BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

[SF] Kang Seungyoon x Song Minho : Step Up (intro)


[SF] Kang Seungyoon x Song Minho
Story : Step Up
Ep.0 Intro








คุณเคยแอบรักเพื่อนสนิทไหม....

คงมีหลายคนที่เคยเป็นสินะ

แล้วคุณทำยังไงต่อหรอ?

คุณเลือกที่จะไปต่อในความเป็นเพื่อน หรือเลือกที่จะจบความรู้สึกของคุณลงด้วยการหายไป?
.
.
.
.
.
.

"กูชอบมึงนะ"

การเลือกที่จะบอกความรู้สึกแก่คนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิท เพื่อนที่เราคิดไม่ซื่อคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างรอบตัวผมกับมัน

คังซึงยุน

เพื่อนสนิทของผม เพื่อนที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผม

ตั้งแต่เกิดมา เพื่อนคนแรกที่ผมรู้จักก็คือมัน

คนข้างบ้านที่อยู่ใกล้กันที่สุดก็คือมัน

และคนที่คบกับผมจนตัวติดกัน คนที่เข้าใจผมที่สุด 

คนที่มีอะไรไม่เคยปิดบัง คนที่พอมองตาแล้วเข้าใจ....

ก็คือมันทุกอย่าง

"มึงอย่าล้อกูเล่นเลย ตลกตายห่า"มันหัวเราะก่อนจะตีแขนผม เสียงหัวเราะใสนั่นดังขึ้นก้องสะท้อนบริเวณสวนสาธารณะที่ผมกับมันเคยเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่เสียงจะค่อยๆเบาลงเมื่อเห็นสีหน้าที่ผมไม่ได้ตลกกับมันไปด้วยเลยแม้แต่น้อย "เฮ้ย ไอ้มินโฮ มึงเป็นไร"

"กูจริงจังนะซึงยุน"

"..."

มันมองมาด้วยสายตานิ่งๆ ริมฝีปากที่ยกยิ้มเมื่อครู่หายไปแล้ว


"กูไม่รู้ว่ามึงจะคิดยังไง แต่ตอนนี้ความรู้สึกกูมันไม่เหมือนเดิมแล้ว"

.
.
.
.
.
.
สาบานว่ามันเป็นฟิคชั่ววูบที่เราอยากสานต่อให้มันยาวนาน (เอ๊ะ ยังไง)
ฝากติดตามด้วยนะคะ
ความยาวของฟินนี้อาจจะเกินสิบตอน หรืออาจจะไม่ก็ได้ค่ะ
เพราะบอกตามตรงว่าเป็นฟิคที่เขียนตามความรู้สึก และตามเวลาที่จะสามารถเจียดมาได้ (อันหลังนี่น้อยมากกว่าจะเจียดมาได้)
อย่าลืมติดแท็ก #ฟิคเพื่อนมินยุนด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ





วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

[OS] Kang Seungyoon x Nam Taehyun : Attractive {SEUNGYOON's birthday Project}

[OS] Kang Seungyoon x Nam Taehyun


Story : Attractive













"If you have reasons for loving someone, then you are using your mind, but if you love someone for no reason, then you are using your heart."
ถ้าคุณรู้ว่าคุณรักใครเพราะอะไร นั่นเพราะคุณใช้ความคิดในการรักเขาคนนั้น แต่เมื่อไหร่ที่คุณรักใครสักคนโดยไม่มีเหตุผล
นั่นเพราะคุณใช้หัวใจรักเขา




“แทฮยอน”

เสียงปลุกนุ่มๆถูกเอ่ยขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้ แทฮยอนขดตัวหนักกว่าเดิม ผมสีทองที่โผล่ออกมาจากผ้านวมผืนหนาทำให้ซึงยุนอดไม่ได้ที่จะยีหัวอีกฝ่ายเบาๆ

“เหมือนแมวเลยนะแทฮยอนนี่ ตื่นได้แล้วหล่ะ”

“อืม..เมื่อคืนผมกลับมาดึกน่า ขอนอนอีกนิดไม่ได้หรอ”

“วันนี้มีถ่ายแบบไง ไม่ได้หรอก ลุกไปแต่งตัวได้แล้ว”

“งืม....”ในที่สุดแทฮยอนก็ต้องลุกขึ้นมาจนได้ ผมชี้ฟูดูยุ่งเหยิงนั่นสะท้อนแสงแดดที่ซึงยุนไปเปิดหน้าต่างไว้ความจริงซึงยุนตื่นตั้งแต่
เช้า เขาไปเวียนปลุกสมาชิกหมดแล้ว และแทฮยอนคือคนสุดท้าย

