BABYHOONIE

BABYHOONIE
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 2Seung แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 2Seung แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

[OS] LEE SEUNGHOON X KANG SEUNGYOON : adrenaline 07

[OS] LEE SEUNGHOON X KANG SEUNGYOON
Story : adrenaline 07







[OS] LEE SEUNGHOON X KANG SEUNGYOON

Story : adrenaline 07


เราขยับริมฝีปากใกล้กัน

ความรู้สึกระหว่างเราดึงดูดกันและกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ทั้งที่มันเป็นแบบนั้น ผมกลับรู้สึกว่ามันเป็นสัญญาณแสนน่าเศร้า

“สัญญาณสุดท้ายระหว่างความสัมพันธ์ของเรา”




“ขอโทษทีนะ ทั้งที่ผมควรจะไปส่งคุณที่ร้าน”

ซึงยุนส่ายหน้า ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย วันนี้ซึงฮุนไปรับซึงยุนที่มหาวิทยาลัยมา หลังจากที่เราทั้งคู่ตกลงว่าจะออกไปดูหนังด้วยกันในช่วงบ่าย แต่เพราะงานเร่งด่วนกะทันหันทำให้ซึงฮุนต้องมาที่บริษัทก่อน

“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย” ซึงยุนกวาดสายตาดูรอบห้อง “ผมเพิ่งเคยมาครั้งแรกเลย”

“หรอ...” ซึงฮุนนั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน ก่อนจะเหลือบตาดูอีกคนที่ดูตื่นเต้นกว่าที่คิด ดวงตาใสจดจ้องไปวิวด้านนอกของอาคารที่อยู่อีกฝั่ง นั่นพอทำให้เบาใจบ้างว่าอีกฝ่ายจะไม่เบื่อเกินไประหว่างรอ “ห้องพักผมอยู่ทางประตูซ้ายมือนะซึงยุน ถ้าคุณอยากนอนก่อน หรือจะเข้าห้องน้ำ ผมแนะนำให้ไปห้องนั้น ที่นี่อาจจะไม่สะดวกเพราะพนักงานจะเข้ามาเป็นระยะๆ”

ซึงยุนพยักหน้า วันนี้เจ้าตัวมาในชุดนักศึกษาแถมยังใส่แว่นที่ปกติซึงฮุนไม่เคยเห็นมัน ก่อนเจ้าตัวจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าซึงฮุนจ้องครู่หนึ่งแล้ว

“ผมดูแปลกหรอ?”

ซึงยุนถามซึงฮุน ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้และตัดสินใจยืนพิงฝั่งที่ซึงฮุนนั่งอยู่บนเก้าอี้

ซึงฮุนยิ้มออกมาก่อนจะวางมือลงที่หน้าขาของอีกฝ่าย ฝ่ามือขาวกุมแผ่วเบาเป็นกำลังใจให้รู้สึกดีกว่าที่คิด

“เปล่า” ซึงฮุนตอบ “แต่ปกติผมไม่ค่อยเห็นคุณในลุคนี้....เอาจริงๆ คุณก็ดูเซ็กซี่แบบไม่โป๊ดี”

“คุณชอบแบบนี้?”

“ผมชอบมากกว่าถ้าคุณถอด” ซึงฮุนตอบ “ถอดมันแล้วอยู่ในอ้อมกอดผม”

ซึงยุนหัวเราะออกมาเสียงเบากับคำตอบนั้น ก่อนจะก้มหน้าเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มแตะลงที่ข้างแก้มอีกฝ่าย ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว

“ผมก็ชอบนะ...ตัวคุณที่อยู่ในชุดสูทมันอุ่นมากเหมือนกัน”

ส่งยิ้มยั่วยวน ก่อนจะขยับเข้าใกล้มากขึ้น ปลายจมูกของเราแตะกันแผ่วเบา ก่อนจะทาบทับริมฝีปาก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะผละออกจากกันด้วยเสียดายไม่น้อย ซึงฮุนถอนใจเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมา

“คุณรอผมก่อน เดี๋ยวผมจะรีบทำงานให้เสร็จ...เราจะได้ทานข้าวกัน”

“โอเค”

ซึงยุนตอบรับ ก่อนจะแนบริมฝีปากที่อวัยวะเดียวกัน จูบแผ่วเบาทำให้ซึงฮุนยิ้มออกมา ก่อนจะอนุญาตให้พนักงานเข้ามาเมื่อเห็นว่าซึงยุนเดินออกไปจากเก้าอี้ ซึงยุนนั่งที่โซฟาไม่ไกลกันนัก เจ้าตัวไม่มีท่าทีว่าจะหลบเข้าไปด้านใน ซึ่งซึงฮุนไม่ได้เอ่ยว่าอะไรอีกก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย

“นี่เอกสารของคุณค่ะประธานอี”

“นอกจากนี้หล่ะ?”

