BABYHOONIE

BABYHOONIE
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ #ห่อหมกบอยผู้น่ารัก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ #ห่อหมกบอยผู้น่ารัก แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[SF] Lee seunghoon x Song Minho : You’re Mine [4] END






[SF] Lee seunghoon x Song Minho

Story : You’re Mine [4]



"มะ..มินโฮ"ผมกัดฟันแน่น เอวสวนกระแทกรัวเมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่าย
มินโฮร้องออกมาเสียงหลงอยู่ใต้ร่างของผมเอง
ด้วยความที่ไม่ได้ทำกับมินโฮมานาน และตัวมินโฮเองก็ไม่ได้มีอะไรกับใครเลย ทำให้ช่องทางคับแน่นไปหมด
“อ่ะ อา ซึงฮุน”อีกฝ่ายจิกบ่าผมแน่น
อา
คิดถึงจัง
“ฮยองจะทำอะไร”มินโฮพูดออกกมาเสียงหอบเมื่อผมเริ่มเปลี่ยนจังหวะให้ช้าลง
ดึงอีกฝ่ายขึ้นมากึ่งนั่งก่อนสอดตัวลงนอน
“ออนท็อปให้หน่อย”
“มันใช่เวลาไหม...”
“นะครับมินโฮอา”ผมพูดเสียงอ้อนๆ อีกฝ่ายทำหน้าบึ้งก่อนจะพยายามลุกออก
“ไม่ทงไม่ทำแม่งละ หิวน้ำ”มินโฮลุกออก แก่นกายหลุดออกจากช่องทางหลังทำมินโฮเสียววูบ แต่ความขี้งอนคงมีมากกว่า
อีกฝ่ายเดินกะเผลกออกไป ผมมองคราบน้ำรักที่ไหลเยิ้มออกมาจากหว่างขายาวสีน้ำผึ้งนั้น
อา...เสียดายจังแฮะ
แต่คิดว่าผมจะยอมจบแค่นี้หรอ
ยังไม่หายคิดถึงเลย...
“อ่ะ ทำอะไร”มินโฮร้องเสียงหลงเมื่อผมกอดอีกฝ่ายทางด้านหลัง  ก่อนจะผลักอีกฝ่ายให้คว่ำหน้าบนโต๊ะทานอาหาร
อืม
ก็เหมาะอยู่นะ
ของกินน่ากินมากขนาดนี้
“ก็หิวน้ำไม่ใช่หรอ เด็กขี้งอน”สอดใส่เข้าไปทันทีที่พูดจบ มินโฮเงยหน้าร้องเสียงหลง
ผมเอื้อมมือไปรูดรั้งแก่นกายอีกฝ่าย บดขยี้แรงๆจนน้ำซึมออกมา ก่อนจะละมือออกและเอานิ้วยัดไปในปากอีกฝ่าย
น้ำใสไหลหนืดมาตามง่ามนิ้ว ช่องทางด้านหลังตอดผมถี่ยิบจนต้องสูดหายใจลึกๆเพื่อระบายความเสียว
ไม่ไหว
ความคับแน่นนี้...
มินโฮพยายามหันหน้ามาเพื่อมองผม
แต่ผมเลือกที่จะยกขาซ้ายอีกฝ่ายเพื่อพลิกให้อีกคนนอนบนโต๊ะทานข้าวแทน
อืม...
วิวกำลังดีแฮะ
ถอดกายออกอีกครั้งก่อนก้มใช้ปาก นิ้วทั้งสามสอดใส่เข้าแทนที่
“อ่ะ ฮยอง อ่า”ร้องออกมาเหมือนคนไร้เดียงสาแต่เอวกับเด้งรับทั้งทางด้านหน้าด้านหลัง
ผมแลบลิ้นเลียส่วนปลายระรัว ก่อนที่อีกฝ่ายจะปลดปล่อยออกมาเต็มๆ
น้ำสีขาวเปื้อนเลอะปากจนถึงแก้มผมเอง
มินโฮกระตุกถี่ ช่องทางด้านหลังขมิบรัว
ผมรีบสอดใส่เข้าไปอีกครั้ง
เพราะช่วงแบบนี้จะรัดผมดีที่สุด
ผมชอบที่ได้ปรนเปรอมินโฮให้สุดก่อนที่จะเริ่มทำบ้าง
ไม่เคยเหนื่อยเลยที่เห็นใบหน้าสุขสมของคนรักของตนเอง
“ฮยองรักเรานะ”
“หยะ...หยุดน่ะ” ใบหน้าคมเข้มขึ้นสีแดงระเรื่อพูดห้ามด้วยเสียงอ่อนแรง ผมหัวเราะน้อยๆเพราะอีกฝ่ายกำลังอาย
น่ารักที่สุด
.
.
.
.
.
.
ผมอุ้มมินโฮที่ตอนนี้ผล็อยหลับไปด้วยความเพลียไปที่ห้องของมินโฮเอง
จะให้นอนห้องผมเองก็กะไรอยู่
...เลอะซะขนาดนั้น
ลูบศีรษะอีกฝ่ายด้วยความอ่อนโยน
เอาจริงๆผมไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ
ยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกยินดีกับตนเอง หอมแก้มอีกฝ่ายที่ตอนนี้นอนทำหน้าน่ารักอยู่
นิ้วค่อยๆปัดปอยผมก่อนลากไปตามคิ้วเข้ม ลงมาที่เปลือกตาที่เวลาลืมตามองมาทำให้ใจสั่นไหวรุนแรง สันจมูกคมสวยที่ผมชอบแอบมองเสมอเวลาอีกฝ่ายเผลอ ริมฝีปากสีเข้มที่ตอนนี้บวมเจ่อน้อยๆจากการบดจูบซ้ำๆ
อีกฝ่ายดูเปลี่ยนไปกว่าที่ผมคิดมาก ผมก็สั้นลง ใบหน้าก็ดูอ่อนล้า อาจมาจากเพราะผมด้วยแต่ร่องรอยที่เห็นคือสิ่งที่ย้ำเตือนว่าผมปล่อยให้อีกฝ่ายเสียใจกับผมมานานเป็นแรมเดือน
ในขณะที่ผมมัวแต่คิดหาความสุขทางกายเพื่อลืมเขา
มินโฮร้องไห้มามากเท่าไรกันนะ
“ฮยองขอโทษนะมินโฮอา...”


