BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

[OS] Lee Seunghoon X Kang Seungyoon : Follow

[OS] Lee Seunghoon X Kang Seungyoon



Story : Follow






Didn't I seem like I'm catching something.


That's because it's true


I can't deny it, and I won't try it but I think that you know


I look around and everything I see is beautiful 'cause all I see is you


And I can't deny it and I stand by it, and I won't hide it anymore...




อาจจะดูเหมือนฉันไล่ตามอะไรสักอย่าง


เพราะมันเป็นความจริงอย่างไรหล่ะ


ฉันปฏิเสธไม่ได้เลย และจะไม่พยายามด้วย แต่ฉันคิดว่าเธอรู้นะ


ฉันมองไปรอบๆและทุกอย่างที่ฉันเห็นมันช่างสวยงาม เพราะฉันเห็นแค่เธอ


และฉันจะไม่ปฏิเสธเลยนะ ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ และจะไม่ปิดบังมันอีกต่อไป....













“ทั้งหมดสี่พันแปดร้อยวอนครับ”


ซึงฮุนจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน แลปท็อปเครื่องโปรดถูกวางตั้งไว้ที่โต๊ะหลังจากที่ซึงฮุนเลือกมุมที่ผู้คนจะเดินผ่านน้อยที่สุดก่อนจะหยิบกล้องโปรตัวโปรดที่อุตส่าห์ใช้น้ำพักน้ำแรงเก็บหอมรอมริบถอยมันออกมาเองออกมาจากกระเป๋า ทอดสายตาออกนอกหน้าต่างเพื่อมองด้านตรงข้ามถนนและยกยิ้ม

ซึงฮุนชอบที่จะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เป็นงานอดิเรกเล็กน้อยหลังจากได้มีโอกาสพักผ่อน หลายคนอาจจะมองว่าหากมีโอกาสได้หยุดทั้งทีคงเลือกที่จะไปไกลๆ แต่สำหรับคนที่เป็นหมอแบบซึงฮุนไม่ได้มีตัวเลือกมากมายขนาดนั้น เพียงวันหยุดแค่วันสองวันที่แลกมากับการที่ต้องขึ้นเวรติดๆกันมันช่างเหนื่อยเหลือเกิน


เหนื่อย...จนชีวิตของคนที่ต้องเอาแต่ดูแลคนอื่นอยากได้ใครสักคนดูแลตัวเองบ้าง

นั่งหลับตาผ่อนคลายความเมื่อยล้า ซึงฮุนมีเวลาสามวันสองคืนสำหรับวันหยุดครั้งนี้



กาแฟกรุ่นถูกวางไว้ที่ด้านหน้า ซึงฮุนยิ้มขอบคุณพนักงานเสิร์ฟก่อนจะทอดสายตามองไปที่ด้านตรงข้ามถนน วันนี้เป็นวันที่อากาศสดใสสมกับเป็นวันหยุดของซึงฮุน อะไรๆก็ดูจะเป็นใจแก่การพักผ่อน ก่อนจะละสายตากลับมามองแลปท็อปที่นิ่งค้างมานาน  มือกดเข้าอินสตราแกรมก่อนจะเลือกรูปถ่ายที่กดส่งจากกล้องถ่ายรูปเมื่อครู่ เป็นรูปวิวร้านน่ารักๆที่นี่และไม่ได้ระบุแคปชั่นเช่นทุกครั้งที่อัพโหลด คนที่ฟอลโลวต่างเริ่มกดหัวใจให้ภาพของเขา ซึงฮุนยิ้มก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง

ร้านค้าตรงข้ามกำลังเปิดทำให้ซึงฮุนมองมันด้วยความสนใจ มันเป็นร้านดอกไม้และสวนขวดที่มีการตกแต่งร้านน่ารักพอดูจากการสังเกตภายนอก ซึงฮุนเผลอเกาศีรษะเพราะนิสัยช่างสังเกตของตนเองตามประสาที่คนที่ทำงานสายสุขภาพแบบนี้


นอกจากบทบาทการเป็นหมอที่ซึงฮุนทำเป็นงานประจำ งานอดิเรกก็คือการปลูกต้นไม้นี่แหละ


แต่อย่างที่รู้กันว่าหมอนั้นแทบไม่มีเวลาเท่าไร เมื่อซื้อเจ้าต้นไม้มาได้ไม่นานเท่าไรนักก็มักจะมีอาการเหี่ยวเฉา กว่าจะรู้ตัวเอีกทีก็แห้งเฉาไปแล้ว


