[OS] Lee Seunghoon x Kim Jinwoo
Story : Half
ปล. ฟิคแก้บนเรื่องที่สุดท้าย ใสจริงๆ นี่ไม่โกหกแล้ว ดูตาคิมจินวูก็รู้...
มือเรียวสวยยกชาร้อนที่หอมกรุ่นขึ้นจิบเบาๆ
ก่อนที่มืออีกข้างจะลูบหัวแมวที่อยู่บนตักเพียงแผ่วเบา
มันคือสิ่งที่เขารัก
มันคือสิ่งที่ทำให้ใจสงบสุข
ในบ้านชั้นเดียวเล็กๆแห่งนี้มันคือความสุขที่น้อยครั้งเหลือเกินจะได้กลับมา
กลิ่นอายความอบอุ่นจากวันวานยังตราตรึงในใจเขาเสมอ
“คุณจินวู ไม่ทราบว่าจะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ”เสียงของหญิงชราเอ่ยขึ้นเพียงแผ่วเบาแต่กลับได้ยินชัดเจน
ไม่แปลก
ก็ในเมื่อบ้านหลังนี้มีเพียงแม่นมดูแลเพียงคนเดียว
“ไม่ล่ะครับ ขอบคุณแม่นมนะ”หันไปส่งยิ้มหวานจนลักยิ้มบุ๋มลงลึก
รอยยิ้มสดใสทำให้แม่นมที่ชรามีความสุข
รอยยิ้มที่เหมือนเด็กธรรมดา
รอยยิ้มที่เหมือนในวันวาน
ก่อนที่ความสดใสจะเปลี่ยนไปเพียงแค่แม่นมออกจากห้อง
จินวูมองนิ่ง...เขามองไปในสวนก่อนถอนหายใจ
ใกล้แล้ว
เวลาใกล้หมดแล้ว
เสียงเตือนจากโทรศัพท์ที่เขาไม่อยากได้ยินดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าเวลาหมดแล้วจริงๆ
คว้าเสื้อโค้ทอุ่นคลุมกายก่อนจะเดินไปสวมกอดแม่นม
“แม่นม ผมต้องไปแล้วนะ”
“อ้าว ไม่อยู่ทานข้าวหรือคะคุณจินวู”
“ไม่แล้วครับ ต้องกลับไปทำงานแล้ว กอดหน่อยครับ”
เสียงหญิงชราหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกอดกลับ
“ขี้อ้อนจริงเชียว เดินทางดีๆนะคะ”
“ครับ” ส่งยิ้มก่อนเดินออกจากบ้านไป
เพียงพ้นนอกรั้ว ดวงตาที่อบอุ่นเมื่อครู่ก็พลันเปลี่ยน
เหลือเพียงความเย็นชา
เช่นอากาศที่เป็นอยู่ตอนนี้
“คุณหนู ขึ้นรถได้แล้วครับ”
บอดี้การ์ดเปิดประตูรถก่อนที่ร่างสวยจะเข้ารถไป
“เรื่องที่ฉันให้ไปจัดการเป็นอย่างไรบ้าง”
สารนิโคตินถูกอัดเข้าปอดอย่างเต็มหน่วง ไม่สนใจคนขับรถก่อนจะบดขยี้มันทั้งๆที่ยังสูบไม่ถึงครึ่งมวน
คิมจินวูไขว้ขารอคำตอบ เอกสารในมือเปิดลวกๆเพื่ออ่านประวัติลูกค้าในล็อต
“อีกฝ่ายไม่ได้ตุกติกอะไรครับ
ของน่าจะขนกลับได้เพราะเตรียมลูกน้องไว้แล้ว”
“มีคนรู้เรื่องนี้นอกจากนายไหม”
“นอกจากคุณนัมก็ไม่มีใครรู้ครับ”
“ก็ดี” จินวูยกยิ้ม วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีวันหนึ่งแน่ๆ
รถเทียบหน้าโรงแรมหรูที่นัดคุยในวันนี้
พนักงานต้อนรับมากมายเว่อวังจนอดส่ายหัวไม่ได้
