BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

[OS] Kang Seungyoon x Lee Seunghoon x Song Minho : Pitfall (ภาคฮันนีมูน)


[OS] Kang Seungyoon x Lee Seunghoon x Song Minho 

Story : Pitfall (ภาคฮันนีมูน)







เหมือนเรื่องราวก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ฝัน
...ไม่ใช่สิ ตอนนี้เหมือนความฝันเสียยิ่งกว่าอีก
หลังจากวันนั้นที่ไปหาพี่ซึงฮุน ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเรื่องราวความรักของเรามันไม่ได้จบลงที่เป็นเรื่องของคนสองคน
แต่มันกลายเป็นสามต่างหากหล่ะ
.
.
.
.
.
ถ้าคังซึงยุนรักพี่ ผมก็จะรักพี่เหมือนกัน
คังซึงยุนยืนอ้าปากค้างพอๆกับที่อีซึงฮุนพยายามเบิกตาตี๋เล็กๆนั่นให้โต
ซงมินโฮหันมาทางด้านหลังเพื่อดึงคนตัวเล็กที่สุดมาไว้ตรงกลาง
“ก็ตามนั้นแหละ สงสัยอะไรอีกไหม”
“ดะ  เดี๋ยวนะมินโฮ ใครตกลงไม่ทราบ”อีซึงฮุนเสียงสูงขึ้นด้วยความงุดงง
งงทั้งที่อีกฝ่ายจูบ งงทั้งที่อีกฝ่ายพูดประโยคเมื่อครู่ออกมา
“เหลืออีกสามอาทิตย์ผมกับซึงยุนจะแต่งงานแล้ว แต่ถ้าซึงยุนชอบพี่...ผมก็จะแต่งงานกับพี่ด้วย”
“ห๊ะ” เสียงร้องอุทานด้วยความตกใจดังออกมาทั้งทางซึงยุนและซึงฮุน
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกพี่มินโฮ ผมว่ามัน..”
“แต่นายก็เลือกไม่ได้หรอกว่านายจะคบกับใคร..”
“แต่..”
“พี่ใจกว้างมากพอนะซึงยุน คนอื่นจะมองยังไงก็ช่างมันเถอะ” ซงมินโฮพูดตัดบทก่อนจะส่งสายตาเป็นเชิงคำถาม
อีซึงฮุนมองหน้าซงมินโฮด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะตวัดสายตามองซึงยุนที่ดูจะอึดอัด
“มินโฮ เอาตามตรงพี่ว่ามันก็แปลกจริงๆนั่นแหละ พี่ว่าซึงยุนลำบากใจนะ”
“แล้วพี่ไม่ทรมานหรอ...”
“...”
“ผมถามความรู้สึกพี่นั่นแหละ”
“พี่มินโฮ พี่ซึงฮุน”
คังซึงยุนที่ก้มหน้าอยู่เงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ทั้งสองหลุดยิ้มออกมา
“ถ้าพี่ทั้งสองไม่ตีกัน ผมยังไงก็ได้นะ..”
“ตัวพี่ไม่เท่าไรหรอก แต่...”อีซึงฮุนลูบหัวซึงยุนก่อนจะมองไปทางมินโฮด้วยท่าทีหวั่นใจ
“ผมจะจับทั้งพี่แล้วก็ซึงยุนนั่นแหละเป็นเมียผม”
“พี่ว่านายจะละเมอไปหน่อยนะ”สายตาของอีซึงฮุนเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมา รอยยิ้มขำขันถูกส่งต่อให้อีกฝ่ายที่ดูจะผ่อนคลายขึ้นกว่าเมื่อกี้ “นายไม่มีปัญญาปล้ำพี่หรอก”
“ก็ไม่รู้สิ บางทีพี่อาจจะเลิกแกล้งซึงยุนก็ได้”
“หน่ะ หยุดเลย จะตีกันแล้วใช่ไหมเนี่ย”
“หะหะหะ เปล่าครับๆๆ”ซงมินโฮหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่รอยยิ้มจะระบายบนใบหน้าทุกคน
เรื่องราวต่างจบลงด้วยดี ไม่มีเรื่องให้เจ็บปวดทั้งสามคน
.
.
.
.
.
.
