BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[OS] Lee Seunghoon x Song Minho : 1AM

[OS] Lee Seunghoon x Song Minho 
Story : 1AM





“ไม่เจอกันนานนะ”อีซึงฮุนเอ่ยขึ้นเบาๆ ดวงตาตี๋นั้นมองไปทางฟลอร์เต้นที่ในคืนวันศุกร์แบบนี้ผู้คนมามากมายเป็นเรื่องปกติ
“อืม” ซงมินโฮตอบกลับสั้นๆ เขาไม่คิดด้วยซ้ำจะมาเจอ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมามากกว่าสองปี
ใช่  ตั้งแต่พวกเขาเลิกกัน...
วอกก้าเพรียวๆถูกจิบเบาๆโดยคนตาตี๋ ซงมินโฮมองท่าทีอีกฝ่าย
เปลี่ยนไป..
เขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ
“เดียวพี่ก็เมาหรอก” ซงมินโฮคว้าแก้วใสออกจากมืออีกฝ่าย
อีกฝ่ายแค่มองนิ่งๆ
จู่ๆซงมินโฮก็รู้สึกใจเต้นระส่ำไม่เป็นท่า
ทั้งๆที่เลิกกันไปนานแล้ว
ทั้งๆที่คิดว่าเข้มแข็งแล้ว
“ไม่เมาหรอก  มีคนสอนพี่ดีหน่ะ”
ซงมินโฮรู้สึกเจ็บปวด ทั้งๆที่ไม่ควรรู้สึกอะไรแล้วแท้ๆ
“กับคนนั้น  คงไปได้ดีสินะ”
“อืม  เขาก็น่ารักดี” อีกฝ่ายตอบกลับมาสั้นๆก่อนจะเดินเบี่ยงออกไป “ไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอกัน แต่พี่คงต้องไปแล้วหล่ะ ได้เวลาแล้ว”
ซงมินโฮถูกทิ้งไว้ลำพังอีกครั้งถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปหลังร้าน
บุหรี่ถูกจุดขึ้นมา  นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เขาสูบบุหรี่
ผู้บริหารแบบเขา ไม่แปลกถ้าจะออกมาเที่ยวหาความสำราญแบบที่ควรจะเป็น
แต่การออกมาเที่ยวครั้งนี้กลับทำให้เจอกับเรื่องที่ไม่ทันตั้งตัว
อีซึงฮุน

ถ้าย้อนเวลาได้ เขาจะไม่ทำแบบนี้
.
.
.
.
“มินโฮอา  เมื่อไรจะกลับบ้าน พี่รอเราอยู่นะ” เสียงปลายสายกระเง้ากระหงอด
“ผมทำงานอยู่ครับ พี่รอหน่อยนะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว”


“มินโฮอา  วันนี้วันอะไรจำได้ไหม”
“ขอโทษนะครับพี่ วันนี้ผมมีประชุมด่วน  เดี๋ยวพี่นอนเลยนะ ไม่ต้องรอผม”
“มินโฮ...”
“ไว้เดี๋ยวผมชดเชยให้นะ”


“นี่มันหมายความว่าไงห๊ะ”มือเรียวขว้างบรรดารูปถ่ายมาให้ผมที่นั่งทำงานอยู่ ผมมองก่อนจะทำงานต่อ
“ตอบพี่เดี๋ยวนี้ว่ามันหมายความว่าไง”
“มินโฮ!!!
