BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[OS] Lee Seunghoon x Nam Taehyun : One Night Stand

[OS] Lee Seunghoon x Nam Taehyun
Story : One Night Stand
ปล. ฟิคแก้บนเรื่องที่สาม อ่านที่สาธารณะได้ อย่าคาดหวังกับอะไรดีที่สุดเพราะมันชั่ววูบจริงๆ....








ทุกคืนวันศุกร์มักเป็นวันที่น่าเบื่อ

แทฮยอนไม่ชอบ

และจะไม่ยอมให้เวลาแบบนี้ผ่านไปโดยไร้ความหมายแน่ๆ


ผลลัพธ์สุดท้ายคือที่ผับเสมอ...


นักศึกษามหาลัยอย่างเขาไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร

การเข้าสังคมกลางคืนมันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก

อย่างน้อยข้อดีมันก็คือไม่ทำให้เขาเหงาแบบนี้ละกัน


ถอดแว่นกรอบกลมโตก่อนเสยผมสีออกน้ำตาลตัวเองเบาๆ ปลดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำพร้อมท่องราตรีสำหรับค่ำคืนนี้

น้ำที่ไหลผ่านหัวนั้นเป็นสีดำปนน้ำตาล มันไหลเปรอะตัวไปหมด

สระผมอีกสองสามรอบก่อนที่สีสเปย์สำหรับพ่นสีผมจะออกหมด

เผยให้เห็นผมสีบรอนด์สว่างเข้ากับผิวขาวผ่อง

สีที่เขาย้อมมานานแล้ว

แต่ติดมาดนักศึกษาทำให้ไม่สามารถเผยสีนี้ได้เท่าไรนัก

เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะนั่งโต๊ะเครื่องแป้ง

มองหน้าตัวเองนิ่งๆ มือหยิบเครื่องสำอางด้วยความชำนาญ แต่งแต้มสีสันบนใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์ของตัวเองทีละขั้น

ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อตรงตามที่ตัวเองต้องการ

“ได้เวลาหาอะไรสนุกๆทำละนะ”









แขนที่ดูผอมบางแต่กลับแข็งแกร่งยกขาทั้งสองข้างจนลอยก่อนอ้าออก ช่องทางด้านหลังถูกสอดใส่อย่างแรงเพราะอารมณ์ที่ครอบงำ

แทฮยอนจิกผนังแน่น ดวงตาโทนสโมกกี้อายส์ที่โฉบเฉี่ยววันนี้ดูยั่วยวนจนคนมองแทบบ้า

"เกาะกำแพงแน่นๆหล่ะ" ขบจนสันกรามขึ้นก่อนเด้งสะโพกใส่  หมุนควงอย่างเมามันส์จนแทฮยอนอดไม่ได้ที่จะโยกสะโพกรับความแข็งขืนของชายหนุ่มด้านหลังให้สาแก่ใจ

แทฮยอนไม่ใช่คนเซ็กซ์จัด

แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลีลาของหนุ่มหน้าตี๋ที่สอยมาวันนี้มันแซบมาก

"ฮึ่ม ตอดดีจริง"คนด้านหลังพูดทั้งๆที่เอวไม่หยุด ค่อยๆวางขาลงและแหวกก้อนนุ่ม แทฮยอนแอ่นสะโพกด้วยความกระสัน ก่อนร้องออกมาด้วยความชอบใจเมื่อถูดฟาดและขย้ำแรงๆ

มือทั้งสองข้างเอื้อมไปขยี้ยอดอกที่แดงช้ำจากการดูดดึง

รอยเริ่มเพิ่มมากขึ้นตามแผ่นหลังที่ริมฝีปากเคลื่อนที่ผ่าน

"นายชอบไหม"

"ที่สุด ไปที่เตียงเถอะ"แทฮยอนทำท่าจะดึงตัวออก แต่อีกฝ่ายกลับร้องห้ามออกมา

"อย่าเอาออก"

คนด้านหลังช่างแสนจะใจร้อน ตัดสินใจกดแช่ไว้ ยกขาสองข้างแทฮยอน เด้งเอวตามจังหวะและอารมณ์ เดินไปจนถึงเตียงก็วางอีกคนด้วยความรีบ

