เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้นดังเช่นทุกวัน
มือขาวค่อยๆเลื้อยออกจากผ้าห่มที่คลุมมิดชิด
ขนลุกชันน้อยๆเมื่อสัมผัสกับแอร์ที่ปรับไว้อุณหภูมิต่ำ
จับโทรศัพท์ก่อนปลดล็อคทั้งๆที่ไม่ได้โผล่ออกมาเพื่อให้นาฬิกาหยุดส่งเสียงรบกวน
ซึงฮุนชักมือกลับเข้าผ้าห่มก่อนจะค่อยๆดึงผ้าห่มคลุมตัวเองอีกครั้ง
ผ้าผืนหนาม้วนจนร่างกายเปลือยของอีกฝ่ายโผล่ออกมา
“ฮื่อ...ฮยองอ่า” มินโฮร้องออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกหนาว
แขนค่อยๆเอาผ้าห่มออกก่อนที่จะดึงอีกฝ่ายแนบอกแทน
มินโฮหอมหน้าผากทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “ผมหนาวนะ”
มินโฮลากมือไปลูบที่หลังเปลือยสองสามทีก่อนจะลากลงมาเรื่อยๆ...
“พอเลยมินโฮอา
เมื่อคืนยังไม่พออีกหรือไง”ซึงฮุนส่ายหัวก่อนจะกัดไหล่เบาๆ
มินโฮร้องออกมาก่อนจะค่อยๆผละตัวออก
ซึงฮุนเผยอปากน้อยๆค้างไว้เพราะอีกฝ่ายถดตัวหนี
เป็นภาพที่น่ารักยามเช้าอีกวันที่มินโฮตื่นมาเห็น
ฉีกยิ้มออกมาน้อยๆเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมลืมตา มองตามร่างกายที่เปลือยเปล่ามีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ที่เจ้าตัวชอบใส่นอน
ซึงฮุนเป็นคนขี้ร้อนก็จริงแต่คงไม่เท่ามินโฮเพราะว่าเขาเองปรับแอร์ต่ำเสียจนอีกฝ่ายโหยหาผ้าห่มหนาขนาดนี้
“อรุณสวัสดิ์ครับฮยอง”
“งืมมม ขอนอนอีกนิดได้ไหม
เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลยนะ”
“ไม่ได้แล้วครับ สามโมงแล้วนะ”
“....” ซึงฮุนไม่ตอบแต่หลับทั้งๆอย่างนั้น
มินโฮยิ้มออกมาก่อนที่จะค่อยๆเอาผ้าห่มออกจากตัวเอง
คว้ากางเกงนอนสวมทับก่อนจะค่อยๆบิดขี้เกียจ
ร่างกายเมื่อยล้าเล็กน้อยเพราะที่นอนไม่ได้กว้างขวางมากพอที่จะให้ผู้ชายสองคนนอนเบียดด้วยกัน
แต่กลับได้ความอิ่มอกอิ่มใจเพราะร่างบางกว่าของคนพี่เป็นเหมือนความอบอุ่นให้เขากอดตลอดคืน
ซึงฮุนทิ้งเมทตัวเองมาหลบอยู่ที่นี่หลายคืนติดกันแล้ว เพราะงานที่ต้องทำจนดึกดื่น
ทั้งซึงฮุนและมินโฮต่างช่วยกันคิดเนื้อเพลงและเตรียมการสำหรับอัลบั้มต่อไป
เขาสองคนจึงอยู่ด้วยกันตลอดเวลา
มินโฮปล่อยให้ฮยองขี้เซานอนต่ออีกสักพักก่อนจะพาตัวเองไปอาบน้ำ
ไอร้อนออกมาฟุ้งทำให้คลายความล้าสะสมได้บ้าง
ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีก่อนเสียงประตูจะเปิดเข้ามา
ซึงฮุนเดินเข้ามาแบบมึนๆ ผ้าขนหนูรัดเอวสอบไว้ต่ำก่อนจะเริ่มแปรงฟัน
เสียงกรอกแกร๊กดังปะปนกับเสียงฮัมเพลง มินโฮรั้งม่านที่กั้นออกก่อนจะมองซึงฮุน
“ฮยอง อาบน้ำด้วยกันไหม”
“ไม่เอาอ่ะ กลัวไม่ได้อาบ”
“หืม...มานี่เลย” มินโฮดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ๆก่อนจะดึงผ้าขนหนูออก
ซึงฮุนสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเล่นแบบนี้
“ฮื้อออ ไม่เอาน่ามินโฮ”
“เอาแปรงมานี่” มินโฮปิดน้ำจากฝักบัวก่อนจะจับแปรงสีฟันที่คาปากอีกฝ่าย “ยีฟันหน่อยครับฮยองคนดี”
มินโฮค่อยๆขยับแปรงให้
ถึงร่างกายเปลือยตรงหน้าจะทำให้มินโฮใจเต้นแรงมากก็ตาม
แต่ก็พยายามไม่มองต่ำเพราะต้องไปสนามบินวันนี้เพื่อไปจีน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายก็ต้องการคนตรงหน้า
เพราะทุกวันนี้ด้วยตารางงานที่มีทำให้เขาสองคนไม่มีเวลาไปมากกว่าการนอนข้างกันเลยแม้แต่น้อย
แต่ยังดีที่อีกฝ่ายยังคอยอยู่ใกล้ๆตลอด
ขืนเป็นเหมือนตอนสมัยแข่งโชว์มีหรือตอนที่ต้องไปถ่ายแบบที่จีนเขาคงได้บ้าตายเพราะคิดถึงแน่ๆ
“ก้มหน้าหน่อยฮยอง จะได้สระผม” หลังจากบ้วนปากเสร็จมินโฮก็กดอีกฝ่ายลงเล็กน้อยเพราต้องสระผมให้
“งืออออ”ซึงฮุนร้องออกมาน้อยๆเมื่อมินโฮราดฝักบัวลงไป
ร่างบางนั่นดิ้นขลุกขลักก่อนจะนิ่ง ทำให้มินโฮชโลมยาสระผมได้ง่ายขึ้น
มือหนาขยี้เบาๆเพราะกลัวอีกฝ่ายเจ็บ
“มินโฮ...”
“หืม”
“อยากหรอ”
มินโฮสะดุ้งเมื่อมืออีกฝ่ายเอื้อมมาจับต้นขาทั้งสองข้าง
“ฮยอง...มะ ไม่เล่นแบบนี้สิ
เดียวน้ำเข้าตา”
ซึงฮุนหัวเราะน้อยๆก่อนที่อีกฝ่ายจะล้างผมให้จนเสร็จจึงเงยหน้าขึ้น
ใบหน้าเจ้าเล่ห์แบบปิดไม่มิดยิ่งทำให้มินโฮเสียวสันหลังขึ้นมา
“อยากไหมหืมมินโฮอา...”
“อย่ายั่วผมสิ เรามีงานนะ”
“แต่ฮยองอยากนะ”
มินโฮอ้าปากเหวอกับคำพูดอีกฝ่าย
กว่าจะรู้ตัวริมฝีปากเล็กนั่นก็จู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว
ลิ้นเล็กๆค่อยๆละเลียดที่ริมฝีปากช้าๆเป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะค่อยๆสอดเข้าไปเพียงเล็กน้อย
มินโฮจะไม่ทน
มันนานครั้งมากที่ซึงฮุนจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ทั้งๆที่เขาก็พยายามหักห้ามใจแต่บางทีเขาก็เดาความคิดคนตรงหน้าไม่ค่อยได้
บางครั้งก็อายจนแทบหลบหน้า บางครั้งก็กล้าเสียจนใจเขารับไม่ทัน
มินโฮวางมือที่เอวก่อนจะบีบเบาๆ
ตอบรับสัมผัสแนบแน่นก่อนจะผละออกและสัมผัสซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ร่างกายที่เปียกชื้นและปราศจากเสื้อผ้ายิ่งเป็นดั่งเชื้อเพลิงทำให้เกิดอารมณ์เตลิดได้ง่ายขึ้น
ซึงฮุนละออกก่อนที่จะอังหน้าผากชนกัน
ยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นว่ามินโฮเริ่มจะคล้อยตามแล้ว ก่อนที่จะจูบที่ลำคอแผ่วเบา
มินโฮเม้มปากแน่นเพราะอีกฝ่ายกัดที่ลำคอก่อนจะเปิดฝักบัวเพราะกลัวว่าเสียงจะเล็ดลอดออกไป
มินโฮลูบแผ่นหลังเป็นเชิงบอกให้ใจเย็นๆเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำรอยไว้
“ใจเย็นนะฮยอง ฮือ...”