“ฝ่ายการตลาดกำลังทำให้ค่ะ”

“ขอบคุณมาก” ซึงฮุนรับแฟ้มก่อนจะยิ้มเล็กน้อย พนักงานสาวยิ้มออกมา ซึงยุนมองนิ่ง เมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนแก้มแดงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มมุมปาก

“ฮอตไม่เบานะคุณ”

ซึงยุนพูดขึ้นมา เมื่อพนักงานคนนั้นออกจากห้องไป ซึงฮุนเลิกคิ้ว ก่อนจะเห็นว่าซึงยุนดูจะไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ซึงฮุนยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงาน

ซึงยุนยิ่งขัดใจขึ้นมา แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายงานคืองาน

ซึงฮุนพูดขึ้นมาหลังจากผ่านไปได้สักพัก

“ผมจะรีบทำให้เสร็จละกัน คุณดูหงุดหงิด”

“ผมไม่ได้หงุดหงิด”

“หึงก็พูดว่าหึงสิ”

ซึงยุนเบิกตากว้างกับคำนั้น

หึงหรอ?

เขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับใครมาก่อน แต่ซึงฮุนกำลังจะบอกว่าเขาหึงอีกฝ่ายเนี่ยนะ?

“ผม..ไม่---“

“มานั่งนี่สิ”

ซึงยุนเม้มปาก รู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ๆซึงฮุนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานตีมือลงที่หน้าขาตัวเอง เป็นสัญญาณให้ลุกไป ซึงยุนขมวดคิ้ว แม้จะทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะนั่งลงบนตักอีกฝ่าย

“จูบผมหน่อยสิ”

“ห้ะ?”

ซึงยุนงงไปกันใหญ่ เมื่อซึงฮุนวางปากกาและปิดแฟ้มลง ก่อนจะวางมือที่เอวของคนที่นั่งอิง

“คุณนี่นะ” ซึงฮุนอดพูดออกมาไม่ได้ “น่าเอ็นดูจริงๆนะ”

“เดี๋ยวนะ---อื่อ!

ซึงฮุนรั้งให้อีกฝ่ายนั่งคร่อมบนตัก ก่อนจะรั้งลำคอขาวให้แนบชิด ริมฝีปากแตะลงที่แก้มขาวก่อนจะกดจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปาก ซึงยุนพยายามผละออก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะแรงเยอะกว่าเขาพอสมควร

ยิ่งดิ้นยิ่งกอด ยิ่งจิกมือยิ่งรุกล้ำริมฝีปากจนวูบไหว

ท้ายที่สุด ซึงยุนจึงได้แต่ถอนใจ ก่อนจะตอบรับจูบเร่าร้อนนั้น แก้มร้อนผ่าวเมื่อฝ่ามือของอีกฝ่ายไล้ลงที่แผงอกของตัวเอง ซึงฮุนผละริมฝีปากออกก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงแผ่ว

คำพูดที่ไร้ซึ่งสัญญาณเตือน

“ซึงยุน....”

“?”

“เรา...เลิกเป็นแค่คนที่รู้จักกันผิวเผินไหม?”

“...”

“ผมอยากให้คุณเป็นคนรักของผมนะ”

มันเป็นคำพูดที่ซึงยุนไม่คิดว่าจะได้ยินมาก่อน แม้จะรู้ว่าสถานะระหว่างเรามันเกินเลยกว่าที่จะพูดคำนี้มานานมากแล้ว ซึงยุนไม่ได้ยิ้มออกมา และสีหน้าไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆนอกจากการครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง

ซึงฮุนเห็น ก่อนเขาจะถอนใจออกมาและพูด

“ผมรู้ว่าคุณคงไม่รู้สึกดีกับคำขอร้องของผม” ซึงยุนเงยหน้าก่อนจะมองซึงฮุน ใบหน้าของเราใกล้กันจนซึงยุนเห็นทุกอย่าง