แต่สำหรับตอนนี้
ผมว่ากำลังมีปัญหาอีกแล้วหล่ะ
สวัสดีครับ
ผม คังซึงยุน
ตอนนี้ผมกำลังเจอปัญหาแล้วหล่ะ
ผมยืนกอดอกมองทั้งสองที่กำลังพูดเถียงกันเหมือนเด็กๆ
“ผมคิดว่ามันออกจะงี่เง่าไปหน่อยถ้าพี่จะเอาสี่วัน ผมเอาสามวัน”
“นี่นายอยู่กับซึงยุนมาตลอดแล้วเหอะ  ให้เวลาพี่บ้างดิ”
เราแต่งงานกันแล้ว
ตอนนี้มาฮันนีมูนที่บ้านพักส่วนตัวของพี่มินโฮที่ทะเลในเกาหลี
...ใช่ครับ
เราแต่งทั้งสามคนพร้อมกันนี่แหละ
ตอนนี้สองคนกำลังเถียงกัน
เถียงกันตั้งแต่วันขอแต่งงานยันวันเข้าห้องหอเลยครับ
“ย่าห์ มินโฮ นายเถียงพี่อ่ะ”
“พี่แหละอย่าเถียงผมอ่า ให้ผมตัดสินใจดิ”
อีซึงฮุนกลายเป็นคนละคนหลังจากวันนั้น เขาดูแลดีมากทั้งผมและมินโฮ
ส่วนมินโฮก็ดูผ่อนคลายขึ้นมากเมื่อเรื่องราวนั้นจบลง เขาดูพอใจและเข้าหาเพื่อพูดคุยกันมากขึ้น
...จะยกเว้นก็แต่เรื่องทะเลาะกันเป็นเด็กๆนี่แหละ
“พี่สองคนหยุดเลย ไม่ต้องตกลงอะไรทั้งนั้นแหละ”
สุดท้ายเส้นความอดทนผมก็ขาดผึงขึ้นมา ผมแหวอย่างห้ามไม่อยู่
“จะตกลงกันทำไมเนี่ยใครกี่วันเนี่ย เห็นเถียงกันตลอดสุดท้ายก็นอนด้วยกันสามคนไหม”
ผมถอนหายใจก่อนเดินเข้าห้องนอน
“วันนี้ไม่ต้องมานอนกอดผม ไปนอนกันห้องข้างๆโน่นไป”
บ่นงืมงำๆก่อนปิดประตูใส่หน้าทั้งสองคนที่ทำท่าจะเดินเข้ามา กดล็อคประตูก่อนถอนหายใจแรง
“ไอ้พวกพี่บ้า”
เอาตามจริงผมออกจะตื่นเต้นมากกับการเข้าหอ
นี่เป็นการแต่งงานกับคนที่ผมรัก
แถมแต่งพร้อมกันสองคนอีก
พูดแบบไม่อายเลยนะ
ถึงผมจะเคยมีอะไรกับทั้งพี่มินโฮ และก็ทั้งพี่ซึงฮุนก็เถอะ
แต่ผมไม่เคย...
คือมันออกจะน่าอาย แต่ตั้งแต่วันขอแต่งงานผมก็ไม่เคยมีอะไรกับทั้งสองคนนั้นเลย
เห็นเถียงกันก็จริงแต่สุดท้ายแค่นอนกอด
ใช่ครับ นอนกอดที่กอดเฉยๆอ่ะ
ฮึ้ย  หงุดหงิด
“วันเข้าหอก็ยังเถียงกันอยู่ได้ ไปได้กันเองเลย” นอนบนที่นอนด้วยความหงุดหงิดใจก่อนที่จะกลิ้งไปมาบนที่นอนกว้าง
ทั้งพี่มินโฮและพี่ซึงฮุน ทั้งคู่ต่างใส่ใจดูแลผม
จนคนที่ไม่มีอะไรหลายๆอย่างกลับรู้สึกถูกเติมเต็ม
ทั้งความรัก ทั้งร่างกายและจิตใจ
ความจริงผมไม่ได้โกรธอะไรเขาทั้งสองคนมากหรอก
แต่อยากดัดนิสัยงอแง
หวังอย่างเดียวว่าเขาจะคิดได้ทั้งคู่สักที
ไม่งั้นเสียเวลาฮันนีมูนแย่... :)
.
.
.
.
.
.
เสียงคลื่นซัดสาดแว่วมาผะแผ่วให้ได้ยิน
เหมือนเพลงที่กำลังบรรเลงเบาๆยิ่งทำให้จิตใจเข้าสู่ห้วงนิทราได้โดยง่าย
ที่นอนขนาดใหญ่ในเรือนหอดูจะไร้ความหมายเมื่อเจ้าบ่าวโดนเจ้าสาวเนรเทศ
แต่ทุกสิ่งมันก็ไม่ได้ยากเย็นขนาดนั้นหรอก จริงไหม

แกร็ก
“ซึงยุนนอนแล้วนี่”เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นก่อนที่อีกคนจะเดินตามเข้ามา
แน่หล่ะ
ก็นี่มันบ้านพักของซงมินโฮ
อีกฝ่ายจะมีกุญแจก็ไม่แปลกหรอกจริงไหม
“สงสัยคงเหนื่อยจากการเดินทาง”ซึงฮุนเอ่ยขึ้นก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู
ความจริงแล้วสองคนไม่ได้ทะเลาะกันเป็นจริงเป็นจังขนาดนั้นหรอก
เขาแค่อยากมีเวลาเพื่อคุยกันส่วนตัวนิดหน่อยโดยที่ซึงยุนไม่ต้องสงสัย
.
.
.