แทฮยอนจิกหมอนแน่น เมื่อถูกบังคับให้อยู่ท่าคลาน แอ่นสะโพกตอบรับด้วยความเสียว

"อื้อ อือ อืม"

"อ่า ดังๆ ร้องดังๆกว่านี้"ตีจนผิวขาวแดงก่ำ แทฮยอนปรายตามองก่อนจะรู้สึกแปลกใจ

สายตาอ่อนโยนและอบอุ่นมากที่ทอดมองมาที่เขา มันช่างขัดกับพายุอารมณ์ที่กระทั้นกระแทกกันอย่างไม่ปราณีนี้

แต่ใครสนหล่ะ

ก็แค่คืนเดียว ทำให้เต็มที่ไปเลยดีกว่า


คิดได้ดังนั้นก็ยิ่งครางเขาไปหนักกว่าเดิมอย่างไม่กลัวเจ็บคอ


ยิ่งแรงยิ่งดี แทฮยอนชอบ

ก่อนที่จะปลดปล่อยออกมา น้ำสีขาวขุ่นฉีดพ่นเปรอะที่นอนทั้งที่ไม่ได้สัมผัสมันด้วยซ้ำ

แทฮยอนเสร็จด้วยตนเอง

ก่อนที่คนบนร่างจะจับแทฮยอนนอนหงาย กระแทกแรงๆสองสามทีแล้วถอนกายออกจากคนใต้ร่าง คร่อมแทฮยอนที่นอนอ้าขาหอบก่อนรูดรั้งตรงหน้า เอาถูที่แก้มนุ่มเบาๆและบีบปากแทฮยอนให้รับความแข็งขืน

รสคาวจัดสอดแทรกเข้ามาในช่องปาก น่าแปลกที่แทฮยอนชอบรสชาติของมัน ปฏิเสธไม่ได้เมื่อคนบนอกสอดใส่ปากเขา มันทั้งแรง และร้อนจนรู้สึกว่าปากคงบวมเจ่อแน่ๆ

สะโพกสอบเด้งใส่จนแทงลึกถึงคอหอย น้ำตาคลอออกมาด้วยความอึดอัด ตีสะโพกสอบคนร้อนแรงที่เด้งเอาๆอย่างไม่สนใจใคร

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองก็ชอบ ยิ่งเวลาซิกแพคขึ้นตอนเกร็งยิ่งชอบ

"อ่า อ่า อ๊า" ถอนออกจากปากก่อนที่น้ำขาวขุ่นจะพ่นออกมา ฉีดพ่นลงบนหน้าคนที่หลับตาพริ้มรับความอุ่นร้อน เอาท่อนเนื้อตีแก้มไปสองสามทีก่อนกวาดน้ำบนหน้าเข้าปาก

"ชอบหรือไง"

"ก็อร่อยดี เพิ่งเคยกินน้ำครั้งแรก"

"กับก่อนหน้านี้ไม่เคย?" ดูคนตรงหน้าจะอึ้งเมื่อได้รู้ความจริง

"ให้ใส่ถุงตลอดหน่ะ"ผลักคนบนเตียงออก ไม่ใส่ใจสีหน้านั่นก่อนเดินไปที่ตู้เพื่อคว้าชุดคลุมอาบน้ำของทางโรงแรม

ก็แค่คืนเดียวที่ได้สนุกด้วยนั่น

นั่นถือเป็นความทรงจำที่ดีตอนหนึ่งของแทฮยอน ก็แค่นั้นเอง







เช้ามาแทฮยอนก็พบว่านอนอยู่คนเดียวบนเตียงของโรงแรม เขาตื่นสายโด่เนื่องจากบทรักเมื่อคืนมันหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะร้องโอดโอยออกมาเมื่อเหนื่อยขบไปทั้งตัว

ก่อนจะเดินไปเช็คเอ้าท์โรงแรม พบว่าอีกฝ่ายได้จ่ายเงินให้แล้ว

"ป๋าซะด้วยแฮะ" ยิ้มออกมาอย่างไม่คิดอะไรก่อนเดินทางกลับบ้าน

โชคดีทีเขาแยกออกมาอยู่คนเดียว เลยทำให้ไม่ต้องกลัวว่ามีใครรอที่ห้องแม้กลับช้า


แต่ก็ไม่ใช่ว่าดีเท่าไรนัก


การอยู่คนเดียวมันไม่ได้ดีขนาดนั้น

แต่เขาก็เชื่อใจใครไม่ได้เช่นกัน



ความเชื่อมั่น ความวางใจมันเป็นสิ่งที่น่ากลัว

พ่อและแม่ของเขาจากไป ทิ้งไว้เพียงมรดกเก่าแก่ที่ทำให้เขาอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้