ทั้งความกังวลเล็กๆ ใบหน้านั่น ซึงฮุนกำลังรู้สึกกังวลใจชัดเจน ด้วยหนึ่งเขาไม่เคยนึกจริงจังกับใครขนาดนี้มาก่อน ซึงยุนเองก็เช่นกัน เจ้าตัวเงียบงันแม้ว่าร่างกายของเราสองคนจะอิงชิด ซึงฮุนให้เวลาซึงยุนคิด...แม้จะพอเดาทางอะไรได้บางอย่าง แต่เขาไม่อยากจะเป็นฝ่ายนึกไปเองคนเดียว

ซึงยุนเม้มปาก ก่อนจะพูดขึ้นมา มือขาวนั้นเกาะเกี่ยวที่ไหล่ของซึงฮุน กำและคลายเล็กน้อยด้วยกังวล

“เอาตามจริงนะ...”

“...”

“ผมไม่รู้...ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”

ซึงยุนตอบออกมาตามตรง ก่อนจะก้มหน้าเล็กน้อย เขาไม่กล้าสบตากับเจ้าของตักอุ่นที่ตัวเองนั่งอยู่ ซึงยุนรู้สึกว่ามันเป็นคำถามที่ยากมากกว่าที่ตัวเองเคยได้รับมา

ซึงฮุนยิ้มจาง ก่อนจะถาม

“ผมเร่งคุณเกินไปหรือเปล่า”

ซึงยุนส่ายหน้า ก่อนซึงฮุนจะเบาใจลงไปมากโข อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ไม่ได้อึดอัดกับคำขอของเขา ซึงฮุนแตะริมฝีปากลงที่คอของคนบนตัก ก่อนจะพูดถาม

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าคุณไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไง” ซึงฮุนลองเสนอ “ผมจะถามคำถามคุณ ลองคิดดีๆและตอบผมนะครับ”

ซึงยุนสบตากับซึงฮุน ก่อนจะรอฟังคำถามอย่างตั้งใจ

“เวลาที่คุณอยู่กับผม คุณอึดอัดไหม?”

“ไม่...”

ซึงยุนตอบออกมาในทันทีจนซึงฮุนยิ้มจาง เขาไม่ต้องคิดมากอะไรกับคำถามนี้ เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ซึงฮุนไม่เคยทำให้ซึงยุนอึดอัดใจเลย อาจจะมีบ้างในช่วงแรกที่เราเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน บางครั้งการกระทำอีกฝ่ายที่ดูเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แต่ก็ไม่ใช่การกักขังอะไรและออกหน้าออกตาเกินไป พอได้รู้ว่าอีกฝ่ายทำมันเพราะเป็นห่วง ซึงยุนก็ไม่เคยมีความอึดอัดใจกับอีกฝ่ายเลย

“แล้ว...” ซึงฮุนไล้มือเบาๆที่ช่วงบั้นท้ายกลม “เวลาผมสัมผัสคุณ...คุณรังเกียจไหม”

“ถ้าผมรังเกียจ ผมคงไม่ยอมให้คุณแตะ” ซึงยุนตอบก่อนจะคิดเล็กน้อย “...ผมค่อนข้างชอบสัมผัสของคุณนะซึงฮุน ถึงจะมีบางครั้งที่คุณถนอมผมมากเกินไปหน่อย แต่คุณก็ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกแย่สักครั้ง”

“น่ารัก” ซึงฮุนตีบั้นท้ายไปหนึ่งที ก่อนซึงยุนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย “ตอบคำถามแบบนี้อันตรายกับใจคนฟังนะ รู้ตัวหรือเปล่า”

“ก็แค่ตอบตามตรง---“

น้ำเสียงรั้นนิดๆนั้นกลืนหายไปกับลำคอ เมื่อริมฝีปากถูกทาบทับเบาๆ ซึงฮุนดีใจมากที่สุดที่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับเขา ก่อนจะเงยหน้าเล็กน้อย ยามทีนิ้วมือของอีกฝ่ายไล้ที่ท้ายทอยของตัวเองและขย้ำมันเบาๆ ซึงยุนตอบรับสัมผัสปลายลิ้นอุ่น ก่อนจะผละออกและงับเบาๆที่ริมฝีปากล่างของซึงฮุน