“อีกสองอาทิตย์ผมจะบินกลับอเมริกาแล้ว ผมจะทำเรื่องที่โน่นให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพาซึงยุนย้ายมาเกาหลีดีไหม”
“ดูท่าฉันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นายลำบากนะ”เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเบาๆ “นายไม่ต้องย้ายมาหรอก”
“ทำไมหล่ะ”
“เดี่ยวพี่ก็มีโครงการต้องไปทำที่โน่นอีก งานพี่อ่ะทำที่ไหนก็ได้”
ซึงฮุนยิ้มเบาๆก่อนจะตบบ่าอีกฝ่าย
“นานี่ก็ขี้กังวลจัง พี่ว่าความจริงเราไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้”
“แต่..”
“พี่ไม่เป็นไร พี่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออก ทางนี้ก็มีพี่จินวู...เลขาที่บริษัทพี่หน่ะ กับแฟนเขาอยู่ พี่ติดต่องานกับเขาได้ตลอดแหละ”
“ถ้าพี่ว่ายังงั้นผมก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ”
.
.
.
.
“เอาไงดี นอนพักก่อนไหม”
“คงต้องเป็นงั้นแหละพี่ ผมก็ไม่อยากกวนซึงยุนมาก อีกคนดูท่าจะเพลีย...”มินโฮหยุดพูดเมื่อสายตามองไปเห็นซึงยุนที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนที่ความแปลกใจจะทำให้ซึงฮุนหันไปมองตาม
“พี่ว่า...พี่คงจะไม่ให้ซึงยุนนอนเหงาคนเดียวแบบนี้แล้วหล่ะ อันตรายเป็นบ้า”
ซงมินโฮพยักหน้าเบาๆก่อนจะเดินไปล้มตัวนอนด้านข้าง เสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหญ่ (ของซงมินโฮ) ถูกสวมอยู่บนร่างกายอย่างหมิ่นเหม่ ด้วยความที่ตัวใหญ่มากเลยทำให้มันคลุมต้นขาอ่อนที่มีเพียงบ็อกเซอร์ (ของอีซึงฮุน) สวมใส่ไว้
คังซึงยุนนี่อ่อยจริงๆนะ
คนสองคนต่างสบตากับ
เหมือนมีสัญญาณเตือน
มินโฮค่อยๆสอดมือเข้าไปที่เสื้อของซึงยุนช้าๆก่อนที่ซึงฮุนจะค่อยๆไล่จูบที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา
เนื่องจากตอนนี้ซึงยุนนอนอยู่ตรงกลาง ตะแคงไปทางซึงฮุนเลยทำให้มินโฮทำได้เพียงแค่ไล่จูบต้นคอสวยเบาๆ
เสียงหายใจของคนตัวเล็กกระชั้นชิดขึ้นเรื่อย
ซึงยุนดิ้นเบาๆ คงเพราะอีกฝ่ายยังไม่ยอมหลุดจากห้วงนิทรา ซึงฮุนจึงบรรจงจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มช้าๆ ก่อนที่มือจะค่อยๆเลิกเสื้อของซึงยุนเพื่อให้มินโฮสะดวกขึ้นด้วย
“อ๊ะ....อื้ออออ” เสียงครางหลุดออกมาแผ่วเบาก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ
“พี่สองคน...หยุดเลยนะ”
ไม่น่าจะทันแล้วหล่ะซึงยุน
เสียงความคิดของซงมินโฮกับอีซึงฮุนต่างคิดขึ้นมาแบบไม่ทันนัดหมาย
"ซึงยุน อืม..." ลมหายใจร้อนที่เป่ารดต้นคอทำให้ซึงยุนอ่อนลงโดยไม่ทันตั้งตัว เงยหน้าขึ้นแบบสั่นไหวก่อนจะเจอริมฝีปากบางเฉียบที่รอโอกาสรุกล้ำเข้ามา  ลิ้นกระหวัดอย่างไม่ประสาและมีเสียงครางหลุดออกมาถี่ขึ้นทุกทีเพราะมือหยาบของมินโฮขยี้ยอดอกทั้งสองข้างก่อนสลับสะกิดอย่างไม่ออมแรง รู้สึกถึงริมฝีปากหยักดูดดึงบริเวณลาดไหล่และจมูกคมที่สูดดมจนต้องแอ่นหลังและดิ้นอย่างอ่อนแรง
นี่มันแปลกใหม่
ซึงยุนตื่นเต้น
เขาไม่คิดว่าฮันนีมูนครั้งนี้จะทำให้เขาเจออะไรแปลกใหม่ได้ขนาดนี้
"พี่จะทำอะไร..."