น่าตลกดีเหมือนกัน ทำงานเป็นถึงวิชาชีพที่รักษาชีวิตผู้คนมาก็หลายปี แต่ไม่สามารถรักษาต้นไม้ได้สักที


มองไปก่อนจะตั้งมั่นว่าหากดื่มกาแฟหอมกรุ่นนี่หมดจะเดินไปที่ร้านต้นไม้นั่นสักหน่อย


เหมือนคนที่เจ็บแล้วไม่รู้จักจำนะ คุณว่าไหม






ซึงฮุนยืนดูต้นไม้บริเวณนอกร้านก่อนจะยกยิ้ม ความสวยงามและสีสันที่สดใสทำให้อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปมันไว้ การตกแต่งร้านแบบอบอุ่นทำให้ซึงฮุนรู้สึกผ่อนคลาย มันเป็นเรื่องปกติที่คนที่ชอบต้นไม้มากๆจะอยากดื่มด่ำกับมัน ซึงฮุนไม่ลังเลสักนิดที่จะก้าวเข้าไปในร้าน เสียงกระดิ่งดังขึ้นก่อนที่ซึงฮุนจะมองซ้ายขวา ในร้านมีเพียงซึงฮุนกับอีกคนที่กำลังจัดกระถางอยู่ อีกฝ่ายไม่ได้หันกลับมาแต่เอ่ยออกมาเสียงใส


“สวัสดีครับ เลือกดูก่อนได้เลยนะครับ”


เอ่ยออกมาทั้งที่ไม่ได้มองหน้าซึงฮุนแม้แต่น้อย ก็เป็นอะไรที่แปลกดี ซึ่งซึงฮุนไม่ใช่คนที่จะติดใจอะไรกับเรื่องแบบนี้จึงเดินดูตามชั้นวางต่างๆ ต้นไม้มีทั้งขนาดเล็กเท่าฝ่ามือไปจนกระทั้งใหญ่เท่ากับถังน้ำ ซึงฮุนเดินดูไปก่อนจะยกกล้องถ่ายรูปไปด้วย ก่อนจะหยุดสายตาที่โซนสวนขวดที่น่ารักมากๆ โซนนี้ดูจะเป็นอะไรที่อบอุ่น งานที่สร้างขึ้นดูประณีตจนเผลอพินิจไปหลายนาที


“ชอบน้องหรอครับ”

“หือ”


ซึงฮุนสะดุ้งหน่อยๆก่อนจะหันไปมองคนที่เอ่ยขึ้น สิ่งที่สะดุดเป็นอย่างแรกคือกลุ่มผมสีน้ำตาลที่หยักศกเล็กน้อย และรอยยิ้มที่เผยออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม เล่นเอาซึงฮุนไปไม่เป็นครู่หนึ่งเลยทีเดียว


“คะ...ครับ”


อีกฝ่ายหัวเราะน้อยๆก่อนจะผายมือไปที่สวนขวด


“สนใจรับน้องไปดูแลไหมครับ เลี้ยงไม่ยากหรอกนะ ผมเลี้ยงน้องมาน้องไม่เคยป่วยเลย”

“คุณหมายถึงต้นไม้หรอครับ”

“ใช่ครับ” อีกฝ่ายยิ้มก่อนจะลดมือลง “ผมเป็นเจ้าของร้านครับ หากสนใจน้องต้นไหนหรือว่าต้องการสอบถาม ถามผมได้นะครับ”


อีกฝ่ายหมายถึงต้นไม้นี่เอง

ซึงฮุนคลายความสงสัยในใจก่อนจะยิ้มออกมาหลังจากอีกฝ่ายขออนุญาตไปด้านหลังร้าน

คุณเจ้าของร้านที่เรียกต้นไม้ว่าน้อง

เป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่ารักไปอีกแบบ

ซึงฮุนหยุดยิ้มก่อนจะเดินต่อ ร้านค่อนข้างกว้างทำให้ใช้เวลานานพอสมควรในการเลือกซื้อ ก่อนที่ซึงฮุนจะตัดสินใจหยิบต้นฟอร์เก็ตมีนอทต้นเล็กมา จะเพราะความหมายดีๆของมันหรืออะไรก็ตามแต่ ซึงฮุนเดินไปที่เคาท์เตอร์ก่อนจะส่งให้อีกฝ่ายที่ยืนจัดต้นไม้อยู่


