[OS] Lee Seunghoon X Kang Seungyoon
Story : Follow
Didn't I seem like
I'm catching something.
That's because it's
true
I can't deny it, and
I won't try it but I think that you know
I look around and
everything I see is beautiful 'cause all I see is you
And I can't deny it
and I stand by it, and I won't hide it anymore...
อาจจะดูเหมือนฉันไล่ตามอะไรสักอย่าง
เพราะมันเป็นความจริงอย่างไรหล่ะ
ฉันปฏิเสธไม่ได้เลย
และจะไม่พยายามด้วย แต่ฉันคิดว่าเธอรู้นะ
ฉันมองไปรอบๆและทุกอย่างที่ฉันเห็นมันช่างสวยงาม
เพราะฉันเห็นแค่เธอ
และฉันจะไม่ปฏิเสธเลยนะ
ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ และจะไม่ปิดบังมันอีกต่อไป....
-THE END-
“ทั้งหมดสี่พันแปดร้อยวอนครับ”
ซึงฮุนจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน
แลปท็อปเครื่องโปรดถูกวางตั้งไว้ที่โต๊ะหลังจากที่ซึงฮุนเลือกมุมที่ผู้คนจะเดินผ่านน้อยที่สุดก่อนจะหยิบกล้องโปรตัวโปรดที่อุตส่าห์ใช้น้ำพักน้ำแรงเก็บหอมรอมริบถอยมันออกมาเองออกมาจากกระเป๋า
ทอดสายตาออกนอกหน้าต่างเพื่อมองด้านตรงข้ามถนนและยกยิ้ม
ซึงฮุนชอบที่จะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
เป็นงานอดิเรกเล็กน้อยหลังจากได้มีโอกาสพักผ่อน หลายคนอาจจะมองว่าหากมีโอกาสได้หยุดทั้งทีคงเลือกที่จะไปไกลๆ
แต่สำหรับคนที่เป็นหมอแบบซึงฮุนไม่ได้มีตัวเลือกมากมายขนาดนั้น เพียงวันหยุดแค่วันสองวันที่แลกมากับการที่ต้องขึ้นเวรติดๆกันมันช่างเหนื่อยเหลือเกิน
เหนื่อย...จนชีวิตของคนที่ต้องเอาแต่ดูแลคนอื่นอยากได้ใครสักคนดูแลตัวเองบ้าง
นั่งหลับตาผ่อนคลายความเมื่อยล้า ซึงฮุนมีเวลาสามวันสองคืนสำหรับวันหยุดครั้งนี้
กาแฟกรุ่นถูกวางไว้ที่ด้านหน้า
ซึงฮุนยิ้มขอบคุณพนักงานเสิร์ฟก่อนจะทอดสายตามองไปที่ด้านตรงข้ามถนน
วันนี้เป็นวันที่อากาศสดใสสมกับเป็นวันหยุดของซึงฮุน
อะไรๆก็ดูจะเป็นใจแก่การพักผ่อน ก่อนจะละสายตากลับมามองแลปท็อปที่นิ่งค้างมานาน มือกดเข้าอินสตราแกรมก่อนจะเลือกรูปถ่ายที่กดส่งจากกล้องถ่ายรูปเมื่อครู่
เป็นรูปวิวร้านน่ารักๆที่นี่และไม่ได้ระบุแคปชั่นเช่นทุกครั้งที่อัพโหลด
คนที่ฟอลโลวต่างเริ่มกดหัวใจให้ภาพของเขา
ซึงฮุนยิ้มก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง
ร้านค้าตรงข้ามกำลังเปิดทำให้ซึงฮุนมองมันด้วยความสนใจ
มันเป็นร้านดอกไม้และสวนขวดที่มีการตกแต่งร้านน่ารักพอดูจากการสังเกตภายนอก
ซึงฮุนเผลอเกาศีรษะเพราะนิสัยช่างสังเกตของตนเองตามประสาที่คนที่ทำงานสายสุขภาพแบบนี้
นอกจากบทบาทการเป็นหมอที่ซึงฮุนทำเป็นงานประจำ
งานอดิเรกก็คือการปลูกต้นไม้นี่แหละ
แต่อย่างที่รู้กันว่าหมอนั้นแทบไม่มีเวลาเท่าไร
เมื่อซื้อเจ้าต้นไม้มาได้ไม่นานเท่าไรนักก็มักจะมีอาการเหี่ยวเฉา
กว่าจะรู้ตัวเอีกทีก็แห้งเฉาไปแล้ว
น่าตลกดีเหมือนกัน ทำงานเป็นถึงวิชาชีพที่รักษาชีวิตผู้คนมาก็หลายปี
แต่ไม่สามารถรักษาต้นไม้ได้สักที
