[OS]
Lee Seunghoon x Nam Taehyun
Story
: One Night Stand
ปล. ฟิคแก้บนเรื่องที่สาม อ่านที่สาธารณะได้ อย่าคาดหวังกับอะไรดีที่สุดเพราะมันชั่ววูบจริงๆ....
ทุกคืนวันศุกร์มักเป็นวันที่น่าเบื่อ
แทฮยอนไม่ชอบ
และจะไม่ยอมให้เวลาแบบนี้ผ่านไปโดยไร้ความหมายแน่ๆ
ผลลัพธ์สุดท้ายคือที่ผับเสมอ...
นักศึกษามหาลัยอย่างเขาไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร
การเข้าสังคมกลางคืนมันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก
อย่างน้อยข้อดีมันก็คือไม่ทำให้เขาเหงาแบบนี้ละกัน
ถอดแว่นกรอบกลมโตก่อนเสยผมสีออกน้ำตาลตัวเองเบาๆ
ปลดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำพร้อมท่องราตรีสำหรับค่ำคืนนี้
น้ำที่ไหลผ่านหัวนั้นเป็นสีดำปนน้ำตาล มันไหลเปรอะตัวไปหมด
สระผมอีกสองสามรอบก่อนที่สีสเปย์สำหรับพ่นสีผมจะออกหมด
เผยให้เห็นผมสีบรอนด์สว่างเข้ากับผิวขาวผ่อง
สีที่เขาย้อมมานานแล้ว
แต่ติดมาดนักศึกษาทำให้ไม่สามารถเผยสีนี้ได้เท่าไรนัก
เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะนั่งโต๊ะเครื่องแป้ง
มองหน้าตัวเองนิ่งๆ มือหยิบเครื่องสำอางด้วยความชำนาญ แต่งแต้มสีสันบนใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์ของตัวเองทีละขั้น
ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อตรงตามที่ตัวเองต้องการ
“ได้เวลาหาอะไรสนุกๆทำละนะ”
แขนที่ดูผอมบางแต่กลับแข็งแกร่งยกขาทั้งสองข้างจนลอยก่อนอ้าออก
ช่องทางด้านหลังถูกสอดใส่อย่างแรงเพราะอารมณ์ที่ครอบงำ
แทฮยอนจิกผนังแน่น ดวงตาโทนสโมกกี้อายส์ที่โฉบเฉี่ยววันนี้ดูยั่วยวนจนคนมองแทบบ้า
"เกาะกำแพงแน่นๆหล่ะ" ขบจนสันกรามขึ้นก่อนเด้งสะโพกใส่ หมุนควงอย่างเมามันส์จนแทฮยอนอดไม่ได้ที่จะโยกสะโพกรับความแข็งขืนของชายหนุ่มด้านหลังให้สาแก่ใจ
แทฮยอนไม่ใช่คนเซ็กซ์จัด
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลีลาของหนุ่มหน้าตี๋ที่สอยมาวันนี้มันแซบมาก
"ฮึ่ม ตอดดีจริง"คนด้านหลังพูดทั้งๆที่เอวไม่หยุด ค่อยๆวางขาลงและแหวกก้อนนุ่ม
แทฮยอนแอ่นสะโพกด้วยความกระสัน ก่อนร้องออกมาด้วยความชอบใจเมื่อถูดฟาดและขย้ำแรงๆ
มือทั้งสองข้างเอื้อมไปขยี้ยอดอกที่แดงช้ำจากการดูดดึง
รอยเริ่มเพิ่มมากขึ้นตามแผ่นหลังที่ริมฝีปากเคลื่อนที่ผ่าน
"นายชอบไหม"
"ที่สุด ไปที่เตียงเถอะ"แทฮยอนทำท่าจะดึงตัวออก
แต่อีกฝ่ายกลับร้องห้ามออกมา
"อย่าเอาออก"
คนด้านหลังช่างแสนจะใจร้อน ตัดสินใจกดแช่ไว้ ยกขาสองข้างแทฮยอน
