถามคุณ ลองคิดดีๆและตอบผมนะครับ”

ซึงยุนสบตากับซึงฮุน ก่อนจะรอฟังคำถามอย่างตั้งใจ

“เวลาที่คุณอยู่กับผม คุณอึดอัดไหม?”

“ไม่...”

ซึงยุนตอบออกมาในทันทีจนซึงฮุนยิ้มจาง เขาไม่ต้องคิดมากอะไรกับคำถามนี้ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ซึงฮุนไม่เคยทำให้ซึงยุนอึดอัดใจเลย อาจจะมีบ้างในช่วงแรกที่เราเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน บางครั้งการกระทำอีกฝ่ายที่ดูเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แต่ก็ไม่ใช่การกักขังอะไรและออกหน้าออกตาเกินไป พอได้รู้ว่าอีกฝ่ายทำมันเพราะเป็นห่วง ซึงยุนก็ไม่เคยมีความอึดอัดใจกับอีกฝ่ายเลย

“แล้ว...” ซึงฮุนไล้มือเบาๆที่ช่วงบั้นท้ายกลม “เวลาผมสัมผัสคุณ...คุณรังเกียจไหม”

“ถ้าผมรังเกียจ ผมคงไม่ยอมให้คุณแตะ” ซึงยุนตอบก่อนจะคิดเล็กน้อย “...ผมค่อนข้างชอบสัมผัสของคุณนะซึงฮุน ถึงจะมีบางครั้งที่คุณถนอมผมมากเกินไปหน่อย แต่คุณก็ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกแย่สักครั้ง”

“น่ารัก” ซึงฮุนตีบั้นท้ายไปหนึ่งที ก่อนซึงยุนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย “ตอบคำถามแบบนี้อันตรายกับใจคนฟังนะ รู้ตัวหรือเปล่า”

“ก็แค่ตอบตามตรง---“

น้ำเสียงรั้นนิดๆนั้นกลืนหายไปกับลำคอ เมื่อริมฝีปากถูกทาบทับเบาๆ ซึงฮุนดีใจมากที่สุดที่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับเขา ก่อนจะเงยหน้าเล็กน้อย ยามทีนิ้วมือของอีกฝ่ายไล้ที่ท้ายทอยของตัวเองและขย้ำมันเบาๆ ซึงยุนตอบรับสัมผัสปลายลิ้นอุ่น ก่อนจะผละออกและงับเบาๆที่ริมฝีปากล่างของซึงฮุน

“เอาตามจริง คุณควรรู้ตัวนะซึงยุน” ซึงฮุนจูบเบาๆที่ปลายคาง “คุณทำให้ผมอยากกอดตลอดเวลาเลยหล่ะ”

“ตลกเหอะ”

“ผมชอบคุณนะ” ซึงฮุนยืนยันคำเดิม “สงสัยต้องย้ำสักหน่อยว่าชอบมากขนาดไหน”

“บ้า”

ซึงฮุนหัวเราะ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกรอกคำพูดลงไป

“คุณเลขา เอกสารทั้งหมดคุณเข้ามาเอาไปได้เลย ส่วนที่เหลือรบกวนวางไว้บนโต๊ะนี่แหละ” ซึงฮุนปรายตามองซึงยุน ก่อนจะยกยิ้ม “ใช่...ผมจะพักผ่อน พรุ่งนี้ยังมีเวลา ที่เหลือจะจัดการทีเดียว เข้ามาเอาแฟ้มเสร็จแล้วล็อคประตูให้ด้วย ขอบคุณมาก”

“เดี๋ยวนะ” ซึงยุนเลิกคิ้ว ก่อนจะต้องผวาเมื่อจู่ๆซึงฮุนนั้นกอดรั้งช่วงเอวและลุกขึ้น “คุณ!!!

“ผมอยากกอดคุณแทบบ้าแล้วตอนนี้” ซึงฮุนพูดก่อนจะตีสะโพกอีกฝ่าย “นะครับ นะ”

“...เคยปฏิเสธที่ไหนกันหล่ะ”

ซึงฮุนหัวเราะออกมาเสียงเบา ก่อนเขาจะดันประตูห้องนอนที่อยู่ตรงข้างเข้าไป ปิดล็อกมันก่อนจะปล่อยให้ซึงยุนแตะเท้าลงที่พื้น มือที่ปิดล็อกนั้นราวกับเป็นจุดเริ่มของริมฝีปากแสนจาบจ้วง

ซึงฮุนระดมจูบที่ริมฝีปากอิ่ม เม้มมันจนแดงก่ำก่อนจะปล่อยให้มือขาวนั้นปลดกระดุมเสื้อ ก่อนจะผละออกเมื่อซึงยุนหายใจออกมาเหมืนจะไม่ทันเท่าไรนัก

“คบกันนะ”

ซึงยุนรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า เมื่อครู่ที่เขาตอบคำถามอีกฝ่าย เหมือนเป็นการทบทวนความรู้สึกในตัวเองไปด้วย

เขารู้แล้ว คำตอบนั้น...