น่ารำคาญ
แค่นัดคุยกันจำเป็นต้องวุ่นวายขนาดนี้เลยหรือไง
เดินตามพนักงานไปเงียบๆ ปฏิเสธบอดี้การ์ดด้วยความรำคาญใจ
“มาแล้วหรอ...”ซงมินโฮเดินเข้ามาก่อนจะสวมกอด จินวูไม่ได้ขัดขืน
ว่าที่คู่หมั้น ที่อุตส่าห์บินจากเกาหลีมาหาถึงญี่ปุ่น
“คุยธุระมาซงมินโฮ”
“เย็นชาไม่เปลี่ยนเลยนะคุณคู่หมั้น”
“ฉันไม่ได้เต็มใจ นายก็รู้” ซงมินโฮกรอกตาก่อนจะดึงเอวบางจินวูแนบชิด
“ทำไม นอกจากเรื่องงานจะคุยกันไม่ได้เลยหรือไง
ไม่คิดว่าผมมาหาเพราะคิดถึงบ้างหรอ”
“งั้นฉันกลับละ” ลุกขึ้นด้วยความรำคาญใจ
ทำไมต้องมาเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับคนรักหลอกๆ ที่พ่อบังคับให้หมั้นด้วย
ในเมื่อผลสุดท้ายมันก็เพื่อผลทางธุรกิจสกปรกๆเท่านั้น
“ไม่เอาน่าพี่จินวู ทานข้าวกับผมก่อน ไม่งั้นลุงคิมคงโกรธผมแย่”
สุดท้ายแล้วเมื่ออ้างถึงบุคคลที่สาม จินวูก็ต้องนั่นลงอย่างห้ามไม่ได้
แม้เกลียดชังเพียงไหน
แต่การจะหักหน้าผู้เป็นพ่อคงไม่ใช่เรื่องที่สมควรนัก
ปล่อยให้ซงมินโฮหยอกล้อด้วยความไม่สบอารมณ์แต่ก็ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจ
ไวน์ราคาแพงในแก้วพร่องเพียงเล็กน้อย ดวงตากลมโตบ่งบอกถึงความเบื่อหน่ายเบื่อนออกนอกหน้าต่าง
ชมวิวของโตเกียวทาวเวอร์เงียบๆ เมื่ออีกฝ่ายคุยเรื่องงานถึงหันกลับมา
การแจ้งเตือนจากเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าของได้ถูกเคลื่อนย้ายเรียบร้อย
ทำท่าจะลุกขึ้นก่อนที่กุญแจห้องจะหยุดการกระทำนั้น
“คืนนี้ผมต้องการให้พี่นอนกับผม”
“ฉันจำเป็นต้องนอนอ้าขาให้นายหรอ ซงมินโฮ”
น้ำเสียงนิ่งๆเอ่ยออกมา
ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยกับอีกฝ่าย เรื่องบนเตียงก็ครอบคลุมในส่วนนั้น
ส่วนที่เรียกว่า หน้าที่ของคู่หมั้นที่ดี
จินวูถอนหายใจออกมาแผ่วเบา
ก่อนจะเอื้อมมือไปกระชากเนคไทด์ซงมินโฮ
เอียงคอเพียงเล็กน้อยเพื่อรองรับจูบ
ข่มใจกับตัวเอง
พร่ำบอกกับตัวเอง
แค่เซ็กซ์แค่นั้น แค่งาน และเขาต้องทนมันให้ได้
จินวูลุกนั่งที่ปลายเตียง
มือสวยอัดนิโคตินเข้าปอดก่อนปล่อยควันออกมา
เหม่อมองรูปร่างของมันที่ไม่ชัดเจน
ก่อนกลั้นใจลุกขึ้นเพราะต้องการชำระร่างกายตัวเอง
น้ำรักของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้นไหลเยิ้มลงมา
จินวูแค่มองมันก่อนจะชำระร่างกายที่สกปรกของตัวเอง
