BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon : But I… [5]

[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon
story : But I… [5]





ผมไม่รู้ว่าเผลอทำสีหน้าแบบไหนออกไป หลังจากได้ยินคำถามแบบนี้
“ว่าไง  เงียบทำไมหล่ะ” ซึงยุนถามผมอีกครั้ง
“เรากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่  เล่นกับความรู้สึกพี่แบบนี้ไม่สนุกเลยนะ”
เหมือนอีกฝ่ายจะเงียบไป
ซึงยุนเงียบ ผมก็เงียบ
“ได้แล้วค้าบบบ” ฮันบินเดินเอามาเสิร์ฟพอดี
“อ้าว ฮันบิน ทำไมเอามาเสริฟเองหล่ะ” ทำตาเยิ้มเลยนะ  หึ 
“พอดีจุนเน่มาแล้ว  ผมอยากคุยกับพี่อ่ะ  คิดถึง” ฮันบินหันมามองผม “ ผมขอนั่งด้วยนะครับ พี่...”
“ซึงฮุนครับ” ผมแนะนำตัว ฮันบินอ้าปากทำหน้าเหวอนิดหน่อย  ก่อนจะหันไปมองซึงยุนอย่างรวดเร็ว
สองคนสบสายตากัน เหมือนคุยทางสายตา...
อึดอัด
หมั่นไส้
อีซึงฮุนกลายเป็นคนขี้อิจฉาไปแล้วครับ
“อ่าครับ ผมฮันบินครับ เป็นมาสเตอร์ร้านนี้” ออ เจ้าของร้านนี่เอง
“ครับ” ผมลุกขึ้นเมื่อเห็นฮันบินนั่ง  อีกฝ่ายเหวออีกรอบ “เรามีคนนั่งด้วยแล้วนี่ งั้นพี่กลับแล้วนะซึงยุน”
“อ้าว รีบกลับจัง” ฮันบินพูดขึ้น ส่วนซึงยุนที่เอาแต่นั่งเงียบ สายตาเรียบไม่สื่ออารมณ์ใดๆส่งมาที่ผม “ยังไม่ได้ทานอะไรเลยนี่ครับ”
“ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องอยู่แล้วครับ ซึงยุนมีเพื่อนมาอยู่ด้วยแล้ว”
“จุนฮเวมาคิดเงินโต๊ะนี้หน่อย” ผมเรียกรุ่นน้องที่มาทำงานที่นี่  ผมเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายทำงานที่นี่เหมือนกัน
“เดียวผมจ่ายเอง”
“ไม่เป็นไร พี่จ่ายให้” ส่งเงินจำนวนหนึ่งให้จุนฮเว มันมองผมงงๆ “ที่เหลือทิปละกัน”
.
.
.
.

“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจหลังจากกลับมาถึงหอพัก ผมไม่ชอบความรู้สึกตอนนี้เลยให้ตายเหอะ
ผมนอนบนเตียงเป็นเวลานานเท่าไรไม่รู้ ในหัวมีแต่ภาพของสองคนนั้นมาวนเวียนในหัว
ไม่เอาดิวะ อย่าไปคิดถึงมัน
ว่าแล้วก็ลุกขึ้นมาทำงานที่ค้างไว้  เห็นห่ามๆแบบนี้ไม่ทิ้งการเรียนนะ
มองนาฬิกาอีกที เลยเวลาสองทุ่มนานแล้วเหมือนกัน
โทรศัพท์ผมแบตหมดตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ผมถอนหายใจก่อนจะลุกไปข้างนอก
หิวว่ะ
ผมเปิดตู้เย็น ของหมดไปแล้ว
รู้งี้เมื่อตอนนั้นกินก็ดี
จู่ๆหน้าซึงยุนตอนยิ้มให้ฮันบินก็โผล่มาในความคิด
แล้วผมจะไปคิดทำไมให้เสียอารมณ์เนี่ย
รู้สึกเซ็งไม่น้อย ก่อนจะหันกลับไปหยิบโทรศัพท์
“มินโฮ ไปเที่ยวกันเหอะ”
.
