BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

[OS] Kang Seungyoon x Lee Seunghoon x Song Minho : Pitfall (ภาคซงมินโฮ)

[OS] Kang Seungyoon x Lee Seunghoon x Song Minho
Story : Pitfall (ภาคซงมินโฮ)





แม้การเลือกที่จะจบลงทำให้ไม่เหลืออะไร มันไม่ได้หมายความว่าจะหายไปจนเริ่มใหม่ไม่ได้
-ซงมินโฮ-
.
.
.
.
. 

สายตาคมจ้องมองไปที่อีกคนที่กำลังนอนหลับด้วยสายตาเรียบนิ่ง
รัก
เขารักซึงยุนมาก
มากเสียจนไม่คิดว่าจะมีใครมอบทั้งกายใจให้อีกฝ่ายได้เท่าเขาอีกแล้ว
ยกมือขึ้นลูบใบหน้าและริมฝีปากอวบอิ่มก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาออกแผ่วเบา
ความรู้สึกที่ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายจะหนีเขาไปมันชวนทำให้หัวใจบีบรัดแน่นด้วยความทรมานเหลือเกิน
อา....เขากลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร
เขากลายเป็นคนที่นึกถึงแต่คนตรงหน้ามากกว่าตนเองตั้งแต่เมื่อไรกันนะ...
แค่นยิ้มก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายเบาๆ
ในพรุ่งนี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วหละนะ
.                                                     
.
.
.
.
ปัง ปัง ปัง
เสียงประตูที่ถูกทุบจากชั้นบนดังแว่วมาให้มินโฮได้ยิน
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว
พวกแม่บ้านยังไม่กลับมา
อีกฝ่ายยังคงอยู่ในห้องนอนที่เขาล็อคจากข้างนอก
ซงมินโฮยิ้ม นัยน์ตาแสดงถึงความเศร้าออกมาเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลายเป็นความมุ่งมั่น
โดดเดี่ยว อ้างว้างเมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำให้หัวพาลจะยุ่งเหยิงตลอดทั้งวัน
ในมือมีซองสีน้ำตาลที่มีร่องรอยของหยดน้ำตา
เสียใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะคิดไม่ได้
ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง

แกร็ก
“มะ มินโฮ”
“ขอโทษที่ล็อคนะ พี่ไม่อยากให้นายหนีออกไปหน่ะ” ซงมินโฮส่งยิ้มเช่นวันวานให้อีกฝ่ายที่ทำสีหน้าไม่เข้าใจ
“ทำไมพี่ไม่ปล่อยผมไป พี่จะทนทรมานทำไมกันนะมิน...”ซองสีน้ำตาลที่ถูกส่งมาตรงหน้าทำให้ซึงยุนชะงัก
ดวงตากลมโตมีคำถามแต่เงียบลงเมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่าย
ใบหน้าคมดูอ่อนแรง ดวงตาที่ร้อนแรงตอนนี้กลับดูบวมช้ำ นัยน์ตาดูแดงก่ำทำให้ซึงยุนลุกขึ้นคว้าใบหน้าของคนตัวโตกว่า
“นี่ตาพี่ช้ำกว่าเมื่อคืนอีก พี่ไปทำอะไรมา...”
“ไม่ได้ทำอะไรครับ ไม่ได้..”
“โคตรโกหกเลย พี่เคยหลอกผมได้ด้วยหรอ”
มินโฮส่งยิ้มอ่อนๆไปให้อีกฝ่าย
เห็นไหม เขาแพ้ให้คนตัวเล็กกว่าอีกแล้ว
เขาไม่เคยชนะซึงยุนสักครั้ง
ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่พยายาม
เพียงแต่หัวใจมันสั่งว่าเขายอมแพ้ให้กับคนที่เขารักมากที่สุด เพียงแค่นั้น...
“ซึงยุนอา...พี่อยากให้เราเปิดซองนะ”
ซึงยุนมองด้วยความสงสัย ก่อนที่จะเปิดซองออกมา
สิ่งที่เห็นทำให้ซึงยุนเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“นี่พี่...”
“คนนี้ใช่ไหม....”
“นี่พี่คิดจะทำอะไรกันแน่”
มือของคังซึงยุนสั่นเทา
รูปถ่ายของอีซึงฮุน พร้อมที่อยู่
“ถ้าซึงยุนรักเขา ซึงยุนก็ไปเถอะนะ พี่คงห้ามไม่ได้”
คังซึงยุนกัดริมฝีปากแน่นเมื่อได้ยินแบบนั้น คางชิดอกจนมินโฮต้องเชยคางอีกฝ่ายขึ้นมา
“พี่รู้ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้”
“...”
“พี่รู้ว่าการที่จะรักใครสักคน มันไม่ได้วัดทีใครมาก่อนมาทีหลัง.....”
“...”
“พี่ไม่อยากจะทำให้เราลำบากใจเพราะพี่ แต่พี่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้”
“ความจริงคือพี่ไล่ผมก็พูดมาเถอะ” ซึงยุนสะบัดหน้าหนีก่อนที่จะขว้างเอกสารทั้งหมดใส่หน้าซงมินโฮ
เพียงแค่นั้นทั้งหมดก็ตกอยู่ในความเงียบ
กระดาษ รูปถ่ายกระจัดกระจายออกจากซองเอกสาร
รูปถ่ายบาดเข้าที่ข้างแก้มจนมีเลือดซึมออกมา
ซงมินโฮใช้มือขวายกขึ้นมาเช็ดออกจากใบหน้าเบาๆ
แผลแค่นี้มันเล็กนิดเดียว
ไม่ได้ทำให้เขาถึงกับบาดเจ็บที่กาย
....แต่ทำไมที่หัวใจมันช่างเจ็บปวดจนร้าวไปหมดก็ไม่รู้เหมือนกัน
คังซึงยุนอึ้งไปนิดหน่อย ก่อนที่จะใช้มือซ้ายจับที่ใบหน้าเพื่อดูแผล
“พี่..ผมขอโทษ”
“ไม่เป็นไร พี่ไม่เป็นไร”
“ผม...”
“นายไปเถอะซึงยุน”
“พี่...”
“ก่อนที่พี่จะเปลี่ยนใจ และพี่บอกไว้ก่อนว่าพี่ไม่ปล่อยเราให้ไปเจอคนนั้นอีก...”
“ทำไมต้องให้ผมเลือกด้วย”
“ถ้าไม่อยากเลือกก็ไป”
“แต่...”
“ไปสิ”ซงมินโฮพูดออกมาเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความปวดร้าวจนซึงยุนสะอึก
เด็กโง่เอ้ย
ทำไมไปหล่ะ
ทำไมต้องทำให้พี่ทรมานแบบนี้ด้วย
น้ำตาของซงมินโฮไหลออกมาเมื่ออีกฝ่ายกอดจากทางด้านหลังแน่น ความเปียกชื้นที่กลางแผ่นหลังทำให้เขารู้ได้ว่าอีกฝ่ายก็คงทรมานไม่น้อยที่ต้องตัดสินใจแบบนี้
แต่ซงมินโฮก็ไม่อยากให้มันค้างคา
เขาไม่อยากให้ปัญหามันคาราคาซังอีกต่อไป
เขาควรตัดสินใจกับมันได้แล้ว
“ซึงยุนครับ”
“...”รับรู้ถึงแรงสั่นสะอื้นจากข้างหลัง ซงมินโฮยิ้มออกมาน้อยๆก่อนที่จะยกมือขึ้นลูบไอ้หมาน้อยของเขาแผ่วเบา
“พี่ไม่ปล่อยเราแล้วนะ”เสียงอู้อี้ดังออกมาจากในลำคอคนด้านหลังฟังไม่รู้เรื่องเท่าไรนัก
“พรุ่งนี้พี่จะพาเราไปเกาหลีนะ...”
“...”
“แล้วเรื่องนี้มันจะได้จบลงสักที”
.
.
.
.
.
“ซึงฮุน ซึงฮุนอา”ผู้ชายตาโตผิวขาวตรงหน้ากำลังเคาะประตูอยู่ข้างหน้าซงมินโฮ มินโฮมองก่อนจะกระชับมือที่เปียกชื้นของอีกฝ่ายแน่น