“พี่ครับ  ผมทำงานอยู่ พี่อย่างี่เง่าได้ไหม”
“งี่เง่า? พี่หรอที่งี่เง่า นายพูดแบบนี้ได้ไงห๊ะ”อีกฝ่ายกระชากคอเสื้อผม
“พี่ครับ  หยุด”
“นายไปนัวเนียกับคนอื่นแบบนี้มันหมายความว่าไง นายไม่รักพี่แล้วใช่ไหม”
“พี่แม่งบ้าเปล่าวะ นี่มันแค่ไปสังสรรค์”
“สังสรรค์บ้าอะไรนั่งติดขนาดนี้ พี่ถามจริง  นายได้สนใจพี่บ้างไหม”
“ที่ผมทำทั้งหมดมันเพื่อใครหล่ะ”ผมเริ่มขึ้นบ้าง
ทำงานมาเหนื่อยๆทำไมถึงต้องมาสร้างความลำบากใจให้ขนาดนี้
“พี่มันเป็นภาระให้นายมากหรอ  พูดสิ!!!
เหมือนเส้นความอดทนขาดหายไป
“พี่เงียบๆได้ป่ะวะ ถ้าทนไม่ได้พี่ก็ออกไป พอ!!!!
อีซึงฮุนนิ่งค้างเป็นหินกับคำพูดของอีกฝ่าย  นัยน์ตาตี๋นั้นมีน้ำตาคลอเต็มหน่วย
“รำคาญพี่มากหรอ...”
“ผมจะออกไปข้างนอก หวังว่ากลับมาคงไม่เจออะไรงี่เง่าแบบนี้  ถ้าอารมณ์เย็นเมื่อไรค่อยมาคุยกัน”
ผมหันหลังแล้วเดินออกมาทันที
ได้ยินแค่เสียงสะอื้นดังตามไล่หลังมา
.
.
.
.
.
“พี่ครับผมขอโทษนะ....”
ห้องทั้งห้องกลับเหลือเพียงความว่างเปล่า
ไม่ อีซึงฮุนหายไปไหน
ทำไมเหลือเพียงแค่โน้ตแผ่นเดียวกลางห้อง
ถ้านายมีความสุขกับงานมาก พี่หวังว่าการที่พี่จากไปแบบนี้คงทำให้นายมีความสุข
อีซึงฮุน
.
.
.
.
.
ความคิดผมหยุดนิ่งอีกครั้งเมื่อมองไปเห็นร่างสูงที่คุ้นตา
อีซึงฮุน....
และผู้ชายอีกคนกำลังจูบกัน
จู่ๆใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
ผมทิ้งบุหรี่ก่อนจะขยี้มันด้วยรองเท้าหนังราคาแพง


พลั่ก!!
“มินโฮ  หยุดนะ หยุด” เสียงอีซึงฮุนไม่สามารถหยุดการกระทำของผมได้เลย
“อะไรของมึงวะ”คนที่อยู่ใต้ร่างผมตอนนี้พูดออกกมาก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกผมขึ้นมาต่อย
“ซึงยุน พอได้แล้ว  พี่ขอนะ”ร่างสูงที่ยืนอยู่กอดมัน
เจ็บ
“พี่  แต่มันมาทำผมก่อน”
“นะ ซึงยุน ไปรอพี่ในผับนะ นะ เดี๋ยวพี่เข้าไปหา”
“กูฝากไว้ก่อนเหอะมึง...”
ผมนอนแผ่อย่างหมดสภาพ
หมดจริงๆ
ทั้งร่างกาย และจิตใจ...
“ลุกขึ้นเถอะ ทำแบบนี้ไม่สมกับเป็นนายเลยนะ”
“พี่ลืมผมได้ง่ายๆยังไงวะ...”
“นายพูดเรื่องอะไร”
“ผมถามว่าพี่ลืมผมได้ไงวะ!!!!
ผมลุกขึ้นก่อนจะกระชากอีกฝ่ายเข้าหาตัว  ซึงฮุนผงะจนชนกับรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะมินโฮ พี่บอกให้นาย...อื้อออ”
ผมกระชากอีกฝ่ายให้เข้ามารับจูบอย่างแรง  ฟันกระทบกับปากผมจนเลือดออก แต่ผมไม่สนใจอะไร
อีซึงฮุนทั้งผลัก ทั้งตีผมเต็มแรงจนผมต้องล็อคมือทั้งสองข้างและเอาขาแทรกไปตรงกลางเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายถีบผมออก
สัมผัสหยาบคาย  และป่าเถื่อนแต่ก็แฝงไปด้วยความโหยหาของผมส่งต่อไปให้อีกฝ่ายรับรู้
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ผสมกับบุหรี่และแอลกอฮอล์ตีกันจนมั่วไปหมด
ผมผละออกเมื่ออีกฝ่ายดิ้นเหมือนไม่มีอากาศหายใจ ก่อนจะเริ่มจูบอีกครั้ง
อีกฝ่ายที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืนแล้ว ใบหน้าแดงก่ำขึ้น
อา...