ก็เพราะความไว้ใจจากคนสนิท


ที่สุดท้ายพอเสียชีวิตก็เฉดหัวเขาทิ้งให้ออกจากบ้านมาอยู่แบบนี้

นั่นเพราะเลือกที่จะไว้ใจ จนสุดท้ายกลับต้องตายและทิ้งเขาไว้เพียงลำพัง


เพราะฉะนั้น การเลือกที่จะเป็นอยู่แบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน

กลางวันเป็นนักศึกษาเรียบร้อยที่ผลการเรียนพอให้เขามีงานดีๆทำตอนเรียนจบ
กลางคืนเป็นนักท่องราตรีคว้าหาความสุขเพียงชั่วครั้งคราวแล้วก็จบลงบนเตียงนอน

มันไม่ได้เลวร้ายหรอก

เขาคิดเช่นนั้น

พราะเขาเองก็หมดศรัทธาไปนานแล้ว

ศรัทธาที่ชื่อว่าความรักและความไว้ใจ




เริ่มต้นวันจันทร์แสนน่าเบื่อสำหรับคนอื่น

แต่สำหรับแทฮยอนเอง มันไม่ได้เลวร้าย

ในเมื่อเลือกที่จะเรียนเอง นั่นหมายถึงว่าเขาเองต้องพอใจกับมัน

ไม่มีใครมาบังคับชีวิตเราได้ นอกจากตัวเราเอง



คลาสการสอนดูน่าเบื่อเพราะมีแต่ทฤษฎี แทฮยอนพยายามรับฟังถึงแม้จะง่วง มือขาวที่โผล่ออกมาจากสเวตเตอร์เล็กน้อยนั่นปัดผมสีน้ำตาลที่ใช้สเปย์พ่นมาเมื่อเช้า

ใบหน้าจืดชืดไม่มีสีสันอะไรที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นใหญ่ยิ่งไม่มีใครสน


ก็อย่างว่า


ทุกคนมีมุมเลือกปฏิบัติเสมอ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนมักเลือกมองที่หน้าตาเป็นอันดับแรก

เขาก็เป็น ทุกคนก็เป็น


ทุกคนมันจะมองเห็นความสำคัญของเขาเสมอเมื่อใกล้สอบ หรือมีกิจกรรมอะไรก็ตามที่ต้องระดมสมอง

แต่นอกจากนั้นก็เมินเฉย

เหมือนพอมีค่าทุกคนก็เข้ามา และจากไปเมื่อไร้ประโยชน์

แทฮยอนไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจอะไร ดีเสียอีกที่คนอื่นจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับเขามากจนเกินไป


ขยับแว่นที่ตกลงมาแทบปลายจมูก ตั้งใจขีดเขียนจนในที่สุด เสียงบอกเลิกคลาสก็จบลง

ผ่านไปอีกวันกับการเรียน

รวบกองหนังสือที่วางไว้ข้างกาย เพราะเวลาเรียนไม่ค่อยมีใครนั่งใกล้อยู่แล้ว หยิบมันใส่เป้ใบโตที่พกมา

คิดวางแผนที่จะไปห้องสมุดเพื่อค้นคว้าสิ่งที่คับข้องใจเพราะอาจารย์เองก็ออกไปก่อนที่เขาจะได้ถามเสียอีก

“คุณนัมแทฮยอน”

คิดไม่ทันขาดคำเสียงอาจารย์ที่ออกไปเมื่อครู่กลับเดินเข้ามายืนตรงหน้าเขา

“ครับอาจารย์”

“คือวันนี้เดียวคุณช่วยเข้าไปที่ห้องทำงานผมหน่อย งานวิจัยที่คุณมาปรึกษาผมทิ้งไว้ที่ห้องพัก ผมต้องขอโทษจริงๆที่ต้องรีบไปธุระ”

