[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon
story : But I… [7]
วันนี้ผมกลับห้องช้ากว่าปกตินิดหน่อย
คงเป็นเพราะเจอเพื่อนสนิทอย่างจินฮวานด้วย
แถมได้ฟังเรื่องน่าช็อคมาอีกต่างหาก
“ตอนนี้ซึงยุนคบกับพี่ซึงฮุนอยู่หรอ”
“ห๊ะ นะ นายรู้ได้ยังไงอ่ะจิน”
“คิกคิก พี่ซึงฮุนเขาออกจะดังน่าซึงยุน
นายนี่ไม่รู้จักชื่อเสียงแฟนตัวเองเอาซะเลยนะ”
“คือเอาตามตรงนะจิน ฉันเพิ่งตกลงคบกันเมื่อวานเอง”
“จริงหรอ แล้วอย่างนี้พี่เขาไม่รอนายที่คณะหรอ”
“ไม่รู้สิ เฮ้ แล้วนายทำไมรู้ดีขนาดนี้ห๊ะ แอบชอบพี่เขาหรอ”
“บ้าสิ อย่ามาหึงแม้กระทั่งฉันเชียวนะ ก็พี่ซึงฮุนเขาเคยคบกับพี่จินวูรุ่นพี่คณะฉันนี่
เห็นมารับมาส่งตลอดเลย คนอะไรหวานมากกกก...”
“....”
“นี่ฉันไม่น่าเล่าใช่ไหมเนี่ย เอาน่าเขาก็เป็นแค่อดีตไปแล้วนี่
อย่าคิดมากเลย”
“เหอะ อดีตกำลังจะกลับมาละสิไม่ว่า”
“นายก็พูดไปเรื่อย”จินฮวานก้มมองนาฬิกาก่อนจะตกใจ “เฮ้ย
เดียวฉันกลับบ้านก่อนดีกว่า ดีใจที่ได้เจอนายนะ เดียวมื้อนี้ฉันเลี้ยงนายเอง”
“บ้า เกรงใจนายน่า”
“เกรงใจไร เพื่อนกัน ว่างๆและมาหาที่คณะได้ตลอดเลยนะ
เดียวฉันขอไลน์หน่อย”
พูดคุยก่อนแลกช่องทางสื่อสารแล้วจินฮวานก็ลุกออกไป
ปล่อยให้ซึงยุนยังคงนั่งอยู่เงียบๆ
อาหารตรงหน้าพร่องไปได้เพียงแค่นิดเดียวเองเท่านั้น
ซึงยุนถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจออกจากร้านไป
ถ้ารู้ว่ามีความรักแล้วมันจะเป็นแบบนี้ ไม่น่ามีเลยว่ะ
บ่นกับตัวเองในใจก่อนจะโทรหาแทฮยอน รอสายไม่นานก็รับ
“ย่าห์ แทฮยอน มึงอยู่ไหน”
“กูก็อยู่ห้องไง มึงนี่พูดแปลก”ปลายสายตอบมาเสียงงัวเงีย ไอ้นี่
นี่เพิ่งสามทุ่มปะ
“กูจะชวนมึงไปร้านเหล้า ไปไหม”
“...พี่ไม่ให้ไป”
ผมเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เสียงทุ้มต่ำ นี่มันมินโฮหรอ
“พี่ไปอยู่กับไอ้แทฮยอนได้ไง”
“...”
“ไม่ตอบวะ”
“ก็ไม่ให้ไปไง เฮ้ย แทฮยอน”เสียงในสายตะกุกตะกักก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเสียงแทฮยอนอีกครั้ง
“มึงเป็นอะไรซึงยุน บอกกูดิ”
“กูเหนื่อย กูอยากกินเหล้ากับมึง แต่ถ้าแฟนมึงไม่ให้มามึงก็ไม่ต้องมา
กูนอนนอกวันนี้ กกกันไปเลย”
“อ้าว..ไอ้เห”
ผมตัดสายก่อนจะยัดโทรศัพท์ในกางเกง
ผมกำลังพาล
ผมกำลังหงุดหงิด
ผมรู้ดี...