เสียงพูดคุยจากด้านนอกดังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ

ยังพอมีเวลาสินะ

ซึงยุนคิดในใจก่อนที่จะหันมามองแทฮยอนที่ยังนั่งหลับตา ท่าทางสะลึมสะลือนั่นน่ารักจนคนปลุกอดเอ็นดูไม่ได้

“แทฮยอนอ่า ถ้านายไม่ตื่นฉันจะแกล้งนายแล้วนะ”

“อืม แปปนะ เดินมานี่หน่อย” แทฮยอนยกสองแขนเป็นเชิงบอกให้อุ้ม ซึงยุนหัวเราะกับท่าทีนั่นก่อนที่จะเดินไปดึงอีกฝ่าย ดวงตาเฉี่ยว
นั่นมองคนที่ไม่ยอมลืมตาจนอดไม่ได้ที่จะเอามือทั้งสองข้างตบที่ใบหน้าเบาๆ “โอ้ย ซึงยุน เจ็บนะ”

ร้องโอดโอยก่อนที่จะได้เวลาลุกจริงๆสักที ซึงยุนยิ้มก่อนจะเปิดประตูห้องนอน

“ซึงยุนมานี่ก่อน” แทฮยอนเรียกคนแก่กว่าให้ชะงักก่อนที่จะเดินไปที่ประดูที่กำลังจะถูกเปิด ปิดลงดังเดิมก่อนจะก้มลงจูบที่ต้นคออีก
ฝ่ายที่ชะงักค้างไป

“อรุณสวัสดิ์ครับ”

เหมือนทะเลที่เคยสงบพลันปั่นป่วน หัวใจของซึงยุนพลันเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“นายนี่เล่นอะไรบ้าๆหะแทฮยอน” แก้มแดงขึ้นนิดหน่อยก่อนจะผลักอีกคนและเดินหนี แทฮยอนหัวเราะกับท่าทีตลกๆนั่น

...ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก

ถ้าถามว่าเขากับซึงยุนเป็นอะไรกัน ลีดเดอร์กับเมมเบอร์? เมนโวคอล? พี่น้อง? คนที่เคารพ? คนรัก?...

มันเป็นความสัมพันธ์ที่แทฮยอนก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรเหมือนกัน เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทีตอบรับอะไรเวลาที่เขาแสดงมันออกไป 
เมื่อต่างคนต่างไม่เอ่ยมันขึ้นมา ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปหาคำตอบ

ถ้าถามว่าคนที่แทฮยอนสนิทที่สุดในวงคือใคร คำตอบแรกที่เขานึกได้ก็คือซึงยุน

นอกจากหอมแก้ม มากกว่านั้นเขาก็เคยทำมาแล้วทั้งสิ้น

ไม่ว่าการกอด การจูบ หรือกระทั่งเรื่องอย่างว่า....

“อายก็พูดว่าอายสิ”พลันยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนึกถึงใบหน้าแดงเมื่อครู่ ก่อนจะหันไปจัดการตัวเองเพราะดูท่าแล้วสมาชิกที่เหลือ
คงจะรอข้างนอกแล้ว

เดินออกไปก็เห็นซึงยุนกำลังนั่งเขียนอะไรหลายๆอย่างลงในสมุดจดที่แทฮยอนจำได้ว่ามันเป็นสมุดพกส่วนตัวของเจ้าของนั่นเอง 
ข้างๆเป็นจินวูฮยองที่ดูขะมักเขม้นกับโปรแกรมสีเขียวในโทรศัพท์นั่นเหลือเกิน สงสัยจะคุยกับจินฮวานแน่ๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นมิน
โฮกับซึงฮุนที่กำลังยืนกินอะไรกันตรงครัว

“แทฮยอนออกมาแล้วนี่”ซึงยุนพูดขึ้นก่อนจะยิ้มออกมา “ซึงฮุนฮยอง ช่วยเอาแซนวิซให้แทฮยอนหน่อย เดียวเราออกไปกันเลย เดียว
จะไม่ทัน”

ในรถมีแต่ความเงียบ แทฮยอนหลับลงอีกครั้งตั้งแต่ขึ้นรถ ซึงยุนมองด้วยความอ่อนใจก่อนจะเข้าไปนั่งข้าง ปัดผมที่ปรกหน้าก่อนจะ
ลูบคิ้วตกเบาๆ

“แฮ่ม ซึงยุน เก็บอาการหน่อย อย่าแกล้งน้อง”

เป็นมินโฮที่พูดแซวขึ้นมา ซึงฮุนหันมามองก่อนจะหัวเราะน้อยๆ

“มันไม่ได้มีอะไรสักหน่อย จริงไหมจินวูฮยอง”หันไปขอความช่วยเหลืออีกคนที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ “ฮยองอ่า ไม่
ช่วยผมเลย”