“รอสักครู่นะครับ”

อีกฝ่ายยิ้มก่อนจะย้ายกระถางให้ซึงฮุน ท่วงท่าที่ดูใส่ใจทำให้ซึงฮุนรู้สึกเหมือนได้รับการรักษาชอบกล แม้มันจะไม่ใช่การรักษาทางกายแบบที่ซึงฮุนทำเพราะตัวซึงฮุนไม่ได้มีบาดแผลอะไร น่าจะเรียกว่าเป็นการเยียวยาจิตใจมากกว่า เรียกแบบนั้นท่าจะไม่ผิดเท่าไรนัก อีกฝ่ายเล่นน่ารักแถมฮัมเพลงเล็กๆตอนทำอีกต่างหาก ใครจะอดใจไหวกัน

“พยายามอย่าให้น้องอยู่ในที่ที่มีแสงแดดมากนะครับ น้องบอบบางกับแสงแดดมากๆ ถ้าเป็นไปได้ปลูกไว้ในที่ร่มๆสักหน่อยท่าจะดี หรือถ้าคุณอยู่คอนโดให้น้องออกมารับแดดช่วงเช้าตรู่หรือไม่ก็ตอนเย็นก็ดี....”

“นี่ คุณเจ้าของร้าน”

“ครับ” อีกฝ่ายตอบรับแม้สายตาจะไม่ได้ละจากเจ้าต้นไม้เล็กๆในมือ ซึงฮุนชักรู้สึกอิจฉาหน่อยๆที่ต้นไม้ได้รับการใส่ใจที่แสนอ่อนโยนนั่นเสียแล้ว

“คุณดูจะรักต้นไม้มากๆเลยนะครับ ดูแลดีจัง”

“แน่นอนสิครับ น้องๆน่ารักมาก ผมรักต้นไม้มา---”

“แล้วถ้าผมอยากได้รับความรักแบบนั้นบ้าง ผมต้องเป็นต้นไม้ไหมครับคุณเจ้าของร้าน”

อีกฝ่ายดูจะอึ้งไป พอๆกับซึงฮุนที่เพิ่งนึกได้ว่าพูดอะไรออกไป ซึงฮุนเผลอไขว้มือที่ด้านหลัง ก่อนที่ดวงตากลมของคุณเจ้าของร้านจะได้ฤกษ์ละสายตาออกจากต้นไม้จริงๆเสียที

“คุณตลกจังเลย”

อีกฝ่ายยิ้มแผละออกมาน่าเอ็นดูจนซึงฮุนอดจะยิ้มตามไม่ได้

“หะหะหะ”

“แต่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นต้นไม้หรอกนะ ถ้าคุณจะจีบผม ถึงผมจะชอบน้องๆมากแค่ไหนแต่ผมก็ต้องการแฟนที่เป็นคนมากกว่า”

อีกฝ่ายตอบรับก่อนที่จะส่งกระถางต้นไม้ที่บรรจุเรียบร้อยก่อนจะฉีกรอยยิ้มสวย

เล่นเอาซึงฮุนอยากจะกลับมาที่ร้านเสียทุกวันเพราะตกหลุมรักความน่ารักของอีกฝ่ายเต็มๆเสียแล้ว

“โอกาสหน้ามาอุดหนุนใหม่นะครับ”

แน่นอนว่าซึงฮุนคงได้เริ่มชีวิตของคุณหมอแบบไม่เดียวดายอีกต่อไปหลังพักร้อน

...ได้คุณเจ้าของร้านต้นไม้มาดูแลหัวใจที่เหี่ยวเฉาของคุณหมอคนนี้ ดูท่าจะเป็นความคิดที่ดีไม่น้อยเชียวหล่ะ : )




ซึงฮุนกลับคอนโดด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมใจ ก่อนจะออกจากร้านเขาได้ถามอีกฝ่ายว่าชื่ออะไรและจะเป็นไปได้ไหมว่าจะขอช่องทางการติดต่อกับอีกฝ่ายซึ่งดูจะอึ้งไปก่อนจะยกยิ้มพร้อมตอบเสียงใส

“คุณลูกค้าอยากรู้ชื่อของผมหรอ จะเอาไปทำอะไรหรอครับ”

“ผมแค่อยากรู้ เผื่อว่าต้นไม้ผมมีปัญหา”