“คิดอะไรอยู่ซึงฮุนฮยอง” มินโฮเดินเข้ามานั่งตรงข้ามผม
ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเช่นเคยก่อนจะเอื้อมมือไปยีผม
“ย่าห์ หยุดเลย นี่อุตส่าห์เซตผมมานะ”
“มันหล่อเกินไป ฮยองไม่ชอบ”
“ทำไม กลัวตัวเองดูตุ๊ดหรือไง”มินโฮหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนส่งยิ้มกว้างมา และกัดปากเบาๆ “เมื่อกี้ยังไม่ตอบคำถามผมเลย เป็นอะไร”
“เปล่า ก็แค่คิดถึงตอนที่เราเคยเลิกกันหน่ะ”
“ทำไม อยากเลิกอีกหรือไง”อีกฝ่ายหุบยิ้มและเริ่มทำหน้าบึ้งอย่างเห็นได้ชัด
“หึหึหึ”หัวเราะเบาๆ”วันนี้ฮยองนัดเรามาเพราะมีอะไรจะบอกจริงๆนั่นแหละ”
“....” มินโฮเบือนหน้าหนี ดวงตามีน้ำตาคลอหน่วยเบาๆ ผมพยายามกลั้นรอยยิ้มเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“ถ้าเลิกรอบนี้ผมไม่ให้ฮยองง้อแล้ว...”อีกฝ่ายนิ่งไปก่อนจะรีบหันมาอย่างรวดเร็ว
สัมผัสเย็นๆที่นิ้วนางข้างซ้ายคงทำให้อีกฝ่ายตกใจไม่น้อย
แหวนเรียบๆไม่ได้มีความหรูหราถูกสวมลงด้วยความบรรจง
ผมยิ้มออกมาก่อนจะใช้มือซ้ายที่มีแหวนเหมือนกันกอบกุมก่อนจูบเบาๆ
“ฮยองไม่ปล่อยเราไปไหนอีกแล้วละน่า”
“ฮยอง...”
“แต่งงานกับฮยองนะ ถึงที่ผ่านมาฮยองจะทำตัวไม่ดีเท่าไร แต่ฮยองก็อยากมีเราอยู่ข้างๆกันอยู่ดี”
“...”
“ถึงมันจะเกินเลยมามากขนาดนี้แล้วก็เถอะ”
“...”
“นะครับ”
ผมเคยพูดใช่ไหมว่าเวลาอีกฝ่ายอายนั้นน่ารักที่สุด
ซงมินโฮที่ดูมาดแมนตอนนี้กำลังเขินอายหนักมากจริงๆ
“ยังไม่ตอบฮยองเลย..”
“แม่ง ก็รู้คำตอบหรือเปล่าวะ”
ผมยิ้มออกมาจนตาปิดเมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบกลับมา ถึงจะดูห้วนไปบ้างก็ตาม
...แต่แบบนี้ก็น่ารักดีนะ
“เดียวกินข้าวเสร็จกลับหอไปเก็บเสื้อผ้ากัน”
“เดี๋ยว จะไปไหน”
“ฮยองจะพาเราไปฮันนีมูน”
“ห๊ะ ที่ไหน เมื่อไรหน่ะ” ซงมินโฮค้างไปชั่วคราวกับคำตอบ
“พรุ่งนี้”
“ห๋า”
มินโฮอ้าปากค้างกับทริปกระทันหัน
“รีบกินเถอะ คืนนี้จะพาเข้าหอ”
“เดียวนะ”
อีกฝ่ายหน้าแดงซ่านยิ่งกว่าตอนตากแดดเสียอีก
“รักมินโฮนะ”
“มาพูดอะไรคนเยอะแยะอย่างงี้วะ”
“รักฮยองไหม”
“ก็รู้อยู่”
“ฮยองไม่รู้ บอกฮยองหน่อย”
“กะ ก็..อืมมมม”ผมยิ้มออกมาเมื่อได้แกล้งอีกฝ่ายอีกครั้ง
ไม่เคยเบื่อเลยที่อีกฝ่ายเป็นแบบนี้
ผมรู้สึกดีมากจนอดใจแทบไม่อยู่
อยากดูแลคนนี้ตลอดไป
อีซึงฮุนรักซงมินโฮมากนะ
ที่รักของผม...


วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[SF] Lee seunghoon x Song Minho : You’re Mine [3]

[SF] Lee seunghoon x Song Minho 
Story :  You’re Mine [3]







งื้อออออ
ผมร้องโอดครวญในใจ สภาพผมตอนนี้คือสุดๆมาก
แม่ครับ ผมขอโทษครับ
ก้มมองสภาพตัวเองแบบอนาถใจเบาๆ ส่องซ้ายส่องขวาในห้องมินโฮอีกรอบ
อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี ผมไม่เคยรู้เลยว่าอีกฝ่ายชอบแบบนี้
“ย่าห์ ฮยองเสร็จหรือยัง”
“ไม่ออกไปได้ไหมมินโฮยา  ฮยองอายอ่า”
“ออ  ไม่อยากคืนดีไม่เป็นไร” มินโฮยิ้มเหี้ยมออกมาอีกรอบ
อ่า ความคาริสม่ากระจาย  แต่ผมเกลียดรอยยิ้มนี้มากจริงๆนะในตอนนี้อ่ะ
“หยุดๆๆๆ หยุดเลย ขอเวลาห้านาที”
“สาม”
“ห้านะๆๆ”
“หนึ่ง” ผมกรอกตามองบนอีกรอบ ก่อนรีบคว้าโบว์คาดผมออกมา
กระชากประตูห้องออกมายืนจังก้าให้อีกฝ่ายดู ด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีกลับบ้าน
อา...ให้ตายเถอะ
มินโฮดูจะอึ้งกับสภาพผมตอนนี้ไปได้สักพัก ก่อนจะหลุดขำยาวแบบชอบอกชอบใจ
“ย่าห์  ตลกหรอ” ผมอายหน้าดำหน้าแดง
ชุดเมดแบบที่มีจีบระบายรอบกระโปรงสีดำ สั้นระดับเลยเข่ามาเป็นคืบ เสื้อสีขาวมีแขนตุ๊กตา พร้อมด้วยออฟชั่นเสริมคือผ้ากันเปื้อนขาวและที่คาดผม
ทุกอย่างดูมุ้งมิ้งมาก...ถ้าผมไม่ได้เป็นคนใส่อะนะ
“มินโฮ ฮยองถามจริง นายมีชุดแบบนี้ได้ยังไง”
มินโฮปาดน้ำตาที่เกิดจากการหัวเราะ ก่อนจะตีหน้านิ่งที่ดูยังไงก็พยายามกลั้นขำสุดฤทธิ์
“ไปเอามาจากชู้ผม”
“มินโฮ ฮยองไม่ตลกนะ”
“มันเรื่องของผมไหมครับ ไหนบอกจะง้อผมไง”
ดูตอนนี้ก็รู้ละ  ว่ามินโฮหายงอนผมแล้ว แต่ถ้าอีกฝ่ายเขาต้องการแบบนั้น ก็จัดให้หน่อยละกัน
“ครับๆๆๆ ต้องการให้ฮยองทำอะไร ว่ามา”
“หึ” มินโฮทำหน้านิ่ง  “ไปทำอาหารให้ผมหน่อย...”
“แต่ฮยองไม่มีอะไรในตู้เย็นเลยนะ  แล้วนั่นจะไปไหน” ผมถามเมื่ออีกฝ่ายคว้ากระเป๋าเงิน(ของผม)ไปถือป็นมั่นเป็นเหมาะ
“ไป”
“ปะ ไปไหน”
“ไปซื้อของไง....”