“อ่า ขอโทษทีซึงยุนอ่า”จินวูเงยหน้าขึ้นมาก่อจะหัวเราะออกมาเบาๆ

“ทั้งนายทั้งแทฮยอนนี่ปากแข็งกันทั้งคู่เลยนะ”เป็นซึงฮุนที่พูดขึ้นมา”แมวดื้อกับลูกหมาปากแข็ง”

“นี่ฮยองว่าผมเป็นหมาหรอ ผมกับแทฮยอนไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”

“ก็ถ้านายไม่เป็นหมา แทฮยอนก็เป็นหมาอ่ะ เลือกเอาเอง” ก่อนที่ซึงฮุนจะหัวเราออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ฮยองบ้า” บ่นงืมงำๆก่อนหันไปมองคนข้างๆ ดูท่าว่าคงจะเหนื่อยจริงๆถึงได้หลับสนิทขนาดนี้ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

หวังว่าคงจะไม่ได้ยินเมื่อครู่ละนะ

ลอบยิ้มเบาๆก่อนจะเอามือปัดผมให้คนที่นอนหลับสนิทอีกรอบ และพิงไหล่น้อยๆเพื่อเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกคน

โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่หลับอยู่ก็ได้ยินเช่นกัน



“แทฮยอนอา ยิ้มหน่อยครับ”

“แทฮยอน ทำไมดูอารมณ์ไม่ดีเลย”

“แทฮยอน นายคงเหนื่อย ไปพักก่อนไหม นี่มันไม่โอเคเลย”

เสียงช่างภาพตะโกนมาเรื่อยๆ ซึงยุนที่ได้ยินหันไปมองด้วยความแปลกใจ

มันก็จริงนั่นแหละ อีกฝ่ายดูอารมณ์ไม่ดีเลย ปกติเป็นแทฮยอนจะเป็นคนที่ถ่ายแบบแล้วได้รับคำชมตลอดเวลา แต่วันนี้อีกฝ่ายกลับมี
สีหน้าและออร่าดุมาแต่ไกล

ไม่ได้การ

“เอ้า”

น้ำอัดลมถูกส่งให้อีกฝ่ายที่กำลังนั่งใส่หูฟังอยู่ ท่าทางอารมณ์ไม่ดีนั่นทำให้อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความเป็นห่วง

“เป็นไรแทฮยอนอา”

“หงุดหงิด”

ซึงยุนเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ปกติแทฮยอนเป็นคนที่จัดการอารมณ์ได้ดี แต่ครั้งนี้ดูท่าเรื่องคนจะหนักหนาไม่น้อย อีกฝ่ายถึงดู
หงุดหงิดได้มากมายขนาดนี้ มันก็นานมาแล้ว ครั้งล่าสุดที่เขาเห็นอีกฝ่ายหงุดหงิดก็คงเป็นตอนที่แข่งรายการ WIN นั่นแหละ

มองอีกฝ่ายด้วยไม่รู้จะทำยังไงถึงจะทำให้อีกคนอารมณ์ดีขึ้นได้ ก่อนสายตาจะประสานกันนิ่งๆ

ซึงยุนเลิกคิ้วก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความงุดงง เมื่อสายตาที่อ่านได้จากอีกฝ่ายส่งต่อมาว่าเป็นเพราะตนเอง ริมฝีปากที่เคลือบ
ด้วยลิปสติกสีเชอรี่ที่แสนอวบอิ่มนั่นเม้มขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

เหมือนมันทำให้คนที่มองเห็นนั่นสติหลุดไปชั่วคราว

แทฮยอนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะคว้าข้อมืออีกฝ่าย เดินตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะล็อคมันอย่างรวดเร็ว

“ห๊ะ...อะไรเนี่ยแทฮยอน”ซึงยุนพูดด้วยความงุดงงที่อีกฝ่ายลากมาแบบกะทันหัน

“นายทำให้ฉันโมโห”

“ฉันไปทำอะไรให้นายเนี่ยแทฮยอน ปล่อยมือเลย”

ร้องท้วงด้วยความเจ็บที่ข้อมือ ถึงอีกฝ่ายจะอายุใกล้กันแต่แรงก็ใช่ว่าจะน้อยซะที่ไหน

“ผมว่าเราควรจะจบเรื่องนี้สักที...”

“...”

“ถ้าไม่ได้อยากเป็นอะไรกัน อย่าปั่นหัว”

“...”