“ไม่เป็นไรครับ”ส่งยิ้มเล็กๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย “แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้ว ขอบคุณนะครับอาจารย์คิม”

“ผมบอกอาจารย์อีกท่านไว้แล้วหล่ะ คุณไปปรึกษาได้เลยนะ เขาจะรอคุณอยู่ที่ห้องพักผม”
อาจารย์ละออกก่อนที่เขาจะรีบสะพายกระเป๋าและเดินไปที่ห้องพักอาจารย์

เปิดประตูเข้าไปเพราะก่อนจะเบิกตากว้าง


โลกทำไมช่างกลมขนาดนี้


“อ้าวมาแล้วหรอคุณนัม”

แทฮยอนรีบปรับสีหน้าก่อนโค้งทักทาย

คนตรงหน้าใส่สูทดูดี รอยยิ้มกับดวงตาตี๋นั่นแทฮยอนจำได้

คนที่เขาเพิ่งเจอเมื่อสองวันก่อน

แต่ดูอีกฝ่ายจะจำเขาไม่ได้หรอก แทฮยอนค่อนข้างมั่นใจ...อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง

“ผมชื่ออีซึงฮุน เรียกซึงฮุนก็ได้ หลังจากนี้ผมจะเป็นที่ปรึกษาให้คุณ”

แทอยอนตกใจนิดหน่อย แน่สิ ก็อาจารย์คิมไม่ได้บอกเขาแบบนี้นี่

“แล้วอาจารย์คิม...”

“อาจารย์คิมติดธุระต้องลาพักยาว  คงไม่สะดวกที่จะให้คำปรึกษาคุณได้ แล้วผมก็ได้อ่านวิจัยคุณแล้ว มันน่าสนใจมาก ผมเลยขอรับช่วงต่อเอง”

แทฮยอนอยากปฏิเสธคนตรงหน้า

แต่สถานการณ์มัดมือชกเหลือเกิน

แทฮยอนทำอะไรไม่ได้

“ครับ”



หลังจากวันนั้นชีวิตของแทฮยอนก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกระวังตัวมากกว่าเดิมเพราะกลัวอีกฝ่ายจะจำได้


อีซึงฮุนไม่ใช่เล่นๆเลยแม้แต่น้อย

เขาเป็นที่ปรึกษาที่ดี ดีมากจริงๆ มีหลายครั้งที่เรามักปรึกษางานกันจนเลยเวลา ด้วยเนื้อหาที่ทำให้ต่อยอดและอีซึงฮุนเองก็เป็นคนที่มีความรู้รอบด้าน

แทฮยอนยอมรับว่าเขาสนิทกับอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย

เพราะความเป็นมิตรและพุดคุยในเรื่องเดียวกันได้

ทำให้เขาเผลอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวไปบ้าง แต่ก็แค่บางส่วนเท่านั้น ซึงฮุนไม่ได้วิพากษ์อะไรเขา กลับกลายเป็นให้กำลังใจและบอกให้เขาสู้ต่อ


ซึ่งนั่นทำให้แทฮยอนวางใจ
และทำให้แทฮยอนกลัวเช่นกัน

เขารู้ดีว่าการที่มีคนที่พุดคุยกันได้จนถึงป่านนี้ มันทำให้โลกที่เขาเองสร้างมากำลังถูกบุกรุก

พื้นที่ที่เขาก่อกำแพงหนาและสูงชันกำลังถูกพังทลายด้วยผู้ชายคนนี้

สิ่งที่เรียกว่าความไว้ใจกำลังครอบงำเขา...เพราะอีซึงฮุน


“แทฮยอน”

“ครับ”

แทฮยอนเงยหน้ามองอีซึงฮุนที่เดินเข้ามาหาเขา นักศึกษาหลายคนมองมาที่เขา ถึงจะมีบางส่วนกลับไปแล้วก็ตาม

แทฮยอนไม่ชอบ และไม่คิดที่จะชิน

เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นมาแผ่วเบา แต่คิดหรอว่าคนอย่างเขาจะไม่รู้

ข่าวลือที่ว่าเขาเข้าหาอาจารย์ซึงฮุนเพื่อเอาตัวแลกงานวิจัย...