"ซึงยุนหายงอนพี่นะ"ซึงฮุนพูดออกมาก่อนจะปลดกระดุมเสื้อที่ดูจะเกะกะเหลือเกินนั่นออก มินโฮละมืออกจากยอดอกเปลือยนั่นก่อนจะใช้มือขวาดึงบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วลงพร้อมกางเกงชั้นใน รูดออกจากขาซึงยุนเพียงข้างเดียวก่อนจะใช้มือจับเอวบางๆนั่นไว้
"ผม...อ๊ะ"ร้องออกมาเสียงหลงเมื่อซึงฮุนสัมผัสยอดอกสีสวยด้วยลิ้น. เหลือบตามองคนถูกปรนเปรอที่ตอนนี้มินโฮใช้มือรั้งใบหน้าให้รับรสจูบจากตัวเองบ้าง
ต่างคนก็ต่างตื่นเต้นไม่ต่างกัน
“แฮ่ก พี่ซึงฮุน อย่าเลียแบบนั้น”ซึงยุนผละต้นคอออกจากมินโฮก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างพยายามดันซึงฮุนออก จนมินโฮละออกและใช้แขนรองอีกฝ่ายให้นอนหงายแทน
ซึงยุนหายใจแรงลึกอย่างห้ามไม่อยู่ ซึงฮุนละออกก่อนจะยกตัวขึ้นมานอนเสมอกันแทน
“งอนพวกพี่หรอซึงยุน”เป็นมินโฮที่เอ่ยหลังจากรอให้ซึงยุนหายใจตามปกติ
“ปะ..เปล่า เข้ามาได้ไงเนี่ย” ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงจมูกก่อนจะพูดเสียงแผ่ว เพราะการจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อครู่ยังทำให้ซึงยุนระแวงไม่น้อย มือสวยกระชับผ้าห่มแน่น
“กลัวหรอหืมซึงยุนอา”เป็นซึงฮุนที่พูดเมื่อเห็นท่าทีน่ารักๆนั่น “พวกพี่ไม่ทำก็ได้ครับ”
“งื้อ...”ซึงยุนร้องเสียงแผ่วเมื่อทั้งมินโฮและซึงฮุนสอดตัวเข้าผ้าห่มบ้าง แขนมินโฮพาดที่เอวบางเลยมาจนถึงซึงฮุนที่กอดตอบเหมือนกัน
“นอนนะครับ”มินโฮกระซิบเสียงแผ่วก่อนที่จะลูบหัวซึงยุนเบาๆ ซึงฮุนมองท่าทีนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ
“พวกนายนี่ละมุนกันจัง”
“พี่อยากให้ผมลูบด้วยไหมหล่ะ”
“ไม่อ่ะ ฉันให้ซึงยุนลูบคนเดียว”
“ผมก็ครอบครัวเดียวกับพี่ป่ะ”
“จะทะเลาะกันอีกแล้วนะ” ซึงยุนถอดหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย “เดียวก็ไล่ไปข้างนอกอีกรอบหรอก”
“อ่า ซึงยุนอา เดียวนอนดีกว่าเนาะๆๆๆ”
ซึงฮุนพูดก่อนจะหัวเราะแผ่วเบา จูบหน้าผากคนกลางโดยที่มือก็เลยไปลูบศีรษะคนตรงข้ามเบาๆ
ซงมินโฮชะงักไปชั่วครู่เมื่อถูกทำแบบนั้น จู่ๆก็รู้สึกเหมือนอยากหัวเราะเมื่อได้รับสัมผัสอ่อนโดยนจากคนตรงข้าม
มันอาจจะดูขัดเขินแปลกๆไปบ้าง
แต่เขาคิดว่าการอยู่แบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน
.
.
.
.
.
.
ซึงฮุนลุกขึ้นมาทำอาหารไว้แต่เช้า
ซึงยุนยังนอนอยู่
ส่วนมินโฮก็นั่งคุยโทรศัพท์หลังจากซึงฮุนตื่นได้ไม่นาน
ท่าทีเคร่งเครียดนั่นทำให้ซึงฮุนอดจะเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ คงเป็นที่บริษัทมินโฮแน่ที่โทรมา
“อืม ครับ...”
เสียงตอบรับที่ตรงข้ามกับท่าทีหงุดหงิดนั่นอยู่ในสายตาของซึงฮุนจนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกไป
“มินโฮ กาแฟไหม”
มินโฮปรายตามองก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ มือกดวางโทรศัพท์ก่อนจะรับกาแฟที่อีกฝ่ายส่งให้
“ขอบคุณครับ”รับมาจิบเพียงครู่เดียวก่อนจะวางลง
“เครียดจังนะนายเนี่ย วันหยุดทั้งที”
“งานน่าเบื่อก็อย่างงี้แหละครับ”
“ซึงยุนจะเป็นห่วงนายอ่ะสิ”ยิ้มให้ก่อนจะพิงหลังกับพนักเก้าอี้
“พี่มีความสุขไหมที่เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้” ซึงฮุนชะงักก่อนจะมองมินโฮนิ่งๆ
“นายคิดว่าพี่เป็นยังไงหล่ะ”
“...”
“หรืออยากจะให้เลิกกันละ พี่ว่าพี่ควรออกไปดีกว่าไหม ดูนายกังวลกับมันเหลือเกินนะ”
“พี่อย่าประชดผมดิวะ”
“เปล่า”ซึงฮุนผละตัวออกมาก่อนจะถอนหายใจ”พี่เห็นท่าทีนายอึดอัด พี่ก็ไม่อยากให้นายลำบากใจมากกว่านี้”
“ทำไมพูดอะไรแบบนั้น” สิ้นเสียงที่ถามทั้งมินโฮและซึงฮุนต่างหันไปด้วยความตกใจ
“ซึงยุนมาตั้งแต่เมื่อไร..”