ใบหน้าตอนรับจูบผม
แก้มที่ร้อนจนรู้สึกได้ตอนริมฝีปากสัมผัสกัน
ผม
...ไม่มีทางลืมคนนี้ได้เลยจริงๆ
“ยะ  อย่า มินโฮอา”
เสียงห้ามแผ่วๆไม่สามารถหยุดอารมณ์ของผมได้
ไม่รู้ว่าเพราะเมาเหล้า
หรือเพราะเมากลิ่นกายของคนตรงหน้ากันแน่
ผมหอมที่แก้มแรงๆก่อนที่จะดูดดึงซอกคอแรงๆจนเป็นรอยสองสามจุด
อีกฝ่ายทำได้แต่ร้องอื้ออึง ก่อนที่มือที่ขย้ำคอเสื้อตกลงที่ข้อศอกของผม
ร่างกายที่อ่อนแรงทำให้ว่าผมรู้ว่าอีกฝ่ายสลบไปแล้ว
เหอะ  ก็น่าอยู่หรอก
เล่นดื่มหนักขนาดนั้น ถึงจะฝึกแค่ไหนก็เถอะ
พูดถึงคนฝึกแล้วผมหงุดหงิดชะมัด
ผมลากอีกฝ่ายมาที่รถ โชคดีที่รถผมจอดอยู่บริเวณนั้น
เอาซึงฮุนนั่งในรถเรียบร้อยก่อนนึกขึ้นได้
...คนที่ผมต่อยกับมันชื่อซึงยุนใช่ไหมนะ
ผมแสยะยิ้มเหี้ยมก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์อีกฝ่ายขึ้นมา
ผมกดเพื่อปลดล็อคจอ  แต่ดันตั้งรหัสผ่านไว้
ผมลองสุ่มกดเป็นรหัสวันเกิดซึงฮุน
เครื่องก็ยังล็อคอยู่เหมือนเดิม
ผมกดเรื่อยๆจนเหลือปลดครั้งสุดท้าย
...ถ้ามันใช่  แสดงว่าพี่ยังมีใจให้ผมอยู่สินะ
0330...
เครื่องปลดล็อคให้ผม...
เหอะ อีซึงฮุน  พี่รู้ไหมพี่ทำให้ผมแทบบ้าจริงๆด้วย

ผมเลื่อนหาเบอร์อีกฝ่ายทันที  ไม่นานผมก็เจอ
ผมกดโทรออกทันที
ไม่นานอีกฝ่ายก็รับสายจากผม
“ย่าห์  พี่ทำไมยังไม่เข้ามา..”
“กูไม่ใช่ซึงฮุน”
“มึงเป็นใครวะ  แล้วเอาโทรศัพท์พี่กูมาโทรได้ไง”
“กูเป็นใครไม่สำคัญหรอก  แต่มึงจำใจว่านี่อ่ะแฟนกู  มึงไม่ต้องติดต่อมาหาเมียชาวบ้านอีกเข้าใจไหม”
“ห๊ะ  อะไรนะ เฮ้ยนี่หรือมึงคือซง...”
ผมตัดสายอีกฝ่ายทิ้ง  ก่อนกดปิดเครื่องเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายโทรกลับมาได้อีก
ที่เหลือ  ก็เหลือแค่เรื่องของเราแล้วสินะ  อีซึงฮุน
.
.
.
.
.