มองไปก่อนจะตั้งมั่นว่าหากดื่มกาแฟหอมกรุ่นนี่หมดจะเดินไปที่ร้านต้นไม้นั่นสักหน่อย
เหมือนคนที่เจ็บแล้วไม่รู้จักจำนะ คุณว่าไหม
ซึงฮุนยืนดูต้นไม้บริเวณนอกร้านก่อนจะยกยิ้ม
ความสวยงามและสีสันที่สดใสทำให้อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปมันไว้ การตกแต่งร้านแบบอบอุ่นทำให้ซึงฮุนรู้สึกผ่อนคลาย
มันเป็นเรื่องปกติที่คนที่ชอบต้นไม้มากๆจะอยากดื่มด่ำกับมัน
ซึงฮุนไม่ลังเลสักนิดที่จะก้าวเข้าไปในร้าน
เสียงกระดิ่งดังขึ้นก่อนที่ซึงฮุนจะมองซ้ายขวา
ในร้านมีเพียงซึงฮุนกับอีกคนที่กำลังจัดกระถางอยู่
อีกฝ่ายไม่ได้หันกลับมาแต่เอ่ยออกมาเสียงใส
“สวัสดีครับ เลือกดูก่อนได้เลยนะครับ”
เอ่ยออกมาทั้งที่ไม่ได้มองหน้าซึงฮุนแม้แต่น้อย ก็เป็นอะไรที่แปลกดี
ซึ่งซึงฮุนไม่ใช่คนที่จะติดใจอะไรกับเรื่องแบบนี้จึงเดินดูตามชั้นวางต่างๆ
ต้นไม้มีทั้งขนาดเล็กเท่าฝ่ามือไปจนกระทั้งใหญ่เท่ากับถังน้ำ
ซึงฮุนเดินดูไปก่อนจะยกกล้องถ่ายรูปไปด้วย
ก่อนจะหยุดสายตาที่โซนสวนขวดที่น่ารักมากๆ โซนนี้ดูจะเป็นอะไรที่อบอุ่น
งานที่สร้างขึ้นดูประณีตจนเผลอพินิจไปหลายนาที
“ชอบน้องหรอครับ”
“หือ”
ซึงฮุนสะดุ้งหน่อยๆก่อนจะหันไปมองคนที่เอ่ยขึ้น สิ่งที่สะดุดเป็นอย่างแรกคือกลุ่มผมสีน้ำตาลที่หยักศกเล็กน้อย
และรอยยิ้มที่เผยออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม เล่นเอาซึงฮุนไปไม่เป็นครู่หนึ่งเลยทีเดียว
“คะ...ครับ”
อีกฝ่ายหัวเราะน้อยๆก่อนจะผายมือไปที่สวนขวด
“สนใจรับน้องไปดูแลไหมครับ เลี้ยงไม่ยากหรอกนะ
ผมเลี้ยงน้องมาน้องไม่เคยป่วยเลย”
“คุณหมายถึงต้นไม้หรอครับ”
“ใช่ครับ” อีกฝ่ายยิ้มก่อนจะลดมือลง “ผมเป็นเจ้าของร้านครับ
หากสนใจน้องต้นไหนหรือว่าต้องการสอบถาม ถามผมได้นะครับ”
อีกฝ่ายหมายถึงต้นไม้นี่เอง
ซึงฮุนคลายความสงสัยในใจก่อนจะยิ้มออกมาหลังจากอีกฝ่ายขออนุญาตไปด้านหลังร้าน
คุณเจ้าของร้านที่เรียกต้นไม้ว่าน้อง
เป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่ารักไปอีกแบบ
ซึงฮุนหยุดยิ้มก่อนจะเดินต่อ
ร้านค่อนข้างกว้างทำให้ใช้เวลานานพอสมควรในการเลือกซื้อ
ก่อนที่ซึงฮุนจะตัดสินใจหยิบต้นฟอร์เก็ตมีนอทต้นเล็กมา
จะเพราะความหมายดีๆของมันหรืออะไรก็ตามแต่
ซึงฮุนเดินไปที่เคาท์เตอร์ก่อนจะส่งให้อีกฝ่ายที่ยืนจัดต้นไม้อยู่
“รอสักครู่นะครับ”
อีกฝ่ายยิ้มก่อนจะย้ายกระถางให้ซึงฮุน ท่วงท่าที่ดูใส่ใจทำให้ซึงฮุนรู้สึกเหมือนได้รับการรักษาชอบกล
แม้มันจะไม่ใช่การรักษาทางกายแบบที่ซึงฮุนทำเพราะตัวซึงฮุนไม่ได้มีบาดแผลอะไร
น่าจะเรียกว่าเป็นการเยียวยาจิตใจมากกว่า เรียกแบบนั้นท่าจะไม่ผิดเท่าไรนัก
อีกฝ่ายเล่นน่ารักแถมฮัมเพลงเล็กๆตอนทำอีกต่างหาก ใครจะอดใจไหวกัน
“พยายามอย่าให้น้องอยู่ในที่ที่มีแสงแดดมากนะครับ
น้องบอบบางกับแสงแดดมากๆ ถ้าเป็นไปได้ปลูกไว้ในที่ร่มๆสักหน่อยท่าจะดี
หรือถ้าคุณอยู่คอนโดให้น้องออกมารับแดดช่วงเช้าตรู่หรือไม่ก็ตอนเย็นก็ดี....”
