หากในนิยามความรักจำกัดแค่คำว่าสอง ผมคิดว่ามันไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องสำหรับ"เรา"
-อีซึงฮุน-
เรือนร่างสองคนที่กอดก่าย
ความร้อนแรงที่เคยสัมผัสยังคงติดตรึงในความคิดของเขาเสมอ...
เพียงแค่เขาได้เจอกันช้าไป
เพียงแค่เขามีคนนั้นอยู่แล้ว
จริงอยู่ว่ามันช่างเป็นเหมือนบาปหนา เปรียบเสมือนยาพิษ
ที่หอมหวาน ยั่วยวน
แต่กลับสามารถฆ่าคนทั้งคนได้แม้ปริมาณน้อยนิด
ความรู้สึกรักเป็นสิ่งที่ยากจะปฏิเสธ
หากเราได้ลองสัมผัสมันสักครั้ง
เหมือนยาเสพติด
ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ได้มีผลดีต่อร่างกายแม้แต่น้อย
แต่ถ้ามีโอกาส ก็อยากลิ้มลองอีกสักครั้ง
ไม่เกี่ยวกับหน้าตา ไม่เกี่ยวกับเวลา
มันเป็นเรื่องของความรู้สึก
แค่สบตากันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
แค่บังเอิญเดินผ่านใกล้ๆกัน
แค่มือบางเฉียดเข้าใกล้กัน
แค่รอยยิ้มละไมส่งมา
แค่ความหมายที่รู้ได้ทางภาษากาย
เหมือนมีหลุมพรางอันตรายมาฉุดกระชากให้เขาตกลงไปทั้งเป็น
แค่นั้น เขาก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วหล่ะ
เหมือนคนโง่งมงายเลยนะ คุณว่าไหม
อีซึงฮุนไม่เคยนอนหลับได้สนิทเลยหลังจากวันนั้น
...วันที่เขาได้พบกับคังซึงยุน
“อื้อ...อึก...”
เหมือนเป็นค่ำคืนธรรมดาปกติที่เขาตื่นมาตอนกลางดึกแล้วต้องทำแบบนี้...
มือเรียวสวยกอบกุมส่วนสำคัญค่อยๆลูบไล้ผะแผ่ว
ก่อนที่จะค่อยๆเร่งเร้าจังหวะขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์
“ซึงยุน..ซึงยุนอา..”
พร่ำเพ้อเหมือนคนจิตเภท
เม็ดเหงื่อชื้นเริ่มมีประปรายที่ขมับ เอนหลังพิงหัวเตียงนอน
เตียงกว้างสั่นคลอนเล็กน้อยยิ่งชวนทำให้คิดถึงคืนที่เขาได้เจอกับอีกฝ่าย
คืนที่เขามอบความร้อนแรงแทบแผดเผาให้กับคนใต้ร่างของตนเอง...
น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจำนวนไม่น้อย ซึงฮุนหอบหายใจถี่ก่อนจะคว้าทิชชู่ข้างหัวเตียงมาเช็ดทำความสะอาด
และตัดสินใจเดินไปอาบน้ำอีกรอบเพื่อชะล้างร่างกายที่อ่อนล้า
เขาตื่นขึ้นมาตามวันปกติที่น่าเบื่อ
อีซึงฮุนลุกขึ้นมาทำกิจวัตเฉกเช่นทุกวัน
แม้อายุจะยังน้อยแต่ด้วยความมุมานะกลับทำให้เขาประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว
ถึงงานจะน่าเบื่อไปบ้างในสายตาคนอื่น
แต่สำหรับเขา งานคือสิ่งสุดท้ายที่บิดาอันเป็นที่รักทิ้งไว้ให้
ถึงจะเริ่มต้นจากบริษัทออกแบบเล็กๆด้วยความยากลำบาก
แต่ในปัจจุบันนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา
ตารางงานในวันนี้มีกำหนดการให้เขาเดินทางไปที่อเมริกาเพื่อทำการเจรจากับลูกค้าหลัก
มีแม่บ้านจัดการให้ไว้เขาเช่นเคย
“พี่ไม่ไปกับผมจริงๆหรอ”อีซึงฮุนเอ่ยถามคิมจินวู
ลูกพี่ลูกน้องพ่วงตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัว
“ไม่ละซึงฮุน นายไปตังอาทิตย์หนึ่ง
ถ้าพี่ไปด้วยแล้วใครจะคอยดูงานทางนี้”
“ไม่ใช่ว่าพี่อยากอยู่กับแฟนที่นี่หรอ”
“ย่าห์ อย่าเอาจินฮวานมาพาดพิงนะ
พี่อยู่ทำงานจริงๆต่างหากเล่า”อีซึงฮุนหัวเราะเล็กน้อยเมื่อแกล้งพี่ชายของตนได้
“แล้วแต่พี่ละกัน”
อีซึงฮุนกอดลาคิมจินวูอีกครั้งก่อนจะออกเดินทางไปสนามบินเพื่อเดินทาง
.