ผมวางอีกฝ่ายลงบนเตียงหนา 
ใช่ ที่นี่คอนโดผม
ผมยิ้มขึ้นอีกครั้ง  ก่อนจะเดินเพื่อเอายาแก้แพ้ออกมาเพื่อป้อนให้กับอีกฝ่าย
...พี่เขาค่อนข้างแพ้บุหรี่  ผมรู้
ผมมียาพกไว้เผื่อเสมอ  เพราะว่าสมัยก่อนผมค่อนข้างสูบบุหรี่จัด  ถึงจะพยายามเลิกเพราะพี่เขาแต่ก็มีบางครั้งที่เครียดมากๆเลยสูบบ้าง
พยายามปลุกอีกฝ่ายเพื่อให้ตื่นขึ้นมารับประทานยา  แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่รู้ตัวดีนัก
“พี่ครับ  ทานยาก่อนนะ”
“อืมมม ยาอะไร”
“ยาแก้แพ้ครับ” ผมพูดก่อนประคองอีกฝ่ายให้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ดวงตาตี๋เล็กนั่นยังไม่ลืมขึ้น  ผมยิ้มกับท่าทีน่ารักนั่นก่อนจะบรรจงป้อนยาให้อีกฝ่าย
“อ้าปากครับ  กลืนยาแล้วกลืนน้ำก่อนนะ  เดี๋ยวให้นอนต่อ...”
“งื้มมม ขอบใจนะ...ซึงยุน”
ผมสะดุดกับชื่อที่อีกฝ่ายพูดออกมา มือที่ถือแก้วน้ำนั้นกำแน่น
“แม้แต่ตอนนอนก็ยังนึกถึงมันนะ” ผมเทน้ำเพื่อปลุกอีกฝ่ายทันที อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ
“มะ  มินโฮ”
“ไง  ตกใจมากหรอ  ขอโทษนะที่ผมไม่ใช่ไอ้ซึงยุนอะไรนั่นหน่ะ”
“นะ นายจะทำอะไร”
ผมหยุดการกระทำนั้น  ก่อนที่จะมองนิ่งๆ
ผมรู้ว่าพี่ซึงฮุนมักแพ้สายตาแบบนี้ของผมเสมอ 
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
“ผมไม่ทำอะไรพี่หรอก...” มือผมจับอีกฝ่ายให้ล็อคอยู่กับที่ก่อนจะเอาผ้ามาผูกข้อมือขึงกับเตียงทั้งสองข้าง
เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัวว่าผมกำลังจะทำอะไร 
อีซึงฮุนพยายามดิ้น  แต่ยาแก้แพ้นั้นมีผลทำให้ง่วงมากกว่า  จึงทำให้อีกฝ่ายทำได้เพียงแค่ดิ้นก่อนน้ำใสๆจะไหลออกมา
 “มินโฮ  จะทำแบบนี้ทำไม”
“พี่ทำให้ผมโมโห”
“นี่นายเห็นพี่เป็นที่ระบายอารมณ์นายหรือไง  โมโหก็ปล่อยพี่สิ” ซึงฮุนตะโกนใส่หน้าเสียงสั่น ผมชะงักไป
แต่ภาพที่ผมเห็นก่อนหน้านี้มันโผล่เข้ามาในสมอง
นั่นทำให้ผมโมโหมากกว่าเก่า
“เหอะ  เคยทำกับมันบ่อยสินะ  ถึงหวงตัวขนาดนี้”
“อะไร  นายหมายถึงใคร”
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าไอ้นั่นมันจะลีลาดีขนาดไหน  แต่ผมจะทำให้พี่กลับมาหาผม”
“มะ  ไม่เอา มินโฮพี่ไม่เอานะ”
ผมบีบกรามอีกฝ่ายแน่น
“ยอมผมซะเหอะ เรามารำลึงความหลังกันไง”