เสียงปลายสายที่ดังลอดออกมาทำให้มินโฮกับซึงยุนได้ยินไม่ถนัดเท่าไรนัก
ซงมินโฮมองใบหน้าหวานที่เดาว่าคงจะเป็นเลขาของอีซึงฮุน มือสองข้างขวับไขว้ไปมาชวนปวดหัว แต่น่าแปลกที่อีกฝ่ายจัดการได้ดี
“เดียวเชิญคุณมินโฮกับคุณซึงยุนที่ห้องรับรองได้เลยนะครับ ตอนนี้อีซึงฮุนติดประชุม ถ้าเสร็จคงติดต่อกลับได้เลยทันที”ผายมือให้อีกฝ่ายด้วยท่าทีเป็นมิตรก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตนต่อ


ซงมินโฮนิ่ง
เขาไม่มีสีหน้าอะไรหลุดออกกมาแม้แต่น้อย
นั่นยิ่งทำให้คังซึงยุนอึดอัดใจ
สมการที่ว่าซับซ้อน แม้ว่าจะยุ่งยากแค่ไหนก็ตาม คำตอบตายตัวมักมีทางออก
แต่ต่างจาความคิดของผู้คน ที่ยิ่งทดลองค้นหายิ่งหาคำตอบไม่ได้
ซงมินโฮก็เป็นเช่นนั้น
เขารู้ตัวดี
และยิ่งมีใครจะมาค้นความคิด เขายิ่งทำให้ดูซับซ้อนจนสุดท้ายก็เลิกๆที่จะค้นหาในที่สุด
ทุกคนยกเว้นคังซึงยุนมักเห็นเป็นแบบนั้น....
“พี่...คิดอะไรอยู่”
หลุดออกจากความคิดอย่างง่ายดายเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่าย
“เปล่าครับ” ส่งยิ้มอ่อนให้อีกฝ่าย
นั่นยิ่งทำให้ซงมินโฮได้เห็นสีหน้าสับสนของอีกฝ่าย
“มันจะไม่มีอะไรทั้งนั้นครับ”กุมมืออีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนที่จะลูบน้อยๆเชิงปลอบโยน
เสียงประตูเปิดออกดังขึ้นด้วยความรีบร้อน
เป็นอีซึงฮุนที่เปิดเข้ามา
สายตาของซึงฮุนสบเข้ามาที่มินโฮด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่จะหันไปทางซึงยุน
สายตานั้นทำให้มินโฮเบือนหน้าหนี
สายตาที่โหยหาและปรารถนาขนาดนั้น
“นายต้องการอะไรกันแน่ซงมินโฮ”
“ก็ไม่ได้ต้องการอะไร แต่นั่งก่อนก็ได้นะพี่อ่ะ”มินโฮส่งสายตาเป็นเชิงให้อีกฝ่ายใจเย็น ซึงฮุนมองนิ่งกว่าเดิมก่อนจะนั่งตาที่อีกฝ่ายบอก
“นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่มินโฮ นายรู้จักกับซึงยุนได้ยังไง”
“ก็แฟนผมนี่พี่”
“เดี๋ยวนะ พี่? มันหมายความว่ายังไงกันแน่”ซึงยุนที่ได้ยินสรรพนามที่อีกฝ่ายพูดคุยกันยิ่งงุดงง
เหมือนรู้จักกันมาก่อน
เหมือนคนที่คุ้นเคยกัน
“ก็แค่รู้จักกันสมัยก่อนที่พี่จะย้ายไปอเมริกาหน่ะหน่ะซึงยุน” ซงมินโฮพูดออกมานิ่งๆก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง “ผมฝากซึงยุนด้วยนะ โชคดีนะซึงยุน นายได้เจอคนที่รักมากแล้วนี่”
มินโฮเดินออกไปทันที
ความรู้สึกที่เจ็บปวดรุกเร้าเข้าสู่จิตใจอย่างง่ายดาย
น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นเหมือนสัญญาณของความรักที่กำลังหายไป
นี่คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะมอบให้ซึงยุนได้
การที่เขายอมที่จะจากไปเพื่อให้อีกฝ่ายได้มีความสุข
“พี่มินโฮ หยุดเลย หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”เสียงตะโกนที่ดังลั่นออกมาจากห้องพร้อมอ้มกอดที่รัดแน่นที่ด้านหลังทำให้มินโฮรู้สึกหายใจติดขัด น้ำตาที่ไหลออกมาทำให้ทุกอย่างดูเบลอไปไหม
“ซะ..ซึงยุน”
“พี่ห้ามทิ้งผมไปไหนนะ”
เสียงสะอื้นดังมาจากทางด้านหลังทำให้มินโฮยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ก่อนที่ซึงฮุนจะเดินมาหยุดที่ตรงหน้าอีกฝ่าย
“ฉันว่าฉันคงไม่จำเป็นแล้วหล่ะมั้งมินโฮ” นัยน์ตาถึงแม้จะปวดร้าวมากแค่ไหนแต่ก็คงส่งต่อไปไม่ถึงซึงยุนอยู่ดีทอดมองไปที่มือขาวที่กอดเอวคนตรงหน้า ก่อนที่มินโฮจะกระชากข้อมือของซึงฮุนไว้นิ่ง
“พี่ซึงฮุน ผมมีสิ่งหนึ่งที่จะบอกพี่”
ซงมินโฮกระชากข้อมืออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ก่อนที่จะบดจูบทั้งน้ำตา
อีซึงฮุนค้างนิ่ง
คังซึงยุนช็อคกับสิ่งที่มองเห็น
ซงมินโฮละริมฝีปากออกก่อนที่จะใช้นิ้วปาดคราบน้ำลายออก
เหมือนความเงียบเข้ามาครอบงำทั้งสามคนไว้
เงียบจนแทบได้ยินแค่เสียงลมหายใจ
และเสียงหัวใจที่ตัดสินใจครั้งสุดท้ายของซงมินโฮ