“เอาตามจริง คุณควรรู้ตัวนะซึงยุน” ซึงฮุนจูบเบาๆที่ปลายคาง “คุณทำให้ผมอยากกอดตลอดเวลาเลยหล่ะ”

“ตลกเหอะ”

“ผมชอบคุณนะ” ซึงฮุนยืนยันคำเดิม “สงสัยต้องย้ำสักหน่อยว่าชอบมากขนาดไหน”

“บ้า”

ซึงฮุนหัวเราะ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกรอกคำพูดลงไป

“คุณเลขา เอกสารทั้งหมดคุณเข้ามาเอาไปได้เลย ส่วนที่เหลือรบกวนวางไว้บนโต๊ะนี่แหละ” ซึงฮุนปรายตามองซึงยุน ก่อนจะยกยิ้ม “ใช่...ผมจะพักผ่อน พรุ่งนี้ยังมีเวลา ที่เหลือจะจัดการทีเดียว เข้ามาเอาแฟ้มเสร็จแล้วล็อคประตูให้ด้วย ขอบคุณมาก”

“เดี๋ยวนะ” ซึงยุนเลิกคิ้ว ก่อนจะต้องผวาเมื่อจู่ๆซึงฮุนนั้นกอดรั้งช่วงเอวและลุกขึ้น “คุณ!!!

“ผมอยากกอดคุณแทบบ้าแล้วตอนนี้” ซึงฮุนพูดก่อนจะตีสะโพกอีกฝ่าย “นะครับ นะ”

“...เคยปฏิเสธที่ไหนกันหล่ะ”

ซึงฮุนหัวเราะออกมาเสียงเบา ก่อนเขาจะดันประตูห้องนอนที่อยู่ตรงข้างเข้าไป ปิดล็อกมันก่อนจะปล่อยให้ซึงยุนแตะเท้าลงที่พื้น มือที่ปิดล็อกนั้นราวกับเป็นจุดเริ่มของริมฝีปากแสนจาบจ้วง

ซึงฮุนระดมจูบที่ริมฝีปากอิ่ม เม้มมันจนแดงก่ำก่อนจะปล่อยให้มือขาวนั้นปลดกระดุมเสื้อ ก่อนจะผละออกเมื่อซึงยุนหายใจออกมาเหมืนจะไม่ทันเท่าไรนัก

“คบกันนะ”

ซึงยุนรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า เมื่อครู่ที่เขาตอบคำถามอีกฝ่าย เหมือนเป็นการทบทวนความรู้สึกในตัวเองไปด้วย

เขารู้แล้ว คำตอบนั้น...

“อืม”

ราวกับประโยคที่รอคอย ซึงฮุนยิ้มกว้างออกมาก่อนจะรั้งให้อีกฝ่ายอิงชิด เขาเดินนำอีกฝ่ายให้ไปที่ผืนเตียงกว้าง รั้งให้ซึงยุนนอนลงก่อนจะตามทาบทับริมฝีปากซ้ำๆราวกับขอบคุณ ซึงยุนยิ้มออกมาเล็กน้อย เขารู้สึกใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่

“ผมไม่ได้เปิดใจให้ใครง่ายๆหรอกนะ...”

“ผมรู้” ซึงฮุนจูบที่ขมับ “ผมรู้สึกโชคดีที่สุดเลยในตอนนี้”


เรายิ้มให้กันก่อนจะค่อยๆแตะริมฝีปากย้ำซ้ำๆ เป็นการเริ่มต้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างเชื่องช้าและยั่วเย้ากว่าทุกครั้ง เมื่อประกอบกับความรู้สึกพึงพอใจและดวงใจที่เต้นกระหน้ำ

ร่างกายของเราสอดประสาน สองร่างเปลือยเปล่านั้นกอดเกี่ยว ซึงฮุนจูบขมับชื้นเหงื่อ ก่อนจะมองซึงยุนที่รั้งตัวบนตักกว้างและโยกสะโพกเบาๆ

“อืม...”