“ผมถามว่าพี่อึดอัดมากใช่ไหม”ซึงยุนพูดเสียงดังจนมินโฮรีบลุกขึ้นมา
“ซึงยุนใจเย็น”
“พี่มินโฮ พี่หยุดเลย” ซงมินโฮชะงักเมื่อเห็นท่าทีซึงยุน
นัยน์ตาสวยเริ่มแดงก่ำ น้ำตาที่คลอนั่นราวกับจะไหลออกมาได้ตลอดเวลา
“ผมผิดหวังจริงๆ...”
“ซึงยุน ฟังพี่ก่อน”
“ซึงยุนครับ”
ทั้งมินโฮและซึงฮุนต่างตกใจไม่ต่างกัน
ซึงยุนหันหลังก่อนจะเปิดประตูออกจากบ้านพักอย่างรวดเร็ว ทั้งสองมองหน้ากัน ต่างคนต่างอึ้ง
ซึงฮุนทรุดลงอย่างง่ายดาย
“พี่ไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้...”
“พี่ซึงฮุน ลุกเถอะ ที่นี่ซึงยุนไม่เคยมา ผมกลัวซึงยุนจะหลงทาง”
“อืม จริงสินะ”ซึงฮุนลุกขึ้นก่อนจะคว้าโทรศัพท์เพื่อลองโทรหาอีกฝ่าย
มินโฮจับข้อมือของซึงฮุน ทำให้ซึงฮุนชะงัก
ทั้งสองสบตากันนิ่งๆ
“ผมมีอะไรจะบอกพี่”เป็นมินโฮที่เอ่ยทำลายความเงียบ “ผมรักซึงยุนมาก และผมก็รักพี่เหมือนกัน พี่อย่ากังวลกับสิ่งที่พี่กำลังคิดอยู่เลย”
ซึงฮุนที่ได้ยินดังนั้นอึ้งก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาน้อยๆ
“นายรู้หรอ...”
“ผมมองก็รู้แล้วหล่ะ” มินโฮปล่อยมือก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์ “ถ้าพี่เจอซึงยุนก็โทรหาผมด้วยนะ”
“อืม”
“อ้อ” มินโฮชะงักตัวเองก่อนจะหันมาบอก “ถ้ากลับมา คืนนี้...ผมจะไม่หยุดแบบเมื่อคืนแล้ว พี่ก็เตรียมใจไว้ละกันนะ”
หันหลังเดินออกไปตามหาอีกฝ่ายก่อนที่จะทิ้งซึงฮุนให้อ้าปากค้าง
“อะ..ไอ้เด็กนี่”

ความกังวลเริ่มถาถมในใจมากขึ้นเรื่อยๆ
คล้อยบ่ายแล้วซึงฮุนยังไม่เจอซึงยุนเลย
ทางมินโฮก็ไม่ได้ติดต่อมาเช่นกัน นั่นยิ่งทำให้กังวลใจทั้งหมดทั้งปวง
ไม่น่าเลยจริงๆ
ความหวังของซึงยุนถูกเขาทำลายพังยับเพราะตัวเขาเองแท้ๆ
ตบหน้าผากตัวเองแรงๆก่อนจะตัดสินใจกลับที่พัก
เห็นไฟในบ้านเปิดไว้นั่นทำให้ซึงฮุนรีบสาวเท้าอย่างรวดเร็ว
ซึงยุนกลับมาแล้วหรอ
เปิดประตูเต็มแรงก่อนจะเห็นคนที่หายไปเมื่อเช้านอนขดอยู่บนโซฟา
ซึงฮุนโทรหามินโฮเพื่อบอกก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆซึงยุน
“มินโฮ ซึงยุนกลับมาแล้ว อา...กลับมาปกติ อ่าๆ”วางสายก่อนยกมือขึ้นลูบหัวคนที่หลับแผ่วเบา
“ซึงยุนอา พี่ขอโทษนะ”
“ผมไม่ยกโทษให้หรอก” ซึงยุนค่อยๆลืมตาก่อนจะลุกนั่ง และนั่นทำให้ซึงฮุนเห็นความผิดปกติ
“นั่น...นี่ไปโดนอะไรมาห๊ะ”ซึงฮุนเผลอพุดเสียงดังจนซึงยุนสะดุ้ง มือคว้าขาซ้ายที่ตอนนี้มีเลือดไหลอยู่
“ผมแค่ไม่ได้ใส่รองเท้า...”