“ความรักมันไม่ได้ตลกขนาดนั้น จำไว้ซึงยุน” แทฮยอนพูดเสียงนิ่งๆ ถึงแม้ว่านัยน์ตาจะแสดงออกถึงความเจ็บปวดมากมายก็ตาม

ซึงยุนอึ้งกับสิ่งที่ได้เห็น สีหน้าราวกับว่าความเจ็บปวดนั้นมันเกินจะเยียวยานั่นทำให้ใจของเองสั่นไหวไม่แพ้กัน เม้มริมฝีปากด้วยความเคยตัวราวกับกำลังสะกดกั้นอะไรไว้

ทั้งๆที่ผ่านมา

ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมา

ตั้งแต่สัมผัสแรกนั่น สัมผัสที่หัวไหล่เบาๆราวกับจะปลอบประโลมในช่วงที่เขาท้อแท้สุดขีด วันที่เขาต้องหลั่งน้ำตาเพราะความท้อ วันที่ไม่มีใครที่สามารถเข้าใจเขาได้อย่างแท้จริง วันที่เขาเหมือนคนที่เคว้งคว้างอยู่เพียงลำพัง

....วันที่เขาเองก็มีแค่ซึงยุนที่เข้าใจ

ทั้งๆที่สัญญากับตนเองไว้แท้ๆว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายร้องไห้

แต่น้ำตาของคนเข้มแข็งที่คอยดูแลและเป็นห่วงเขาตลอดเวลา

...น้ำตาของลูกผู้ชายที่ซื่อว่าคังซึงยุนกำลังไหล

ราวกับเป็นช่วงเวลาที่หยุดอยู่แค่นั้น


...มันหยุดแค่ช่วงเวลาที่มีแค่นัมแทฮยอนกับคังซึงยุน



“แทฮยอนถึงคิวนายแล้ว”

เสียงเรียกจากพี่ทีมงานดังออกมาจากด้านนอก

แทฮยอนมองอีกฝ่ายนิ่งๆจนได้ยินเสียงเรียกอีกครั้งจึงปล่อยมืออีกฝ่ายออก

สายตาที่ดูมีความหมายทุกครั้งที่มองมาตอนนี้อ่านไม่ออกจนซึงยุนเจ็บไปหมด

นั่งลงกับพื้นราวกับเมื่อไม่ถึงสิบนาทีก่อนหน้านี้ซึงยุนแบกอะไรที่หนักหนาไว้

ร้าว

มันเจ็บปวดจนร้าวไปหมดจริงๆ

น้ำตาไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ

โชคดีที่ในพาร์ทของเขานั้นถ่ายไว้หมดแล้ว

ปล่อยตัวกับปล่อยความรู้สึกทุกอย่างออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่




“แทฮยอน ซึงยุนไปไหน”มินโฮถามเมื่อเห็นแทฮยอนเดินออกมาเพียงคนเดียว แทฮยอนถอนหายใจใส่ก่อนจะเดินเข้าฉากไป


มินโฮกับซึงฮุนมองหน้ากัน

“ฮยองผมว่ามันแปลกๆอ่ะ”

“เดียวไปหาซึงยุนก่อนนะ นายอยู่นี่แหละ” ซึงฮุนรู้สึกเป็นห่วงอีกฝ่ายจับใจ

อยู่ด้วยกันมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ซึงยุนหายไปโดยที่เขาไม่รู้ ความกังวลใจที่มีต่อน้องชายคนสนิททำให้ซึงฮุนตามหาให้วุ่น จนไปเจออีกฝ่ายที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ่งเห็นท่าทีที่อีกฝ่ายแสดงออกมาเขายิ่งกังวลหนักกว่าเดิม ซึงฮุนโทรหามินโฮก่อนจะบอกว่าเจอตัวซึงยุนแล้ว และฝากบอกพี่เมเนว่าจะกลับกันก่อน เพราะทั้งสองคนต่างถ่ายแบบเสร็จแล้วทั้งคู่

“กลับไปที่หอก่อนนะซึงยุน นายดูไม่ดีเลยตอนนี้”

“ขอโทษที่ทำให้ฮยองต้องมาลำบากนะ”

“นายทะเลาะกับแทฮยอนใช่ไหม”

“...”

“ไม่ตอบไม่เป็นไร เดียวกลับไปหอก่อนนะซึงยุนนี่”

“...”

“ลุกขึ้นมาเร็วลูกหมา ตาบวมหมดแล้ว”ซึงฮุนทรุดนั่งลงหน้าซึงยุน จับหน้าอีกฝ่ายเงยขึ้นมาก่อนพินิจ

ใบหน้าขาวใสตอนนี้ดูโทรมและเครื่องสำอางบางส่วนก็หลุดออกไปแล้ว ดวงตาที่เคยสดใสตอนนี้กลับแดงก่ำและถุงใต้ตาบวมเบ่ง ริม
ฝีปากอวบมีร่องรอยของการกัดปากจนมันช้ำไปไหม ลูบหัวเบาๆด้วยความเข้าใจ

ใช่ว่าซึงฮุนไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้หรอก เขาพอเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แต่การรอให้อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นด้วยความเต็มใจ ดูท่าน่าจะดีกว่า