“นี่ คุณเจ้าของร้าน”
“ครับ” อีกฝ่ายตอบรับแม้สายตาจะไม่ได้ละจากเจ้าต้นไม้เล็กๆในมือ
ซึงฮุนชักรู้สึกอิจฉาหน่อยๆที่ต้นไม้ได้รับการใส่ใจที่แสนอ่อนโยนนั่นเสียแล้ว
“คุณดูจะรักต้นไม้มากๆเลยนะครับ ดูแลดีจัง”
“แน่นอนสิครับ น้องๆน่ารักมาก ผมรักต้นไม้มา---”
“แล้วถ้าผมอยากได้รับความรักแบบนั้นบ้าง
ผมต้องเป็นต้นไม้ไหมครับคุณเจ้าของร้าน”
อีกฝ่ายดูจะอึ้งไป พอๆกับซึงฮุนที่เพิ่งนึกได้ว่าพูดอะไรออกไป
ซึงฮุนเผลอไขว้มือที่ด้านหลัง
ก่อนที่ดวงตากลมของคุณเจ้าของร้านจะได้ฤกษ์ละสายตาออกจากต้นไม้จริงๆเสียที
“คุณตลกจังเลย”
อีกฝ่ายยิ้มแผละออกมาน่าเอ็นดูจนซึงฮุนอดจะยิ้มตามไม่ได้
“หะหะหะ”
“แต่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นต้นไม้หรอกนะ ถ้าคุณจะจีบผม
ถึงผมจะชอบน้องๆมากแค่ไหนแต่ผมก็ต้องการแฟนที่เป็นคนมากกว่า”
อีกฝ่ายตอบรับก่อนที่จะส่งกระถางต้นไม้ที่บรรจุเรียบร้อยก่อนจะฉีกรอยยิ้มสวย
เล่นเอาซึงฮุนอยากจะกลับมาที่ร้านเสียทุกวันเพราะตกหลุมรักความน่ารักของอีกฝ่ายเต็มๆเสียแล้ว
“โอกาสหน้ามาอุดหนุนใหม่นะครับ”
แน่นอนว่าซึงฮุนคงได้เริ่มชีวิตของคุณหมอแบบไม่เดียวดายอีกต่อไปหลังพักร้อน
...ได้คุณเจ้าของร้านต้นไม้มาดูแลหัวใจที่เหี่ยวเฉาของคุณหมอคนนี้
ดูท่าจะเป็นความคิดที่ดีไม่น้อยเชียวหล่ะ : )
ซึงฮุนกลับคอนโดด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมใจ
ก่อนจะออกจากร้านเขาได้ถามอีกฝ่ายว่าชื่ออะไรและจะเป็นไปได้ไหมว่าจะขอช่องทางการติดต่อกับอีกฝ่ายซึ่งดูจะอึ้งไปก่อนจะยกยิ้มพร้อมตอบเสียงใส
“คุณลูกค้าอยากรู้ชื่อของผมหรอ จะเอาไปทำอะไรหรอครับ”
“ผมแค่อยากรู้ เผื่อว่าต้นไม้ผมมีปัญหา”
ต้นไม้งั้นหรอ น่าตลกสิ้นดีกับข้ออ้างสิ้นคิดที่เผลอพูดออกไป
ซึงอีกฝ่ายก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะยกยิ้มกลับ
“ผมชื่อซึงยุนครับ ส่วนช่องทางติดต่อ
ผมอยู่ที่ร้านนี้ทุกวันที่ร้านเปิดอยู่แล้ว ถ้ามีปัญหาไม่ต้องกลัวหรอกครับ
พาน้องมาที่ร้านก็พอ”
อีกฝ่ายตอบมาแบบนั้น
เรื่องที่จะคุยผ่านช่องทางออนไลน์เลยต้องพับเก็บไป
ซึ่งซึงฮุนก็ไม่ได้รู้สึกโทษอะไร มันออกจะแปลกด้วยซ้ำหากอีกฝ่ายจะให้มาง่ายๆทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก
แบบนี้ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี
สรุปวันหยุดวันแรก
คือการที่ซึงฮุนต้องมานั่งเพ้อถึงคุณเจ้าของร้านต้นไม้ที่น่ารักคนนั้นแทน
ซึงฮุนวางต้นไม้ไว้ที่โต๊ะรวมกับต้นไม้ต้นอื่นที่เคยซื้อมา
กดถ่ายรูปก่อนจะอัพเดทลงในอินสตราแกรมของตนเองอีกครั้ง
“Forget me not is mean I’ll never forget you ---- 20xxxxxx”
โอกาสเกิดได้ทุกเวลา แต่ถ้ามัวรออาจไม่ช่วยให้อะไรเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น
วันหยุดวันที่สองของคุณหมอซึงฮุนจึงมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านดอกไม้เมื่อวาน
ซึงฮุนเดินวนอยู่หน้าร้านร่วมหลายนาที ใจหนึ่งอยากจะเข้าไปหา
แต่อีกใจก็รู้สึกกลัวขึ้นมาหน่อยๆว่าจะมาทำไมทั้งที่ไม่มีธุระ
ต่อให้มีเคสต้องผ่าตัดด่วนซึงฮุนยังไม่กังวลใจเท่านี้เลย
สุดท้ายซึงฮุนก็ตัดสินใจที่จะเดินออกนอกบริเวณร้านและเลือกที่จะไปสถิตอยู่ที่คาเฟ่ที่เดิมที่ซึงฮุนเข้าไปนั่งเมื่อวาน
สั่งเมนูเดิมก่อนจะเลือกที่นั่งที่เห็นด้านตรงข้ามเหมือนเดิมแทน
ใจที่ฮึกเหิมเมื่อเช้ากลับฟีบเล็กลงราวกับอัตราการเต้นของหัวใจช้าลง
ขืนเป็นมากกว่านี้คงต้องไหว้วานให้พยาบาลประจำวอร์ดผู้ป่วยฉุกเฉินปั้มหัวใจให้สักหน่อยแล้ว
ไม่ทันได้ตัดพ้ออะไรมากมายจู่ๆคนที่ทำให้ซึงฮุนลงทุนออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อมาที่นี่กลับผลักประตูร้านเข้ามา
เป็นซึงฮุนที่ยกหนังสือพิมพ์ขึ้นปิดหน้าแทบไม่ทัน
เสียงอีกฝ่ายสั่งคาราเมลมัคลิอาโต้แว่วมาให้ได้ยินทำให้คุณหมอหลุดยิ้ม
ก่อนที่เสียงดังกล่าวจะดังใกล้ๆกันมากขึ้น
“ขอโทษนะครับ ผมนั่งตรงนี้ได้ไหม”
ที่อื่นก็มีทำไมอีกฝ่ายมาขอนั่งตรงนี้กัน
ซึงฮุนกลั้นใจก่อนจะส่งเสียงตอบรับคุณเจ้าของร้านต้นไม้ไป มันน่าตลกนิดหน่อยที่ตอนนี้ซึงฮุนไม่กล้าสู้หน้าสักนิดจึงทำทีอ่านหนังสือพิมพ์โดยไม่เอาลงแม้แต่น้อย
ได้ยินเสียงเก้าอี้เลื่อนก่อนจะเป็นพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแก่ซึงฮุนเอง
คุณหมอตอบรับแต่ไม่ได้วางสิ่งปิดกั้นใบหน้าลง
กาแฟก็อยากกิน
แต่ก็เขินเกินกว่าที่จะเจอคนที่ทำให้เขานั่งมองเจ้าฟอร์เก็ตมีนอททั้งคืน
ไม่รู้ว่าความกล้าฮึกเหิมที่พูดหยอดอีกฝ่ายเมื่อวานมันหายไปไหนกัน
สงสัยต้องฉีดอะดรีนาลีนเผื่อร่างกายจะดีดขึ้นมาบ้าง
“กาแฟจะละลายหมดแล้วนะครับ”
...แต่คุณเจ้าของร้านต้นไม้ครับ