“โกรธพี่โกรธได้ แต่ทำไมไม่ระวังตัวเลย พี่โกรธตรงนี้มากจริงๆ”ซึงฮุนลุกขึ้นมองอีกฝ่ายก่อนจะหันหลังไป ซึงยุนรีบกอดอีกฝ่ายไว้ทางด้านหลัง
“พี่...ยุนขอโทษ”
“ปล่อยพี่ พี่จะไปเอาชุดทำแผล” ซึงฮุนพยายามแกะมือคนที่กอดแน่น ดูท่าอีกฝ่ายคงคิดว่าซึงฮุนจะหนีไปอีกแน่ๆ
“พี่ซึงฮุน...”สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้น ซึงฮุนถอนหายใจเบาๆเพราะโกรธอีกฝ่ายไม่ลง ก่อนที่จะหันกลับมากอดซึงยุนแน่น
“ไม่ร้องนะครับ พี่ไม่โกรธเราแล้ว พี่ไม่หนีเราแล้วด้วย พี่ขอโทษนะครับ”ลูบหัวอีกฝ่ายแผ่วเบาด้วยความถนอมก่อนจะจูบหน้าผากแผ่วเบา เสียงประตูเปิดเข้ามาทำให้ซึงฮุนคลายอ้อมกอดออก มินโฮคงมาแล้วแน่ๆ “เดียวนั่งรอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่มาครับ”
ละออกจากซึงยุนก่อนเดินผ่านมินโฮไปเข้าห้อง ได้ยินเสียงทุ้มพูดเสียงดังก่อนจะเงียบ
“หยุดบ่นได้แล้วน่ามินโฮ” ซึงฮุนวางกล่องลงก่อนจะคุกเข่าอยู่ตรงหน้า มือค่อยๆจับขาข้างที่มีแผลเบาๆก่อนทำแผลให้ โชคดีที่แผลไม่ได้ใหญ่หรือลึกมากจนเกินไป
ทั้งสามต่างตกอยู่ในความเงียบไป ความอึดอัดยังคงมีอยู่เช่นดังเดิม
“พี่ซึงฮุน พี่มินโฮ” จู่ๆซึงยุนก็พุดออกมา ซึงฮุนละมืออกจากผ้าแปะแผลที่เพิ่งแปะลงไปก่อนจะเงยหน้ามอง มินโฮที่ยืนกอดออกเงียบรอฟังที่ซึงยุนจะพุด “พี่อึดอัดไหม”
“พี่ว่าเราไม่พูดถึงเรื่องนี้ดีกว่าไหม ในเมื่อเราก็มีความสุขกับมันทั้งสามคน พี่โอเคกับมันแล้วหล่ะ” ซึงฮุนพูดก่อนจะเดินไปกอดคอมินโฮ
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่สบายใจเพราะเขาเป็นต้นเหตุ การปล่อยวางและแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาดูท่าจะดีที่สุด
“พี่ขอโทษนะที่ทำให้เราทั้งสองคนคิดมาก จนเกือบจะเสียช่วงเวลาดีๆนี้ไป ขอโทษนะมินโฮ ซึงยุนอา”
“ครับ ไม่เป็นไร”
ซึงยุนยิ้มออกมาก่อนจะหันไปมองมินโฮ มินโฮที่ตอนนี้ยิ้มน้อยๆลูบหัวซึงยุนเบาๆ
ความรู้สึกที่ขุ่นมัวถูกปัดเป่าออกไปจากใจอย่างง่ายดาย
“วันนี้อยากไปไหนอีกไหมครับหืม”
“ผมเพลีย ไม่อยากไปไหนแล้ว ค่อยไปพรุ่งนี้เถอะ”ซึงยุนยกแขนก่อนจะหลับตาลง “อุ้มหน่อย”
ซึงฮุนกับมินโฮเลิกคิ้วก่อนจะหลุดยิ้มออกมา
ท่าทีแบบนั้น...
ดูท่าซึงยุนคงไม่ได้อยากนอนจริงๆหรอก
“ผมให้เลือกระหว่างบนเตียง ระเบียง ห้องน้ำจะเลือกอะไร เชิญเลยครับ...”