เด้งเอวตามจังหวะและอารมณ์ เดินไปจนถึงเตียงก็วางอีกคนด้วยความรีบ
แทฮยอนจิกหมอนแน่น เมื่อถูกบังคับให้อยู่ท่าคลาน
แอ่นสะโพกตอบรับด้วยความเสียว
"อื้อ อือ อืม"
"อ่า ดังๆ ร้องดังๆกว่านี้"ตีจนผิวขาวแดงก่ำ
แทฮยอนปรายตามองก่อนจะรู้สึกแปลกใจ
สายตาอ่อนโยนและอบอุ่นมากที่ทอดมองมาที่เขา มันช่างขัดกับพายุอารมณ์ที่กระทั้นกระแทกกันอย่างไม่ปราณีนี้
แต่ใครสนหล่ะ
ก็แค่คืนเดียว ทำให้เต็มที่ไปเลยดีกว่า
คิดได้ดังนั้นก็ยิ่งครางเขาไปหนักกว่าเดิมอย่างไม่กลัวเจ็บคอ
ยิ่งแรงยิ่งดี แทฮยอนชอบ
ก่อนที่จะปลดปล่อยออกมา น้ำสีขาวขุ่นฉีดพ่นเปรอะที่นอนทั้งที่ไม่ได้สัมผัสมันด้วยซ้ำ
แทฮยอนเสร็จด้วยตนเอง
ก่อนที่คนบนร่างจะจับแทฮยอนนอนหงาย
กระแทกแรงๆสองสามทีแล้วถอนกายออกจากคนใต้ร่าง
คร่อมแทฮยอนที่นอนอ้าขาหอบก่อนรูดรั้งตรงหน้า
เอาถูที่แก้มนุ่มเบาๆและบีบปากแทฮยอนให้รับความแข็งขืน
รสคาวจัดสอดแทรกเข้ามาในช่องปาก น่าแปลกที่แทฮยอนชอบรสชาติของมัน
ปฏิเสธไม่ได้เมื่อคนบนอกสอดใส่ปากเขา มันทั้งแรง
และร้อนจนรู้สึกว่าปากคงบวมเจ่อแน่ๆ
สะโพกสอบเด้งใส่จนแทงลึกถึงคอหอย น้ำตาคลอออกมาด้วยความอึดอัด
ตีสะโพกสอบคนร้อนแรงที่เด้งเอาๆอย่างไม่สนใจใคร
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองก็ชอบ ยิ่งเวลาซิกแพคขึ้นตอนเกร็งยิ่งชอบ
"อ่า อ่า อ๊า" ถอนออกจากปากก่อนที่น้ำขาวขุ่นจะพ่นออกมา
ฉีดพ่นลงบนหน้าคนที่หลับตาพริ้มรับความอุ่นร้อน
เอาท่อนเนื้อตีแก้มไปสองสามทีก่อนกวาดน้ำบนหน้าเข้าปาก
"ชอบหรือไง"
"ก็อร่อยดี เพิ่งเคยกินน้ำครั้งแรก"
"กับก่อนหน้านี้ไม่เคย?" ดูคนตรงหน้าจะอึ้งเมื่อได้รู้ความจริง
"ให้ใส่ถุงตลอดหน่ะ"ผลักคนบนเตียงออก
ไม่ใส่ใจสีหน้านั่นก่อนเดินไปที่ตู้เพื่อคว้าชุดคลุมอาบน้ำของทางโรงแรม
ก็แค่คืนเดียวที่ได้สนุกด้วยนั่น
นั่นถือเป็นความทรงจำที่ดีตอนหนึ่งของแทฮยอน ก็แค่นั้นเอง
เช้ามาแทฮยอนก็พบว่านอนอยู่คนเดียวบนเตียงของโรงแรม เขาตื่นสายโด่เนื่องจากบทรักเมื่อคืนมันหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะร้องโอดโอยออกมาเมื่อเหนื่อยขบไปทั้งตัว
ก่อนจะเดินไปเช็คเอ้าท์โรงแรม พบว่าอีกฝ่ายได้จ่ายเงินให้แล้ว
"ป๋าซะด้วยแฮะ" ยิ้มออกมาอย่างไม่คิดอะไรก่อนเดินทางกลับบ้าน
โชคดีทีเขาแยกออกมาอยู่คนเดียว เลยทำให้ไม่ต้องกลัวว่ามีใครรอที่ห้องแม้กลับช้า
แต่ก็ไม่ใช่ว่าดีเท่าไรนัก
การอยู่คนเดียวมันไม่ได้ดีขนาดนั้น
แต่เขาก็เชื่อใจใครไม่ได้เช่นกัน
ความเชื่อมั่น ความวางใจมันเป็นสิ่งที่น่ากลัว