“อืม”

ราวกับประโยคที่รอคอย ซึงฮุนยิ้มกว้างออกมาก่อนจะรั้งให้อีกฝ่ายอิงชิด เขาเดินนำอีกฝ่ายให้ไปที่ผืนเตียงกว้าง รั้งให้ซึงยุนนอนลงก่อนจะตามทาบทับริมฝีปากซ้ำๆราวกับขอบคุณ ซึงยุนยิ้มออกมาเล็กน้อย เขารู้สึกใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่

“ผมไม่ได้เปิดใจให้ใครง่ายๆหรอกนะ...”

“ผมรู้” ซึงฮุนจูบที่ขมับ “ผมรู้สึกโชคดีที่สุดเลยในตอนนี้”


เรายิ้มให้กันก่อนจะค่อยๆแตะริมฝีปากย้ำซ้ำๆ เป็นการเริ่มต้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างเชื่องช้าและยั่วเย้ากว่าทุกครั้ง เมื่อประกอบกับความรู้สึกพึงพอใจและดวงใจที่เต้นกระหน้ำ

ร่างกายของเราสอดประสาน สองร่างเปลือยเปล่านั้นกอดเกี่ยว ซึงฮุนจูบขมับชื้นเหงื่อ ก่อนจะมองซึงยุนที่รั้งตัวบนตักกว้างและโยกสะโพกเบาๆ

“อืม...”

“ดีครับ...”ซึงฮุนชม “ผมจะค่อยๆนะ”

นิ้วกลางถูกสอดใส่เข้าไปในช่องทางร้อนผ่าว ซึงยุนกัดปาดเล็กน้อยเมื่อมันถูกกระตุ้นตรงจุดกระสันก่อนจะเริ่มสอใส่นิ้วที่สองและสามเข้ามา

“อึก---อ่า”

“ซี๊ด...ดีครับ”

ยกยิ้มก่อนจะแลกจูบดื่มด่ำ มือรูดรั้งแกนกายใหญ่ตามจังหวะสอดนิ้วเข้าช่วยเบิกทาง เราตวัดปลายลิ้นลึกซึ้งก่อนจะผละออกและจูบซับหยาดน้ำใสจากปลายลิ้น ก่อนจะผละออกจากกันและจัดท่าทางให้เข้าทีมากยิ่งขึ้น

ซึงฮุนจูบเบาๆที่หลังคอขาว รั้งสะโพกขาวให้โก่งมากขึ้นก่อนจะค่อยๆสอดใส่ ซึงยุนจิกมือกับผืนเตียง ไม่รู้ทำไมทั้งที่รุนแรงกว่านี้เราก็เคยกันมาแล้ว แต่ครั้งนี้อาจจะเพราะประกอบด้วยใจเต้นกระหน่ำ คำพูดย้ำสถานะ หรือะไรก็ตามแต่ ทำให้ทุกอย่างดูประหม่าและไม่ประสีประสาไปเสียหมด

“ซี๊ด---“

“อ่ะ อา...” ซึงยุนครางออกมาเมื่อแกนกายใหญ่รุกล้ำเข้ามา “ดี---“

“ผ่อนคลายหน่อย” ซึงฮุนกอดจนอกแนบแผ่นหลังเล็ก มือส่งเข้าคลึงยอดอกสีเข้ม บดเบียดมันจนชูชัน “ผมขยับไม่ได้เลย แน่นเกินไปแล้ว”

“บ้า..อ้ะ”

ซึงยุนครางออกมาในลำคอ เมื่อสะโพกสอบขยับโยกเบาๆ ซึงฮุนดูดดึงลาดไหล่ ก่อนจะขยับสะโพกสอบเข้าชิดเร็วขึ้น ลมหายใจร้อนขาดห้วง ก่อนจะครางต่ำบ่งบอกความสุขสม

“อืม...ดี”

“อึก---อ่ะ อา...ซึง ซึงฮุน”

ซึงยุนรั้งใบหน้าของซึงฮุนก่อนจะป้อนจูบ ร่างกายขยับสอดใส่ให้ลึกซึ้งมากขึ้นกว่าทุกครั้ง ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเราทั้งคู่ใกล้ถึงจุดหมาย

“อา...อ่าส์”

“ซึงยุน...ซึงยุน”

จูบดื่มด้ำก่อนจะกระแทกกระทั้นเต็มหน่วย ซึงยุนทรุดลงนอนกับผืนเตียง กำผ้าปูแน่นก่อนจะกระตุกกายรุนแรง หลั่งน้ำคาวขุ่นออกมาเปรอะเปื้อนมือของซึงฮุนที่รูดรั้งให้อย่างใจดี ก่อนจะต้องสะดุ้งตัวน้อยๆเมื่อริมฝีปากร้อนจูบที่กกหูก่อนจะหลั่งน้ำคาวร้อนจัดในช่องทางหลัง

“อา...”

“อืม—“

แลกจูบดื่มด่ำ ก่อนจะละออกและสบตาหวานฉ่ำ ความรู้สึกถูกเติมเต็มกันและกันตีตื้นในใจ ก่อนจะจูบเบาๆอีกครั้ง ซึงฮุนรั้งขาขาวให้นอนหงาย ก่อนจะเกี่ยวเข้าที่เอวสอบและขยับเสียดสีอีกครั้ง

ดื่มด่ำกับช่วงหัวค่ำที่พิเศษกว่าทุกครั้ง แนบสัมผัสซ้ำๆกับสถานะใหม่ของเราสองคน



#น้องยูนดาวยั่ว