ต้นไม้งั้นหรอ น่าตลกสิ้นดีกับข้ออ้างสิ้นคิดที่เผลอพูดออกไป ซึงอีกฝ่ายก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะยกยิ้มกลับ

“ผมชื่อซึงยุนครับ ส่วนช่องทางติดต่อ ผมอยู่ที่ร้านนี้ทุกวันที่ร้านเปิดอยู่แล้ว ถ้ามีปัญหาไม่ต้องกลัวหรอกครับ พาน้องมาที่ร้านก็พอ”

อีกฝ่ายตอบมาแบบนั้น เรื่องที่จะคุยผ่านช่องทางออนไลน์เลยต้องพับเก็บไป ซึ่งซึงฮุนก็ไม่ได้รู้สึกโทษอะไร มันออกจะแปลกด้วยซ้ำหากอีกฝ่ายจะให้มาง่ายๆทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก

แบบนี้ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี

สรุปวันหยุดวันแรก คือการที่ซึงฮุนต้องมานั่งเพ้อถึงคุณเจ้าของร้านต้นไม้ที่น่ารักคนนั้นแทน

ซึงฮุนวางต้นไม้ไว้ที่โต๊ะรวมกับต้นไม้ต้นอื่นที่เคยซื้อมา กดถ่ายรูปก่อนจะอัพเดทลงในอินสตราแกรมของตนเองอีกครั้ง

Forget me not is mean I’ll never forget you ---- 20xxxxxx



โอกาสเกิดได้ทุกเวลา แต่ถ้ามัวรออาจไม่ช่วยให้อะไรเกิดขึ้น

เพราะฉะนั้น วันหยุดวันที่สองของคุณหมอซึงฮุนจึงมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านดอกไม้เมื่อวาน

ซึงฮุนเดินวนอยู่หน้าร้านร่วมหลายนาที ใจหนึ่งอยากจะเข้าไปหา แต่อีกใจก็รู้สึกกลัวขึ้นมาหน่อยๆว่าจะมาทำไมทั้งที่ไม่มีธุระ

ต่อให้มีเคสต้องผ่าตัดด่วนซึงฮุนยังไม่กังวลใจเท่านี้เลย

สุดท้ายซึงฮุนก็ตัดสินใจที่จะเดินออกนอกบริเวณร้านและเลือกที่จะไปสถิตอยู่ที่คาเฟ่ที่เดิมที่ซึงฮุนเข้าไปนั่งเมื่อวาน สั่งเมนูเดิมก่อนจะเลือกที่นั่งที่เห็นด้านตรงข้ามเหมือนเดิมแทน ใจที่ฮึกเหิมเมื่อเช้ากลับฟีบเล็กลงราวกับอัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ขืนเป็นมากกว่านี้คงต้องไหว้วานให้พยาบาลประจำวอร์ดผู้ป่วยฉุกเฉินปั้มหัวใจให้สักหน่อยแล้ว

ไม่ทันได้ตัดพ้ออะไรมากมายจู่ๆคนที่ทำให้ซึงฮุนลงทุนออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อมาที่นี่กลับผลักประตูร้านเข้ามา เป็นซึงฮุนที่ยกหนังสือพิมพ์ขึ้นปิดหน้าแทบไม่ทัน เสียงอีกฝ่ายสั่งคาราเมลมัคลิอาโต้แว่วมาให้ได้ยินทำให้คุณหมอหลุดยิ้ม ก่อนที่เสียงดังกล่าวจะดังใกล้ๆกันมากขึ้น

“ขอโทษนะครับ ผมนั่งตรงนี้ได้ไหม”

ที่อื่นก็มีทำไมอีกฝ่ายมาขอนั่งตรงนี้กัน

ซึงฮุนกลั้นใจก่อนจะส่งเสียงตอบรับคุณเจ้าของร้านต้นไม้ไป มันน่าตลกนิดหน่อยที่ตอนนี้ซึงฮุนไม่กล้าสู้หน้าสักนิดจึงทำทีอ่านหนังสือพิมพ์โดยไม่เอาลงแม้แต่น้อย ได้ยินเสียงเก้าอี้เลื่อนก่อนจะเป็นพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแก่ซึงฮุนเอง คุณหมอตอบรับแต่ไม่ได้วางสิ่งปิดกั้นใบหน้าลง

กาแฟก็อยากกิน แต่ก็เขินเกินกว่าที่จะเจอคนที่ทำให้เขานั่งมองเจ้าฟอร์เก็ตมีนอททั้งคืน