พ่อและแม่ของเขาจากไป ทิ้งไว้เพียงมรดกเก่าแก่ที่ทำให้เขาอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้
ก็เพราะความไว้ใจจากคนสนิท
ที่สุดท้ายพอเสียชีวิตก็เฉดหัวเขาทิ้งให้ออกจากบ้านมาอยู่แบบนี้
นั่นเพราะเลือกที่จะไว้ใจ จนสุดท้ายกลับต้องตายและทิ้งเขาไว้เพียงลำพัง
เพราะฉะนั้น การเลือกที่จะเป็นอยู่แบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน
กลางวันเป็นนักศึกษาเรียบร้อยที่ผลการเรียนพอให้เขามีงานดีๆทำตอนเรียนจบ
กลางคืนเป็นนักท่องราตรีคว้าหาความสุขเพียงชั่วครั้งคราวแล้วก็จบลงบนเตียงนอน
มันไม่ได้เลวร้ายหรอก
เขาคิดเช่นนั้น
เพราะเขาเองก็หมดศรัทธาไปนานแล้ว
ศรัทธาที่ชื่อว่าความรักและความไว้ใจ
เริ่มต้นวันจันทร์แสนน่าเบื่อสำหรับคนอื่น
แต่สำหรับแทฮยอนเอง มันไม่ได้เลวร้าย
ในเมื่อเลือกที่จะเรียนเอง นั่นหมายถึงว่าเขาเองต้องพอใจกับมัน
ไม่มีใครมาบังคับชีวิตเราได้ นอกจากตัวเราเอง
คลาสการสอนดูน่าเบื่อเพราะมีแต่ทฤษฎี แทฮยอนพยายามรับฟังถึงแม้จะง่วง มือขาวที่โผล่ออกมาจากสเวตเตอร์เล็กน้อยนั่นปัดผมสีน้ำตาลที่ใช้สเปย์พ่นมาเมื่อเช้า
ใบหน้าจืดชืดไม่มีสีสันอะไรที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นใหญ่ยิ่งไม่มีใครสน
ก็อย่างว่า
ทุกคนมีมุมเลือกปฏิบัติเสมอ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนมักเลือกมองที่หน้าตาเป็นอันดับแรก
เขาก็เป็น ทุกคนก็เป็น
ทุกคนมันจะมองเห็นความสำคัญของเขาเสมอเมื่อใกล้สอบ
หรือมีกิจกรรมอะไรก็ตามที่ต้องระดมสมอง
แต่นอกจากนั้นก็เมินเฉย
เหมือนพอมีค่าทุกคนก็เข้ามา และจากไปเมื่อไร้ประโยชน์
แทฮยอนไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจอะไร ดีเสียอีกที่คนอื่นจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับเขามากจนเกินไป
ขยับแว่นที่ตกลงมาแทบปลายจมูก ตั้งใจขีดเขียนจนในที่สุด เสียงบอกเลิกคลาสก็จบลง
ผ่านไปอีกวันกับการเรียน
รวบกองหนังสือที่วางไว้ข้างกาย เพราะเวลาเรียนไม่ค่อยมีใครนั่งใกล้อยู่แล้ว หยิบมันใส่เป้ใบโตที่พกมา
คิดวางแผนที่จะไปห้องสมุดเพื่อค้นคว้าสิ่งที่คับข้องใจเพราะอาจารย์เองก็ออกไปก่อนที่เขาจะได้ถามเสียอีก
“คุณนัมแทฮยอน”
คิดไม่ทันขาดคำเสียงอาจารย์ที่ออกไปเมื่อครู่กลับเดินเข้ามายืนตรงหน้าเขา
“ครับอาจารย์”
“คือวันนี้เดียวคุณช่วยเข้าไปที่ห้องทำงานผมหน่อย งานวิจัยที่คุณมาปรึกษาผมทิ้งไว้ที่ห้องพัก ผมต้องขอโทษจริงๆที่ต้องรีบไปธุระ”