ตลอดชีวิตผมอยู่ได้โดยที่ไม่ค่อยสนสายตาคนอื่นเท่าไรนัก
ไม่เห็นต้องสนใจคนที่ไม่รู้จักสักหน่อยว่าจะเป็นยังไง  ก็ช่างเขาไป
จนวันหนึ่ง  ผมได้เจอกับมินโฮ
เขาทำให้ผมรู้จักที่จะสนใจคนอื่นนอกจากตัวเอง
ทำให้ผมรู้จักใช้คำว่ารัก  คำว่าดูแลกับคนอื่น
เขาสอนผม...ทำให้ผมเป็นผมเช่นทุกวันนี้
แต่ตอนนี้
.
.
.
.
“ฮยองไม่ออกไปได้ไหม” ผมพูดอีกครั้งหลังจากที่เป็นคนขับรถออกมาจากคอนโดจนถึงย่านสรรพสินค้า
คนเยอะชิบ แล้วการแต่งตัวของผม...
ใช่ ผมยังใส่ชุดเดิม  อีกฝ่ายลากผมมาทั้งแบบนั้นแหละ
“ถ้าออกมาแล้วตามใจผมวันหนึ่ง  ผมจะยกโทษให้”
โอเค  รู้เรื่อง
ความอายคืออะไร  ผมทิ้งไปหมดเลยแล้วกัน
“แล้วมินโฮจะเสียใจที่มาเล่นกับฮยอง”
ผมก้าวลงจากรถทันที  เชิดหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลายสายตามองมาที่ผม 
ด้านได้อายอด  ถ้าแพ้ตอนนี้มึงอดได้คืนดีกับเมียแน่ซึงฮุน
...ค่อยทบต้นทบดอกกับเด็กมันละกัน
มินโฮเบี่ยงตัวหนี  ไหล่ที่ไหวน้อยๆนั่นทำให้ผมรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังขำ
ใช่สิ ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยนะ
เพราะผมมันหล่อไง
วันนี้ยอมน่ารักสักวันละกัน
ยอม...แค่เห็นรอยยิ้มอีกฝ่ายก็พอ
“ย่าห์ มินโฮจะหนีฮยองไปไหน”
ผมไม่ยอมให้หนีไปง่ายๆหรอก  จะอายต้องอายด้วยกันดิ
มินโฮทำหน้าเหวอ  ก่อนจะวิ่งหนีผม
ผมวิ่งตามอีกฝ่าย  กระโปรงเปิดตามแรงลม
...ไอ้สัส  ดีนะใส่บ๊อกเซอร์เรียบๆมา
คงเป็นภาพที่ตลกน่าดูที่เห็นผู้ชายตัวสูง โหนกแก้มสูง ตาปิดขีดเดียววิ่งไล่ตามอีกคนด้วยสภาพชุดเมด โบว์คาดผม  ถือตะกร้าดอกไม้น่ารักๆ
...และใส่บ๊อกเซอร์สีเขียวสะท้อนแสง
.
.
.
.
.
.
“อ้า  อิ่มจัง...” ผมมองอีกฝ่ายที่ทานอาหารที่ผมทำจนหมด  คงหิวน่าดู ก็เล่นวิ่งหนีซะขนาดนั้น
“วันนี้นอนที่นี่นะมินโฮ”
“ไม่ละ” มินโฮตอบก่อนจะลุกหนีไปคว้าของ ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่าๆแล้ว
“เดียวก่อน..”ผมวิ่งไปคว้าข้อมืออีกฝ่ายก่อนที่อีกฝ่ายจะบิดประตูออกไป “แล้วเรื่องของเรา....”
“ผมดีใจนะที่ฮยองคิดอยากง้อผม  แต่ฮยองลองคิดดีๆก่อนดีกว่า ว่าฮยองรักผม  หรือแค่เหงา...”
“ฮยองจริงจัง  อย่าคิดแบบนี้นะ” ผมเอามือกั้นอีกฝ่ายทั้งสองข้าง กักขังอีกฝ่าย
มินโฮเบื่อนหน้าหนี  มือหนากำสายกระเป๋าแน่น
“จริงจัง  แล้วมันทำให้ฮยองพอไหม...”
“มินโฮ..”