“ถ้าคังซึงยุนรักพี่ ผมก็จะรักพี่เหมือนกัน”

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558

[OS] Lee Seunghoon x ??? : Adore U

[OS] Lee Seunghoon x ???
Story : Adore U


เมื่อใดก็ตามที่คุณเติบโตขึ้น
คุณจะรู้จักการเรียนรู้ที่จะรักใครสักคนอย่างแท้จริง
.
.
.
.
.

"พาโบยา...."อีกฝ่ายฟาดมือลงมาที่กลางหลังคนที่นั่งเหม่อเต็มๆ
อีซึงฮุนถอดหูฟังออกก่อนจะดวงตาตี๋จะจิกไปที่อีกฝ่ายเป็นเชิงดุ
"ย่าห์ เจ็บนะ!" พูดออกมาออกแนวจะสำออย เสียงแหลมยียวนก่อนแกล้งซบอีกฝ่ายที่อุตส่าห์มาหาถึงสตูดิโอ
"ทำงานเหนื่อยไหมวันนี้"ใบหน้าแดงระเรื่อเมื่ออีซึงฮุนดึงอีกฝ่ายให้มานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน
ตอนนี้อีซึงฮุนนั่งทำเพลงอยู่คนเดียว เลยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมามองแปลกๆ
ขออ้อนแฟนบ้างคงไม่แปลกอะไร
"เหนื่อยมากอาาาาาา เข้าใจความรู้สึกตอนนายมานั่งทำเพลงแล้วหล่ะ"
หยิกจมูกคนบนตักจนจมูกแดงระเรื่อ
น่าฟัดจริงๆ
"เหนื่อยแล้ว ขอเติมพลังหน่อย"
"ก็เอาขนมมากินสิ ซื้อมาให้เนี่ย"
"ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา ขอของหวานหน่อยยยยย"
พูดออดอ้อนเสียงแหลมๆอีกครัง
ของหวาน เป็นคีย์เวิร์ดที่รู้ดีว่าอีซึงฮุนกับอีกฝ่ายใช้กันนั้นแปลว่าอะไร
"ทะลึ่งจริงๆ ทำงานไปเลยเหอะ"
"ไม่เอา ไม่มีแรงแล้ว เร็วๆ"
อีกฝ่ายทำท่าจะลุกออกจากเก้าอี้ อีซึงฮุนจึงต้องรีบคว้าเอวไว้อย่างรวดเร็ว
"นี่...."
"ไม่เอาอย่าดิ้นดิ นี่อ้วนขึ้นปะเนี่ย จับไขมันได้แล้ว"
"โหย พูดแบบนี้พอเลย ไม่ทงไม่ทำละ"
"ล้อเล่นๆๆๆๆ ทำดิ ทำๆๆๆ"
"เฮ่อ" อีกฝ่ายกรอกตาขึ้นบนเล็กน้อย ก่อนจะหันมาคว้าใบหน้าของอีซึงฮุน แกล้งบีบใบหูเบาๆก่อนที่จะแตะริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว "พอใจยัง"
"สาบานว่าของหวาน? อีฮี๊ยังทำให้ยังนานกว่าเลย"
อีกคนลุกขึ้นชักสีหน้าใส่ เหวี่ยงมือฟาดไหล่อีซึงฮุนไม่เต็มแรงนัก
"โอ้ยๆ"
"สำออยว่ะ"
"รักษาเดียวนี้เลย"
"โน่น ไปให้หมามันรักษาให้โน่น ลูกตัวเองทำดีกว่านี่"
"ง่า....อย่าน้อยใจดิ"ลุกขึนกอดอีกฝ่ายที่ทำท่าจะเดินหนีให้มาอยู่ในอ้อมกอด
"ปล่อยดิจะกลับหอแล้ว"
"ขอนะ"ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตอบ ซึงฮุนประคองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยสองมือก่อนก้มลงมอบจูบแสนหวาน
ความรู้สึกเบา สบาย แต่อิ่มเอมหัวใจก่อขึ้นมาเรื่อยๆตามความรู้สึก
ก่อนที่อีซึงฮุนจะผละออก และเอาลิ้นเลียริมฝีปากคนที่หลับตาทำหน้าเคลิบเคลิ้ม
"ชอบไหม"
"บ้า ถ้าคนอื่นมาเห็นทำไง"
"ก็ปล่อยไปดิ เห็นแล้วไงละ"
"บ้าจริงๆ"แก้มแดงระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่ ซึงฮุนเห็นดังนั้นเลยหยิกแก้มจนอีกฝ่ายร้องเสียงอู้อี้
"รักนายนะ"พูดก่อนกอดอีกครั้ง
"อืมมมม"
"ไม่พูดบ้างหล่ะ"
"พูดอะไร ก็ตอบแล้ว"
"ย่าห์ อย่ามาทำเขินนะ"อีซึงฮุนมองอีกฝ่ายที่แก้มป่องแดงระเรื่อนิดๆ
.
.
.
.
"รักนายเหมือนกันนะ อีซึงฮุน"