ใจคุณหมอแบบผมจะละลายเพราะเสียงหวานๆของคุณแล้วเหมือนกัน
ซึงฮุนได้แต่ตอบในใจ พยายามสารพัดเพื่อนึกถึงเรื่องที่จะชวนคุย พยายามจะสวมหน้ากากคุณหมอหน้านิ่งเวลาคุยกับผู้ป่วยที่ไม่มีท่าทีเขินอายหรืออะไรก็ตามแต่ที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่ต้องมารับรู้ว่าหัวใจเต้นแรงมากมายขนาดไหน
นั่งสูดหายใจก่อนจะนับหนึ่งถึงสามในใจและค่อยๆลดมือลง
แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจคิดสักนิด
อีกฝ่ายกลับพูดออกมาก่อนที่จะลุกไป
“ของผมได้แล้ว ไว้ยังไงคราวหน้าหวังว่าจะเจอกันอีกนะครับ
คุณเจ้าของน้องฟอร์เก็ตมีนอท”
...แล้วทำไมไม่บอกหมอครับว่าคุณรู้ตั้งแต่แรก
หมอจะได้ไม่ต้องนั่งปิดหน้าแบบนี้
ซึงฮุนวางหนังสือพิมพ์ลงก่อนจะตบหน้าผากไปหนึ่งที
นี่มันบ้าบอมากสำหรับตัวเขาเอง
คิดฟึดฟัดในใจก่อนที่จะคว้าถ้วยกาแฟของตนเองและต้องหยุดชะงักเมื่อพนักงานเดินถือเครปเค้กมาให้
“ผมไม่ได้สั่งนะครับ”
“ออ มีคนฝากมาให้ครับ”
ซึงฮุนทำหน้างุดงงเล็กน้อย แต่ก็รับมาวางไว้โดยดี
ก่อนที่จะต้องชะงักเมื่อเห็นโน้ตแผ่นเล็กๆที่แนบมาข้างจาน ซึงฮุนหยิบมันขึ้นมาอ่าน
ยกมือขึ้นลูบหน้าและฟุบลงไปกับโต๊ะเมื่ออ่านเสร็จ
[ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณเจ้าของฟอร์เก็ตมีนอท ด้านหลังมีไอดีของผม
อย่าลืมแอดมานะ-เจ้าของร้านดอกไม้]
“เกิดมผมไม่เคยเขินขนาดนี้เลย จะบ้าตายจริงๆ”
ซึงฮุนพึมพำก่อนจะตัดสินใจถ่ายรูปไว้และลงมือทานขนมที่อีกฝ่ายซื้อไว้ให้
เอาเป็นว่าอารมณ์ของซึงฮุนดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อได้ช่องทางติดต่อกับอีกฝ่ายมา
แม้มันจะเสียเชิงไปหน่อยก็เถอะ
ซึงฮุนสะพายกระเป๋ากล้องก่อนจะเดินออกจากร้าน
มองไปที่ด้านตรงข้ามก่อนจะยกกล้องขึ้น
มองลอดช่องวิวและกดเพื่อโฟกัสเจ้าของร้านดอกไม้ที่กำลังจัดกระถางต้นไม้ให้ลูกค้าอยู่
รอยยิ้มสดใสนั่นทำเอาใจของคุณหมอที่ดูจะห่างหายจากเรื่องแบบนี้มานานให้สั่นไหวอีกครั้ง
กดถ่ายก่อนจะลดกล้องลงและเดินออกจากบริเวณนั่นเพื่อกลับไปที่คอนโดของตัวเอง
ไม่ใช่ว่าปอดแหก แค่ซึงฮุนอยากตั้งหลักอีกครั้ง
พรุ่งนี้คงจะได้เจอกันนะคุณเจ้าของร้านดอกไม้
“ไหน คุณเอาชาร์ตมาให้ผมหน่อย รายงานอาการด้วย”
“ค่ะ ผู้ป่วยเพศชายอายุ 23 ปี CC ผู้ป่วยมาด้วยอาการเป็นลมหมดสติสามชั่วโมงก่อนมาโรงพยา.....”