“พี่กลัวซึงยุนสลบมากกว่า เอาเป็นว่าตอนนี้พาเด็กน้อยไปอาบน้ำก่อน ดีไหม”ซึงฮุนตอบกลับก่อนจะหัวเราะเบาๆ
ซึงยุนที่ได้ยินอย่างนั้นอ้าปากค้าง
“เดี๋ยวนะ นี่...”ซึงยุนตกใจเมื่อมินโฮอุ้มขึ้นจากโซฟาก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำอย่างง่ายดาย “เฮ้ย นี่ผมเป็นแผลอยู่นะเว้ย”
ซึงฮุนหัวเราะก่อนที่จะเดินตามไป
“เดียวติดเชื้อนะ ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดียวพี่กับมินโฮอาบให้
กลัวมันจะไม่จบที่อาบอ่ะดิ ซึงยุนกรีดร้องในใจ


“พะ...พี่”ซึงยุนหอบตัวโยนเมื่อซึงฮุนใช้สบู่ค่อยๆถูหลังให้แผ่วเบา
ทั้งอาย ทั้งเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
มินโฮเอาขาข้างที่ทำแผลวางไว้บนตักตัวเอง ริมฝีปากยกยิ้มเมื่อเห็นคนรักตัวเองหน้าแดงก่ำ
รู้สึกดีที่ได้แกล้ง
และรู้สึกชอบเมื่อทั้งเขาและซึงฮุนสามารถสร้างความพึงพอใจให้ซึงยุนได้
“ยิ้มอะไรห๊ะ”พูดเสียงแหลมสูงด้วยท่าทีขัดใจ เพราะสองคนตอนนี้ต่างยิ้มทั้งที่เขาก็อายแทบเป็นบ้า
ซึงยุนถูกจับถอดเสื้อผ้าออกก่อนที่จะ...นั่นแหละ เขาได้ปลดปล่อยตั้งสองรอบทั้งซึงฮุนและมินโฮที่ผลัดกันทำให้ รู้สึกจะบ้าตายเสียให้ได้ที่เขาถูกทำทั้งๆที่ทั้งสองคนก็ยังใส่เสื้อผ้าครบดี มีแค่ตัวเขาเองที่ถูกกระทำ
ซึงฮุนเป็นคนขี้เล่นก็จริงแต่บทรักของเขาไม่ได้นุ่มนวลเท่าไรเลย ซึ่งมันตรงข้ามกับมินโฮโดยสิ้นเชิง
แต่ก็นะ...เขารักทั้งสองคนจนไม่สามารถตัดสินได้ว่าระหว่างซงมินโฮกับอีซึงฮุนใครดีกว่ากัน
ซึงยุนชอบทั้งสองอย่างจนอดจะคล้อยตามไม่ได้จริงๆ
“คิดทะลึ่งหรอหืม หน้าแดงขนาดนั้น”
“ปะ..เปล่าสักหน่อย พี่ซึงฮุนหยุดเลยนะ”
“หึหึหึ ไม่ล้อก็ได้ เดี๋ยวล้างตัวดีกว่า สบายเกินไปแล้วนะเราอ่ะ”
ซงมินโฮอุ้มขึ้นก่อนจะใช้น้ำอุ่นล้างตัวให้ มือปัดป่ายไปมาแบบจงใจนั่นทำให้ซึงยุนสติจะแตกอีกรอบ
“พี่มินโฮ ผมสองรอบแล้วนะ อย่าแกล้งกันสิ”
“แต่พวกพี่ยังไม่ได้ทำเลยนะ จะปล่อยให้พี่ค้างหรอหืม” มินโฮพูดเสียงนุ่ม ก่อนจะก้มลงหอมแก้มเบาๆ “พี่ไม่ทำก็ได้ เห็นแก่ขาเจ็บนะ”
“งื้อ...ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้น แต่เมื่อไรเมื่อไรพี่สองคนจะทำต่างหากละ อยากได้พี่แย่แล้ว”
มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง
“อ่อยพวกพี่ขนาดนี้ไม่อยากนอนหรอ”
“ก็เห็นแก่พี่สองคนนั่นแหละ นี่เรามาฮันนีมูนกันนะ”
ก็จริง ซึงฮุนกับมินโฮมองหน้าก่อนที่จะส่งสัญญาณเบาๆเป็นเชิงรับรู้
“พี่ไม่เลิกง่ายๆนะซึงยุน”
“ไม่เป็นไร ผมยอมแล้ว ผมรักพี่สองคนนะ”ซึงยุนกอดมินโฮก่อนจะหันไปยิ้มให้ซึงฮุน “หนาวจัง”
“เด็กขี้อ่อย” หัวเรากับคำพูดนั้นก่อนจะเป็นสัญญาณรักที่เริ่มขึ้น
ซงมินโฮเอาผ้าขนหนูห่อตัวซึงยุนทั้งๆที่ร่างกายของตัวเองก็เปียกก่อนจะอุ้มเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว วางบนเตียงกว้างด้วยความนุ่มนวลก่อนจะปลดกระดุมเสื้อไปด้วย
ซึงฮุนที่เดินเข้ามาทีหลังนั้นมองด้วยความสนใจก่อนจะค่อยๆไปนั่งซ้อนหลังซึงยุนเพื่อให้พิงตนเองให้เต็มที่  ริมฝีปากค่อยๆละเลียดชิมหยดน้ำที่เกาะบนไหล่เล็กที่กำลังสั่นไหว
เสื้อผ้าต่างหายไปแบบไม่ทันรู้ตัว ซึงฮุนยังคงนั่งซ้อนหลัง มืออดไม่ได้ที่จะบีบสะโพกที่ดูยั่วยวน ส่วนมินโฮก็ค่อยๆละริมฝีปากออกเพื่อฟังเสียงหวานๆที่พยายามกลั้นนั่น