เหอะ

ตลกสิ้นดี

“คือผมจะบอกว่า วันนี้ผมไม่สะดวก ถ้ายังไงคุณกลับได้เลยนะ”

“ครับ” แทฮยอนแค่ขานรับ อีกฝ่ายส่งยิ้มก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวเขา และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ใจเขาสั่นไหว



เขาคิดว่าอีซึงฮุนเป็นคนอ่อนโยนตั้งแต่เจอกันครั้งแรก

และใช่

อีซึงฮุนเป็นคนที่อ่อนโยนมากจริงๆ แต่เป็นความอ่อนโยนที่มีไปทั่ว

เหมือนอากาศ

รู้สึกแต่ไม่มีทางจับสัมผัสได้

เขาถอนหายใจเพราะคนอื่นยังมองมา


มันน่าอึดอัด และน่าเบื่อมาก


แทฮยอนรีบเดินออกจากห้องเรียน เขาไม่ชอบทีเรื่องราวมันกลายเป็นแบบนี้เท่าไร

หลายคนอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่มันก็มีหลายคนที่คิด

ถึงตัวเขาจะไม่ค่อยได้สนใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก



ปลดเสื้อผ้าเพื่อดับความร้อนรุ่มในใจ น้ำเย็นเปิดเต็มแรงหวังให้หายกลับไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยแม้แต่น้อย

เขาจะออกเที่ยว

ยอมรับว่าตั้งแต่มีอะไรกับอีซึงฮุน นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองเดือนที่เขาร้างราเรื่องนี้ไป

อย่างน้อยเขาก็ขอระบายกับค่ำคืนนี้บ้าง

เขาหวังแค่นี้จริงๆ....




แทฮยอนหอบหายใจเมื่อถอนจูบออก

ความมัวเมาจากเหล้าที่ยังไหลเวียนในกระแสเลือดทำให้สติไม่มีมากพอที่จะขัดขืนชายหนุ่มผิวสีแทนตรงหน้า

ขาของอีกฝ่ายสอดมาก่อนยีนส์สีเข้มจะเสียดสีกับสกินนี่สีดำที่แทฮยอนใส่มาจนร่างกายวูบวาบไปหมด

มันเร่าร้อนและเร่งเร้าตามอารมณ์

แต่ภายในใจกลับไม่ได้มีอารมณ์ร่วมขนาดนั้น

“พอเถอะจีวอน ผมไม่มีอารมณ์จริงๆวันนี้”ผละหน้าออกมาก่อนจะสะบัดหัวเบาๆเชิงไม่ไหว คู่ขาตรงหน้าดูจะหงุดหงิดไม่น้อย

“ทำไมหล่ะแทฮยอน”

“ไม่มีก็คือไม่มี”

“แต่พี่มีนะ”

“พี่ ผมไม่เล่นด้วย” แทฮยอนพยายามสะบัดมือออก เดินหนีแต่กลับถูกอีกฝ่ายดันจนชิดกำแพง พยายามตีอกเมื่อริมฝีปากระดมปล้ำจูบ

เขารังเกียจสัมผัสนี้

นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน

“อีกคนไม่เล่นด้วยก็อย่าไปทำดีกว่าไหมจีวอนอา” เสียงนุ่มเอ่ยก่อนจะชากแทฮยอนจนเซไปซบอก

“แต่พี่” เสียงจีวอนแว่วๆมา แทฮยอนจับใจความไม่ได้ ฤทธิ์แอลกอฮอล์มีมากกินทำให้เขาประคองสติอยู่ได้อีกต่อไป

“แทอยอนเป็นของพี่ พี่ขอนะจีวอน...”


ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป







รู้สึกได้ถึงอะไรเย็นๆที่สัมผัสเข้าที่ต้นคอ แทฮยอนเบี่ยงหน้าหนีด้วยความรำคาญใจ ก่อนจะ

สะดุ้งเฮือกลุกขึ้นนั่งแทบในทันที

ห้องคุ้นๆ

เหมือนกับครั้งนั้น

แทฮยอนหันไปมองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ข้างๆที่ถือผ้าชุบน้ำค้างไว้ รอยยิ้มละมุนส่งมาทำให้ใบหน้าร้อนผ่าว

“ตื่นแล้วหรอคุณ เจอกันอีกแล้วนะ”
ยิ้มจนดวงตาปิด แทฮยอนเบือนหน้าหนี พยายามลงจากที่นอนก่อนจะชะงัก

“ไม่ใช่คุณสิ เจอกันอีกแล้วนะแทฮยอน”

“รู้...”