“นายทำแบบนี้เพื่ออะไรมินโฮ นายไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับพี่นะ”
“สิทธิ์ที่ผมเป็นผัวเก่าพี่ไง”ผมเริ่มซุกไซร้อีกฝ่ายทันที
ซึงฮุนสะบัดหน้าหนีผม  จนผมทนไม่ไหวต้องล็อคคออีกฝ่าย อารมณ์โกรธประทุแทบสูงสุดกลับต้องชะงัก
อีซึงฮุนร้องไห้
ผู้ชายคนที่ผมรักและเฝ้าถนอมมาหลายปี ไม่เคยแม้แต่จะทำให้เสียน้ำตา
ตอนนี้กำลังร้องไห้
เพราะความโมโหของตัวเอง
“ฮึก มิ มินโฮปล่อยพี่เถอะ”
“ทำไมวะ  ทำไมพี่ต้องร้องไห้ด้วยวะ”ผมปล่อยมืออกจากคออีกฝ่าย  ก่อนที่จะก้มหัวลงพิงกับอก
ความเจ็บปวดร้าวมาถึงหัวใจ
การที่ต้องมาเห็นคนที่รักร้องไห้เพราะตัวเราเอง มันไม่มีความสุขหรอก
“ฮึก  ปล่ะ ปล่อยพี่ไปเถอะ”
“พี่รังเกียจผมมากเลยหรอ  ผมมันน่าขยะแขยงมากขนาดนั้นเลยหรอ” ผมตัดพ้ออีกฝ่าย
“เราเลิกกันแล้ว...”
“เลิก? เหอะ พี่ทิ้งผมไปต่างหากหล่ะ  พี่ไปไหนมาตั้งสองปี พี่รู้ไหมว่าหลังจากวันนั้นผมออกตามหาพี่แทบตาย  พี่ไปไหนวะ ทำไมต้องหนีผมไปแบบนั้นด้วย...” มินโฮพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“พี่รู้ไหมหลังจากวันนั้นผมไม่เคยมีใครนอกจากพี่  พี่เข้าใจผิด  พี่แม่งไม่ฟังผมอ่ะ”
“มินโอ  ทำไมนายต้องมาเห็นค่าพี่  ตอนที่พี่กำลังจะหายไปด้วย”
“พี่หมายความว่าอย่างไง...”
“พี่จะแต่งงานเดือนหน้า...”
คำตอบที่อีกฝ่ายพูดออกมาทำให้มินโฮชะงักค้างไป..
แต่งงาน
“มันเป็นใคร พี่จะแต่งกับใคร ไอ้ซึงยุนนั่นใช่ไหม ผมจะไปฆ่ามัน...”
“มะ  ไม่นะ มินโฮ  พี่ไม่ได้จะแต่งกับซึงยุน  เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องพี่”
มินโฮนิ่งค้างอีกรอบ
“ห๊ะ  ไอ้นั่น” มินโฮอ้าปากค้าง “ลูกพี่ลูกน้อง”
“พี่จะแต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่เขาเลือกให้”
“ผู้หญิงหรอ...” มินโฮอึ้ง
“อืม...”
“เหอะ  แล้วไง ผมไม่ให้พี่แต่งกับใครทั้งนั้น”
“มินโฮ  นายไม่มีสิทธิ์”
“ทำไมผมจะไม่มีสิทธิ์ ในเมื่อตอนนี้ผมทำงาน  ผมมีหน้าที่การงานมั่นคงแล้ว ผมพยายามมาหลายเดือนเพื่อที่ผมจะไปขอพี่  ผมจะไม่ให้ใครมาดูถูกว่าพี่มีแฟนที่ดูแลไม่ได้”
“ฮึก นายมันบ้ามินโฮ”
“ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกพี่ ตลอดสองปีที่ผ่านมา ผมโกรธตัวเองทุกครั้งที่ผมไม่เคยบอกความคิดนี้กับพี่เลย พี่เลยโกรธผมแล้วหนีผมไป....”