“ดีครับ...”ซึงฮุนชม “ผมจะค่อยๆนะ”

นิ้วกลางถูกสอดใส่เข้าไปในช่องทางร้อนผ่าว ซึงยุนกัดปาดเล็กน้อยเมื่อมันถูกกระตุ้นตรงจุดกระสันก่อนจะเริ่มสอใส่นิ้วที่สองและสามเข้ามา

“อึก---อ่า”

“ซี๊ด...ดีครับ”

ยกยิ้มก่อนจะแลกจูบดื่มด่ำ มือรูดรั้งแกนกายใหญ่ตามจังหวะสอดนิ้วเข้าช่วยเบิกทาง เราตวัดปลายลิ้นลึกซึ้งก่อนจะผละออกและจูบซับหยาดน้ำใสจากปลายลิ้น ก่อนจะผละออกจากกันและจัดท่าทางให้เข้าทีมากยิ่งขึ้น

ซึงฮุนจูบเบาๆที่หลังคอขาว รั้งสะโพกขาวให้โก่งมากขึ้นก่อนจะค่อยๆสอดใส่ ซึงยุนจิกมือกับผืนเตียง ไม่รู้ทำไมทั้งที่รุนแรงกว่านี้เราก็เคยกันมาแล้ว แต่ครั้งนี้อาจจะเพราะประกอบด้วยใจเต้นกระหน่ำ คำพูดย้ำสถานะ หรือะไรก็ตามแต่ ทำให้ทุกอย่างดูประหม่าและไม่ประสีประสาไปเสียหมด

“ซี๊ด---“

“อ่ะ อา...” ซึงยุนครางออกมาเมื่อแกนกายใหญ่รุกล้ำเข้ามา “ดี---“

“ผ่อนคลายหน่อย” ซึงฮุนกอดจนอกแนบแผ่นหลังเล็ก มือส่งเข้าคลึงยอดอกสีเข้ม บดเบียดมันจนชูชัน “ผมขยับไม่ได้เลย แน่นเกินไปแล้ว”

“บ้า..อ้ะ”

ซึงยุนครางออกมาในลำคอ เมื่อสะโพกสอบขยับโยกเบาๆ ซึงฮุนดูดดึงลาดไหล่ ก่อนจะขยับสะโพกสอบเข้าชิดเร็วขึ้น ลมหายใจร้อนขาดห้วง ก่อนจะครางต่ำบ่งบอกความสุขสม

“อืม...ดี”

“อึก---อ่ะ อา...ซึง ซึงฮุน”

ซึงยุนรั้งใบหน้าของซึงฮุนก่อนจะป้อนจูบ ร่างกายขยับสอดใส่ให้ลึกซึ้งมากขึ้นกว่าทุกครั้ง ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเราทั้งคู่ใกล้ถึงจุดหมาย

“อา...อ่าส์”

“ซึงยุน...ซึงยุน”

จูบดื่มด้ำก่อนจะกระแทกกระทั้นเต็มหน่วย ซึงยุนทรุดลงนอนกับผืนเตียง กำผ้าปูแน่นก่อนจะกระตุกกายรุนแรง หลั่งน้ำคาวขุ่นออกมาเปรอะเปื้อนมือของซึงฮุนที่รูดรั้งให้อย่างใจดี ก่อนจะต้องสะดุ้งตัวน้อยๆเมื่อริมฝีปากร้อนจูบที่กกหูก่อนจะหลั่งน้ำคาวร้อนจัดในช่องทางหลัง

“อา...”

“อืม—“

แลกจูบดื่มด่ำ ก่อนจะละออกและสบตาหวานฉ่ำ ความรู้สึกถูกเติมเต็มกันและกันตีตื้นในใจ ก่อนจะจูบเบาๆอีกครั้ง ซึงฮุนรั้งขาขาวให้นอนหงาย ก่อนจะเกี่ยวเข้าที่เอวสอบและขยับเสียดสีอีกครั้ง

ดื่มด่ำกับช่วงหัวค่ำที่พิเศษกว่าทุกครั้ง แนบสัมผัสซ้ำๆกับสถานะใหม่ของเราสองคน



#น้องยูนดาวยั่ว










วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

[SF] LEE SEUNGHOON X KANG SEUNGYOON : Plz call me #เจ้ฮุนนี่ [side story 01]