ซึงฮุนกุมขมับนิดหน่อยเมื่อถูกเรียกตัวมากะทันหันสวมชุดสเตอร์ไลน์ก่อนที่จะสวมชุดกาวน์ทับและผ้าปิดปาก
มือขยับหมวกสำหรับเตรียมพร้อมเพื่อจะเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินและถุงมือ
ฟังการรายงานอาการของพยาบาลก่อนจะถอนหายใจ
“คุณมัวแต่สั่นแล้วเมื่อไรจะได้ผ่ากัน
รอคนไข้ช็อคก่อนใช่ไหมถึงจะพอใจ”
“ขะ...ขอโทษค่ะหมออี ตะ...”
“หยุดพร่ำขอโทษสักที
แล้วคุณผู้ช่วยทำไมไม่เตรียมเซ็ตผ่ากันครับ แล้วก็คุณ
โอเคผมเข้าใจอาการแล้ว เตรียมถุงเลือดมาซะนะ”
ซึงฮุนอดจะหงุดหงิดไม่ได้เมื่อความพร้อมแทบเป็นศูนย์
ชีวิตคนไข้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนเป็นหมอเช่นเขาและแน่นอนว่ามันจะพลาดสักอย่างไม่ได้
ขณะนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว
เรื่องของเรื่องเนื่องจากเป็นเคสกระทันหันและหมอที่เข้าผ่าตัดเฉพาะทางต่างอยู่ไกล
มีเพียงซึงฮุนที่ใกล้ที่สุดจึงต้องเดินทางเข้ามาแทน
โชคดีหน่อยที่ยังเตรียมคนไข้ไว้ให้บ้าง ไม่งั้นซึงฮุนคงได้ประสาทเสียตายกับความละหลวมที่มีเป็นแน่
“ออนออกซิเจนวิทแบค นิวโรไซน์คนไข้เป็นยังไงบ้าง”
“สเตเบิลค่ะคุณหมอ”
“โอเค เปิดไฟซะ”
แสงไฟที่สว่างวูบที่เปิดขึ้นทำให้ซึงฮุนต้องหรี่ตา
ก่อนที่จะพบว่าใบหน้าของคนไข้ที่นอนอยู่เป็นใคร
หัวใจของซึงฮุนราวกับหยุดเต้นไปชั่วขณะ
“คุณเจ้าของร้านดอกไม้....”
“คุณหมอคะ พร้อมแล้วค่ะ”
“อ่ะ...อ๋อ โอเค ผมจะเริ่มแล้วนะ”
ซึงฮุนพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นก่อนที่จะเดินเข้าใกล้บุคคลที่เขาเจอเมื่อช่วงเช้า
เพราะความเจ็บป่วยไม่เข้าใครออกใคร
ซึงฮุนเองเป็นหมอ
ก็เข้าใจดีว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หากการเจ็บป่วยจะมาเยือนกะทันหัน
แต่เขาเองไม่มีเวลากังวลมากเท่าไรนัก
ทำได้แค่ต้องพยายามดึงสติกลับมาแม้มือจะเย็นเฉียบและหยาดเหงื่อจะออกมามากจนวิสัญญีแพทย์ร้องบอกการผ่าตัด
พยาบาลถือทิชชู่ชับให้ที่ขมับ ซึงฮุนหันไปขอบคุณก่อนจะเอ่ยออกมาแผ่วเบา
“คุณพยาบาล scalpel....”