เดินดุ่มๆไปรอรถก่อนจะหยุดเดิน
เหมือนมีคนเดินตาม
...ไอ้เหี้ย โจรหรอ
คิดในใจด้วยความหวาดระแวง
ลำพังไอ้ของมีค่าที่มีติดตัวตอนนี้นี่น้อยมากด้วยเหอะ จะมาเอาอะไรจากกูวะ
รีบสาวเท้าอย่างรวดเร็ว ท่องในใจว่าไม่ไกล ไม่ไกลแล้วจะถึงที่รอรถ
เหมือนมีเสียงฝีเท้าไล่หลังเร็วขึ้นกว่าเมื่อครู่อีก
ไอ้...
วิ่งละทีนี่อ่ะ
ผมเริ่มออกวิ่งเพื่อไปตรงซอยลัดด้านหน้า
ถึงมันจะเป็นซอยที่ไม่ค่อยมีคนผ่าน แถมมีบ้านน้อยมาก
แต่มันก็ทำให้ผมมั่นใจว่าซอยแคบๆนี้จะทำให้ผมไปถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
ทำไมเหมือนวันนี้เวลามันเดินช้าจังวะ
เสียงคนวิ่งตามหลังผมเริ่มดังขึ้นเรื่อย
“อะ แฮ่กๆ”ผมเริ่มหอบหายใจ
ไอ้เหี้ย
ถ้ากูเป็นไรไป
พี่ซึงฮุน...
จู่ๆมือด้านหลังก็คว้าแขนผมอย่างรวดเร็ว
ใจผมกระตุกอย่างน่ากลัวก่อนที่จะนึกถึงหน้าคนที่เพิ่งตื่นมาเจอเมื่อวาน
“ไอ้เหี้ย มึงใครวะ” ผมเหวี่ยงหมัดเพื่อจะต่อยคนที่จับข้อมือผมก่อนที่จะถูกรั้งไว้
“อะ หยุดน่า”
“พะ...พี่ซึงฮุน”ผมตกใจ น้ำตาเผลอคลอออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
เมื่อครู่ผมกลัว กลัวมาก
“พี่เองซึงยุน”
“ไอ้บ้าเอ้ย มาทำไมตอนนี้วะ”ผมสลัดมือออกก่อนจะปาดน้ำตาออกลวกๆ
ทั้งโล่งใจ ทั้งโมโหปนกันไป
“ทำไม เป็นอะไร”
เหี้ยเอ้ย กูก็ร้องไห้ไง
อยากตอบแบบนี้กลับ แต่ยังพอเกรงใจอีกฝ่ายที่โตกว่าเขาอยู่
“ไม่มีอะไร ตามมาทำไม”
“ตามคนไม่รอให้ไปรับไง” อีกฝ่ายหน้าบูดก่อนจะรั้งมือ “จะไปไหน จะไปส่ง”
“ปล่อยดิวะคุณ”
“ทำไมเรียกแบบนั้นซึงยุน”
ซึงฮุนชะงักก่อนจะหันมามองซึงยุนที่วันนี้พยศเกินเหตุ
แถมสายตาที่มองมายังดูมีความผิดหวัง เสียใจเจือปนอยู่ราวกับมีคำถามที่ค้างคาในใจ
“เปล่า มาทำไม ไม่อยากเจอหน้า”
“ไม่อยากเจอจริงดิ...”
“...”
“จะไปหาไอ้เตี้ยนั่นหรือไง”
“หมายถึงใครวะ”ซึงยุนเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่ตอนนี้ปล่อยมือเขาแล้ว
สายตาขุ่นข้องใจนั่นมองมาอย่างปิดไม่มิด
“ก็ไอ้คนที่เดินมาหากินอะไร...”
“ก็แค่เพื่อนเปล่าวะ แม่งก้าวก่ายว่ะ”
“เราก้าวร้าวนะซึงยุน”
ซึงยุนเม้มปากแน่น ในใจมีคำสบถด่ามากมายที่อยากพูดออกมา
แต่รู้ตัวว่าพูดไม่ได้อยู่ดี
แม่งเอ้ย ก็คุยกับเพื่อนเปล่าวะ
ไม่เคยถามกันสักคำ
“นี่คือคนที่คบกันวันแรกเปล่า”
“...”