.
.
.
.
ผมมาอยู่ที่ผับ  ตอนนี้นั่งอยู่กับไอ้มินโฮ แล้วก็แทยอน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะพกแฟนมาทำไม อีกฝ่ายยังเคืองผมเรื่องเมื่อกลางวันไม่น้อยละมั้ง  มองผมตาดุซะขนาดนั้นก่อนจะหันไปมองคนข้างๆด้วยสายตาเดียวกัน
....นั่นคือสิ่งที่ผมก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน
ซึงยุนมาที่นี่ด้วย
มินโฮชงเหล้าให้ผมเป็นแก้วที่เท่าไรไม่รู้  ผมดื่มมันไปด้วยความรู้สึกอึดอัด  เพราะอีกฝ่ายก็นั่งดื่มอยู่ตรงกันข้ามกับผม
ทนไม่ไหวละ...
ไม่ได้เคลียร์ใจไม่สงบแน่
“นี่ ไอ้มินโฮ” ผมหันไปเรียกอีกฝ่ายที่ตอนนี้ก็กรึ่มๆพอดู “เดียวกลับละนะ เช็คบิลให้ด้วย เดียวพรุ่งนี้มาเคลียร์ทีหลัง”
ผมพูดก่อนจะคว้าข้อมือคนตัวเล็กอีกคนออกไปด้วย
แทยอนทำท่าจะโวยวาย  แต่มินโฮที่รู้จัดการรั้งอีกฝ่ายไว้ให้นั่งอยู่กับตน
ซึงยุนอ้าปากเหวอเมื่อเห็นผมลากอีกฝ่ายมาที่กลางฟอร์เต้นที่มีคนมากมายเบียดกันอยู่
“โอ้ย  ลากมาทำไมวะ”
ผมไม่ตอบ มือที่ถือแก้วเหล้ากระดกดื่มอีกครั้ง มองอีกฝ่ายที่จะทำท่าหนีผมไป
ผมคว้าข้อมืออีกฝ่ายก่อนจะดึงให้มาแนบชิดกับอก
ซึงยุนค้างแข็งไปสักพัก
ผมปล่อยมือที่กระชากเปลี่ยนมาจับที่ท้ายทอยอีกฝ่าย  ก่อนจะรั้งอีกฝ่ายให้จูบกับผม
เหล้าที่อยู่ในปากไหลลงลำคออีกฝ่าย
ซึงยุนทุบอกผม  ผมเอาแขนอีกข้างกอดเอวให้มาแนบชิดก่อนจะกวาดลิ้นที่ริมฝีปากหวานนั้น 
ยิ่งผสมเหล้า ผมยิ่งเมามายกับรสจูบ
ซึงยุนที่ตอนแรกขัดขืนผมเริ่มหยุดดิ้น  เปลี่ยนเป็นขย้ำเสื้อผมแทน
ผมสอดลิ้นเข้าไปเพื่อหาความหวานยิ่งกว่านี้
อา....
หวานมากจริงๆ
อีกฝ่ายคงเคลิ้มน่าดู  ถึงเริ่มขยับริมฝีปากบ้าง
เงอะงะ ไม่ประสีประสา
และบริสุทธิ์
ทั้งหมดนั่นมันทำให้ผมแทบคลั่ง
ผมถอนริมฝีปากเมื่ออีกฝ่ายเริ่มทุบผมเพราะหายใจไม่ออก  ใบหน้าแม้ในที่มืดยังมองเห็นว่ามันแดงระเรื่อหลบสายตาของผม
ผมยิ้มมุมปากเมื่อเห็นดังนั้น
ก่อนจะพาอีกฝ่ายออกมาจากผับ
ไม่ไหวแล้ว....
ผมบ้าไปแล้ว
.
.
.
.
.