ซึงฮุนเดินออกจากห้องผ่าตัดก่อนจะทรุดนั่งที่เก้าอี้
การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดีและซึงฮุนรู้สึกขอบคุณที่ร่างกายอีกฝ่ายยังดูแข็งแรงมากพอที่จะเข้ารับการผ่าตัดไหว
ยอมรับว่าใจสั่นยามที่ต้องลงมีดลงที่ร่างกายอีกฝ่าย
แต่เพราะต้องการรักษาและจรรยาบรรณแพทย์ทำให้ซึงฮุนลงมือด้วยความตั้งใจเช่นทุกครั้งที่ทำกับคนไข้ผู้อื่น
“คุณพยาบาล”
“คะหมออี”
“เคสเมื่อครู่ คุณช่วยย้ายไปให้ห้องพักคนไข้พิเศษทีนะ
แล้วก็วานพยาบาลพิเศษด้วย ลงชื่อผมไว้ เดี๋ยวผมจะโพสออปคนไข้เคสนี้เอง”
สีหน้าของพยาบาลราวกับมีเรื่องจะถามแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก
ซึงฮุนเงยหน้าก่อนจะหลับตาลงเมื่ออีกฝ่ายเดินออกไป
ถ้าซึงฮุนมัวแต่ที่จะเงียบและไม่บอกอีกฝ่ายไป คงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ได้นานเท่าไรกัน
“ถ้าคุณฟื้นเร็วๆก็คงดีสินะ ผมอยากให้คุณดูแลผมจัง”
ซึงฮุนได้แต่พร่ำในใจ ภาวนาให้คุณเจ้าของร้านดอกไม้ตื่นขึ้นมาเร็วๆเพื่อพบเขาสักที
วันหยุดของซึงฮุนหมดไปโดยทีไม่ได้ไปไหนอีก
ซึงฮุนเข้าตึกผู้ป่วยโดยมาในฐานะคนเยี่ยม ไม่ใช่ฐานะคุณหมอและได้เจอกับคุณแม่ของซึงยุน
อีกฝ่ายก้มขอบคุณซึงฮุนจนซึงฮุนต้องย่อตาม วันนี้อาการของซึงยุนคงที่แต่ยังไม่ฟื้นมาซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับการผ่าตัดแบบนี้
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ลูกชายฉัน....เจ้าเด็กดื้อของฉัน ถ้าไม่มีเขา...”
“คุณแม่ไม่ต้องคิดมากนะครับ เดี๋ยวคนไข้ก็ฟื้นแล้ว
ระหว่างนี้คุณแม่ต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“คุณหมอ คุณหมอเป็นอะไรกับลูกชายฉันหรือคะ”
ซึงฮุนชะงักไปกับคำถามของอีกฝ่าย ก่อนจะเลือกที่จะเลี่ยงในการตอบไปตามตรง
“ผมเป็นลูกค้าต้นไม้ร้านของเขาครับ
ถ้ายังไงแล้วถ้าเขาฟื้นรบกวนบอกพยาบาลพิเศษได้เลยนะครับ”
ซึงฮุนกลับไปที่ห้องพักแพทย์ก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟาด้วยความเมื่อยล้า หลังจากที่ออกมาจากห้องนั้นซึงฮุนก็ไม่ได้เข้าไปอีก
ก่อนจะเดินไปที่ตึกจิตเวชเพื่อหารุ่นพี่คนสนิท
“อ้าว คุณหมอตึกศัลยกรรมมาทำอะไรที่ตึกจิตเวชคะ”
เสียงของพยาบาลหน้าห้องถามก่อนซึงฮุนจะตอบรับไป
“มาหาพี่จินอูครับ อยู่ไหม”
“เข้ามาเลยครับ”
เสียงตะโกนดังจากในห้องก่อนที่ซึงฮุนจะโค้งตัวน้อยๆและเดินเข้าไป ซึงฮุนนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามจินอูซึ่งเป็นคุณหมอและเป็นรุ่นพี่แต่อยู่ประจำตึกจิตเวช
“แปลกนะเรา มีเรื่องไม่สบายใจหรอ”
“อืม นิดหน่อยครับ”
จินวูลุกขึ้นไปชงกาแฟก่อนจะวางไว้ข้างหน้าอีกฝ่าย
ซึงฮุนขอบคุณแต่กลับไม่ได้ยกดื่มแต่อย่างใด
“ไหนมีเรื่องอะไร บอกหมอซิ”
“พี่...ผมเพิ่งเจอคนคนหนึ่ง”
ซึงฮุนเกริ่นเรื่องของตนเองกับเจ้าของร้านดอกไม้ให้ฟัง
ซึงจินวูก็ยิ้มรับและไม่ได้พูดอะไรขัดขึ้นมา ก่อนที่จะกุมมืออีกฝ่ายเมื่อเล่าจบ
“อย่ากังวลเลย นายทำดีที่สุด และผลก็ออกมาดี”
“แต่ผมกลัวว่าเขาจะจำผมไม่ได้...ผมกลัวว่าเขาจะลืม”
“เขาจะไม่เป็นไรซึงฮุน มั่นใจในฝีมือหน่อย ผลเอ็กซเรย์สมองก็ปกติ
นายเองก็ผ่ามาเยอะ ขี้กังวลจริงเชียว”
จินวูให้กำลังใจซึงฮุนก่อนจะลูบหัวแผ่วเบา
“อาลูของฉันถึงวัยที่จะมีความรักแล้วหรอเนี่ย”
“พี่ครับ...”