อีซึงฮุนร้องไห้หนักกว่าเดิม ผมเอามือไปแกะผ้าออกทั้งสองข้าง ก่อนจะประคอมมือให้กุมหน้าผม
“พี่ครับ ผมขอโทษนะ  มาเริ่มใหม่กับผมได้ไหม...”
“มาเป็นเมียที่น่ารักของผม  คอยดูแลผมได้ไหม”
“ผมขอโทษที่บ้างาน ผมสัญญาว่าผมจะดูแลพี่ให้ดีที่สุด”
“นายมันบ้า ซงมินโฮ”
“ผมขาดพี่ไม่ได้นะครับ พี่เป็นหัวใจของผม...”
“มันไม่ได้แล้วนะ  ครอบครัวพี่...”
“เดียวผมไปคุยเองครับ”
“แต่เขาเตรียมงานแล้ว..”
“ผมจะจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดเอง พี่แค่มาอยู่กับผมก็พอ”
อีซึงฮุนถอนหายใจ  คราบน้ำตายังคงเปรอะเปื้อนบนใบหน้า
“นายมันเอาแต่ใจมากนะมินโฮ”
“ผมเอาแต่ใจเพราะพี่  ผมเอาแต่ใจกับคนที่ผมรักมันผิดตรงไหน”
มินโฮดึงอีกฝ่ายมากอดแน่นราวกับจะย้ำเตือนตัวเองว่าเป็นเรื่องจริง
“ผมรักพี่นะ”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอก....”
มินโฮรู้สึกหน้าชา  เจ็บปวดที่อีกฝ่ายปฏิเสธชัดเจน
“ถ้าผมไม่ได้ แล้วใครละที่จะได้พี่”
“นายเลิกพูดเหมือนพี่เป็นคนง่ายๆสักที”
“พี่แหละหยุด!!! พี่หยุดทำร้ายจิตใจผมสักที”
“มินโฮ  ใครกันแน่ที่ทำก่อน  ถ้านายคิดว่าเป็นพี่  ก็ปล่อยพี่ไป  อย่ากักขังพี่ไว้แบบนี้”
มินโฮกอดอีกฝ่ายแน่นมากกว่าเดิม ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“...ผมผิดเอง  พี่ยกโทษให้ผมนะ”

“มึงถอยออกจากพี่กูเลยนะไอ้มินโฮ” ซึงยุนที่ถือวิสาสะเข้าห้องมากระชากมินโฮออกจากซึงฮุนอย่างแรง  จนมินโฮนั้นเซไปชนกับตู้
“มึง...”
“มึงทำพี่กูร้องไห้มาตั้งสองปี พอพี่กูเริ่มทำใจได้  ยังมีหน้ามาขอพี่กูคืนหรอ...”
“ฮึก  ซึงยุน  พอ”ซึงยุนหันไปมองคนในอ้อมกอด  ท่าทางบอบช้ำนั่นทำเอาเขาแทบใจสลาย
“พี่ กลับบ้านกับผม นะครับพี่นะ” ซึงยุนค่อยๆประคองอีกฝ่ายที่ดูอ่อนแรงจนผิดปกติ
“มึงเอาอะไรให้พี่กูกิน  ไอ้มินโฮ”
“มึงจะเอาเมียกูไปไหน”
มินโฮกระชากซึงยุนก่อนที่จะชกที่ใบหน้าอีกฝ่าย
“มึงคิดว่ากูดูไม่ออกหรอว่ามึงไม่ได้คิดกับพี่เขาแค่น้อง...”
ซึงยุนนิ่งค้างไปเมื่อมินโฮพูดใส่แบบนั้น
ใช่
มินโฮพูดถูกทุกอย่าง
“ซึงยุน  หมายความว่ายังไง..” ซึงฮุนที่ได้พูดออกมา  มินโฮก้มลงไปเพื่อจะดึงอีกฝ่ายให้มาอยู่ข้างเขากลับต้องตกใจ
“พี่ซึงฮุน  นี่เลือด...”
“พี่!!!!
.
.
.
.
.
.