.
.
.
หลังเช็กอินโรงแรมที่จองไว้อีกฝ่ายถึงกับล้มตัวลงนอนที่ห้องพักทันที
อาการแจ็คเลททำเอาเขากุมขมับเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าจะเดินทางบ่อยแค่ไหน แต่ไม่เคยชินแม้แต่น้อย
กุมขมับก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ความอ่อนล้าสั่งสมมาตลอดการเดินทางแทบพรากสติเขาไปตลอด
แต่สมองก่อนจะหลับกลับนึกถึงผู้ชายที่ชื่อว่าคังซึงยุนอีกครา
ครั้งแรก...เจอกันที่นี่
กลับมาอีกครั้งจะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหมนะ
ยิ้มอ่อนออกมาเบาบาง ก่อนที่ผล็อยหลับไป
.
.
.
.
.
หลังคุยงานเสร็จ ความเหนื่อยที่สั่งสมมาหลายวันกำลังจะได้ปลดปล่อย
ซึงฮุนเลือกที่จะใช้เวลาสามวันที่เหลือมอบรางวัลให้ตนเอง
เนื่องจากงานที่ต้องทำตามตารางเสร็จเร็วกว่ากำหนดไว้มาก
อีซึงฮุนไม่ได้นับถือศาสนาอะไรเป็นหลัก
แต่ความงดงามทางสถาปัตยกรรมดึงดูดให้เขามาที่นี่
โบสถ์คาทอลิค
เขาค้นพบว่ามันมีที่สวยๆแบบนี้เมื่อคืนวาน ตอนที่เขากำลังเดินทางผ่าน
เขาหันไปเห็นพอดี
สอบถามคนขับรถพบว่ามันเป็นโบสถ์เล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนเข้ามาเท่าไรนัก
...ทั้งที่สถานที่ออกจะงดงามแท้ๆ
นี่คือสิ่งที่อีซึงฮุนคิดแวบแรกที่เห็น ก่อนสาบานในใจว่าจะกลับมาถ่ายรูปอีกครั้งให้ได้
พูดคุยกับบาทหลวงผู้ดูแลเพื่อขออนุญาต ก่อนที่จะหยิบกล้องตัวโปรดเพื่อเข้าไปสำรวจโบสถ์เล็กแห่งนี้...
เพียงประตูที่ปิดสนิทถูกเปิดออก เขากลับแข็งค้างไปทันที
แสงที่สาดส่องผ่านทางกระจกเจ็ดสีแบบโมเสททำให้ข้างในดูงดงามอย่างยิ่ง
แต่สิ่งที่ดูสะดุดใจยิ่งกว่า คือแผ่นหลังเล็กบางที่เขารู้สึกคุ้นเคย
ความงดงามตรงหน้าทำให้เขาอดกดชัตเตอร์รัวๆไม่ได้
เหมือนนางฟ้ามาอยู่ในนี้เลย นั่นคือสิ่งที่อีซึงฮุนคิด
แฟลชสว่างทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างในเผลอสะดุ้งเล็กน้องก่อนหันมามอง...
อา...คนนั้น
เหมือนโลกกลมๆที่แทบทำให้เขาหยุดหายใจ
สิ่งที่รอคอยมาเกือบปีมันสำเร็จแล้ว
เขาได้พบกลับคนนั้นอีกครั้ง
คนที่ทำให้เขาใจเต้นระรัว
“คังซึงยุน...”
บานประตูถูกปิดด้วยความรีบร้อน
สองร่างต่างกอดกระหวัดด้วยความโหยหารุนแรง
ริมฝีปากบางขบเม้มความนุ่มยุ่นราวกับสารเสพติดที่ละไม่ได้
เสื้อผ้าถูกร่นลงมาเผยให้เห็นไหปลาร้าลึก
ผิวขาวเนียนจนอดไม่ได้ที่จะบดขยี้มันซ้ำๆด้วยความปรารถนารุนแรง
ฉกชิมที่ริมฝีปากอีกครั้ง
รสหวานจากการแลกเปลี่ยนน้ำลายปะปนมากับคาวเลือดเล็กน้อย
ก่อนจะผละออกเพื่อให้คนตัวเล็กกว่าหายใจ
“ยังหวานเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะซึงยุนอา...”
“อย่าทำรอย...”