“นิดหน่อยไม่ได้หรอ
ใส่เสื้อหนาๆไปละกันวันนี้อ่ะ”
ร่างกายของมินโฮกระตุก
ใบหน้าคมเชิดขึ้นเมื่อมืออีกฝ่ายสัมผัสที่ส่วนนั้น
ซึงฮุนสอดขาก่อนเสียดสีกันแผ่วเบา
มินโฮยกมือทั้งสองข้างสัมผัสยอดอกคนตรงหน้าก่อนความอดทนจะสิ้นสุดลง
ริมฝีปากครอบครองยอดอกก่อนดูดดึงอย่างแรงจนซึงฮุนเผลอกำมือแน่นขึ้น
ซึงฮุนรูดรั้งของมินโฮแรงขึ้นจนเสียงครางฮืมในลำคอดังออกมา
ยิ้มอย่างพอใจทั้งที่โดนกัดจนขึ้นรอยเขี้ยว
“มะ...มินโฮ”
“ฮยองนี่มันน่าจริงๆ
ผมบอกแล้วใช่ไหมว่ามีงานวันนี้ เดียวก็ไม่มีแรงเดินอีก”
“งั้นก็ไม่ต้องใส่ อ๊ะ สิ”
“ถึงโน่นเมื่อไรฮยองไม่รอดแน่”
“จะรอดูละกัน” ซึงฮุนยกยิ้มก่อนที่บทสนทนาจะขาดหายไป
กลายเป็นเสียงความสุขที่กำลังเติมเต็มกันและกันแทน
มินโฮนั่งอยู่เบาะหลังยู่ปากเล็กน้อยจนซึงฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆจับสังเกตได้
หลุดหัวเราะเพราะมินโฮตอนนี้เหมือนเด็กน้อยเหลือเกิน
เอื้อมมือไปจับก่อนที่มินโฮจะสะบัดออกและหันหน้าหนี
“ฮยองไม่ต้องเลย”
เสียงมินโฮค่อนข้างดังจนซึงยุนที่นั่งเบาะหน้าหันมามองพร้อมๆกับแทฮยอน
“เป็นไรอ่ะฮยอง”ซึงยุนพูดออกมาเมื่อเห็นท่าทีมินโฮ ซึงฮุนยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร
จะให้บอกได้ไงว่าเมื่อเช้ายั่วอีกฝ่ายและทำให้มินโฮจนเสร็จ
แต่ตัวเองกลับไม่ยอมให้มินโฮทำคืน
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เด็กเอาแต่ใจหน่ะ”
จินวูมองมาก่อนจะหัวเราะกับพูดประชดประชันเล็กๆของซึงฮุน
นั่งมาได้สักพักก็ถึงสนามบิน
“มินโฮอา อย่างอนฮยองสิ”
“ฮึ ไม่ต้องเลย
ไปนั่งกับจินวูฮยองโน่น ผมไม่นั่งด้วยแล้วรอบนี้อ่ะ”
“น่า มินโฮ เอางี้...”ซึงฮุนหยุดพูดก่อนจะยื่นนิ้วก้อยให้ “เดียวไปถึงจีนเมื่อไร
ฮยองยอมทุกอย่างเลย นะครับ”
มินโฮเบือนหน้าหนีก่อนจะแอบลอบยิ้มขึ้นมาและกลับไปหน้าบึ้งเหมือนเดิม
ซึงฮุนยังง้อน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
เพราะมินโฮเคยเป็นแบบนี้อีกฝ่ายจึงรู้ว่าควรทำอย่างไง
มินโฮเดินลงจากรถตามหลังเมมเบอร์ในวง ใบหน้านิ่ง
ตลอดเวลาแทบจะไม่มองซึงฮุนแม้แต่น้อย มินโฮเอาแต่ตามติดซึงยุนจนแทฮยอนรำคาญ
“ฮยอง มาเดินตามซึงยุนทำไม” แทฮยอนทำหน้านิ่งถามอีกฝ่าย
“เปล่า ไม่ได้ตาม” มินโฮตอบหน้าตาย
“ทะเลาะกับซึงฮุนฮยองอีกอ่ะดิ หน้าโคตรบึ้ง”
“ต้องฉีกยิ้มแบบนายหรือไง” มินโฮยื่นมือไปจิ้มอีกฝ่ายเพื่อแหย่เล่น
แทฮยอนปัดมือออกก่อนทำหน้ารำคาญและเดินหนี