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[SF] Lee seunghoon x Song Minho : You’re Mine [4] END






[SF] Lee seunghoon x Song Minho

Story : You’re Mine [4]



"มะ..มินโฮ"ผมกัดฟันแน่น เอวสวนกระแทกรัวเมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่าย
มินโฮร้องออกมาเสียงหลงอยู่ใต้ร่างของผมเอง
ด้วยความที่ไม่ได้ทำกับมินโฮมานาน และตัวมินโฮเองก็ไม่ได้มีอะไรกับใครเลย ทำให้ช่องทางคับแน่นไปหมด
“อ่ะ อา ซึงฮุน”อีกฝ่ายจิกบ่าผมแน่น
อา
คิดถึงจัง
“ฮยองจะทำอะไร”มินโฮพูดออกกมาเสียงหอบเมื่อผมเริ่มเปลี่ยนจังหวะให้ช้าลง
ดึงอีกฝ่ายขึ้นมากึ่งนั่งก่อนสอดตัวลงนอน
“ออนท็อปให้หน่อย”
“มันใช่เวลาไหม...”
“นะครับมินโฮอา”ผมพูดเสียงอ้อนๆ อีกฝ่ายทำหน้าบึ้งก่อนจะพยายามลุกออก
“ไม่ทงไม่ทำแม่งละ หิวน้ำ”มินโฮลุกออก แก่นกายหลุดออกจากช่องทางหลังทำมินโฮเสียววูบ แต่ความขี้งอนคงมีมากกว่า
อีกฝ่ายเดินกะเผลกออกไป ผมมองคราบน้ำรักที่ไหลเยิ้มออกมาจากหว่างขายาวสีน้ำผึ้งนั้น
อา...เสียดายจังแฮะ
แต่คิดว่าผมจะยอมจบแค่นี้หรอ
ยังไม่หายคิดถึงเลย...
“อ่ะ ทำอะไร”มินโฮร้องเสียงหลงเมื่อผมกอดอีกฝ่ายทางด้านหลัง  ก่อนจะผลักอีกฝ่ายให้คว่ำหน้าบนโต๊ะทานอาหาร
อืม
ก็เหมาะอยู่นะ
ของกินน่ากินมากขนาดนี้
“ก็หิวน้ำไม่ใช่หรอ เด็กขี้งอน”สอดใส่เข้าไปทันทีที่พูดจบ มินโฮเงยหน้าร้องเสียงหลง
ผมเอื้อมมือไปรูดรั้งแก่นกายอีกฝ่าย บดขยี้แรงๆจนน้ำซึมออกมา ก่อนจะละมือออกและเอานิ้วยัดไปในปากอีกฝ่าย
น้ำใสไหลหนืดมาตามง่ามนิ้ว ช่องทางด้านหลังตอดผมถี่ยิบจนต้องสูดหายใจลึกๆเพื่อระบายความเสียว
ไม่ไหว
ความคับแน่นนี้...
มินโฮพยายามหันหน้ามาเพื่อมองผม