เขาไม่ได้รังเกียจมินโฮที่ทำแบบนี้
“...แต่เรื่องแบบนี้มันควรเก็บไว้ทำกับคนที่รัก
ไม่ใช่กับคนที่มีผลประโยชน์”
เสื้อแขนยาวสีขาวคอย้วยถูกสวมก่อนจะสะบัดใบหน้าสองสามที
ความเพลียจากกิจกรรมรัก ไม่สิ
แค่เซ็กซ์เมื่อครู่ทำให้จินวูมึนงงเล็กน้อย หันไปมองซงมินโฮที่หลับสนิทก็พอโล่งใจที่อีกฝ่ายยังไม่ตื่น
เขาไม่อยากลุกขึ้นมาตอบคำถาม หรือพูดคุยอะไรกับอีกฝ่าย
“คุณหนูจะกลับบ้านใหญ่เมื่อไรครับ คุณท่านให้ถาม”
จินวูมองบนเมื่อนายท่านหรือผู้เป็นพ่ออยู่ในประโยคคำถาม
“ทำไม ท่านมีธุรอะไรกับฉัน”
“เปล่าครับ ท่านแค่เห็นว่าคุณหนูมาอยู่ที่ญี่ปุ่นนานมากแล้ว
เลยอยากให้กลับเกาหลีบ้าง”
“ฉันไม่อยากกลับ ฉันอยากอยู่บ้านแม่ มันสบายใจกว่า”
เอนหลังบนเบาะนุ่มด้วยความล้า หลับตาก่อนเอ่ยสั่งเสียงเรียบ “นัมแทฮยอนอยู่บ้านฉันใช่ไหม”
“ครับ”
“ดี ถ้าถึงแล้วปลุกฉันด้วย”
เอ่ยสั่งครั้งสุดท้าย ก่อนหลับลง
อย่างน้อยวันนี้มันก็จบแล้ว
จินวูรู้สึกเหมือนตัวลอยได้
เกิดอะไรขึ้น
ความเมื่อยขบทั้งร่างกายอาจทำให้เขาฝันงั้นหรอ
พยายามฝืนลืมตาก่อนจะดิ้นไปมา
สายตาที่ไม่คุ้นเคย อ้อมแขนที่ให้ความรู้สึกแปลกๆ
นี่ไม่ใช่แทฮยอน
“นายเป็นใคร”ดิ้นไปมาจนอีกฝ่ายต้องปรามเบาๆ
“ผมไม่ทำร้ายคุณหนูหรอก แค่จะอุ้มเข้าบ้าน”
จินวูพยายามล้วงมือเข้าไปในกางเกงเพื่อหยิบปืน
ก่อนที่จะหยุดเมื่ออีกฝ่ายวางลงเบาๆที่หน้าประตู
ขาทั้งสองข้างแตะพื้นก่อนที่เข่าจะอ่อนลง
คนตรงหน้าถลารับจินวูอย่างรวดเร็ว
“คุณหนู เป็นอะไรไหม”
คิมจินวูเงยหน้ามองตาคนที่ประคอง
ดวงตาซื่อไม่มีพิษภัยนั่นมองมาด้วยความเป็นห่วง
และนั่นทำให้หัวใจของจินวูกระตุกด้วยความรู้สึกประหลาด
ดวงตาเป็นหน้าต่างของความรู้สึก
จินวูเชื่อแบนั้นเสมอมา
และดวงตาใสตรงหน้าไม่ได้โกหก
“มะ ไม่เป็นไร” เผลอปล่อยตัวให้อีกฝ่ายประครองนานกว่าจะรู้สึกตัว
เด้งออกก่อนเก็บปืนที่แอบชักออกมาเมื่อครู่เข้าที่ “นายเป็นใคร”
“ผมเป็นหลานแม่นม ชื่ออีซึงฮุนครับ” ตอบก่อนจะโค้งตัวเบาๆ
“หลาน?” จินวูเลิกคิ้วฉงน “แล้วแม่นมไปไหน”
“แม่นมมีธุระด่วน ท่านกลัวคุณจินวูจะไม่สะดวก เลยให้ผมมาอยู่แทน”
“...”
“คุณคนคิ้วตกอยู่ห้องข้างๆนะครับ” พูดเสร็จก่อนจะเดินออกไป
จินวูมองตาม
คนตรงหน้าสูงกว่าเขาหลายเซน
แต่ท่าทางที่นอบน้อมนั้นทำให้เขาอดยิ้มให้ไม่ได้
ยิ้มทำไม?