มินโฮหัวเราะน้อยๆที่แกล้งมักเน่ของวงได้ ก่อนที่จะหันไปเห็นซึงฮุนยืนคุยกับเมเน
ดูท่าอีกฝ่ายคงชอบการถ่ายรูปขึ้นมาเพราะตอนนี้มือเรียวนั่นกำลังรับกล้องถ่ายรูปมากระชับแน่น
มินโฮยืนเล่นมือถือฆ่าเวลาก่อนที่จะขึ้นเครื่อง
เขารับพาสปอร์ตจากจินวูฮยองก่อนจะเดินเข้าเกสท์ไป
มินโฮรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
ตลอดระยะเวลาที่นั่งเครื่องบินเอาแต่นอนเพราะอาการปวดหัวเริ่มเตือนเบาๆ
เขาคิดว่าคงไม่สบายเพราะการพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอเป็นแน่
เมื่อถึงโรงแรมที่พักมินโฮวางกระเป๋าเสื้อผ้าก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา
รอบนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ร่างกายเหมือนจะเพลียมากแปลกๆ
อาจเกิดจากความเมื่อยล้าสะสมเพราะต้องเข้าห้องซ้อมเพลงใหม่ๆ
ออกงานต่างๆหรืออะไรก็ตาม มินโฮเดินเข้าห้องน้ำก่อนจะเริ่มอาบน้ำ
พลันหัวก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า ใบหน้าที่ดูตึงเครียดก็พลันยิ้มออกมาน้อยๆ
ฮยองของเขาวันนี้จะง้อยังไงกันนะ
พอคิดแล้วก็หยุดยิ้มไม่ได้
เมื่อเงยหน้ามองกระจกแล้วเห็นรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ของตนเองก็หุบยิ้มก่อนจะแปรงฟัน
เพราะว่าวันนี้เขาได้นอนคนเดียวเลยไม่ต้องกังวลว่าใครจะรออาบน้ำ
ซึงฮุนกับจินวูได้นอนห้องเดียวกัน ส่วนแทฮยอนและซึงยุนก็นอนห้องเดียวกัน
มินโฮอาบน้ำเสร็จก่อนจะนั่งเช็คโทรศัพท์
ถ่ายรูปเล่นก่อนจะได้รับข้อความจากคนที่เขางอนอยู่
-เดี๋ยวไปหานะ-
แค่ไม่กี่วินาทีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
มินโฮเดินไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินนำเข้ามา
“มินโฮอา ยังงอนฮยองอีกหรอหืม”
“เปล่าซะหน่อย” มินโฮทำท่าจะนั่งแต่กลับกลายเป็นว่าซึงฮุนจับแขนอีกฝ่ายก่อน
มินโฮรู้สึกเหมือนโลกหมุนแต่พยายามยืนนิ่งไว้ แต่กลับกลายเป็นซึงฮุนพูดโวยวายออกมา
“นี่นายตัวร้อนนะมินโฮ ไม่สบายหรอ” ซึงฮุนกดอีกฝ่ายนั่งบนโซฟา มือเรียวอังหน้าผากก่อนจะพูดออกมา
ใบหน้าเริ่มนิ่งจนมินโฮรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเริ่มเข้าสู่โหมดโหด
ซึงฮุนมองก่อนจะกอดอก
“ซงมินโฮ มีอะไรจะบอกฮยองไหม”
“นี่ผมงอนฮยองอยู่นะ” มินโฮเริ่มใบหน้าเจื่อนลง ซึงฮุนเห็นแบบนั้นก็รู้สึกใจอ่อน
แต่จะให้เลิกเคร่งคงไม่ได้
“งอนได้ แต่สุขภาพทำไมไม่ดูแล
ถ้าเกิดเป็นหนักกว่านี้รู้ใช่ไหมว่ามันส่งผลต่องาน”
“...”