ไม่รู้ว่าความกล้าฮึกเหิมที่พูดหยอดอีกฝ่ายเมื่อวานมันหายไปไหนกัน

สงสัยต้องฉีดอะดรีนาลีนเผื่อร่างกายจะดีดขึ้นมาบ้าง


“กาแฟจะละลายหมดแล้วนะครับ”

...แต่คุณเจ้าของร้านต้นไม้ครับ ใจคุณหมอแบบผมจะละลายเพราะเสียงหวานๆของคุณแล้วเหมือนกัน

ซึงฮุนได้แต่ตอบในใจ พยายามสารพัดเพื่อนึกถึงเรื่องที่จะชวนคุย พยายามจะสวมหน้ากากคุณหมอหน้านิ่งเวลาคุยกับผู้ป่วยที่ไม่มีท่าทีเขินอายหรืออะไรก็ตามแต่ที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่ต้องมารับรู้ว่าหัวใจเต้นแรงมากมายขนาดไหน นั่งสูดหายใจก่อนจะนับหนึ่งถึงสามในใจและค่อยๆลดมือลง

แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจคิดสักนิด อีกฝ่ายกลับพูดออกมาก่อนที่จะลุกไป

“ของผมได้แล้ว ไว้ยังไงคราวหน้าหวังว่าจะเจอกันอีกนะครับ คุณเจ้าของน้องฟอร์เก็ตมีนอท”

...แล้วทำไมไม่บอกหมอครับว่าคุณรู้ตั้งแต่แรก หมอจะได้ไม่ต้องนั่งปิดหน้าแบบนี้

ซึงฮุนวางหนังสือพิมพ์ลงก่อนจะตบหน้าผากไปหนึ่งที นี่มันบ้าบอมากสำหรับตัวเขาเอง คิดฟึดฟัดในใจก่อนที่จะคว้าถ้วยกาแฟของตนเองและต้องหยุดชะงักเมื่อพนักงานเดินถือเครปเค้กมาให้

“ผมไม่ได้สั่งนะครับ”

“ออ มีคนฝากมาให้ครับ”

ซึงฮุนทำหน้างุดงงเล็กน้อย แต่ก็รับมาวางไว้โดยดี ก่อนที่จะต้องชะงักเมื่อเห็นโน้ตแผ่นเล็กๆที่แนบมาข้างจาน ซึงฮุนหยิบมันขึ้นมาอ่าน ยกมือขึ้นลูบหน้าและฟุบลงไปกับโต๊ะเมื่ออ่านเสร็จ

[ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณเจ้าของฟอร์เก็ตมีนอท ด้านหลังมีไอดีของผม อย่าลืมแอดมานะ-เจ้าของร้านดอกไม้]

“เกิดมผมไม่เคยเขินขนาดนี้เลย จะบ้าตายจริงๆ”

ซึงฮุนพึมพำก่อนจะตัดสินใจถ่ายรูปไว้และลงมือทานขนมที่อีกฝ่ายซื้อไว้ให้  เอาเป็นว่าอารมณ์ของซึงฮุนดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อได้ช่องทางติดต่อกับอีกฝ่ายมา แม้มันจะเสียเชิงไปหน่อยก็เถอะ

ซึงฮุนสะพายกระเป๋ากล้องก่อนจะเดินออกจากร้าน มองไปที่ด้านตรงข้ามก่อนจะยกกล้องขึ้น มองลอดช่องวิวและกดเพื่อโฟกัสเจ้าของร้านดอกไม้ที่กำลังจัดกระถางต้นไม้ให้ลูกค้าอยู่ รอยยิ้มสดใสนั่นทำเอาใจของคุณหมอที่ดูจะห่างหายจากเรื่องแบบนี้มานานให้สั่นไหวอีกครั้ง

กดถ่ายก่อนจะลดกล้องลงและเดินออกจากบริเวณนั่นเพื่อกลับไปที่คอนโดของตัวเอง

ไม่ใช่ว่าปอดแหก แค่ซึงฮุนอยากตั้งหลักอีกครั้ง

พรุ่งนี้คงจะได้เจอกันนะคุณเจ้าของร้านดอกไม้





“ไหน คุณเอาชาร์ตมาให้ผมหน่อย รายงานอาการด้วย”

“ค่ะ ผู้ป่วยเพศชายอายุ 23 ปี CC ผู้ป่วยมาด้วยอาการเป็นลมหมดสติสามชั่วโมงก่อนมาโรงพยา.....”