“ไม่เป็นไรครับ”ส่งยิ้มเล็กๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย “แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้ว ขอบคุณนะครับอาจารย์คิม”
“ผมบอกอาจารย์อีกท่านไว้แล้วหล่ะ คุณไปปรึกษาได้เลยนะ เขาจะรอคุณอยู่ที่ห้องพักผม”
อาจารย์ละออกก่อนที่เขาจะรีบสะพายกระเป๋าและเดินไปที่ห้องพักอาจารย์
เปิดประตูเข้าไปเพราะก่อนจะเบิกตากว้าง
โลกทำไมช่างกลมขนาดนี้
“อ้าวมาแล้วหรอคุณนัม”
แทฮยอนรีบปรับสีหน้าก่อนโค้งทักทาย
คนตรงหน้าใส่สูทดูดี รอยยิ้มกับดวงตาตี๋นั่นแทฮยอนจำได้
คนที่เขาเพิ่งเจอเมื่อสองวันก่อน
แต่ดูอีกฝ่ายจะจำเขาไม่ได้หรอก แทฮยอนค่อนข้างมั่นใจ...อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง
“ผมชื่ออีซึงฮุน เรียกซึงฮุนก็ได้ หลังจากนี้ผมจะเป็นที่ปรึกษาให้คุณ”
แทอยอนตกใจนิดหน่อย แน่สิ ก็อาจารย์คิมไม่ได้บอกเขาแบบนี้นี่
“แล้วอาจารย์คิม...”
“อาจารย์คิมติดธุระต้องลาพักยาว คงไม่สะดวกที่จะให้คำปรึกษาคุณได้ แล้วผมก็ได้อ่านวิจัยคุณแล้ว มันน่าสนใจมาก ผมเลยขอรับช่วงต่อเอง”
แทฮยอนอยากปฏิเสธคนตรงหน้า
แต่สถานการณ์มัดมือชกเหลือเกิน
แทฮยอนทำอะไรไม่ได้
“ครับ”
หลังจากวันนั้นชีวิตของแทฮยอนก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกระวังตัวมากกว่าเดิมเพราะกลัวอีกฝ่ายจะจำได้
อีซึงฮุนไม่ใช่เล่นๆเลยแม้แต่น้อย
เขาเป็นที่ปรึกษาที่ดี ดีมากจริงๆ
มีหลายครั้งที่เรามักปรึกษางานกันจนเลยเวลา ด้วยเนื้อหาที่ทำให้ต่อยอดและอีซึงฮุนเองก็เป็นคนที่มีความรู้รอบด้าน
แทฮยอนยอมรับว่าเขาสนิทกับอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย
เพราะความเป็นมิตรและพุดคุยในเรื่องเดียวกันได้
ทำให้เขาเผลอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวไปบ้าง
แต่ก็แค่บางส่วนเท่านั้น ซึงฮุนไม่ได้วิพากษ์อะไรเขา
กลับกลายเป็นให้กำลังใจและบอกให้เขาสู้ต่อ
ซึ่งนั่นทำให้แทฮยอนวางใจ
และทำให้แทฮยอนกลัวเช่นกัน
เขารู้ดีว่าการที่มีคนที่พุดคุยกันได้จนถึงป่านนี้ มันทำให้โลกที่เขาเองสร้างมากำลังถูกบุกรุก
พื้นที่ที่เขาก่อกำแพงหนาและสูงชันกำลังถูกพังทลายด้วยผู้ชายคนนี้
สิ่งที่เรียกว่าความไว้ใจกำลังครอบงำเขา...เพราะอีซึงฮุน
“แทฮยอน”
“ครับ”
แทฮยอนเงยหน้ามองอีซึงฮุนที่เดินเข้ามาหาเขา นักศึกษาหลายคนมองมาที่เขา ถึงจะมีบางส่วนกลับไปแล้วก็ตาม
แทฮยอนไม่ชอบ และไม่คิดที่จะชิน
เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นมาแผ่วเบา แต่คิดหรอว่าคนอย่างเขาจะไม่รู้
ข่าวลือที่ว่าเขาเข้าหาอาจารย์ซึงฮุนเพื่อเอาตัวแลกงานวิจัย...