ทั้งที่ร้องห้ามแต่กลับเงยหน้าขึ้นราวกับจงใจยั่วยวนอีกฝ่าย ซึงฮุนลากลิ้นจากปลายคางลงมาจนถึงไหล่ก่อนซับจูบเบาๆ
“นายเป็นใครกันแน่ ทำไมทำให้ฉันแทบคลั่งขนาดนี้นะ”
“ฮิฮิ คิดถึงนะซึงฮุน”
“คิดถึงฉันหรือคิดถึงลีลาของฉันกันแน่”
“ทั้งสองอย่าง”
รอยยิ้มต่างส่งต่อให้กันและกันราวกับจะสื่อความหมาย
“ยิ้มแบบนี้เดียวก็ไม่ปล่อยให้ไปไหนหรอก”
“นายทำไม่ได้หรอก เพราะฉันมีแฟนแล้ว”
อีซึงฮุนชะงักเล็กน้อย ก่อนจะผละออกและเดินนำเข้ามาในห้องรับแขกของตน
ซึงยุนเดินตามมาก่อนนั่งตรงกันข้าม
“กับคนนั้น...ยังไปได้ดีสินะ”
อีซึงฮุนเอ่ยถามเสียงแผ่ว
รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
เขไม่น่าลืมเลย ว่าคนที่เขายังปรารถนา ยังโหยหาในทุกค่ำคืนนั้นมีคนรักแล้ว
ใช่ อีซึงฮุนเป็นคนบาป
เป็นคนที่หลงรักคังซึงยุน
ผู้ชายที่ได้เจอกันแค่ครั้งเดียว
คนที่ทำให้เขาปลดปล่อยทุกอย่างออกมาได้อย่างง่ายดาย
....และเป็นคนที่มีเจ้าของแล้ว
“ก็ดี
แต่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้เท่าไร”คังซึงยุนหยิบไวน์เก่าแก่ที่อยู่ข้างๆมารินสองแก้ว
ก่อนส่งให้เจ้าของห้อง
อีซึงฮุนรับมาด้วยความรู้สึกหน่วงในใจ
ความรู้สึกรักที่มีอยู่ในอกนั้นมีมากมาย
แต่ความรับผิดชอบชั่วดีมีมากกว่า
อย่างน้อย
แค่ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย...
ซึงฮุนกรอกไวน์เข้าปากก่อนที่จะส่งต่อให้อีกฝ่ายผ่านริมฝีปาก
เพียงแค่นั้น
สัญญาณบทรักอันร้อนแรงก็เริ่มต้นขึ้นทันที
.
.
.
.
.
.
ผิวขาวผ่องที่ไร้อาภรณ์ถูกแต่งแต้มด้วยรอยรักมากมาย ริมฝีปากแดงที่ร้องครวญครางตลอดคืนที่ผ่านมาบวมเจ่อจากการบดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าดูมีเสน่ห์เหลือเกิน
อีซึงฮุนตื่นขึ้นมาในตอนสายของอีกวัน
ลุกขึ้นนั่งเพื่อพินิจหน้าอีกฝ่าย
สายตาอ่านยากมองไปที่อีกฝ่ายที่นอนขี้เซาไม่น้อย
“ทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนี้นะซึงยุนอา ทำไมไม่เจอกันให้เร็วกว่านี้...”อีซึงฮุนพูดออกมาเพียงแผ่วเบา
รอยยิ้มฝืนออกมาแม้ในดวงตาจะเศร้าแค่ไหนก็ตาม
ดึงผ่าห่มออกจากเรือนร่างน่าหลงใหล ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผาก
จมูกโด่งรั้น และริมฝีปากนุ่ม
ก่อนที่จะเอามือสอดร่างบางๆให้ยกมาวางไว้แนบอก
อีกฝ่ายดิ้นเล็กน้อยแต่ไม่ลืมตา
เสียงครางงืมงัมทำให้ซึงฮุนหลุดยิ้มออกมาก่อนจะกอดด้วยความรู้สึกหลากหลาย
อบอุ่น
ซาบซ่าน
ไม่อยากเสียไป
กอดและดอมดมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะผละออกเบาๆ
พาร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยรักและรอยจิกข่วนของตนไปอาบน้ำ
ทริปนี้คงต้องจบเพียงเท่านี้สินะ
อีซึงฮุนเตรียมตัวอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะทิ้งเพียงโน้ตเล็กๆที่รอให้อีกฝ่ายตื่นมารับรู้
‘ถ้าการได้รักคือความทรมาน คังซึงยุนคือคำตอบนั้นสำหรับผม’
------
ขอโทษที่ทำให้ทุกคนหลงเข้ามาอ่านฟิคป่วยๆของเรานะคะ
อยากลองแต่งแนวนี้แต่รู้สึกมันจะหน่วงก็ไม่หน่วง จะอิโรติกมันก็ไม่ชอบกลㅋㅋㅋ
ฟิคนี้มันจะมีกี่ตอนก็ไม่อาจทราบได้ แต่จะมีสามภาคหลักๆเลยคือภาคอีซึงฮุน ภาคคังซึงยุน แล้วก็ภาคซงมินโฮ
แล้วอาจจะมีภาคพิเศษมาบ้าง
ยังไงก็ช่วยติดตามต่อไปนะคะ
#ฟิคหลุมพราง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น