แต่ผมเลือกที่จะยกขาซ้ายอีกฝ่ายเพื่อพลิกให้อีกคนนอนบนโต๊ะทานข้าวแทน
อืม...
วิวกำลังดีแฮะ
ถอดกายออกอีกครั้งก่อนก้มใช้ปาก นิ้วทั้งสามสอดใส่เข้าแทนที่
“อ่ะ ฮยอง อ่า”ร้องออกมาเหมือนคนไร้เดียงสาแต่เอวกับเด้งรับทั้งทางด้านหน้าด้านหลัง
ผมแลบลิ้นเลียส่วนปลายระรัว ก่อนที่อีกฝ่ายจะปลดปล่อยออกมาเต็มๆ
น้ำสีขาวเปื้อนเลอะปากจนถึงแก้มผมเอง
มินโฮกระตุกถี่ ช่องทางด้านหลังขมิบรัว
ผมรีบสอดใส่เข้าไปอีกครั้ง
เพราะช่วงแบบนี้จะรัดผมดีที่สุด
ผมชอบที่ได้ปรนเปรอมินโฮให้สุดก่อนที่จะเริ่มทำบ้าง
ไม่เคยเหนื่อยเลยที่เห็นใบหน้าสุขสมของคนรักของตนเอง
“ฮยองรักเรานะ”
“หยะ...หยุดน่ะ” ใบหน้าคมเข้มขึ้นสีแดงระเรื่อพูดห้ามด้วยเสียงอ่อนแรง ผมหัวเราะน้อยๆเพราะอีกฝ่ายกำลังอาย
น่ารักที่สุด
.
.
.
.
.
.
ผมอุ้มมินโฮที่ตอนนี้ผล็อยหลับไปด้วยความเพลียไปที่ห้องของมินโฮเอง
จะให้นอนห้องผมเองก็กะไรอยู่
...เลอะซะขนาดนั้น
ลูบศีรษะอีกฝ่ายด้วยความอ่อนโยน
เอาจริงๆผมไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ
ยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกยินดีกับตนเอง หอมแก้มอีกฝ่ายที่ตอนนี้นอนทำหน้าน่ารักอยู่
นิ้วค่อยๆปัดปอยผมก่อนลากไปตามคิ้วเข้ม ลงมาที่เปลือกตาที่เวลาลืมตามองมาทำให้ใจสั่นไหวรุนแรง สันจมูกคมสวยที่ผมชอบแอบมองเสมอเวลาอีกฝ่ายเผลอ ริมฝีปากสีเข้มที่ตอนนี้บวมเจ่อน้อยๆจากการบดจูบซ้ำๆ
อีกฝ่ายดูเปลี่ยนไปกว่าที่ผมคิดมาก ผมก็สั้นลง ใบหน้าก็ดูอ่อนล้า อาจมาจากเพราะผมด้วยแต่ร่องรอยที่เห็นคือสิ่งที่ย้ำเตือนว่าผมปล่อยให้อีกฝ่ายเสียใจกับผมมานานเป็นแรมเดือน
ในขณะที่ผมมัวแต่คิดหาความสุขทางกายเพื่อลืมเขา
มินโฮร้องไห้มามากเท่าไรกันนะ
“ฮยองขอโทษนะมินโฮอา...”