“เริ่มปวดหัวตั้งแต่เมื่อไร”
“ก็...เมื่อตอนนั่งเครื่องมา”
“ทำไมไม่บอกฮยอง”
“ก็ผม...”
ซึงฮุนเดินออกจากห้องไป มินโฮทรุดหน้าก้มลงกับเข่า ความรู้สึกแย่โถมเข้ามาในใจ
ตาปิดลงก่อนจะหงายพิงโซฟาไป หลับตานิ่งเพราะเริ่มปวดหัวหนักขึ้น ต้องรีบพัก
ไม่งั้นเขาจะไปซ้อมพรุ่งนี้ไม่ได้อีก...
เสียงประตูดังขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะเป็นซึงฮุนเดินเข้ามา
ซึงฮุนมองไปที่มินโฮที่นอนหลับไปแล้ว
ลมหายใจสนิททำให้ซึงฮุนแอบลอบถอนใจเบาๆ
รู้ว่าไม่สบายแทนที่จะรีบใส่เสื้อผ้าเข้านอน
แต่ดูท่าที่มือยังค้างโทรศัพท์ไว้กับแชทตัวเองก็ได้แต่ยกยิ้มน้อยๆ
เป็นอีกครั้งที่ซึงฮุนต้องแบกมินโฮไปที่ที่นอน
มันไม่ได้เป็นอะไรที่หนักหนา แต่การที่ขนาดลำตัวต่างกันขนาดนี้เล่นเอาแขนล้าได้เช่นกัน
ซึงฮุนเร่งแอร์เพิ่มขึ้นเพราะอุณหภูมิที่มีอยู่เย็นเกินไป
หยิบโทรศัพท์ส่งหาจินวูฮยองเพื่อบอกว่าคืนนี้คงได้ค้างที่ห้องนี้เพราะมีเด็กไม่สบายก่อนขอโทษ
มือวางโทรศัพท์ก่อนจะหันมามองคนที่หลับไม่รู้เรื่องอีกครั้ง
มินโฮเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ เมื่อซึงฮุนค่อยๆแหวกชุดคลุมอาบน้ำออก
ร่างกายเปลือยเปล่าที่ปราศจากซับในทำให้จิตใจของซึงฮุนพลุกพล่าน
"ร้อน ร้อนไปหมดเลยนะ"
ซึงฮุนพูดได้แค่เพียงเท่านี้
เมื่อความเรียบเนียนของผิวสีน้ำผึ้งที่ปรากฏต่อหน้า
แม้จะเห็นบ่อยครั้งแต่มันก็ทำให้อดลูบไล้ไม่ได้
ความร้อนจากร่างกายบ่งบอกว่าพิษไข้คงใกล้มารุมเร้าเป็นแน่
ซึงฮุนจึงทำได้เพียงหักห้ามใจ ประคองอีกฝ่ายพิงเตียงนอน
มือเอื้อมไปคว้ายาและน้ำที่อุตส่าห์ไปขอซึงยุนมา
ปลุกคนที่ดูสะลึมสะลือให้ตื่นก่อนจะป้อนมินโฮเชื่องช้า พยายามยกน้ำให้ดื่มมากๆ
มินโฮทำตามเป็นอย่างดีเมื่ออีกฝ่ายใส่ใจมากขนาดนี้ น้ำบางส่วนหกเลอะเปรอะอก
"เช็ดตัวหน่อยไหม
หนาวหรือเปล่า"
"ฮยอง....ฮยองยังโกรธผมใช่ไหม"
"มีสิทธิด้วยหรอหืมมินโฮ
นายก็งอนฮยองนี่"
"ไม่งอนแล้ว ผมขอโทษ"
"หึ เด็กน้อยเอ้ย"
ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะกอดอีกฝ่ายหลวมๆ"ไม่โกรธแล้วเหมือนกัน
คราวหน้าไม่สบายให้บอกนะเข้าใจไหม ไม่ใช่เอาแต่ดื้อแบบนี้"
"ฮยองดุผม"
"ไม่ได้ดุ แค่บอกดีๆแล้วไม่ฟังเอง