“พี่มินโฮ อย่าแกล้ง อ่ะ พี่ซึงฮุน”ร้องออกมาเมื่อโดนสัมผัสปะปนกันไปหมด ซึงฮุนอดใจไม่ไหวจนต้องดูดดึงซอกคอและใช้มือจับคางให้เงยขึ้น เสียงครางดังขึ้นเรื่อยๆเมือมินโฮดูดดึงยอดอก
ความสุขที่แทบจะสำลักมันเป็นยังไง ซึงยุนเพิ่งสัมผัสมันได้ก็ครั้งนี้นี่เอง
“อึก”ยกมือขึ้นปิดปากแทบไม่ทันเมื่อซึงฮุนจับตนเองนั่งตัก โดยที่มินโฮที่อยู่ด้านหน้าสัมผัสแก่นกายของตนเองก่อนจะเริ่มรูดรั้งเบาๆ ยกยิ้มมุมปากกับท่าทีของคนตรงหน้า
“กัดพี่ได้นะ”มินโฮพูดก่อนจะจับซึงยุนซบไหล่ ริมฝีปากนุ่มยุ่นนั่นร้องเมื่อเริ่มทำเร็วขึ้น งับไหล่ที่ดูแข็งแรงนั่นเพื่อกลั้นเสียง
มินโฮมองตากับซึงฮุนก่อนยู่ปากน้อยๆ
ซึงฮุนหัวเราะกับท่าทีนั่นก่อนจะเอียงคอเพื่อจูบมินโฮเบาๆแล้วละออก
“ขี้อ้อนจริงๆ”
ซึงฮุนเริ่มซี้ดปากเมื่อสะโพกซึงยุนที่โยกตอบรับมือมินโฮนั่นเสียดสีกับแก่นกายตนเอง เตียงขนาดกว้างสั่นไหวจนเกิดเสียงดังและค่อยๆเบาลงเมื่อซึงยุนปลดปล่อยออกมาอีกครั้งในวันนี้ มินโฮใช้มือที่เปื้อนน้ำขาวขุ่นนั่นสอดเข้าช่องทางหลังช้าๆราวกับกลัวซึงยุนเองจะเจ็บปวด
“อ่ะ...อา”ร้องออกมาเมื่อซึงฮุนใช้แขนสองข้างสอดใต้ข้อพับและยกเพื่อให้มินโฮสอดนิ้วเข้ามาอย่างรดเร็ว จูบขมับที่เปียกชื้นเหงื่อเบาๆ “ฮื่อ..พี่ซึงฮุนจูบผมหน่อย อ่ะ”
จูบตามคำขอคนน่ารักที่โอนอ่อนตามอารมณ์ร้อนแรงที่กำลังประทุ ระวังขาที่บาดเจ็บให้ก่อนที่มินโฮจะถอนนิ้วออกและดึงซึงยุนให้มานอนทับตนเองแทน จับแก่นกายรวบก่อนจะเริ่มโยกสะโพกให้เสียดสีกัน ส่วนซึงฮุนค่อยสอดใส่ในตัวซึงยุนช้าๆ เข้าไปได้เพียงครึ่งก็ต้องร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ฮื้อ...ซึงยุนอาอย่าเกร็ง หายใจลึกๆ”
“พี่ซึงฮุน ผมไม่..”
“มินโฮช่วยน้องหน่อย”
“อ่า ซึงยุน พี่ซึงฮุน”มินโฮขบกรามแน่นเมื่อเริ่มโยกแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึงยุนที่ดูท่าจะรับบทหนักสุดร้องครางเต็มเสียงโดนจับให้คลานเข่า แต่ก็ไม่วายที่จะจับแก่นกายคนรักอีกคนชิมเพื่อปิดเสียงตัวเอง
“ซึงยุน อืม...”ทั้งมินโฮและซึงฮุนต่างเร่งสะโพกก่อนจะปลดปล่อยออกมา ซึงยุนสำลักหน้าแดงก่ำก่อนจะร้องออกมาเบาๆเมื่อซึงฮุนรูดรั้งแรงๆจนปลดปล่อยออกมาตามๆกัน
“งื้อ...”ร้องครวญครางออกมาแผ่วเบา นัยน์ตากลมนั่นปรือแต่ก็ยังพยายามที่จะรองรับมินโฮที่สอดใส่ต่อมา ซึงฮุนจูบหน้าผากแผ่วเบากุมมือคนรักแน่น จนสุดท้ายก็ปลดปล่อยในร่างกายซึงยุน ค่อยๆถอนออกมาก่อนล้มตัวนอนข้างๆ
ราวกับวิ่งหนักๆมาจนเหนื่อยจัด เสียงหอบดังปะปนก่อนจะเป็นซึงยุนที่วันนี้ปลดปล่อยหลายครั้งนั่นสลบไปก่อน
“หึ”มินโฮหัวเราก่อนจะจูบหน้าผากแผ่วเบา “ฝันดีนะซึงยุน ฝันดีครับพี่ซึงฮุน”
ซึงฮุนยกผ้าห่มคลุมร่างทั้งสามก่อนจะยิ้ม มือเอื้อมมาลูบหัวทั้งมินโฮและซึงยุน “อยู่ด้วยกันนานๆนะ”
ยิ้มให้กันและกันก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราทั้งสามคน กอดกันเบาๆเพื่อให้รู้ว่าไม่ได้ไปไหน
ทั้งช่วงเวลาพิเศษนี้และตลอดไป



#KangSongLee

Relationship is never ending

#ฟิคหลุมพราง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น