ซึงฮุนกุมขมับนิดหน่อยเมื่อถูกเรียกตัวมากะทันหันสวมชุดสเตอร์ไลน์ก่อนที่จะสวมชุดกาวน์ทับและผ้าปิดปาก มือขยับหมวกสำหรับเตรียมพร้อมเพื่อจะเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินและถุงมือ ฟังการรายงานอาการของพยาบาลก่อนจะถอนหายใจ

“คุณมัวแต่สั่นแล้วเมื่อไรจะได้ผ่ากัน รอคนไข้ช็อคก่อนใช่ไหมถึงจะพอใจ”

“ขะ...ขอโทษค่ะหมออี ตะ...”

“หยุดพร่ำขอโทษสักที  แล้วคุณผู้ช่วยทำไมไม่เตรียมเซ็ตผ่ากันครับ แล้วก็คุณ โอเคผมเข้าใจอาการแล้ว เตรียมถุงเลือดมาซะนะ”

ซึงฮุนอดจะหงุดหงิดไม่ได้เมื่อความพร้อมแทบเป็นศูนย์ ชีวิตคนไข้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนเป็นหมอเช่นเขาและแน่นอนว่ามันจะพลาดสักอย่างไม่ได้ ขณะนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว เรื่องของเรื่องเนื่องจากเป็นเคสกระทันหันและหมอที่เข้าผ่าตัดเฉพาะทางต่างอยู่ไกล มีเพียงซึงฮุนที่ใกล้ที่สุดจึงต้องเดินทางเข้ามาแทน

โชคดีหน่อยที่ยังเตรียมคนไข้ไว้ให้บ้าง ไม่งั้นซึงฮุนคงได้ประสาทเสียตายกับความละหลวมที่มีเป็นแน่

“ออนออกซิเจนวิทแบค นิวโรไซน์คนไข้เป็นยังไงบ้าง”

“สเตเบิลค่ะคุณหมอ”

“โอเค เปิดไฟซะ”

แสงไฟที่สว่างวูบที่เปิดขึ้นทำให้ซึงฮุนต้องหรี่ตา ก่อนที่จะพบว่าใบหน้าของคนไข้ที่นอนอยู่เป็นใคร หัวใจของซึงฮุนราวกับหยุดเต้นไปชั่วขณะ

“คุณเจ้าของร้านดอกไม้....”

“คุณหมอคะ พร้อมแล้วค่ะ”

“อ่ะ...อ๋อ โอเค ผมจะเริ่มแล้วนะ”

ซึงฮุนพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นก่อนที่จะเดินเข้าใกล้บุคคลที่เขาเจอเมื่อช่วงเช้า

เพราะความเจ็บป่วยไม่เข้าใครออกใคร

ซึงฮุนเองเป็นหมอ ก็เข้าใจดีว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หากการเจ็บป่วยจะมาเยือนกะทันหัน แต่เขาเองไม่มีเวลากังวลมากเท่าไรนัก ทำได้แค่ต้องพยายามดึงสติกลับมาแม้มือจะเย็นเฉียบและหยาดเหงื่อจะออกมามากจนวิสัญญีแพทย์ร้องบอกการผ่าตัด พยาบาลถือทิชชู่ชับให้ที่ขมับ ซึงฮุนหันไปขอบคุณก่อนจะเอ่ยออกมาแผ่วเบา

“คุณพยาบาล scalpel....”





ซึงฮุนเดินออกจากห้องผ่าตัดก่อนจะทรุดนั่งที่เก้าอี้ การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดีและซึงฮุนรู้สึกขอบคุณที่ร่างกายอีกฝ่ายยังดูแข็งแรงมากพอที่จะเข้ารับการผ่าตัดไหว

ยอมรับว่าใจสั่นยามที่ต้องลงมีดลงที่ร่างกายอีกฝ่าย แต่เพราะต้องการรักษาและจรรยาบรรณแพทย์ทำให้ซึงฮุนลงมือด้วยความตั้งใจเช่นทุกครั้งที่ทำกับคนไข้ผู้อื่น

“คุณพยาบาล”

“คะหมออี”

“เคสเมื่อครู่ คุณช่วยย้ายไปให้ห้องพักคนไข้พิเศษทีนะ แล้วก็วานพยาบาลพิเศษด้วย ลงชื่อผมไว้ เดี๋ยวผมจะโพสออปคนไข้เคสนี้เอง”