“นี่จะพาไปไหน  ปล่อยดิว่ะ” กว่าที่ผมจะรู้สึกตัวจากอาการช็อค ตอนนี้ก็อยู่ในรถของอีกฝ่ายแล้ว
ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้วะเนี่ย
จำได้ว่าแทยอนชวนมาเที่ยวผับ ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอมินโฮแล้วก็อีกคนที่หนีผมออกมาเมื่อตอนบ่าย
“พี่จะไปส่งเราที่บ้าน”
“ไม่ต้อง  ผมกลับเอง...” ผมเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายหันมาเอนเบาะผมและก้มประกบปากผมอีกครั้ง
อึ่ก....
ผมกลั้นหายใจ ก่อนจะหลับตาปี๋
กริ๊ก
เสียงเข็มขัดนิรภัยรัดบนตัวผม ซึงฮุนผละหน้าออกจากผมไป
ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกมึนๆขึ้น
....มันอาจจะเป็นเพราะเหล้า
หรือเพราะรสจูบของอีกฝ่ายก็ไม่รู้
“นอนพักซะ  ถึงหอเดียวพี่บอก”
“ผมกลับเองได้  ปล่อย” อีกฝ่ายไม่ฟังผมแม้แต่น้อย  ขับรถออกไปทันที
เฮ้ย  นี่เมาอยู่ป่ะ
เมื่อห้ามไม่เป็นผล  ผมจึงหันไปมองวิวข้างนอกแทน
ตอนกลางคืนถนนโล่งพอสมควร
เรามาถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
ผมรีบปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนลงจากรถอย่างรวดเร็ว
แต่อีกฝ่ายก็ดึงข้อมือผมไว้ “รอพี่ก่อน”
“ทำไม  มีอะไร”ผมทำหน้าระแวงทันที
“มีเรื่องอยากคุย  เดียวขึ้นไปด้วย”
“ทำไมต้องให้ขึ้นไป..”อีกฝ่ายปล่อยผมก่อนจะลงจากรถ ล็อคเรียบร้อยก่อนจะลากผมอีกครั้ง
“มีอะไรก็พูดเลยก็ได้” ผมพูดเมื่อเข้าลิฟต์
“นายกำลังต้องการอะไรจากพี่แน่” ซึงฮุนล็อคผมไม่ให้ขยับไปไหนได้ ผมเบือนหน้าหนีเมื่อได้กลิ่นเหล้าออกมาจากอีกฝ่าย
“ผมเปล่า”
“เล่นกับความรู้สึกพี่สนุกมากไหม”
“ผมไปเล่นกับความรู้สึกพี่ตอนไหน”
“เราก็รู้ว่าพี่คิดยังไงกับเรา ซึงยุน” ลิฟต์เปิดพอดี  ผมผลักอีกฝ่ายออกด้วยความรู้สึกโล่งใจ
เขาดูคุกคามผมเกินไป
ผมกลัวเขา...
และผมก็กลัวใจที่กำลังเต้นแรงเพราะเขาตอนนี้ด้วย
ผมรู้สึกตัวแล้วว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา...
รู้ตั้งแต่จูบแรกที่เขามอบให้ผมแล้ว
มันชัดเจนมากพอแล้ว
“กลับบ้านดีๆนะ”หันหลังให้อีกฝ่าย  ก่อนจะรีบเปิดประตูห้องด้วยความรู้สึกสั่นๆ
“คืนนี้พี่จะนอนนี่”มือที่ผลักประตูแทนผมทำผมตกใจ
“เฮ้ย  ใครให้นอน...อ๊ะ” ริมฝีปากบางก้มลงเพื่อช่วงชิงลมหายใจผมอีกครั้ง มืออีกข้างปิดประตูห้องผมหลังจากดันผมเข้ามาสำเร็จ
ผมรู้สึกเหมือนขาอ่อนแรงมาก  ตัวผมพิงผนังค่อยๆไถลลง  แต่อีกฝ่ายก็ยังก้มตามผมไม่ปล่อยให้ผมได้พักหายใจแม้แต่น้อย
ร่วมหลายนาทีกว่าอีกฝ่ายจะผละออก
“พี่รักเรานะซึงยุน  เป็นแฟนกับพี่เถอะนะ...”
