Story : Pitfall (ภาคซงมินโฮ)
แม้การเลือกที่จะจบลงทำให้ไม่เหลืออะไร มันไม่ได้หมายความว่าจะหายไปจนเริ่มใหม่ไม่ได้
-ซงมินโฮ-
.
.
.
.
.
สายตาคมจ้องมองไปที่อีกคนที่กำลังนอนหลับด้วยสายตาเรียบนิ่ง
รัก
เขารักซึงยุนมาก
มากเสียจนไม่คิดว่าจะมีใครมอบทั้งกายใจให้อีกฝ่ายได้เท่าเขาอีกแล้ว
ยกมือขึ้นลูบใบหน้าและริมฝีปากอวบอิ่มก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาออกแผ่วเบา
ความรู้สึกที่ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายจะหนีเขาไปมันชวนทำให้หัวใจบีบรัดแน่นด้วยความทรมานเหลือเกิน
อา....เขากลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร
เขากลายเป็นคนที่นึกถึงแต่คนตรงหน้ามากกว่าตนเองตั้งแต่เมื่อไรกันนะ...
แค่นยิ้มก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายเบาๆ
ในพรุ่งนี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วหละนะ
.
.
.
.
.
ปัง ปัง ปัง
เสียงประตูที่ถูกทุบจากชั้นบนดังแว่วมาให้มินโฮได้ยิน
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว
พวกแม่บ้านยังไม่กลับมา
อีกฝ่ายยังคงอยู่ในห้องนอนที่เขาล็อคจากข้างนอก
ซงมินโฮยิ้ม
นัยน์ตาแสดงถึงความเศร้าออกมาเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลายเป็นความมุ่งมั่น
โดดเดี่ยว
อ้างว้างเมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำให้หัวพาลจะยุ่งเหยิงตลอดทั้งวัน
ในมือมีซองสีน้ำตาลที่มีร่องรอยของหยดน้ำตา
เสียใจ
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะคิดไม่ได้
ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง
แกร็ก
“มะ มินโฮ”
“ขอโทษที่ล็อคนะ
พี่ไม่อยากให้นายหนีออกไปหน่ะ”
ซงมินโฮส่งยิ้มเช่นวันวานให้อีกฝ่ายที่ทำสีหน้าไม่เข้าใจ
“ทำไมพี่ไม่ปล่อยผมไป
พี่จะทนทรมานทำไมกันนะมิน...”ซองสีน้ำตาลที่ถูกส่งมาตรงหน้าทำให้ซึงยุนชะงัก
ดวงตากลมโตมีคำถามแต่เงียบลงเมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่าย
ใบหน้าคมดูอ่อนแรง
ดวงตาที่ร้อนแรงตอนนี้กลับดูบวมช้ำ
นัยน์ตาดูแดงก่ำทำให้ซึงยุนลุกขึ้นคว้าใบหน้าของคนตัวโตกว่า
“นี่ตาพี่ช้ำกว่าเมื่อคืนอีก
พี่ไปทำอะไรมา...”
“ไม่ได้ทำอะไรครับ
ไม่ได้..”
“โคตรโกหกเลย
พี่เคยหลอกผมได้ด้วยหรอ”
มินโฮส่งยิ้มอ่อนๆไปให้อีกฝ่าย
เห็นไหม
เขาแพ้ให้คนตัวเล็กกว่าอีกแล้ว
เขาไม่เคยชนะซึงยุนสักครั้ง
ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่พยายาม
เพียงแต่หัวใจมันสั่งว่าเขายอมแพ้ให้กับคนที่เขารักมากที่สุด
เพียงแค่นั้น...
“ซึงยุนอา...พี่อยากให้เราเปิดซองนะ”
ซึงยุนมองด้วยความสงสัย
ก่อนที่จะเปิดซองออกมา
สิ่งที่เห็นทำให้ซึงยุนเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“นี่พี่...”
“คนนี้ใช่ไหม....”
“นี่พี่คิดจะทำอะไรกันแน่”
มือของคังซึงยุนสั่นเทา
รูปถ่ายของอีซึงฮุน
พร้อมที่อยู่
“ถ้าซึงยุนรักเขา
ซึงยุนก็ไปเถอะนะ พี่คงห้ามไม่ได้”
คังซึงยุนกัดริมฝีปากแน่นเมื่อได้ยินแบบนั้น
คางชิดอกจนมินโฮต้องเชยคางอีกฝ่ายขึ้นมา
“พี่รู้ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้”
“...”
“พี่รู้ว่าการที่จะรักใครสักคน
มันไม่ได้วัดทีใครมาก่อนมาทีหลัง.....”
“...”