SIDE STORY 

#เจ้ฮุนนี่

เจ้ฮุนนี่กับการพบรักที่ห้างอีเกีย



แว่นกรอบสีชมพูอ่อน พร้อม

เสื้อสูทสีแดงสด ผ่านการรีดจนเรียบกริ๊บ โอเค เป๊ะ

ทรงผมปัดข้างสีทอง

อืม...ไม่ว่าจะดูยังไง วันนี้เจ้ก็เพอร์เฟคที่สุด

ยิ้มกว้างออกมาเมื่อมองตัวเองในกระจกจนพอใจ ก่อนจะใส่รีเทนเนอร์สีทองอีกรอบ ไม่ได้เลยนะ นี่สำคัญมาก ไม่งั้นเดี๋ยวเจ้ฟันล้มขึ้นมาละจะทำไง อุตส่าห์ดัดมาตั้งหลายปี

วันนี้เจ้มีกิจสำคัญม๊ากมาก ซึ่งไม่ว่ายังไง เจ้ก็ควรจะดูดีไว้ก่อน แน่นอนว่าเจ้อ่ะไฮแฟชึ่น (เจ้ไม่ได้พูดผิด แต่มันสำเนียงงี้จริงๆนะ เจ้รู้ เจ้ฟังกูเกิ้ลทรานสเลทมาเยอะ) ไปไหนมาไหนเวลาค้าขายอ่ะ เราก็ควรจะดูดีก่อนใช่ม๊า

วันนี้เจ้จะไปอีเกีย

เจ้จะไปดูของเข้าร้านสักหน่อย

แน่นอนว่าในฐานะที่เราเป็นเจ้าของกิจการ (คือเจ้เปิดคลับแหละ นั่งชิคๆสบายๆ) สิ่งสำคัญคือการใส่ใจทุกขั้นตอนไง เจ้เลยชอบที่จะไปเลือกของเอง

ไม่ต้องเยินยอเจ้ เจ้ไม่ลอยหรอ หึส์

ยิ้มกว้างก่อนจะหมุนรอบกระจกอีกที เดินควงกุญแจรถก่อนจะขับเอง เจ้ชอบไปไหนมาไหนคนเดียวนะ ถึงมันจะฟังดูเหงา แต่การที่เราไม่ต้องมีพันธะวุ่นวายตามตัว คือแบบมัน โอ๊ยยย ดี ดีงานเหลือแหล่

...ก็คิดอย่างงี้ไง เกือบสามสิบละ สายตาเริ่มยาวหรือยังไงก็ไม่รู้ เหมือนจะเห็นคานลอยเด่นอยู่ตรงหน้านิดๆ

เอ้อ ช่างมันเถอะ

เจ้ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร ทำไมเวลาเดินลงจากรถทีไร ถ้าคนเยอะๆทีไรจะต้องมีคนจ้องทุกที...คือก็ไม่ได้จะเด่นอะไรไหมหล่ะ หรือเจ้หน้าตาดี ก็ไม่นะ ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ แต่เจ้ไม่สนใจหรอก

เจ้ชอบแต่งตัว เจ้มีความสุขกับการใช้ชีวิต แฮปปี้ดีออก

เอาหล่ะ ช่างมัน เจ้เบื่อที่จะสนสายตาคนอื่นละ เอาตะกร้ารถเข็นไปหาของเข้าร้านดีกว่า

ที่แรกที่เจ้จะไป แน่นอนว่ามาซื้อของเข้าร้าน เจ้ก็ต้องดูพวกข้าวของเข้าร้านสิ...

คิดงั้นจริงอ้ะ?

“อืม...กล่องนี้สวยเหมือนกันแฮะ”

“สินค้าใหม่ค่ะคุณซึงฮุน”

“จริงหรอจ้ะ งั้นขอเอาไปลองก่อนสักสองกล่องละกัน เหมือนเด็กที่ร้านกำลังบ่นเรื่องขนตาปลอมอยู่พอดี”

ส่งของให้พนักงานขายที่คุ้นๆหน้ากันดี การมาที่นี่บ่อยมันดีอย่างงี้แหละน้า มีพนักงานคอยแนะนำตลอด เจ้ก็เลยชอบอุดหนุนประจำ เจ้ยิ้มกว้างออกมาจนรีเทนเนอร์สะท้อนแสง แต่ก็นั่นแหละ โซนเครื่องสำอางอ่ะ คุ้นๆกันทั้งนั้น ปกติสาขาอื่นไม่ค่อยมีโซนนี้หรอก เหมือนจะมีที่นี่นี่แหละ เจ้เลยยอมขับมาไกลทั้งที่สาขาใกล้กว่านี้ก็มีไง