เสียงโทรศัพท์ขัดขึ้นก่อนที่ซึงฮุนจะกดรับสาย
เมื่อได้ยินข้อความในโทรศัพท์ซึงฮุนไม่ลังเลสักนิดที่จะลุกขึ้นและโค้งลาจินวูอย่างรวดเร็ว
ซึงยุนฟื้นแล้ว
ซึงฮุนไม่ลังเลสักนิดที่จะไปหาอีกฝ่าย
เขาจะไม่รอและจะไม่เป็นฝ่ายตามหาอีกต่อไป
ซึงฮุนเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะพบพยาบาลกำลังตรวจเช็คร่างกายอีกฝ่าย
แต่ทุกอย่างกลับดูพร่าเลือนในสายตาซึงฮุนเหลือเกินเมื่อพบกับรอยยิ้มของคนตรงหน้า
“คุณเจ้าของต้นฟอร์เก็ตมีนอท...ไม่สิ คุณหมอ---“
“คุณฟื้นแล้ว”
ซึงฮุนสวมกอดอีกฝ่ายทันทีโดยที่ไม่สนสายตาพยาบาลสักนิด
ซึงยุนอ้ำอึ้งเมื่อถูกกอดกะทันหันแต่ก็ไม่ได้พุดอะไรออกมา มือยกขึ้นลูบหลังอีกฝ่ายก่อนจะตบมันเบาๆเมื่อได้รับแรงสั่นเล็กน้อยจากการสะอื้น
แม้เพิ่งเจอกันได้แค่ไม่กี่วัน แต่กลับผูกพันกันได้ขนาดนี้
“ผมฟื้นแล้วครับ”
“ให้ผมดูแลคุณเถอะนะซึงยุน.....” ซึงฮุนพูดออกมาหลังจากละตัวออกจากคนในอ้อมกอด
มองใบหน้าที่ซีดเซียวและยกมือขึ้นลูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ “ได้โปรด...ดูแลต้นไม้ของผม
แลกกับที่ผมดุแลคุณได้ไหม”
ซึงยุนยกยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นแตะมือของซึงฮุนที่วางอยู่บนแก้ม
ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ดีที่สุดเท่าที่ซึงฮุนเคยได้ยินมา
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณหมอ...”
“ทำอะไรอยู่หรอ” ซึงฮุนสะดุ้งก่อนจะละมืออกจากดินที่กำลังจับอยู่
วันนี้ซึงฮุนมาช่วยซึงยุนปรับเปลี่ยนกระถางต้นไม้ที่ร้าน
ก่อนที่ซึงยุนจะทอดสายตามองไปที่ต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้า “นั่นดอกฟอร์เก็ตมีนอท...”
“ใช่ ผมแค่มองแล้วนึกถึงตอนที่เราเจอกันหน่ะ”
“ตอนที่คุณช่วยชีวิตผมหน่ะหรอ”
ซึงยุนย่อตัวลงก่อนจะกอดซึงฮุนจากทางด้านหลัง ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะหันใบหน้าหาอีกฝ่าย
ริมฝีปากประทับที่ข้างแก้มซึงยุนแผ่วเบา
“ใช่”
“ผมก็คิดถึงมันเหมือนกันนะ”
ซึงยุนยกยิ้ม ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้นทั้งสองต่างตกลงคบหากัน
แม้อาจจะดูเร็วไปสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับซึงฮุนกลับไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย
และเขาเองยินดีที่จะดูแลอีกฝ่ายตลอดไปมากกว่า
“ผมรักคุณนะซึงยุน”
“พุดแบบนี้คิดว่าผมจะเขินไหมหล่ะ”
“ก็ชอบให้พูดบ่อยๆไม่ใช่หรือ อ้าว แล้วนั่นจะเดินไปไหนหล่ะ
กลับมาบอกผมก่อนสิ”
ซึงฮุนร้องออกมาขณะที่ซึงยุนเดินหนี
รอยยิ้มสดใสเผยบนใบหน้าทั้งคู่ก่อนที่จะเหลือเพียงความอบอุ่นที่อบอวนอยู่ที่นี่ตลอดไป
ขอแค่มีเรา
...ขอแค่มีกันและกันก็พอ
Please stay with me and forget me not.
#ALLBBHN #2SEUNG
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น