“พี่ไม่อยากจะทำให้เราลำบากใจเพราะพี่
แต่พี่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้”
“ความจริงคือพี่ไล่ผมก็พูดมาเถอะ”
ซึงยุนสะบัดหน้าหนีก่อนที่จะขว้างเอกสารทั้งหมดใส่หน้าซงมินโฮ
เพียงแค่นั้นทั้งหมดก็ตกอยู่ในความเงียบ
กระดาษ
รูปถ่ายกระจัดกระจายออกจากซองเอกสาร
รูปถ่ายบาดเข้าที่ข้างแก้มจนมีเลือดซึมออกมา
ซงมินโฮใช้มือขวายกขึ้นมาเช็ดออกจากใบหน้าเบาๆ
แผลแค่นี้มันเล็กนิดเดียว
ไม่ได้ทำให้เขาถึงกับบาดเจ็บที่กาย
....แต่ทำไมที่หัวใจมันช่างเจ็บปวดจนร้าวไปหมดก็ไม่รู้เหมือนกัน
คังซึงยุนอึ้งไปนิดหน่อย
ก่อนที่จะใช้มือซ้ายจับที่ใบหน้าเพื่อดูแผล
“พี่..ผมขอโทษ”
“ไม่เป็นไร
พี่ไม่เป็นไร”
“ผม...”
“นายไปเถอะซึงยุน”
“พี่...”
“ก่อนที่พี่จะเปลี่ยนใจ
และพี่บอกไว้ก่อนว่าพี่ไม่ปล่อยเราให้ไปเจอคนนั้นอีก...”
“ทำไมต้องให้ผมเลือกด้วย”
“ถ้าไม่อยากเลือกก็ไป”
“แต่...”
“ไปสิ”ซงมินโฮพูดออกมาเสียงดัง
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความปวดร้าวจนซึงยุนสะอึก
เด็กโง่เอ้ย
ทำไมไปหล่ะ
ทำไมต้องทำให้พี่ทรมานแบบนี้ด้วย
น้ำตาของซงมินโฮไหลออกมาเมื่ออีกฝ่ายกอดจากทางด้านหลังแน่น
ความเปียกชื้นที่กลางแผ่นหลังทำให้เขารู้ได้ว่าอีกฝ่ายก็คงทรมานไม่น้อยที่ต้องตัดสินใจแบบนี้
แต่ซงมินโฮก็ไม่อยากให้มันค้างคา
เขาไม่อยากให้ปัญหามันคาราคาซังอีกต่อไป
เขาควรตัดสินใจกับมันได้แล้ว
“ซึงยุนครับ”
“...”รับรู้ถึงแรงสั่นสะอื้นจากข้างหลัง
ซงมินโฮยิ้มออกมาน้อยๆก่อนที่จะยกมือขึ้นลูบไอ้หมาน้อยของเขาแผ่วเบา
“พี่ไม่ปล่อยเราแล้วนะ”เสียงอู้อี้ดังออกมาจากในลำคอคนด้านหลังฟังไม่รู้เรื่องเท่าไรนัก
“พรุ่งนี้พี่จะพาเราไปเกาหลีนะ...”
“...”
“แล้วเรื่องนี้มันจะได้จบลงสักที”
.
.
.
.
.
“ซึงฮุน ซึงฮุนอา”ผู้ชายตาโตผิวขาวตรงหน้ากำลังเคาะประตูอยู่ข้างหน้าซงมินโฮ
มินโฮมองก่อนจะกระชับมือที่เปียกชื้นของอีกฝ่ายแน่น
เสียงปลายสายที่ดังลอดออกมาทำให้มินโฮกับซึงยุนได้ยินไม่ถนัดเท่าไรนัก
ซงมินโฮมองใบหน้าหวานที่เดาว่าคงจะเป็นเลขาของอีซึงฮุน
มือสองข้างขวับไขว้ไปมาชวนปวดหัว แต่น่าแปลกที่อีกฝ่ายจัดการได้ดี
“เดียวเชิญคุณมินโฮกับคุณซึงยุนที่ห้องรับรองได้เลยนะครับ
ตอนนี้อีซึงฮุนติดประชุม ถ้าเสร็จคงติดต่อกลับได้เลยทันที”ผายมือให้อีกฝ่ายด้วยท่าทีเป็นมิตรก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตนต่อ
ซงมินโฮนิ่ง
เขาไม่มีสีหน้าอะไรหลุดออกกมาแม้แต่น้อย
นั่นยิ่งทำให้คังซึงยุนอึดอัดใจ
สมการที่ว่าซับซ้อน แม้ว่าจะยุ่งยากแค่ไหนก็ตาม
คำตอบตายตัวมักมีทางออก
แต่ต่างจาความคิดของผู้คน ที่ยิ่งทดลองค้นหายิ่งหาคำตอบไม่ได้
ซงมินโฮก็เป็นเช่นนั้น
เขารู้ตัวดี
และยิ่งมีใครจะมาค้นความคิด
เขายิ่งทำให้ดูซับซ้อนจนสุดท้ายก็เลิกๆที่จะค้นหาในที่สุด
ทุกคนยกเว้นคังซึงยุนมักเห็นเป็นแบบนั้น....