ทั้งซึงยุน และแทฮยอน



ซึงยุนนั่งเงียบมาตลอดทาง จนกระทั่งเดินเข้าห้องพักก็ตาม ซึงฮุนเมื่อเห็นแบบนั้นก็ไม่คิดจะทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ

“เดี๋ยวนายนั่งรอฮยองในห้องรับแขกนั่นแหละ”


ชงชาร้อนเพื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย อีกไม่นานอีกฝ่ายต้องปวดหัวแน่ๆ

ยิ่งใกล้คัมแบค ซึงฮุนยิ่งไม่อยากให้มีเรื่องผิดใจกัน



“ถ้านายอยากระบาย นายก็มาระบายกับฮยองได้นะ”

“...คืนนี้ผมไปนอนกับฮยองได้ไหม”

“ห๊ะ...อ๋อ ได้สิ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วหล่ะ” ซึงฮุนยิ้มให้อีกฝ่ายเบาๆ

เวลาซึงยุนมีเรื่องไม่สบายใจ การได้พูดระบายกับซึงฮุนถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

เขาไม่ถือสาน้องชายคนนี้แม้แต่น้อย ในเมื่อซึงยุนยังเด็กก็ควรทำอะไรให้สมวัยบ้าง

“มันก็ดีแล้วหล่ะ นายชอบแบกอะไรไว้เรื่อย คนเหนื่อยก็คือนาย มีอะไรก็บอก ก็ปรึกษาฮยองได้ ทุกคนเขาพร้อมรับฟังนายหมดแหละ 
เป็นลีดเดอร์หัดไว้ใจคนอื่นบ้าง” ซึงยุนหลุดหัวเราะกับคำพูดสัพยอกที่อีกฝ่ายเอ่ย

เขามันชอบเก็บอะไรต่างๆไว้กับตัวคนเดียวเสมอ

เขามีอะไรที่มันหนักหนามากมาย ต่อให้จะพูดกับซึงฮุนบ้าง แต่มันก็ยังไม่ถึงครึ่งที่เขาเก็บไว้เลยด้วยซ้ำ

“นาย...กับแทฮยอน”

“ก็อย่างที่ฮยองเข้าใจนั่นแหละ”

“รักเขามากขนาดนั้นเลยหรอ”

“ผมรักทุกคนในวงเท่ากันหมดแหละฮยอง”

“...”

“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่การที่ผมได้อยู่กับแทฮยอน การที่ผมได้ดูแล ได้เป็นห่วงแทฮยอน นั่นทำให้ผมรู้สึกพิเศษ
มากๆเลย”

ซึงยุนเม้มปากเบาๆ พยายามกั้นก้อนสะอื้นที่มันมาจุกในลำคอ

ไม่ไหว

เขาควรระบายความรู้สึกนี้ออกมาให้ใครสักคนฟัง

“ฮยอง ผมทำผิดมากใช่ไหมที่ไม่ชัดเจน ผมไม่รู้ว่าแทฮยอนคิดยังไงกับผมหรอก มันน่าตลกดีที่ผมกับแทฮยอน เราต่างคนต่างเข้าใจ
ความรู้สึกกันและกัน เราต่างดูแลกันและกัน แต่ผมกลับ..”

ซึงฮุนตกใจเมื่อเห็นน้ำตาไหลออกมาจากคนตรงหน้า

ซึงยุนพูดความรู้สึกออกมาอย่างอดไม่ไหว การได้ระบายกับฮยองคนสนิททำให้รู้สึกโล่งใจ คำพูดต่างพรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตา
นานนับหลายสิบนาที

คนเข้มแข็งอย่างซึงยุน

ถ้าเป็นเรื่องความรู้สึก....เขาอ่อนโยนและอ่อนไหวอย่างไม่น่าเชื่อ

ข้อเท็จจริงนี้เมมเบอร์ต่างรู้ดี

“ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร”

“...”

“แต่ผมควรจะซื่อสัตย์กับความรู้สึกใช่ไหมฮยอง”

ซึงฮุนยิ้มออกมาก่อนจะลูบศีรษะคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู

“ฮยองเชื่อว่าแทฮยอนจะเข้าใจ”

“...”

“ได้ยินไหมแทฮยอน” ซึงฮุนยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ซึงยุนเบิกตาด้วยความตกใจ

“...”ได้ยินเสียงปลายสายเอ่ยออกมาจับใจความไม่ได้ ซึงยุนทำหน้าเลิกลั่กเมื่อซึงฮุนยกยิ้มก่อนส่งโทรศัพท์ให้

“ฮยองให้นายยืมโทรศัพท์ ไปคุยกันให้รู้เรื่องนะ แล้วค่อยคืนฮยองทีหลังก็ได้”

ซึงยุนรับมันมาด้วยความมึนงง สมองวันนี้ดูท่าจะคิดอะไรไม่ทันเมื่อเอาโทรศัพท์แนบที่หู

“แทฮยอน”

“...ทำไมไม่พุดตั้งแต่แรกหืม”

“ปะ..เปล่าหรอก”

“...”