“ห๊ะ...”
“พี่ทนไม่ได้จริงที่จะเห็นเรายิ้มให้ใครนอกจากพี่ พี่ทนไม่ได้ที่เห็นใครทำให้เราเขิน..”
“เป็นพี่ได้ไหม ซึงยุน”
ผมก้มหน้านิ่ง รู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างที่ไม่เคยเป็น
ทำไมเรื่องมันเป็นอย่างนี้ได้เนี่ย
เกิดมาไม่เคยคบกับใครจริงจัง แล้วจู่ๆพระเจ้าเล่นตลกอะไรกับผม
“ผมขอคิด..อื้อ”อีกฝ่ายก้มจูบผมก่อนจะผละออก
“พี่ไม่พอใจคำตอบนี้ครับ  ตอบใหม่นะ”
ห๊ะ  มีแบบนี้ด้วย
“อะไรวะ  อื้ออออ” ผมเริ่มดิ้นเมื่ออีกฝ่ายก้มลงมาจูบอีกครั้ง ริมฝีปากบางดูดดึงก่อนจะปล่อยออกอีกครั้ง
อันตราย  อันตรายกับใจจริงๆ
“ยอมพี่หรือยังครับ..”
“คะ...คือ”
“งันพี่ก็จะจูบแบบนี้แหละ”
“ง่ะ...งื้ออออ” ผมเริ่มดิ้นออกมา  อะไรว่ะ แม่งมาเอาเปรียบผม
ผมลุกขึ้นพรวดเดียว  ก่อนรีบสาวเท้าเข้าไปข้างใน
“กลับไปนะเว้ย  กลับไปไอ้หัวฟู ไอ้สิงโตโรคจิต”  ผมชี้หน้าด่าทันที
โอ้ย  อายก็อาย 
“เดียวจะลองคิดดูนะ” ผมพูดขึ้นก่อนที่คนตัวสูงเดินเข้ามาก่อนจะคว้ามือผมไปทาบอก
“พี่ไม่กลับแล้ว...”
“หัวใจพี่มันเต้นแทบเป็นบ้าแล้ว”
“อย่าให้ความหวังพี่ได้ไหม  แต่ตอบคำเดียวว่าเป็นหรือไม่เป็น...”
“อย่าให้พี่ทรมานแบบนี้นะครับซึงยุน...”
ผมนิ่งไปกับคำพูดอีกฝ่าย
ผมก็ไม่ได้รังเกียจที่เขามาชอบผมนะ 
เขาก็ดีกับผม  เคยช่วยเหลือผม แอบดูแลผมทั้งที่ผมไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำถ้ามินโฮไม่บอก
ผมหลับตาลง
ตัดสินใจแล้ว...
ผมคว้ามืออีกฝ่ายขึ้นมาทาบอก  หัวใจผมเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง...
แต่มันกลับเร็วและแรงพอๆกับคนตรงหน้า
“ก็ได้...ผมยอมพี่แล้วก็ได้”
ผมฉีกยิ้มให้อีกฝ่าย อีกฝ่ายทำหน้าเหวอบ้าง
“จริงนะซึงยุน...”อีกฝ่ายดึงผมมากอด และลูบผมผมเบาๆ
ผมหลับตาพริ้ม  รู้สึกเคลิ้มกับการกระทำอีกฝ่าย
กว่าจะรู้ตัวก็เผลอให้ริมฝีปากบางหอมที่หน้าผากเบาๆ
กลิ่นเหล้าปนออกมากับน้ำหอมทำให้ผมเคลิ้มง่ายกว่าเดิม เผยอปากให้อีกฝ่ายสอดลิ้นเข้ามาง่ายๆ
เราจูบกันอีกครั้ง  และอีกครั้งราวกับคนไม่รู้จักพอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น