“อืม รู้ตั้งแต่เจอที่มหาลัยแล้ว”


แทฮยอนตกใจ แต่อีกฝ่ายแค่ยิ้มกลับมา

“นายหนีไม่พ้นแล้วหล่ะแทฮยอน”

“...”



หัวใจสั่นรัวแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



“ผมจะไม่ยอมให้เรื่องของเรามันเป็นแค่เรื่องข้ามคืนอีกต่อไปแล้ว”

“...”

“ถึงจะเริ่มต้นกันไม่ดีเท่าไร...แต่เป็นแฟนกันนะแทฮยอน”


เหมือนลมหายใจถูกกระชากออกไป พร้องกับความกังวลที่มีมาตลอด


“ผะ...ผม”

“ไม่ต้องรีบตอบก็ได้ แต่พี่จะรอเรานะ”

“ผมไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น”

“พี่ก็รู้...แต่พี่ก็อดรู้สึกไม่ได้”

“...”


“เปิดใจให้กันได้ไหม”

แทฮยอนเบือนหน้าหนี มือกุมใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตนเอง

นี่เป็นครั้งแรกที่มีใครมาพูดอะไรอ่อนโยนกับเขาแบบนี้

ทั้งน้ำเสียงนุ่ม ทั้งมือที่ลูบแขนแผ่วเบา

แทฮยอนรับรู้ถึงความจริงใจที่อีกฝ่ายมีมาให้

ทั้งครั้งนี้ และตลอดมาที่อีกฝ่ายคุยกับเขา


แทฮยอนอึกอัก


มันไม่ใช่เรื่องง่ายกับการจะเปิดใจให้ใครสักคน

แทฮยอนไม่ตอบอะไร ก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ขอเวลา...ขอเวลา”

อีซึงฮุนเงียบมองอีกฝ่าย

ถ้าเปิดใจเมื่อไร ผมจะบอกเอง”


นี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่แทฮยอนคิดออกแล้ว





หลังจากวันนั้นแทฮยอนก็ไม่ได้เจออีซึงฮุนอีกเลย

อาจารย์คิมกลับมาแล้ว และกลับมารับผิดชอบงานวิจัยของเขาต่อ

“คุณนัมแทฮยอน เดียววันนี้คุณเอางานไปทำได้เลยนะ”

“ครับ” เงยหน้าตอบรับอีกฝ่ายเหมือนเช่นเคย แต่ต่างกันตรงครั้งนี้อาจารย์คิมไม่ได้มาแค่พูดเรื่องงาน

“ผมคุณสวยดีนะ เหมาะกับคุณดี”

“ออ...ขอบคุณครับ”

ยิ้มให้คนตรงหน้าที่เอ่ยชมผมบลอนด์ทองของเขา


ขาเลิกใส่แว่นและพ่นผมเป็นสีน้ำตาลแล้ว

เขาคิดว่าถ้าลองปรับเปลี่ยนตัวเอง ทั้งรูปลักษณ์และทัศนคติอาจทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปก็ได้

แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดอยู่ดี

เพราะคนที่เขาเปิดใจกลับหายไปแล้ว

หายไปดั่งค่ำคืนแรกที่เจอกัน

“มาพูดแล้วจากไป เป็นคนยังไงกันแน่นะอีซึงฮุน”

บ่นพึมพำก่อนเปิดประตูห้องพักเข้าไป

และเหมือนครั้งแรก

เขาตกใจที่เห็นอีกฝ่ายยืนรออยู่ที่ห้องพัก

“พี่มาเอาคำตอบจากนัมแทฮยอนครับ”

พร้อมรอยยิ้มที่หลุดออกมา

ทั้งเขาและอีซึงฮุนต่างยิ้มออกมา

“น่าจะรู้คำตอบตั้งนานแล้วนะอีซึงฮุน”

กอดตอบอีกฝ่ายแผ่วเบา

“พี่รักแทฮยอนนะ”

“ผมก็รักซึงฮุน ห้ามหาย ห้ามหนีไปจากผมด้วย”






#HOONNAM #ALLBBHN