“พี่...คิดอะไรอยู่”
หลุดออกจากความคิดอย่างง่ายดายเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่าย
“เปล่าครับ” ส่งยิ้มอ่อนให้อีกฝ่าย
นั่นยิ่งทำให้ซงมินโฮได้เห็นสีหน้าสับสนของอีกฝ่าย
“มันจะไม่มีอะไรทั้งนั้นครับ”กุมมืออีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนที่จะลูบน้อยๆเชิงปลอบโยน
เสียงประตูเปิดออกดังขึ้นด้วยความรีบร้อน
เป็นอีซึงฮุนที่เปิดเข้ามา
สายตาของซึงฮุนสบเข้ามาที่มินโฮด้วยความไม่เข้าใจ
ก่อนที่จะหันไปทางซึงยุน
สายตานั้นทำให้มินโฮเบือนหน้าหนี
สายตาที่โหยหาและปรารถนาขนาดนั้น
“นายต้องการอะไรกันแน่ซงมินโฮ”
“ก็ไม่ได้ต้องการอะไร แต่นั่งก่อนก็ได้นะพี่อ่ะ”มินโฮส่งสายตาเป็นเชิงให้อีกฝ่ายใจเย็น
ซึงฮุนมองนิ่งกว่าเดิมก่อนจะนั่งตาที่อีกฝ่ายบอก
“นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่มินโฮ นายรู้จักกับซึงยุนได้ยังไง”
“ก็แฟนผมนี่พี่”
“เดี๋ยวนะ พี่? มันหมายความว่ายังไงกันแน่”ซึงยุนที่ได้ยินสรรพนามที่อีกฝ่ายพูดคุยกันยิ่งงุดงง
เหมือนรู้จักกันมาก่อน
เหมือนคนที่คุ้นเคยกัน
“ก็แค่รู้จักกันสมัยก่อนที่พี่จะย้ายไปอเมริกาหน่ะหน่ะซึงยุน”
ซงมินโฮพูดออกมานิ่งๆก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง “ผมฝากซึงยุนด้วยนะ โชคดีนะซึงยุน
นายได้เจอคนที่รักมากแล้วนี่”
มินโฮเดินออกไปทันที
ความรู้สึกที่เจ็บปวดรุกเร้าเข้าสู่จิตใจอย่างง่ายดาย
น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นเหมือนสัญญาณของความรักที่กำลังหายไป
นี่คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะมอบให้ซึงยุนได้
การที่เขายอมที่จะจากไปเพื่อให้อีกฝ่ายได้มีความสุข
“พี่มินโฮ หยุดเลย หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”เสียงตะโกนที่ดังลั่นออกมาจากห้องพร้อมอ้มกอดที่รัดแน่นที่ด้านหลังทำให้มินโฮรู้สึกหายใจติดขัด
น้ำตาที่ไหลออกมาทำให้ทุกอย่างดูเบลอไปไหม
“ซะ..ซึงยุน”
“พี่ห้ามทิ้งผมไปไหนนะ”
เสียงสะอื้นดังมาจากทางด้านหลังทำให้มินโฮยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
ก่อนที่ซึงฮุนจะเดินมาหยุดที่ตรงหน้าอีกฝ่าย
“ฉันว่าฉันคงไม่จำเป็นแล้วหล่ะมั้งมินโฮ”
นัยน์ตาถึงแม้จะปวดร้าวมากแค่ไหนแต่ก็คงส่งต่อไปไม่ถึงซึงยุนอยู่ดีทอดมองไปที่มือขาวที่กอดเอวคนตรงหน้า
ก่อนที่มินโฮจะกระชากข้อมือของซึงฮุนไว้นิ่ง
“พี่ซึงฮุน ผมมีสิ่งหนึ่งที่จะบอกพี่”
ซงมินโฮกระชากข้อมืออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ก่อนที่จะบดจูบทั้งน้ำตา
อีซึงฮุนค้างนิ่ง
คังซึงยุนช็อคกับสิ่งที่มองเห็น
ซงมินโฮละริมฝีปากออกก่อนที่จะใช้นิ้วปาดคราบน้ำลายออก
เหมือนความเงียบเข้ามาครอบงำทั้งสามคนไว้
เงียบจนแทบได้ยินแค่เสียงลมหายใจ
และเสียงหัวใจที่ตัดสินใจครั้งสุดท้ายของซงมินโฮ
“ถ้าคังซึงยุนรักพี่ ผมก็จะรักพี่เหมือนกัน”