“แทฮยอน”

“ครับ?”

“ฉันอยากเจอนาย อยากให้นายกลับมาเร็วๆนะ”

ซึงยุนพูดออกมาเสียงแผ่วเบา

“ฉันมีเรื่องมากมายที่จะบอกนาย”

“ฉันรู้...ขอโทษที่ทำให้นายเจ็บมือนะ”เสียงปลายสายเอ่ยออกมานุ่มๆ ซึงยุนยกยิ้ม

“ถ้านายกลับมา...”

“...”

“ฉันจะตามใจนาย รีบกลับมาเร็วๆนะแทฮยอนอา”








ซึงยุนเอาโทรศัพท์ไปคืนซึงฮุนที่ตอนนี้นั่งยิ้มน้อยๆ

“ขอบคุณนะฮยอง”ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะถูกแซวเล่นๆ

“ว้า คืนนี้ก็ไม่มีคนมานอนเป็นเพื่อนฮยองแล้วละสิ”

“ฮยองอย่าคิดว่าผมไม่รู้เหอะว่าฮยองชอบแอบไปนอนกับมินโฮ”

พลันใบหน้าของคนที่ยิ้มเมื่อครู่ก็บูดบึ้งขึ้นมาน้อยๆก่อนจะมีสีแดงเจือออกมา

“อย่ามาแซวฮยองนะไอ้ลูกหมา เดียวจะโดน”

“ผมไม่กลัวหรอก”หัวเราะก่อนจะเดินหนีอีกฝ่ายกลับห้องตนเอง จู่ๆเขาก็รู้สึกมีแรงบันดานใจขึ้นมา...

มือเรียวสวยเกากีต้าร์ก่อนจะฮัมทำนองออกมาเบาๆ มือละออกเพื่อคว้าสมุดโน้ตประจำตัวมาเขียนสิ่งที่นึกขึ้นได้ลงไป

เพราะมีแรงบันดาลใจถึงได้มีสิ่งต่างๆเข้ามามากมาย

ซึงยุนยิ้มก่อนจะฟุบหน้าลงเมื่อเขียนเสร็จ เหลือบดูนาฬิกาก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าตนเองนั่งอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมง เก็บของทุกอย่างบนโต๊ะ
ก่อนจะเดินออกมานอกห้องเพื่อหาอะไรกิน

ข้างนอกมีมินโฮกับแทฮยอนนั่งคุยกันอยู่ ทั้งคู่ชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นซึงยุน

สายตาต่างประสานกันไม่รู้ตัว

“ถ้าจะมาสวีทกันแนะนำไปในห้องไหม”เป็นเสียงของคนกลางที่นั่งอยู่เอ่ยขึ้นมาอย่างหมั่นไส้

“อ่า อะไร แล้วนี่จินวูฮยองไปไหน”

“วันนี้ไปนอนหอจินฮวาน พี่เมเนไปส่งเมื่อกี้”

“ซึงยุนมานั่งนี่”ตบเบาะโซฟาข้างก่อนจะพูดออกมาเรียบๆ

“งันก็เอาตามนั้นแหละแทฮยอน เดียวฉันไปก่อนดีกว่า ไม่อยากอยู่เป็นก้าง”มินโฮหันไปเอ่ยกับแทฮยอนก่อนที่จะหันมาฉีกยิ้มให้กับ
ซึงยุน สายตาที่ดูซุกซนส่งให้จนซึงยุนเองอดหมั่นไส้ไม่ได้

“แล้วทำไมจะต้องเข้าห้องพี่ซึงฮุนด้วยหล่ะ”ซึงยุนพูดแซวคนที่กำลังเดินไปเปิดประตูห้องซึงฮุนจนอีกฝ่ายส่งนิ้วกลางกลับมา หัวเราะ
เบาๆก่อนที่จะหันกลับมาเมื่อรู้สึกถึงสายตาที่มองมาทางตนเองได้ครู่หนึ่งแล้ว

“มีอะไร..”ซึงยุนเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายกอดตนเองไว้แน่น ทั้งๆที่ปกติแทฮยอนเองไม่ใช่ฝ่ายที่จะเข้าหาใครก่อนเลย

“ขอโทษที่ทำให้นายร้องไห้นะ”น้ำเสียงนุ่มเอ่ยเบาๆ ความรู้สึกผิดเจอมาในน้ำเสียงจนสัมผัสได้ ซึงยุนยิ้มก่อนที่จะดันตัวเองเข้าซุกอก
จนร่างกายต่างคนต่างแนบชิดในอ้อมกอดของกันและกัน