เหอะ
ตลกสิ้นดี
“คือผมจะบอกว่า วันนี้ผมไม่สะดวก ถ้ายังไงคุณกลับได้เลยนะ”
“ครับ” แทฮยอนแค่ขานรับ อีกฝ่ายส่งยิ้มก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวเขา และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ใจเขาสั่นไหว
เขาคิดว่าอีซึงฮุนเป็นคนอ่อนโยนตั้งแต่เจอกันครั้งแรก
และใช่
อีซึงฮุนเป็นคนที่อ่อนโยนมากจริงๆ แต่เป็นความอ่อนโยนที่มีไปทั่ว
เหมือนอากาศ
รู้สึกแต่ไม่มีทางจับสัมผัสได้
เขาถอนหายใจเพราะคนอื่นยังมองมา
มันน่าอึดอัด และน่าเบื่อมาก
แทฮยอนรีบเดินออกจากห้องเรียน เขาไม่ชอบทีเรื่องราวมันกลายเป็นแบบนี้เท่าไร
หลายคนอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่มันก็มีหลายคนที่คิด
ถึงตัวเขาจะไม่ค่อยได้สนใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก
ปลดเสื้อผ้าเพื่อดับความร้อนรุ่มในใจ
น้ำเย็นเปิดเต็มแรงหวังให้หายกลับไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยแม้แต่น้อย
เขาจะออกเที่ยว
ยอมรับว่าตั้งแต่มีอะไรกับอีซึงฮุน นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองเดือนที่เขาร้างราเรื่องนี้ไป
อย่างน้อยเขาก็ขอระบายกับค่ำคืนนี้บ้าง
เขาหวังแค่นี้จริงๆ....
แทฮยอนหอบหายใจเมื่อถอนจูบออก
ความมัวเมาจากเหล้าที่ยังไหลเวียนในกระแสเลือดทำให้สติไม่มีมากพอที่จะขัดขืนชายหนุ่มผิวสีแทนตรงหน้า
ขาของอีกฝ่ายสอดมาก่อนยีนส์สีเข้มจะเสียดสีกับสกินนี่สีดำที่แทฮยอนใส่มาจนร่างกายวูบวาบไปหมด
มันเร่าร้อนและเร่งเร้าตามอารมณ์
แต่ภายในใจกลับไม่ได้มีอารมณ์ร่วมขนาดนั้น
“พอเถอะจีวอน ผมไม่มีอารมณ์จริงๆวันนี้”ผละหน้าออกมาก่อนจะสะบัดหัวเบาๆเชิงไม่ไหว
คู่ขาตรงหน้าดูจะหงุดหงิดไม่น้อย
“ทำไมหล่ะแทฮยอน”
“ไม่มีก็คือไม่มี”
“แต่พี่มีนะ”
“พี่ ผมไม่เล่นด้วย” แทฮยอนพยายามสะบัดมือออก เดินหนีแต่กลับถูกอีกฝ่ายดันจนชิดกำแพง พยายามตีอกเมื่อริมฝีปากระดมปล้ำจูบ
เขารังเกียจสัมผัสนี้
นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน
“อีกคนไม่เล่นด้วยก็อย่าไปทำดีกว่าไหมจีวอนอา” เสียงนุ่มเอ่ยก่อนจะชากแทฮยอนจนเซไปซบอก
“แต่พี่” เสียงจีวอนแว่วๆมา แทฮยอนจับใจความไม่ได้ ฤทธิ์แอลกอฮอล์มีมากกินทำให้เขาประคองสติอยู่ได้อีกต่อไป
“แทอยอนเป็นของพี่ พี่ขอนะจีวอน...”
ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป
รู้สึกได้ถึงอะไรเย็นๆที่สัมผัสเข้าที่ต้นคอ
แทฮยอนเบี่ยงหน้าหนีด้วยความรำคาญใจ ก่อนจะ
สะดุ้งเฮือกลุกขึ้นนั่งแทบในทันที
สะดุ้งเฮือกลุกขึ้นนั่งแทบในทันที
ห้องคุ้นๆ
เหมือนกับครั้งนั้น
แทฮยอนหันไปมองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ข้างๆที่ถือผ้าชุบน้ำค้างไว้ รอยยิ้มละมุนส่งมาทำให้ใบหน้าร้อนผ่าว
“ตื่นแล้วหรอคุณ เจอกันอีกแล้วนะ”
ยิ้มจนดวงตาปิด แทฮยอนเบือนหน้าหนี พยายามลงจากที่นอนก่อนจะชะงัก
“ไม่ใช่คุณสิ เจอกันอีกแล้วนะแทฮยอน”
“รู้...”