ตัดยิ้มฉับเมื่อรู้ว่าเผลอ
ยายหลานช่างคล้ายคลึง
ทั้งการพูด และความอบอุ่นนั่น
ส่ายหน้าก่อนเดินเข้าห้องนัมแทฮยอน
เลขาพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทที่มาอยู่เป็นเพื่อน บอกคนที่นอนว่ากลับมาแล้วก่อนจะเดินเข้าห้องไป
และต้องตกใจอีกรอบ
“นาย!!!เข้ามาทำไมห้องฉัน”
“เข้ามาเตรียมน้ำอุ่นให้ครับ” อีซึงฮุนยกยิ้มจนตาปิด
ท่าทางที่สดใสทำให้จินวูโกรธคนตรงหน้าไม่ลง
“ขอบใจ คราวหน้าไม่ต้องก็ได้ นี่ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ”
ซึงฮุนทำหน้าสลด จนจินวูต้องเผลอยิ้มออกมากับท่าทีนั่น
ยิ้มหรอ?
ถามคำถามกับตัวเองก่อนจะรีบเก็บสีหน้า
รอให้ซึงฮุนเดินออกไปก่อจะยกยิ้มเมื่อเห็นว่าในห้องน้ำจุดเทียนอโรมาไว้
รู้สึกผ่อนคลายก่อนที่จะตัดสินใจแช่ตัวในน้ำ
“ขอบใจนะ....”
กลับกลายเป็นว่าตลอดช่วงเวลาที่อยู่บ้านพักไม่ได้มีแค่จินวูกับแม่นมอีกต่อไป
อีซึงฮุนเข้ามาอยู่เพื่อดูแลแม่นมของจินวู
รวมทั้งยังดูแลจินวูด้วย
กลับกลายเป็นว่าทุกเช้าจินวูจะตื่นมาและมีการตระเตรียมน้ำอุ่นสำหรับแช่
ชาร้อนสำหรับจิบยามว่าง
ของหวานที่เข้ากัน
อื่นๆอีกมากมายจนกลายเป็นเรื่องปกติ
แม้แต่แมว สัตว์เลี้ยงแสนรักของเราที่ปกติจะคุ้นกับผู้คนยากยังติดอีซึงฮุนเสียแจ
ยอมรับว่าอีกฝ่ายละมุนมาก รวมทั้งยังใส่ใจดีจนน่าอิจฉา
...อิจฉาคู่ครองในอนาคตที่จะได้ครอบครองอีซึงฮุนไป
“คิดอะไรอยู่หรือครับ”
เสียงนุ่มติดแหลมนิดๆเอ่ยขึ้นมาข้างหลังจินวูจนตกใจ
มือรีบปิดแฟ้มในมือก่อนหันมาพูดเสียงดัง
“นายเข้ามาไม่ให้ซุ่มเสียง!!!”
“อ่า ผมเรียกหลายครั้งแล้วครับ คุณหนูไม่ได้ยินเอง” ซึงฮุนเกาแก้มก่อนก้มหน้าชิดอก
“ขอโทษครับคุณจินวู”
เกือบไปแล้ว
เกือบให้อีกฝ่ายเห็นด้านไม่ดีของตนเองไปแล้ว
“มะ...ไม่เป็นไร” จินวูสูดหายใจลึกก่อนเอ่ยออกมาด้วยความใจเย็น “มีธุระอะไร”
“มีคนมารอพบครับ”
“นายมาที่นี่ได้ไง”
จินวูเอ่ยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อซงมินโฮมายืนอยู่ตรงหน้า
“บ้านคู่หมั้นทำไมจะไม่รู้หล่ะ” ยกยิ้มมุมปากก่อนจะกอดอีกฝ่ายจนจมอก “คิดถึงจังเลย
ที่รักของผม”
จินวูดิ้น พยายามออกจากการกอดกุม ก่อนสายตาจะเหลือบไปทางซึงฮุน
ซงมินโฮเห็นการกระทำนั้น
“ปล่อยฉัน”
“คืนนี้ผมจะมานอนกับคุณ...รู้ช่ไหมหมายความว่าไง”
“ไม่” จินวูปฏิเสธเสียงแข็ง สะบัดมือที่เกาะกุมก่อนพยายามเดินเข้าบ้าน
ซงมินโฮเห็นดังนั้นจึงยายามเดินตาม
ก่อนจะถูกซึงฮุนขวางไว้ก่อน
ซงมินโฮเลิกคิ้ว อีซึงฮุนมองนิ่ง
“คุณหนูคงไม่อยากต้อนรับคุณเท่าไร..”