สีหน้าของพยาบาลราวกับมีเรื่องจะถามแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก ซึงฮุนเงยหน้าก่อนจะหลับตาลงเมื่ออีกฝ่ายเดินออกไป

ถ้าซึงฮุนมัวแต่ที่จะเงียบและไม่บอกอีกฝ่ายไป คงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ได้นานเท่าไรกัน

“ถ้าคุณฟื้นเร็วๆก็คงดีสินะ ผมอยากให้คุณดูแลผมจัง”

ซึงฮุนได้แต่พร่ำในใจ ภาวนาให้คุณเจ้าของร้านดอกไม้ตื่นขึ้นมาเร็วๆเพื่อพบเขาสักที



วันหยุดของซึงฮุนหมดไปโดยทีไม่ได้ไปไหนอีก ซึงฮุนเข้าตึกผู้ป่วยโดยมาในฐานะคนเยี่ยม ไม่ใช่ฐานะคุณหมอและได้เจอกับคุณแม่ของซึงยุน อีกฝ่ายก้มขอบคุณซึงฮุนจนซึงฮุนต้องย่อตาม วันนี้อาการของซึงยุนคงที่แต่ยังไม่ฟื้นมาซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับการผ่าตัดแบบนี้

“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ลูกชายฉัน....เจ้าเด็กดื้อของฉัน  ถ้าไม่มีเขา...”

“คุณแม่ไม่ต้องคิดมากนะครับ เดี๋ยวคนไข้ก็ฟื้นแล้ว ระหว่างนี้คุณแม่ต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

“คุณหมอ คุณหมอเป็นอะไรกับลูกชายฉันหรือคะ”

ซึงฮุนชะงักไปกับคำถามของอีกฝ่าย ก่อนจะเลือกที่จะเลี่ยงในการตอบไปตามตรง

“ผมเป็นลูกค้าต้นไม้ร้านของเขาครับ ถ้ายังไงแล้วถ้าเขาฟื้นรบกวนบอกพยาบาลพิเศษได้เลยนะครับ”



ซึงฮุนกลับไปที่ห้องพักแพทย์ก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟาด้วยความเมื่อยล้า หลังจากที่ออกมาจากห้องนั้นซึงฮุนก็ไม่ได้เข้าไปอีก ก่อนจะเดินไปที่ตึกจิตเวชเพื่อหารุ่นพี่คนสนิท

“อ้าว คุณหมอตึกศัลยกรรมมาทำอะไรที่ตึกจิตเวชคะ”

เสียงของพยาบาลหน้าห้องถามก่อนซึงฮุนจะตอบรับไป

“มาหาพี่จินอูครับ อยู่ไหม”

“เข้ามาเลยครับ” เสียงตะโกนดังจากในห้องก่อนที่ซึงฮุนจะโค้งตัวน้อยๆและเดินเข้าไป ซึงฮุนนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามจินอูซึ่งเป็นคุณหมอและเป็นรุ่นพี่แต่อยู่ประจำตึกจิตเวช

“แปลกนะเรา มีเรื่องไม่สบายใจหรอ”

“อืม นิดหน่อยครับ”

จินวูลุกขึ้นไปชงกาแฟก่อนจะวางไว้ข้างหน้าอีกฝ่าย ซึงฮุนขอบคุณแต่กลับไม่ได้ยกดื่มแต่อย่างใด

“ไหนมีเรื่องอะไร บอกหมอซิ”

“พี่...ผมเพิ่งเจอคนคนหนึ่ง” ซึงฮุนเกริ่นเรื่องของตนเองกับเจ้าของร้านดอกไม้ให้ฟัง ซึงจินวูก็ยิ้มรับและไม่ได้พูดอะไรขัดขึ้นมา ก่อนที่จะกุมมืออีกฝ่ายเมื่อเล่าจบ

“อย่ากังวลเลย นายทำดีที่สุด และผลก็ออกมาดี”

“แต่ผมกลัวว่าเขาจะจำผมไม่ได้...ผมกลัวว่าเขาจะลืม”

“เขาจะไม่เป็นไรซึงฮุน มั่นใจในฝีมือหน่อย ผลเอ็กซเรย์สมองก็ปกติ นายเองก็ผ่ามาเยอะ ขี้กังวลจริงเชียว”

จินวูให้กำลังใจซึงฮุนก่อนจะลูบหัวแผ่วเบา

“อาลูของฉันถึงวัยที่จะมีความรักแล้วหรอเนี่ย”

“พี่ครับ...”