“พอเหอะว่ะ  แม่งเดียวพอคืนดีก็ไปหากิ๊กอีกใช่ไหมล่ะ ผมไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน  ให้โอกาสกันไม่ได้หรือไง” ผมเริ่มพูดเสียงนิ่ง พยายามอย่างยิ่งที่จะใจเย็น
ปกติผมเป็นคนใจเย็นมากถึงมากที่สุด  แต่ถ้ามันเป็นเรื่องของมินโฮ ผมแทบควบคุมไม่ได้สักครั้ง
“ผมขอ...อื้อ” ผมยื่นหน้าเข้าจูบอีกฝ่ายก่อนจะพูดจบประโยค
ผผมจะไม่ปล่อยคนนี้อีกแล้ว
ผมทนไม่ได้ถ้าจะเห็นเขาไปเป็นของคนอื่น
เขาเป็นของผม...
มินโฮเป็นของซึงฮุนคนนี้คนเดียวเท่านั้น
“แฮ่ก...ฮยองทำไรวะ” มินโฮผลักผม ด้วยความที่หน้าประตูเป็นพื้นที่แคบๆ เลยทำให้หลังผมกระแทกกับผนังอีกฝั่ง
“กล้าทำฮยองเจ็บตัวนะมิ” ผมกัดฟันกรอด อีกฝ่ายหน้าซีด
ผมเห็นสีหน้าอีกฝ่ายก็โกรธไม่ลง 
“กลับบ้านเถอะ ไม่อยู่ไม่เป็นไร  เดียวฮยองขอไปเปลี่ยนชุดแปป  เดียวไปส่ง” ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ หมุนตัวเดินเข้าห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า  โยนโบว์คาดผมไว้บนเตียง ก่อนจะถอดออกทั้งชุด
“ฮยอง”  มืออีกคนที่ผมคิดว่ารออยู่ข้างนอกแตะที่หลังเปลือยเปล่าของผม  “เลือดออก  เดียวผมทำแผลให้”
สงสัยเมื่อครู่คงกระแทกกับหมุดเหล็กตรงผนังแน่ๆ
คงเพราะรู้สึกเจ็บที่ใจมากกว่า  จนไม่ได้รู้สึกเจ็บตัวแน่ๆ
ผมมองชุดที่ถอดออกมา  มันเปื้อนคราบเลือดไม่น้อยเหมือนกัน อีกฝ่ายคงเห็นเลยเดินตามมา
“ทำแผลไม่เป็นแล้วยังจะอาสาอีกนะ ไม่เป็นไรหรอก  แผลแค่นี้ฮยองไม่ตาย”
“ฮยองไม่ตาย  แต่ผมเป็นห่วง  จบนะ” มินโฮพูดก่อนจะกดผมให้นั่งที่ปลายเตียง  มือที่มีผ้าชุบน้าผืนเล็กค่อยๆบรรจงเช็ดที่หลังผม
ผมมองอีกฝ่ายผ่านเงากระจกตู้  เพราะกระจกเป็นแบบขุ่นเลยทำให้ผมมองมินโฮได้ไม่ชัดเจนเท่าไรนัก
...เหมือนกับความคิดของมินโฮในตอนนี้
เบลอ และไม่ชัดเจนเลยสักนิด
ผมจับมือมินโฮที่วางไว้บนบ่าเบาๆก่อนจะหมุนตัวไปหาอีกฝ่าย
บรรจงสอดระหว่างนิ้วและกำมันเบาๆ 
ผมไม่อยากเสียเขาไปอีกแล้ว
ถ่ายทอดความรู้สึกที่มีไปให้อีกฝ่าย  เหมือนกับรับรู้ มินโฮค่อยๆลูบผมของผมเบาๆ
ผมบรรจงจูบไปที่ฝ่ามือหนา ส่งสายตาอ้อนวอนก่อนเอ่ยเพียงแผ่วเบา
“ฮยองรักมินโฮนะ”
เหมือนระยะห่างของเราสั้นลง  เหมือนหัวใจเริ่มกลับมาเต้นระรัวอีกครั้ง
เมื่อคำตอบที่ได้รับรู้มันทำให้ผมยินดีเหลือเกิน
“ผมก็รักฮยอง  อย่านอกใจผมอีกนะ”
คำตอบเบาๆ ที่มาพร้อมกับมือที่รั้งท้ายทอยของผม
ก่อนที่ผมจะหลับตา และริมฝีปากสัมผัสกัน
พระเจ้า ผมคงไม่มีทางรักใครเท่าคนนี้แล้วหล่ะ...