ความรู้สึกผิดที่เอ่อล้นออกมาจากตนที่กอดทำให้ซึงยุนรู้สึกดีที่อย่างน้อยอีกฝ่ายยังยอมเข้าใจ และเปิดใจรับฟังกันและกันบ้าง เมือ
เรียวสวยนั่นลูบหลังแผ่วเบา

“ขอโทษที่ไม่ชัดเจน และก็ขอโทษที่ทำให้นายอึดอัดขนาดนั้นนะแทฮยอนนี่”

“...นายเป็นของฉันนะ”

“แมวหวงของ”


“ก็หวงกับแค่นายคนเดียวเท่านั้นแหละ” คังซึงยุนถูกละออกจากอ้อมกอดอุ่นๆนั่นก่อนที่สายตาจะประสานกันอีกครั้ง

สายตาที่มีความหมาย

สายตาที่อบอุ่น

สายตาแห่งการเริ่มต้นในหลายๆความหมายถูกส่งให้กันอีกครั้ง

พร้อมกับรอยยิ้มละมุนที่เผยขึ้นบนใบหน้าสวยอย่างไม่ได้นัดแนะกัน

“ฉันชอบเวลานายยิ้มจัง นายอย่าร้องไห้อีกเลยนะ ฉันไม่ชอบเวลานายขี้แยเลยจริงๆ” พูดก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อนึกถึง คิ้วยิ่งตกเข้าไป
ใหญ่จนซึงยุนหลุดขำออกมาเบาๆ ก่อนที่มือจะยกมาสัมผัสผมสีสว่างที่ตกลู่ลงมาให้มันทัดหู ละออกและวางไว้ที่แก้ม บีบเล่นเบาๆ
ก่อนยิ้มละมุน

“คิ้วตกไม่ไหวแล้วเนี่ย”

“อย่าทำตัวให้มันน่ากินมาก ไอ้ลูกหมา”

“คนละเรื่องไหมหล่ะหืม”

“ก็พูดจริง” แทฮยอนยกมือขึ้นทาบทับมือที่กุมแก้มตัวเองไว้ “จะอดใจไม่ไหวแล้ว”

ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มน้อยๆ กับท่าทีน่ารักนั่น

“แล้วทำไมต้องอดทนละหืม แทฮยอน?”

จู่ๆแทฮยอนก็รู้สึกราวกับถูกยั่วยวน

สายตาฉ่ำเยิ้มที่ถูกส่งมาให้ในระยะประชิดขนาดนี้...

แทฮยอนเผลอสบถออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“แม่ง...ทำไชอบยั่วนักวะ ตั้งแต่ในไอจีละนะ”

“นายก็ทำ”

“ฉันทำได้ แต่นายห้าม”

“แมวขี้โกง”

“ก็หมามันยั่ว...ก็อยากให้ยั่วให้แมวดูคนเดียว”

เหมือนเครื่องนับความอดทนในใจมันน้อยลงทุกครั้งที่แทฮยอนอยู่ใก้ๆซึงยุน

ทุกครั้ง ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม

แทฮยอนยื่นหน้าไปหอมแก้มซึงยุนอย่างห้ามใจไม่อยู่ ริมฝีปากอวบอิ่มที่ทำให้อดใจไม่ได้ทุกครั้งนั่นถูกดูดดึงราวกับขนมแสนหวาน
สำหรับแทฮยอน ซึงยุนหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ นั่งตัวแข็งทือรองรับจูบแสนวาบหวาม

แค่เกือบไม่ถึงนาทีสำหรับซึงยุนแล้วกลับเหมือนหลายชั่วโมงเหลือเกิน

แทฮยอนผละริมฝีปากออกก่อนจะจ้องมองเพื่อรอให้อีกฝ่ายลืมตาเห็นเขาคนแรก

นอกจากริมฝีปากอวบอิ่มนี่...ดวงตาก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของซึงยุนที่แทฮยอนมักถูกดึงดูดอย่างง่ายดาย

ไม่แปลกที่แทฮยอนจะชอบหันไปสบตากับซึงยุนบ่อยๆ

ซึงยุนค่อยๆลืมตาก่อนจะตกใจที่เห็นอีกฝ่ายยังอยู่ใกล้

“เดียวค่อยไปต่อในห้องนะ”พูดก่อนจะยกตัวกอดอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น

“ย่าห์ ฮยองสองคนอ่ะ จะแอบดูคนอื่นอีกนานไหม คิดว่าผมสองคนจะอายไหมหล่ะ” แทฮยอนพูดเสียงดังเพื่อให้สองคนที่แอบดู
เหตุการณ์เมื่อครู่สักพักแล้วหยุดจ้องสักที

ให้ตาย

เสียงหัวเราะที่ดังก่อนเสียงประตูปิดจะตามมานั่นทำให้ซึงยุนหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม

อายก็อาย จะหันกลับไปมองก็ไม่กล้า

“ซึงยุนนี่”

“หะ หือ”

“จะต่อยผมก็ได้นะ แต่ผมอยากอ่ะ”

อะ...ไอ้

.