อิอิ

หลังจากได้ของที่ต้องการ ส่วนมากก็ดูไปฝากน้องๆทั้งนั้นแหละ (เจ้ไม่ค่อยได้ใช้นะ เจ้ขนตายาว) เจ้ก็ควรจะไปโซนเครื่องเรือนสักที ข้อดีของอีเกียคือบริการส่งนี้แหละ โอ้ย ไม่อยากจะอวดอ้างสรรพคุณ แต่เจ้สนิทกับเด็กส่งของพอดูเหมือนกัน เพราะเจ้ต้องเอาของไปร้านบ่อย เลยได้เจ้าเด็กพวกนี้ไปช่วยตลอดเวลาที่เด็กที่ร้านไม่ว่า----

เดี๋ยวแปปหนึ่งนะ ขอรับโทรศัพท์แปป

“ว่างายจ้ะ”

(เจ้อยู่ไหน)

“เจ้อยู่อีเกียจ้ามินมิน”

(ออ หรอ นึกว่าอยู่ร้าน ไม่มีไรละ แค่นี้นะเจ้)

“อ้าว มิน มินมินลูก” งงนิดหน่อยแฮะ “ตัดสายไปละ เอ้อ คงหาของไม่เจอละมั้ง”

น่าเบื่อจริงเชียวเจ้าเด็กนี่

อ้อ คนที่โทรมาชื่อมินมิน เป็นลูกเจ้เอง...

ลูกบ้าสิ เจ้ไม่มีมดลูก เอ้อ

มินมินของเจ้จริงๆอ่ะชื่อซงมินโฮ (แต่อย่าดังไปนะ เดี๋ยวคู่อริรู้ละจะแย่) มินมินเป็นเด็กที่เจ้เคยไปช่วยตอนที่มีเรื่องแหละ แหม ถึงเจ้จะบอบบางก็เถอะ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้เตะต่อยไม่เป็นน้ะ! ท่าตั๊กแตนฟาดหาง นกหัวขวานถวายแหวนละท่าถนัดนัก....

มันแหม่งๆ เออ แต่ช่างมันเถอะ

“อุ้ย!

จู่ๆ กล่องขนตาเจ้ก็ตก ขุ่นพระ โอ้ยหนูลูก เจ้ยังไม่ทันได้ใช้เลย เผลอคิดนิดเดียวมือไม่อ่อนเลย

ไม่ได้ละ ต้องเก็บๆ

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”

มือขาวๆนี่มัน....ขุ่นพระ(เอามือทาบอก)

เจ้ขออนุญาตค้างแปปนึงนะจ้ะ

เด็กตรงหน้า..(น่าจะเด็กกว่า เจ้มั่นใจ) ยื่นมือมาช่วยเจ้เก็บของ ทั้งที่มันก็ไม่ได้เยอะเลย แต่เจ้อยากจะแกล้งสำออยอ่ะ น้องน่ารักมว๊ากกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) ผิวขาวๆตาเล้กๆแถมริมฝีปากอิ่มสีแดงอีก

ให้ตาย เจ้หัวใจจะวาย

น่ารัก น่ารักเหลือเกิน น้องงงงงงงง (กรีดร้องเสียงสองในใจ)

“อา...เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับคุณ”

“...”

“อะ เอ่อ ผมวางไว้ในนี้นะครับ” เด็กตรงหน้ายิ้มก่อนจะพูดขึ้นมาทั้งยิ้มโล่งใจ “ดีจังที่มันไม่เป็นอะไรมาก”

โอ้ มาย ก๊าดดดดดดด

มายแองเจิ้ลที่แท้ทรู ทำไมหนูไม่อ่อนโยนกับใจเจ้เลยจ้ะ

หนูลู้กกกกกกก

เจ้ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมเจ้ต้องมาพ่ำในใจมากเบอร์นี้ ทั้งที่จริงๆเจ้ยื่นนิ่งได้ขนาดนั้น (ฮื่อ เจ้พลาดเอง) กว่าจะรู้ตัวก็คนด้านหลังมาสะกิด อ้าว น้องหนูปากแดงหายไปแล้วอ่า

เอาหล่ะ เจ้อยากรู้จักอ่ะ

เจ้มั่นใจว่าเจ้มีตัวช่วย

เจ้เลยรีบกดเปิดแชทไง

น้องมิลูก หนูต้องช่วยเจ้ได้แน่!!!




To be continuous….

#เจ้ฮุนนี่














x