มินโฮกับซึงยุนต่างก็เดินหน้าคลินิกไปมา
ซึงฮุนถูกพามาส่งตัวที่คลินิกที่ใกล้ที่สุด
เพราะตอนที่เขากระชากซึงยุนนั้นทำให้ซึงฮุนศีรษะกระแทกอย่างแรง  จนเลือดออกมามาก
โชคดีที่มินโฮรู้จักเพื่อนซึงฮุนที่เป็นหมอบ้าง  เลยทำให้หาที่อยู่ได้ง่าย
“มินโฮ...”
“พี่จินอู พี่ซึงฮุนเป็นไงบ้าง”
“...นายทำอะไรกับซึงฮุน นายลงไม้ลงมือกับแฟนเก่าตัวเองหรอห๊ะมินโฮ” จินอูกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายเขย่าไปมาอย่างรุนแรง
“ผมขอโทษครับ..”
“ฉันผิดหวังในตัวนายมากจริงๆนะ”
“มันเป็นอุบัติเหตุหน่ะ”ซึงยุนพูดออกมาเสียงเบา”พี่ซึงฮุนเป็นยังไงบ้างครับ”
“นายเป็นใคร”
“ผมซึงยุน ลูกพี่ลูกน้องของพี่ซึงฮุนครับ”
“ออ ซึงฮุนนอนพักอยู่ข้างใน คงเพราะอ่อนเพลียมากเลยทำให้สลบไป พี่ให้น้ำเกลือไว้อยู่”
“ผมขอเข้าไปเยี่ยมพี่ซึงฮุน...”
“นายออกไปคุยกับฉันก่อนมินโฮ  ส่วนซึงยุนพี่อนุญาต”


“นี่มันเกิดอะไรขึ้นมินโฮ”
“พี่หมายความว่าไง”
“นายมายุ่งอะไรกับซึงฮุนอีก”
“ผมมาขอเขาคืนดีเฉยๆ...”
จินอูถอนหายใจแรง ก่อนจะพูดขึ้นมา
“นายรู้เรื่องการแต่งงานของซึงฮุนแล้วใช่ไหม...”
“ผมจะเคลียร์กับทางพ่อแม่พี่ซึงฮุนเอง”
“นายปล่อยให้เพื่อนพี่ร้องไห้เกือบทุกวัน  แล้วจู่ๆจะมาขอคืนดี  มันไม่ง่ายไปหรอ”
“แล้วผมควรทำยังไง...”
“นายกลับไปก่อนเถอะ  พี่จะดูแลซึงฮุนที่นี่ ไปนอนคิดดีๆ  แล้วจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“แต่ผม...”
“ถ้าซึงฮุนฟื้นเดี๋ยวฉันโทรไปเอง”
“พี่อยู่ข้างผม?”
“พี่รู้ว่าเขาก็รอนาย...”
“ขอบคุณครับ  ผมขอเวลาหน่อยนะ”
พี่ซึงฮุน  ผมจะชดเชยเวลาสองปีให้พี่เอง
.
.
.
.