.

.

.

ซึงยุนด่าอีกฝายในใจที่เอ่ยอะไรน่าอายนั่นออกมาอย่างง่ายดาย


ต้องเป็นแบบนี้ทุกทีเวลาอยู่ด้วยกัน

ถึงจะบ่นนานาสารพัด แต่สุดท้ายแล้วคนที่เป็นฝ่ายถอดเสื้อผ้าแก่กันและกันก็คือซึงยุนนั่นแหละ

และถึงคนที่ดูเข้มแข็งที่สุดในสายตาใครๆจะคือซึงยุนก็ตาม

แค่เจอแทฮยอน ก็อ่อนลงอย่างง่ายดาย

ต่างคนต่างตื่นเต้นกับสัมผัสของแก่กันและกัน

มันไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่ครั้งที่สอง

หรือครั้งที่อะไรก็ตามที่ซึงยุนกับแทฮยอนสัมผัสแนบชิดกันขนาดนี้

“มือสั่นเชียว ตื่นเต้นหรอ”แทฮยอนกระซิบแผ่วเบา เสียงมันแผ่วกว่าเสียงลมหายใจที่กระเซ่าขึ้นเรื่อยๆของซึงยุนเสียอีก

แต่มันกลับชัดเจน

ชัดในใจจนซึงยุนเองก็อายที่จะทำเป็นเมินคำถาม


“อื้อ ตื่นเต้นมาก”

“ผมก็ตื่นเต้นเหมือนกัน สัมผัสดูสิ” ยกมืออีกฝ่ายให้วางบนหน้าอก

จังหวะหัวใจของแทฮยอนทำให้คนข้างล่างยิ้มออกมาโดยง่าย

มันเต้นระรัว และแรงมากจนรู้สึกได้ถึงจังหวะที่เหมือนกัน

แค่ซึงยุน

แค่แทฮยอน

แค่เราสองคน...

แทฮยอนมองอีกฝ่ายที่น้ำตาคลอก่อนที่จะซับจูบที่เปลือกตาเบาๆ

“ร้องไห้อีกแล้ว”

“ก็ดีใจ”

“ดีใจแล้วจะร้องทำไมละหืม ต้องยิ้มสิ”

“ยิ้มก็ได้”

“ดีมาก”ก้มหอมแก้มก่อนปลายจมูกจะดมที่ซอกคอนิ่งๆ

“ทำไมไม่ต่อ”

“ไม่รู้ดิ รอให้ถามละมั้ง”

“อย่ามาโรคจิต..อึก” ซึงยุนสะอึกขึ้นอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่ออีกฝ่ายแกล้งกันด้วยการทำโดยไม่บอก “ไอ้แมวนี่”

คิ้วขมวดเมื่อรับรู้ถึงความร้อนผ่าวจากข้างล่าง

แทฮยอนเข้ามาโดยไม่บอกไม่กล่าว

“เจ็บ..

“ผมก็เจ็บเหมือนกัน อือ อย่าเพิ่ง”

แทฮยอนรั้งมือซึงยุนมาจูบก่อนยิ้มให้

“ซึงยุนเป็นของแทฮยอนแล้วนะ”

“พูดอะไรอย่างนั้น” ซึงยุนรั้งคออีกฝ่ายก่อนแลบลิ้นเลียริมฝีปากแทฮยอนเบาๆ “เป็นของนายตั้งนานแล้วหล่ะ”

“พูดจาน่าจริงๆ”

“ยอมรับ”

“รักซึงยุนนะ”

“รักแทฮยอนเหมือนกัน”

“อย่ารัดดิ จะไม่ไหวแล้ว”

“อือ ก็อย่าทนดิวะไอ้แมวนี่”

“สรุปใครกันแน่ที่จะอดใจไม่ไหวเนี่ยหะ”

“....”

“....”




.
.
.
.
.
.
.

แม้มันจะไม่ง่ายกับการจะยอมรับความรู้สึกที่มีต่อใครสักคน แต่มันก็คงไม่ยากเกินไปที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง

เพราะทุกความสัมพันธ์...มันมีความหมายเสมอ


#SeungyoonRocksAT23

#KANGNAM

.
.
.
.




แฮปปี้เบิร์ดเดย์คังซึงยุน ไอ้ลูกหมาที่น่ารักของอินซอ
ลีดเดอร์ผู้สดใส และเข้มแข็ง
ผู้ชายที่เป็นดั่งแสงสว่างของเรา



ดับความหวานละมุนลงก่อนที่ฟิควันเกิดมันจะเรทไปมากกว่านี้
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