เสียงโทรศัพท์ขัดขึ้นก่อนที่ซึงฮุนจะกดรับสาย เมื่อได้ยินข้อความในโทรศัพท์ซึงฮุนไม่ลังเลสักนิดที่จะลุกขึ้นและโค้งลาจินวูอย่างรวดเร็ว

ซึงยุนฟื้นแล้ว

ซึงฮุนไม่ลังเลสักนิดที่จะไปหาอีกฝ่าย

เขาจะไม่รอและจะไม่เป็นฝ่ายตามหาอีกต่อไป

ซึงฮุนเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะพบพยาบาลกำลังตรวจเช็คร่างกายอีกฝ่าย แต่ทุกอย่างกลับดูพร่าเลือนในสายตาซึงฮุนเหลือเกินเมื่อพบกับรอยยิ้มของคนตรงหน้า

“คุณเจ้าของต้นฟอร์เก็ตมีนอท...ไม่สิ คุณหมอ---“

“คุณฟื้นแล้ว”

ซึงฮุนสวมกอดอีกฝ่ายทันทีโดยที่ไม่สนสายตาพยาบาลสักนิด ซึงยุนอ้ำอึ้งเมื่อถูกกอดกะทันหันแต่ก็ไม่ได้พุดอะไรออกมา มือยกขึ้นลูบหลังอีกฝ่ายก่อนจะตบมันเบาๆเมื่อได้รับแรงสั่นเล็กน้อยจากการสะอื้น

แม้เพิ่งเจอกันได้แค่ไม่กี่วัน แต่กลับผูกพันกันได้ขนาดนี้

“ผมฟื้นแล้วครับ”

“ให้ผมดูแลคุณเถอะนะซึงยุน.....” ซึงฮุนพูดออกมาหลังจากละตัวออกจากคนในอ้อมกอด มองใบหน้าที่ซีดเซียวและยกมือขึ้นลูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ “ได้โปรด...ดูแลต้นไม้ของผม แลกกับที่ผมดุแลคุณได้ไหม”

ซึงยุนยกยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นแตะมือของซึงฮุนที่วางอยู่บนแก้ม ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ดีที่สุดเท่าที่ซึงฮุนเคยได้ยินมา

“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณหมอ...”






“ทำอะไรอยู่หรอ” ซึงฮุนสะดุ้งก่อนจะละมืออกจากดินที่กำลังจับอยู่ วันนี้ซึงฮุนมาช่วยซึงยุนปรับเปลี่ยนกระถางต้นไม้ที่ร้าน ก่อนที่ซึงยุนจะทอดสายตามองไปที่ต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้า “นั่นดอกฟอร์เก็ตมีนอท...”

“ใช่ ผมแค่มองแล้วนึกถึงตอนที่เราเจอกันหน่ะ”

“ตอนที่คุณช่วยชีวิตผมหน่ะหรอ”

ซึงยุนย่อตัวลงก่อนจะกอดซึงฮุนจากทางด้านหลัง ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะหันใบหน้าหาอีกฝ่าย ริมฝีปากประทับที่ข้างแก้มซึงยุนแผ่วเบา

“ใช่”

“ผมก็คิดถึงมันเหมือนกันนะ”
ซึงยุนยกยิ้ม ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้นทั้งสองต่างตกลงคบหากัน แม้อาจจะดูเร็วไปสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับซึงฮุนกลับไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย และเขาเองยินดีที่จะดูแลอีกฝ่ายตลอดไปมากกว่า



“ผมรักคุณนะซึงยุน”

“พุดแบบนี้คิดว่าผมจะเขินไหมหล่ะ”

“ก็ชอบให้พูดบ่อยๆไม่ใช่หรือ อ้าว แล้วนั่นจะเดินไปไหนหล่ะ กลับมาบอกผมก่อนสิ”

ซึงฮุนร้องออกมาขณะที่ซึงยุนเดินหนี รอยยิ้มสดใสเผยบนใบหน้าทั้งคู่ก่อนที่จะเหลือเพียงความอบอุ่นที่อบอวนอยู่ที่นี่ตลอดไป

ขอแค่มีเรา

...ขอแค่มีกันและกันก็พอ





Please stay with me and forget me not.


#ALLBBHN #2SEUNG


-THE END-



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น