“คิดอะไรอยู่ซึงฮุนฮยอง” มินโฮเดินเข้ามานั่งตรงข้ามผม
ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเช่นเคยก่อนจะเอื้อมมือไปยีผม
“ย่าห์ หยุดเลย นี่อุตส่าห์เซตผมมานะ”
“มันหล่อเกินไป ฮยองไม่ชอบ”
“ทำไม กลัวตัวเองดูตุ๊ดหรือไง”มินโฮหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนส่งยิ้มกว้างมา และกัดปากเบาๆ “เมื่อกี้ยังไม่ตอบคำถามผมเลย เป็นอะไร”
“เปล่า ก็แค่คิดถึงตอนที่เราเคยเลิกกันหน่ะ”
“ทำไม อยากเลิกอีกหรือไง”อีกฝ่ายหุบยิ้มและเริ่มทำหน้าบึ้งอย่างเห็นได้ชัด
“หึหึหึ”หัวเราะเบาๆ”วันนี้ฮยองนัดเรามาเพราะมีอะไรจะบอกจริงๆนั่นแหละ”
“....” มินโฮเบือนหน้าหนี ดวงตามีน้ำตาคลอหน่วยเบาๆ ผมพยายามกลั้นรอยยิ้มเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“ถ้าเลิกรอบนี้ผมไม่ให้ฮยองง้อแล้ว...”อีกฝ่ายนิ่งไปก่อนจะรีบหันมาอย่างรวดเร็ว
สัมผัสเย็นๆที่นิ้วนางข้างซ้ายคงทำให้อีกฝ่ายตกใจไม่น้อย
แหวนเรียบๆไม่ได้มีความหรูหราถูกสวมลงด้วยความบรรจง
ผมยิ้มออกมาก่อนจะใช้มือซ้ายที่มีแหวนเหมือนกันกอบกุมก่อนจูบเบาๆ
“ฮยองไม่ปล่อยเราไปไหนอีกแล้วละน่า”
“ฮยอง...”
“แต่งงานกับฮยองนะ ถึงที่ผ่านมาฮยองจะทำตัวไม่ดีเท่าไร แต่ฮยองก็อยากมีเราอยู่ข้างๆกันอยู่ดี”
“...”
“ถึงมันจะเกินเลยมามากขนาดนี้แล้วก็เถอะ”
“...”
“นะครับ”
ผมเคยพูดใช่ไหมว่าเวลาอีกฝ่ายอายนั้นน่ารักที่สุด
ซงมินโฮที่ดูมาดแมนตอนนี้กำลังเขินอายหนักมากจริงๆ
“ยังไม่ตอบฮยองเลย..”
“แม่ง ก็รู้คำตอบหรือเปล่าวะ”
ผมยิ้มออกมาจนตาปิดเมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบกลับมา ถึงจะดูห้วนไปบ้างก็ตาม
...แต่แบบนี้ก็น่ารักดีนะ
“เดียวกินข้าวเสร็จกลับหอไปเก็บเสื้อผ้ากัน”
“เดี๋ยว จะไปไหน”
“ฮยองจะพาเราไปฮันนีมูน”
“ห๊ะ ที่ไหน เมื่อไรหน่ะ” ซงมินโฮค้างไปชั่วคราวกับคำตอบ
“พรุ่งนี้”
“ห๋า”
มินโฮอ้าปากค้างกับทริปกระทันหัน
“รีบกินเถอะ คืนนี้จะพาเข้าหอ”
“เดียวนะ”
อีกฝ่ายหน้าแดงซ่านยิ่งกว่าตอนตากแดดเสียอีก
“รักมินโฮนะ”
“มาพูดอะไรคนเยอะแยะอย่างงี้วะ”
“รักฮยองไหม”
“ก็รู้อยู่”
“ฮยองไม่รู้ บอกฮยองหน่อย”
“กะ ก็..อืมมมม”ผมยิ้มออกมาเมื่อได้แกล้งอีกฝ่ายอีกครั้ง
ไม่เคยเบื่อเลยที่อีกฝ่ายเป็นแบบนี้
ผมรู้สึกดีมากจนอดใจแทบไม่อยู่
อยากดูแลคนนี้ตลอดไป
อีซึงฮุนรักซงมินโฮมากนะ
ที่รักของผม...