BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560

[FICLET] SONG MINHO X KANG SEUNGYOON : BEST OF ME






BEST OF ME

(side story – BREA+HE)





“จะหมดปีแล้ว มีแผนเคาท์ดาวน์กับใครหรือเปล่า?”

คำถามนี้ทำให้มินโฮที่ยังนั่งอยู่หลังห้องเลกเชอร์ขณะที่เรียนในคลาสนั้นต้องเลิกคิ้ว มินโฮไม่ได้ตอบคำถามอะไร นั่นไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีคำตอบในใจ

เขามี แต่กำลังรู้สึกลังเลว่าจะเริ่มมันดีไหมมากกว่า

คำถามนั้นตกตะกอนในใจ ในช่วงใกล้สิ้นปีที่หิมะตกเบาบาง แม้จะเป็นช่วงแห่งการเรียนอยู่ แต่เขากลับไม่มีสมาธิจดจ่อกับมันมากนัก เหตุเพราะคนตรงหน้าห้องที่เป็นตัวแปรสำคัญให้เขารู้สึกเช่นนั้น

จะเริ่มทำความรู้จักดีไหมนะ?

จะทำยังไงดี ถึงจะเริ่มบทสนทนาได้แบบไม่แปลกประหลาด

มินโฮรู้สึกว่ามันช่างแสนงี่เง่า ที่เขายังคิดเช่นนั้นวนเวียนไปมาตั้งแต่หลังวันคริตสมาสต์แล้ว เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีและมันคล้ายกับหนูที่ติดจั่นจนไปไหนไม่ได้ เหตุเพราะเขารู้สึกสะดุดตากับคนคนนี้มากเป็นพิเศษ

คนตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อย ผิวขาวและริมฝีปากสีแดงสดแสนอวบอิ่ม

เขารู้ว่าอีกฝ่ายชื่อคังซึงยุน จากการที่ได้ยินเพื่อนในคลาสเรียก เราเรียนคณะเดียวกัน เจอกันค่อนข้างบ่อย(ก็เฉพาะเวลาเรียน)แต่ไม่เคยคุยกันเลยเพราะอีกฝ่ายดูจะติดเงียบกว่าที่คิด

“สมมตินะ” มินโฮเกริ่นหลังจากนั่งคิดนานสองนาน “ถ้าฉันไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แล้วจู่ๆเดินไปทัก มันจะแปลกไหม?”

“เฮ้ นายหน่ะ” เพื่อนของเขาพูดขึ้นมา “ตกหลุมรักหรอ? ใครหน่ะ?”

“ถามก็ตอบดิ”

มินโฮรู้สึกอายนิดหน่อย เขาไม่น่าเกริ่นคำถามแบบนี้เลย เพื่อนของเขาหัวเราะก่อนจะยกมือปิดปากเมื่ออาจารย์หน้าคลาสหันมามองก่อนจะกระซิบ

“ไม่ยากเลยเพื่อน นายหล่อ รุกเลย”

“เอางั้นเลยหรอ”

“ใช่” เพื่อนคนั้นยืนยัน “หาโอกาสเหมาะๆ รุกแล้วป้าบเลย โอ้ย!

“นี่นักศึกษาสองคนด้านหลังหน่ะ คุณเงียบๆหน่อย!!!




มินโฮเลิกคลาสลงทั้งกลับมาคิดถึงสิ่งที่คุยกับเพื่อน ก่อนจะทำหน้าคิดไม่ตก

พูดอ่ะมันง่าย แต่ทำอ่ะมันเหมือนกับที่คิดซะที่ไหน แน่ละมินโฮไม่เคยเข้าหาในเชิงรุกจีบกับใครมาก่อน ถึงเพื่อนหลายคนจะบอกว่าเขาไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ก็เถอะ แต่ว่าเขาไม่ใช่คนประเภทนั้นซะหน่อย

มินโฮมองด้านนอก ก่อนจะต้องถอนใจเมื่อหิมะตกหนัก เขาอุตส่าห์รอให้มันซาลงแล้วเชียว มินโฮหยิบร่มออกมาก่อนจะตัดสินใจกางมัน ที่คณะตอนนี้ไม่มีใครแล้ว มินโฮจึงเดินออกไปก่อนจะชะงัก

นั่นมัน...

ทำไงดี นั่นมันคนนั้น...

มินโฮชะงักฝีเท้า เพราะเขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร การเริ่มบทสนทนาช่างยากเย็น ก่อนคำพูดของเพื่อนในคลาสจะดังในหัว

เอาวะ...

เห้ย นายอ่ะ

“…”

ไปยืนตากหิมะตรงนั้นทำไม จะไปไหน เดี๋ยวไปส่ง

...ให้ตาย ทำไมห่ามขนาดนั้น

มินโฮไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้เลย เขาตั้งใจจะพูดให้มันดูดีกว่านี้ แต่ก็นั่นแหละ เขารู้สึกเขินเกินกว่าจะทำแบนั้น อีกฝ่ายหันกลับมามองหน้านิ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มจางบนใบหน้า

มินโฮรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัดอย่างรุนแรง

น่ารัก...โคตรน่ารัก ยิ่งยิ้มยิ่งน่ารัก

“ขอบคุณนะ”

น้ำเสียงนั่นใสกว่าที่คิด มินโฮรู้สึกเหมือนถูกกระชากดวงใจเมื่ออีกฝ่ายขยับเข้ามาอยู่ในร่มคันเดียวกัน ก่อนจะบอกว่าจะไปร้านกาแฟข้างหน้าเสียหน่อย

มินโฮไม่ปฏิเสธคำขอร้องนั้น ก่อนจะเดินกางร่มให้อีกฝ่าย

เราเดินคู่กัน ผ่านหิมะที่เริ่มตกหนักขึ้น และบรรยากาศยามพลบค่ำที่มีแสงไฟตกแต่งตามท้องถนน

ให้ตาย...รู้สึกดีเป็นบ้าเลย




“....ยังจำได้อีก”

มินโฮเกาหัวเมื่อซึงยุนนั่งอยู่ตรงข้ามทั้งที่ยิ้มจาง ก่อนซึงยุนจะหัวเราะคิกคัก

“ก็หน้านายตลก ตอนที่พูดชวนฉันไปเคาท์ดาวน์ด้วยกัน แต่พอฉันแกล้งถามย้ำนายก็เปลี่ยนเรื่อง”

“มันเขิน...”

“เขินอะไรหล่ะ”

“นายไม่เข้าใจฉันหรอกซึงยุน”

ซึงยุนหัวเราะก่อนจะผละมือมากุมมือของมินโฮ มินโฮตาโต ก่อนอีกฝ่ายจะยกยิ้มจาง

“ฉันแก้ตัวก็ได้”

“...”

“มินโฮ ปีนี้อยู่เคาท์ดาวน์กับฉันนะ”

“...ปฏิเสธได้ที่ไหนหล่ะ”

ซึงยุนหัวเราะออกมาก่อนจะมองซ้ายขวา เมื่อบริเวณร้านไร้ซึ่งผู้คน ก่อนจะยื่นตัวข้ามโต๊ะมากดริมฝีปากลงที่ริมฝีปากหยัก มินโฮตกใจ ก่อนจะพูดออกมา

“เฮ้ นาย!!!

ซึงยุนหัวเราะคิกคักก่อนจะพูดย้ำ

“ปีนี้...อยู่ด้วยกันนะ มินโฮยา”



-END-