“แม่งไม่เชื่อใจกันแบบนี้มันไปไม่รอดหรอกว่ะ”
เดินออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
อึดอัด
รู้ตัวว่าถ้าอยู่ บรรดาสรรพสัตว์ได้ออกมาจากปากแน่
ถ้าเริ่มต้นมันไปไม่รอด ก็พอตั้งแต่ตอนแรกดีกว่าไหม
ผมกระดกเหล้าเป็นแก้วที่สามตั้งแต่เข้ามาที่นี่
ที่ที่ผมมาเมื่อคืนก่อนหน้านี้นี่แหละ
ปกติผมเป็นคนคออ่อนมาก มาทีไรก็มากับไอ้แทอยอน...
นึกถึงแทฮยอนแล้วหงุดหงิดกว่าเดิมอีก
ซดเหล้าเหมือนน้ำเปล่า
บาร์เทนเดอร์หน้าตาคุ้นๆนั่นส่งยิ้มให้ผมน้อยๆก่อนส่งเหล้าให้อีกแล้ว
“ไม่ได้สั่ง...”
“คนตรงโน้นให้มาครับ”
ผมหันไปมองตามมือ เห็นอีกคนส่งยิ้มมาให้
ฟันเด่นๆแถมเหยินออกมาสองซี่ขนาดนี้...
แม่งคุ้นๆวะ
“อ่า น้องยุนอ่า มาคนเดียวหรอจ๊ะวันนี้” ชัดเลย
“ไอ้ปากหมาหมายเลขสอง”
“พูดไรงี้อ่า ปากห้อยไม่พอยังด่าเก่งอีก”ยื่นมือมาหยิกแก้มผมจนผมต้องยกมือปัดออก
“ไอ้...อึก แม่งมาได้ไงวะ”
“พี่ก็มาเที่ยวปกติแหละ...ว่าแต่ แฟนไม่มาหรอ”
“ใครแฟน แฟนไรไม่มี”ผมรู้สึกเสียงงัวเงียมากเวลาตอบ
สงสัยเหล้าแรงมากจริงๆ
“อ่าๆๆพี่ซึงฮุนหล่ะ”
“แม่งกูตัวติดกันหรอวะ?” เอาละ ยอมรับว่ามึนๆ รู้สึกพูดไม่ดีเลยให้ตายเหอะ “โอ้ย ปวดหัวชิบ”
ผมฟุบหน้าลงกับเค้าท์เตอร์เพราะไม่อยากพูดกับไอ้เหยินนี่
นานเท่าไรไม่รู้ก่อนที่จะรู้สึกว่ามีแขนใครสักคนมาหิ้ว
ผมไม่รู้ว่าใคร..
“เมิงงง จาอาวกูปายหนายว้าาาา “ผมพูดเสียงยานคาง
รู้สึกมืออุ่นๆด้วยเพราะเหมือนจะมีอะไรมาครอบมือก็ไม่รู้
ได้ยินเสียงตอบมา แต่มันเหมือนไกลเหลือเกินสำหรับผม
เออวะ
ช่างแม่ง
ใครจะเอากูไปทำอะไรก็ไปเหอะ
ยังไงก็ไม่มีใครสนใจกูแล้ว
“ไอ้เหี้ยแทฮยอนนนน ถ้าเมิงม่ายมาง้อกู..อึก ภายในอา...นี้นะมึง”ผมบ่นงืมงำหนักก่อนจะพูดไปเรื่อย
“ไอ้ห่าาาา”
“...”
“เมิงงี่ง่าววว ซึงยูนน”
“...”
“คายจะโทนเมิงได้ว้า”
“...”
“ไอ้พี่ซึงฮุนบ้า”
“ฮึก”
“กูน้อยจายยย น้อยจายโว้ยยย”ผมถีบขาไปมาก่อนจะเริ่มโว้ยวายหนักๆจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้
“ไอ้พี่บ้า...กูร้ากกกเมิงน้าเว้ยยย มาง้อกูด้วยย”
.
.
.
.
.
.
.
“พี่ก็รักเรานะซึงยุนอา”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น