“อืม รู้ตั้งแต่เจอที่มหาลัยแล้ว”
แทฮยอนตกใจ แต่อีกฝ่ายแค่ยิ้มกลับมา
“นายหนีไม่พ้นแล้วหล่ะแทฮยอน”
“...”
หัวใจสั่นรัวแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ผมจะไม่ยอมให้เรื่องของเรามันเป็นแค่เรื่องข้ามคืนอีกต่อไปแล้ว”
“...”
“ถึงจะเริ่มต้นกันไม่ดีเท่าไร...แต่เป็นแฟนกันนะแทฮยอน”
เหมือนลมหายใจถูกกระชากออกไป พร้องกับความกังวลที่มีมาตลอด
“ผะ...ผม”
“ไม่ต้องรีบตอบก็ได้ แต่พี่จะรอเรานะ”
“ผมไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น”
“พี่ก็รู้...แต่พี่ก็อดรู้สึกไม่ได้”
“...”
“เปิดใจให้กันได้ไหม”
แทฮยอนเบือนหน้าหนี มือกุมใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตนเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่มีใครมาพูดอะไรอ่อนโยนกับเขาแบบนี้
ทั้งน้ำเสียงนุ่ม ทั้งมือที่ลูบแขนแผ่วเบา
แทฮยอนรับรู้ถึงความจริงใจที่อีกฝ่ายมีมาให้
ทั้งครั้งนี้ และตลอดมาที่อีกฝ่ายคุยกับเขา
แทฮยอนอึกอัก
มันไม่ใช่เรื่องง่ายกับการจะเปิดใจให้ใครสักคน
แทฮยอนไม่ตอบอะไร ก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ขอเวลา...ขอเวลา”
อีซึงฮุนเงียบมองอีกฝ่าย
“ถ้าเปิดใจเมื่อไร ผมจะบอกเอง”
นี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่แทฮยอนคิดออกแล้ว
หลังจากวันนั้นแทฮยอนก็ไม่ได้เจออีซึงฮุนอีกเลย
อาจารย์คิมกลับมาแล้ว และกลับมารับผิดชอบงานวิจัยของเขาต่อ
“คุณนัมแทฮยอน เดียววันนี้คุณเอางานไปทำได้เลยนะ”
“ครับ” เงยหน้าตอบรับอีกฝ่ายเหมือนเช่นเคย แต่ต่างกันตรงครั้งนี้อาจารย์คิมไม่ได้มาแค่พูดเรื่องงาน
“ผมคุณสวยดีนะ เหมาะกับคุณดี”
“ออ...ขอบคุณครับ”
ยิ้มให้คนตรงหน้าที่เอ่ยชมผมบลอนด์ทองของเขา
เขาเลิกใส่แว่นและพ่นผมเป็นสีน้ำตาลแล้ว
เขาคิดว่าถ้าลองปรับเปลี่ยนตัวเอง ทั้งรูปลักษณ์และทัศนคติอาจทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปก็ได้
แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดอยู่ดี
เพราะคนที่เขาเปิดใจกลับหายไปแล้ว
หายไปดั่งค่ำคืนแรกที่เจอกัน
“มาพูดแล้วจากไป เป็นคนยังไงกันแน่นะอีซึงฮุน”
บ่นพึมพำก่อนเปิดประตูห้องพักเข้าไป
และเหมือนครั้งแรก
เขาตกใจที่เห็นอีกฝ่ายยืนรออยู่ที่ห้องพัก
“พี่มาเอาคำตอบจากนัมแทฮยอนครับ”
พร้อมรอยยิ้มที่หลุดออกมา
ทั้งเขาและอีซึงฮุนต่างยิ้มออกมา
“น่าจะรู้คำตอบตั้งนานแล้วนะอีซึงฮุน”
กอดตอบอีกฝ่ายแผ่วเบา
“พี่รักแทฮยอนนะ”
“ผมก็รักซึงฮุน ห้ามหาย ห้ามหนีไปจากผมด้วย”
#HOONNAM #ALLBBHN