เดียวใส่เสื้อผ้าก่อนนะจะได้ไม่หนาว"
"ไม่เอาๆ
เดี๋ยวผมกอดฮยองก็อุ่นแล้ว"
มินโฮยิ้มอ้อนออกมา
แม้จะไม่สดใสมากเพราะอากาศปวดหัวเริ่มรุมเร้าแต่ก็ทำให้ซึงฮุนรู้สึกเอ็นดูไม่น้อย
คลุมผ้าให้คนที่บอกว่าจะไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนจะหันไปเปิดไฟโทนอ่อนไว้
สอดร่างกายในผ้าห่มผืนเดียวกันก่อนหอมหน้าผาก
“นอนได้แล้วนะรู้ไหม ฝันดีนะ”
“ฝันดีครับฮยอง”
ซึงฮุนสะดุ้งตื่นตอนกลางดึก
เหมือบมองนาฬิกาก่อนจะพบว่าป็นช่วงเวลาตีสี่กว่าๆแล้ว
หันไปมองคนในอ้อมกอดพบว่าเป็นมินโฮที่ลืมตามองอยู่
“ทำไมไม่นอน”
มือเอื้อมไปสัมผัสหน้าผากก่อนละมือออก “ตัวไม่ร้อนแล้ว ดีจัง”
“ผมอยากกอดฮยอง”
“ก็กอดอยู่ไม่ใช่หรือไง
แขนหน่ะ....”
ซึงฮุนเงียบเสียงลงเมื่ออีกฝ่ายลูบเอวเบาๆ
มือสอดเข้ามาในสาบเสื้อก่อนจะไล้แถวสะดือ สัมผัสหนักเบาไม่เท่ากัน
นัยน์ตาคมมองมาผ่านความมืดสลัวเพราะแสงไฟปิดตอนไหนไม่รู้ มีเพียงแสงสะท้อนจากหน้าต่างที่ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายแสดงท่าทีออกมาเช่นไร
ไม่มีคำพูดให้แก่กันและกัน
และไม่มีสัญญาณเตือนถึงการเริ่มต้น
ซึงฮุนลูบโครงหน้าคมที่ดูดีก่อนจะประทับริมฝีปากที่หน้าผาก
กึ่งดันตัวขึ้นก่อนแขนอีกข้างจะยกขึ้นเพื่อรั้งขอบชุดคลุมที่หมิ่นเหม่ของมินโฮออกจากไหล่กว้างที่ดูอบอุ่น
ลุกนั่งก่อนที่ดันมินโฮให้พิงหัวเตียง หยิบหมอนรองหลังให้และดันขาออก
“เป็นเด็กดีนะมินโฮ”
ริมฝีปากรุกล้ำเพื่อหาความหวานละมุนจากคนตรงหน้าก่อนที่มินโฮจะเผยอปากน้อยๆให้อีกฝ่ายสอดลิ้นเข้ามา
ความแห้งผากในคราวแรกกลับได้รับความชุ่มฉ่ำจนเกิดเสียง
ฟังดูน่าอายแต่กลับทำให้หัวใจของมินโฮตื่นเต้นขึ้น
ซึงฮุนดันตัวแนบชิดมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายละริมฝีปากออก
หอบหายใจทั้งๆที่เมื่อครู่ไม่ได้รุนแรงแต่กลับสูบพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
ร่างกายของมินโฮโอนอ่อนอย่างง่ายดาย ซึงฮุนดันขามินโฮก่อนจะจับให้พาดเอวตัวเอง
ริมฝีปากทาบทับลงอีกครั้งก่อนจะไล้ลงมาที่ลำคอที่ดูจะเกร็งไปหมดทุกจุดที่ริมฝีปากลากผ่าน
แลบลิ้นเล็กๆเพื่อละเลียดอย่างอ่อนโยนเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีกับสัมผัสที่จะเกิดขึ้น