“มันเป็นเรื่องของคู่หมั้น ถ้านายจะพอแยะแยะออก”ซงมินโฮตอบหน้านิ่ง
เห็นความวูบไหวในดวงตา
ไอ้คนนี้มันคิดไม่ซื่อ...
และซงมินโฮควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลมซะ
“หลบ เรื่องผัวเมีย เคลียร์เองได้”
ผลักอีกฝ่ายจะกระแทกผนังเสียงดัง
จินวูชะงักก่อนจะเดินกลับมา
“นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะซงมินโฮ!!!” พูดด้วยความเกรียวกราดในใจ
ซงมินโฮผิวปากหวืด
เขาไม่เคยเห็นคิมจินวูในเวอร์ชั่นนี้
“มันสำคัญกับพี่มากกว่าผมที่เป็นคู่หมั้นพี่หรอ”
จินวูชะงักปากที่กำลังจะด่าซงมินโฮชะงัก
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
หรือว่า....
“เข้าห้องพี่กันเถอะ ธุระของผมกับพี่คงต้องคุย...ทั้งคืน”
“ตะ...แต่”
“คุณลุงคงไม่พอใจถ้ารู้สิ่งที่พี่กำลังคิดจะพูด”
ริมฝีปากชมพูกัดฉับลงเม้มแน่น เหลือบไปทางซึงฮุน
ก่อนที่หัวใจจะรู้สึกเจ็บแปล็บขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
คนตรงหน้ามองมาด้วยสายตาปวดร้าว
จินวูไม่เข้าใจเหมือนกันกับความรู้สึกที่กำลังเกิด
ทำได้เพียงเป็นตุ๊กตาให้ซงมินโฮลากเข้าห้องไป
ร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างคนที่ไม่รัก
เจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายและจิตใจ
“พี่ร้องทำไมหล่ะ ปกติเห็นนิ่งเสียยิ่งกว่าตุ๊กตา พี่ชอบมันหรือไง”
จินวูได้แต่เบือนหน้าหนี เม้มปากแน่นเพราะห้องไม่ได้เก็บเสียง
รองรับอารมณ์รุนแรงจากซงมินโฮ
ไร้ความรัก
ไร้ความอบอุ่น
ไร้การเติมเต็ม
ทำได้เพียงแต่ขัดขืนแม้รู้ว่าไม่เป็นผล
เจ็บไปหมดทั้งกายใจ
เป็นเหมือนตุ๊กตาที่อ้าขารองรับอารมณ์แบบที่อีกฝ่ายพูดจริงๆ
อีซึงฮุนทรุดตัวที่หน้าประตูห้องของจินวู หยาดน้ำตาหยดลงเปรอะแก้ม
นางฟ้าที่เข้าเฝ้าดูแลในวันวานได้หายไปแล้ว
มันจบลงแล้ว...
พร้อมกับใจที่แตกสลายของเขา
“พี่จินวู พี่จินวู” เสียงเด็กชายเตาะแตะวัยแปดขวดเดินเข้ามาจับแขนพี่ชายอายุเก้าขวบให้ลุกขึ้น
“ไม่กลัวนะครับ ผมไล่หมาไปแล้ว”
“พี่กลัว พี่กลัว” สวมกอดด้วยความกลัวจับใจ น้ำตาไหลออกจากดวงตากลมโตน่าสงสาร
ตัวเล็กสั่นสะอื้นโยน
“พี่จินวูไม่ต้องกลัวนะฮะ น้องซึงฮุนจะปกป้องพี่เอง”
“จริงๆนะซึงฮุน”
“ฮะ ผมสัญญา...ผมจะเป็นอีกครึ่งของพี่เอง”
คำสัญญาก่อนจากกันไปในวัยเด็กคงไม่มีความหมายแล้ว
ความเจ็บปวดนี้....
“พี่จินวู...ผมรักพี่นะครับ”
ส่วนเติมเต็มอีกครึ่งที่ไม่มีทางเป็นจริง....
#ALLBBHN #HOONWOO
มีตอนเดียวหรอคะ?
ตอบลบใช่ค่ะ :)
ลบ