ซึงฮุนยังคงนอนพักอยู่ที่คลินิกของจินวู แต่อยู่ในส่วนที่เป็นห้องนอนของจินวูเอง
สายตานั้นเหม่ออกไปข้างนอกราวกับรอคอยอะไรสักอย่าง
จินอูเล่าทุกอย่างให้เขาฟังแล้ว  และนั้นทำให้เขามีความหวังที่จะรอ
เขายอมแพ้แล้ว  ต่อให้เขาพยายามหลอกตัวเองขนาดไหน
แต่สุดท้ายความจริงที่ว่าเขารักมินโฮก็ยังย้ำชัดเจนอยู่ในจิตใจอยู่ดี

“พี่ซึงฮุนครับ” ซึงยุนเดินเข้ามาเหมือนเช่นทุกครั้ง
เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ไม่มีวี่แววของมินโฮติดต่อมาแม้แต่น้อย
ซึงฮุนหันมามอง  ก่อนยิ้มให้เบาๆ
“เหนื่อยแย่เลย  มาเยี่ยมพี่ทุกวันแบบนี้”
ซึงยุนนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนจะจับมืออีกฝ่ายมากุม
“พี่ซึงฮุน  ผมรักพี่นะ”
“...พี่ดีใจที่เรารู้สึกดีๆกับพี่นะ”
“พี่ลืมมันไปเถอะ  มันไม่เห็นกลับมาเลย” ซึงยุนจับข้อมือทั้งสองข้างของซึงฮุนตรึงไว้กับเตียง ก่อนจะก้มลงหอมแก้ม
“ซึงยุนอย่าทำแบบนี้นะ”ซึงฮุนเบือนหน้าหนี
“ทำไมพี่ ผมเฝ้ามองพี่มาตั้งนาน  พี่อย่าขัดขืนผมเลย” พูดเสร็จก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคออย่างรวดเร็ว 
ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา  จู่ๆซึงยุนก็กระเด็นออกจากซึงฮุน
“...มึงทำอะไรเมียกูวะ”
“มินโฮ  มินโฮ” ซึงฮุนฝืนตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปกอดอีกฝ่ายทันที
“ผมกลับมาแล้วครับพี่  มันทำอะไรพี่ไหมครับ”
“มะ ไม่ ให้เขาออกไปที”
“มึงได้ยินชัดไหมซึงยุน  ออกไปซะก่อนที่กูจะทนไม่ไหวกระทืบมึงจริงๆ”
ซึงยุนมองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเดินออกไป
“พี่ซึงฮุน ผมอยู่นี่แล้วนะ”
“นายหายไปไหนมา..”
ซึงฮุนนิ่งไป เมื่อเห็นมินโฮหยิบแหวนสีเงินออกมาจากกระเป๋า มือหนาสวมมันลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของซึงฮุน
“ผมไปเคลียร์ทุกอย่างมา วันนี้ผมมาเพื่อบอกพี่ว่าพี่เป็นแฟนผมแล้วนะ”
มินโฮกอดซึงฮุนเบาๆ มือลูบผมด้วยความทะนุถนอมกว่าสิ่งใด
เสียงร้องไห้ดังขึ้นเบาๆ  อีกฝ่ายผละออกก่อนจะจ้องตา
“พี่รักผมไหมครับ  ผมขอโทษสำหรับที่ผ่านมานะ ขอโทษที่ปล่อยให้รอตั้งสองปี”
“ฮึ้ก ไอ้เด็กบ้า  พี่รักนายแค่คนเดียวนั่นแหละ”มือทุบที่อกเบาๆ มินโฮหัวเราะออกมาน้อยๆ
“ผมก็รักพี่ครับ รักแค่พี่คนเดียวนะครับ”
“นายห้ามทิ้งพี่ไปไหน  ห้ามบ้างานด้วย”
“ครับๆๆ ผมเตรียมแผนฮันนีมูนเราไว้แล้ว  เดือนหนึ่งเลยดีไหมครับ”
ดวงตาตี๋เล็กนั้นเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย  ก่อนแก้มฟูๆจะแดงขึ้นน้อยๆ
“ไอ้บ้า...”
“ผมก็เป็นคนบ้าที่รักพี่นั่นแหละ”
“หยุดพูดเลยนะ”
“เขินน่ารักขนาดนี้ใครจะอดใจไหวครับ”
“พี่ป่วยอยู่นะมินโฮ” อีกฝ่ายหน้ายู่เมื่อถูกหอมแก้มทั้งสองข้าง
“พี่ก็อย่าน่ารักมากสิ ผมอดใจไม่ไหวนะรู้ไหม”
“งื้ออออ”
“เป็นเด็กดีนะที่รักของผม”
“มะ  มินโฮอา....”
.
.
.
.
ห๊ะ  จบแล้ว
จบเถอะเนาะ  ก่อนที่จะหน้ามืดเขียน NC อิอิ