มันไม่ใช่ครั้งแรก
ครั้งที่สอง หรือครั้งที่เท่าไรแล้วก็ตามที แต่ซึงฮุนก็อยากถนอมให้มากที่สุดอยู่ดี
ถึงสุดท้ายจะควบคุมไม่ค่อยได้ก็ตาม
มินโฮเอื้อมมือปลดเสื้อนอนของซึงฮุน
แต่ไม่ได้จับออกแต่อย่างใด ก่อนที่จะวางมือไว้ที่อก บีบเบาๆทั้งที่มือสั่น
ละวางทุกอย่างเพื่อให้ซึงฮุนควบคุม วันนี้เขายอมทุกอย่างที่จะให้ซึงฮุนครอบครอง
มันไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่หากการนอนรอรับความสุขจากคนที่รักจะทำให้เจ็บบ้าง
เขาเข้าใจความรู้สึกของซึงฮุนพอๆกับซึงฮุนที่เข้าใจความต้องการของเขา
ร่างกายของมินโฮสั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่
ริมฝีปากที่ครอบครองยอดอกดูดดึงแรงบ้างเบาบ้าง
มินโฮนิ่วหน้าแต่ไม่ยอมละสายตาจากซึงฮุน
ยิ้มเพื่อบอกว่าตนเองไม่เป็นไรก่อนจะเชิดหน้า
“ฮ่ะ
อื้อ ฮยอง ฮยองอ่า...”มือรูดรั้งแกนกายช้าๆแต่บีบรัดจนมินโฮอกครวญครางออกมาไม่ได้
มันรู้สึกดีเกินไป ซึงฮุนกัดน้อยๆก่อนจะลากริมฝีปากลงและไล้เลียเชิงกราน มืออีกข้างจับเอวสอบบีบสลับคลายเพื่อให้อีกฝ่ายอยู่นิ่งก่อนริมฝีปากจะครอบครองแกนกายของมินโฮ
ลิ้มลองรสชาติของอีกฝ่ายที่พยายามอดกลั้นเต็มทน
“ฮยอง
อย่าเลียแบบนั้น...ฮื้อ”ร้องออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่เมื่อลิ้นกระหวัดส่วนปลาย
ขาเริ่มกระตุกจนซึงฮุนต้องละมือไปจับต้นขามินโฮให้อ้าออกกว้าง
บีบให้เชื่อใจก่อนจะคายแกนกายออก
“มินโฮ
ไหวไหม”
“ฮื้อ
ไหว ผมไหว”
“ฮยองขอนะ
ช่วยมองมาที่ฮยองทีนะ”
มินโฮเงยหน้าเพื่อมองอีกฝ่ายตามที่ขอ
สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นก่อนที่จะกัดริมฝีปากแน่นเมื่อสัมผัสต่อมายากเกินจะทน
ลิ้นสอดเข้าไม่ทำให้เจ็บเพราะความเหนอะหนะจากน้ำลาย
ทำไปเพียงสักพักก่อนที่ซึงฮุนจะสอดนิ้วเข้าที่ริมฝีปาก
ลากวนสักพักก่อนจ่อที่ช่องทางที่เตรียมไว้
“อ่า
ซึงฮุนฮยอง ซึงฮุนอ่า”มินโฮร้องออกมา น้ำตาไหลออกมาเพราะความจุกเสียด ซึงฮุนซับน้ำตาก่อนจะแช่นิ้วนิ่ง
ไม่ได้ขยับต่อเพราะช่องทางรัดแน่นเกินไป
จูบเพื่อปลอบใจและยิ้มออกมาเมื่อเห็นมือมินโฮเอื้อมมาจับไหล่และจิกแน่น
ก่อนจะเริ่มขยับเข้าออกแผ่วเบา
“อึก...”
“รู้สึกยังไง
บอกฮยองหน่อย”
“อึก..อย่าแกล้งผม
เข้ามาสิ” มินโฮพูดก่อนจะหลับตา รับสัมผัสทุกส่วนจากซึงฮุนที่ปรนเปรอเป็นอย่างดีจนแทบถึงจุดสูงสุด ซึงฮุนถอดกางเกงนอนของตัวเองออกแค่ต้นขาก่อนรูดรั้งเพื่อเตรียมความพร้อมไม่นาน
บดเบียดส่วนอ่อนไหวกับช่องทางหลังขอมินโฮก่อนจะค่อยๆสอดใส่เข้าไป
ซึงฮุนสูดลมหายใจแรงเร็วเพราะช่องทางหลังของมินโฮตอบรับดีเหลือเกินจนแทบอดทนไม่ได้
ร้องออกมาเบาๆก่อนลูบหน้าผากมินโฮที่เหงื่อออกเยอะเหลือเกิน
“ฮยองรักเรานะมินโฮ
ผ่อนคลายหน่อยเถอะ”
“อึก
มันเจ็บ...”
“พอไหม
ไม่ทำไหม”
“ไม่เอา”มินโฮพูดออกมาก่อนจะขยับเอวเข้าหา
ทั้งมินโฮและซึงฮุนร้องออกมาก่อนประกบจูบนัวเนีย ความเสียวซ่านแล่นริ้วถาโถมใส่จนแทบทนไม่ไหว
มินโฮกัดริมฝีปากซึงฮุนแน่นจนบวมเจ่อก่อนจะอ้าออกและร้องเสียหลงไม่หยุดทุกครั้งที่ซึงฮุนเริ่มขยับกายเข้าออก
จากจังหวะเชื่องช้าจนตอนนี้เสียงหน้าขากระทบรุนแรงพอๆกับเสียงร้องของมินโฮ
ซึงฮุนกดเอวมินโฮก่อนจะรูดรั้งแกนกายคนใต้ร่างแรงๆ จนมินโฮกระตุกและปลดปล่อยออกมา
ซึงฮุนยิ้มก่อนปาดน้ำรักป้ายช่องทางหลังมินโฮและเริ่มสอดใส่อีกครั้ง
“อดทนอีกนิดนะ
ฮยองยังไม่เสร็จเลย” จับขาอีกฝ่ายพาดไหล่ตนเองก่อนจะกดขาอีกข้างชิดอกมินโฮ
ก้มลงดูดดึงยอดอกและขยับสะโพกสอบเร็วๆ
มินโฮจิกหลังจนแสบไปหมดแต่เป็นความเจ็บที่ซึงฮุนเองยอมรับได้เต็มปากเต็มคำว่าชอบเหลือเกิน
“อึก
มินโฮอา...” ขยับอีกสองสามทีก่อนที่ปลดปล่อยใส่ช่องทางหลัง
มินโฮกระตุกก่อนจะปลดปล่อยอีกรอบเพราะมือที่รูดรั้งไม่หยุดก่อนที่จะแช่ตัวไว้นิ่งๆ
จูบนัวเนียและกัดริมฝีปากล่างก่อนจะค่อยๆผละตัวออกมา
“ฮื้อ
ฮยอง ไม่ต้องเอาออก นอนทับผมเลย”
“ฮยองหนักนะ”
“ไม่หรอกน่า
ขออยู่แบบนี้อีกสักพักนะ”
“ครับๆ”
หอมหน้าผากชื้นอีกฝ่ายก่อนยิ้มออกมา “ชอบที่ทำให้ไหม”
“ถามบ้าไรเนี่ย”
มินโฮเบือนหน้าหนีก่อนจะยิ้มออกมา “นอนได้แล้วน่า”
“หึ
เด็กน้อยจริงๆ ฝันดีนะ”
“ฝันดีครับฮยอง
รักฮยองเหมือนกันนะ”