BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[OS] Lee Seunghoon X Kang Seungyoon : HOW TO BE ABREAST

[OS] Lee Seunghoon X Kang Seungyoon


Story : HOW TO BE ABREAST









โปรแกรมหยุดยาวของน้องยูนเวียนมาอีกครั้ง

น้องยังคงบินมาหาผมสม่ำเสมอ บางครั้งผมเองรู้สึกเสียใจไม่น้อยที่ต้องปล่อยให้เด็กน้อยบินมาหาถึงที่ขนาดนี้

“น้องซึงยุนมาอยู่กับพี่เขาห้ามดื้อนะเข้าใจไหม เดี๋ยวแม่จะไม่ให้มาหาถ้าเรากวนพี่เขามากๆ” แม่ของผมเอ่ยออกมา รอบนี้น้องติดสอยแม่ที่รักที่กำลังจะบินไปอีกที่หนึ่ง แต่ด้วยความคิดถึงลูกชายอย่างผมเลยแวะมาหาก่อน ใบหน้าเอ็นดูบ่งบอกถึงความรักที่แม่ของผมมีให้กับน้อง ว่ารักไม่ต่างจากลูกแท้ๆอย่างผม

“ซึงฮุนดูแลน้องด้วยเข้าใจไหม ไม่ใช่เอาแต่ทำงาน”

“ครับๆๆๆ แม่อ่า กอดหน่อย”

ผมพูดก่อนจะสวมกอดแม่เบาๆ มองดูรถแล่นออกไปนอนเขตบ้านก่อนจะหันกลับมาหาซึงยุน

“พี่คิดถึงเราจัง”

ไม่พูดพร่ำอะไรมากมาก ผมยกอีกฝ่ายอุ้มก่อนจะประกบริมฝีปากอวบอิ่มที่ห่างหายไปนาน

“อื้ออออ พี่ฮุนอย่าแกล้งผมสิ”

“อ่า ไม่แกล้งแล้ว เดี๋ยวรักเลย โอเคไหมครับ”

ผมพูดออกมาเนิบช้า น้องหน้าแดงเมื่อรู้ว่าผมหมายความว่าไง

“ก็ได้ พี่บ้า”





“อึก ฮื่อ...พี่ฮูนฮูน”

ซึงยุนเอนหลังแนบชิด แผ่นอกขาวนวลหายใจแรง แกนกายของซึงฮุนยังคงอยู่ในตัว

"อา...น้องยูนอา" ผมครางออกมาด้วยความพอใจ ช่องทางร้อนที่โอบหุ้มความใหญ่โตของเขานั้นตอดรัดระรัวจนต้องสูดอากาศทางปาก กัดฟันมองเด็กน้อยที่ดูจะทรมานในตักของตนเอง

"พี่ฮูนฮูน...อึดอัด"

"อ้าขากว้างสิซึงยุนอา...อืม เด็กดี" มอบคำชมก่อนจูบต้นคอเมื่อน้องอ้าขาออก ช่องทางร้อนกระชับแน่นกว่าเดิมจนผมต้องพ่นลมหายใจออกมา กลั้นใจนับหนึ่งถึงสามออกมาก่อนเอ่ยเบาๆ

"ผ่อนคลายตัวเองหน่อย พี่เคยบอกเราใช่ไหมว่าถ้าเกร็งแล้วเราจะเจ็บ หืม"

"ผมอายไปหมดแล้ว" บดเบียดสะโพกเข้ามามากกว่าเดิมจนน่าใจหาย ใบหน้าน่ารักถูกปกปิดด้วยมือเล็กๆนั่นบ่งบอกถึงความเขินอายจริงจัง ทำให้ซึงฮุนเองรู้สึกเอ็นดูไม่น้อย

ในเมื่อน้องน่ารัก ก็สมควรที่จะถูกรัก จริงไหม

"หันมาหน่อยเด็กดี" หันมาตามคำขอก่อนที่จะต้องผวาเมื่อริมฝีปากประทับรุนแรง เผยอรับลิ้นชื้นที่สอดเข้ามา มือใหญ่กว่าซึงยุนบีบคลึงยอดอกส่วนอีกข้างรูดรั้งเบาๆ

"เสียว..."ซึงยุนร้องเสียงหลง สะโพกขยับตอดรัดจนสุดท้ายซึงฮุนต้องฟาดเบาๆ บีบคลึงและสอดมือจับต้นขานุ่มแน่นๆก่อนดันให้แนบชิดมากขึ้น
อา....

แน่น

น้องยูนของเขา ไมว่ากี่ครั้งก็แน่นไปหมด

"พี่อยากทำให้แรงกว่านี้จริงๆ" ผมพูดสิ่งที่คิดจบก่อนจะเริ่มโยกสะโพกเบาๆ

"อ๊า พี่ฮูนฮูน" น้ำเสียงร้องออกมามันแผ่วเบากว่าเสียงเนื้อกระทบที่เกิดขึ้น

"อ่า อา ซี๊ด" ซึงฮุนสูดหายใจแรง น้ำรักที่ซึมออกจากส่วนปลายทำให้ช่องทางแน่นนั้นชุ่มฉ่ำ แม้จะคับแน่นแค่ไหนก็ตามแต่ซึงฮุนชอบเหลือเกิน

น้องกลืนกินของเขา และเราเป็นของกันและกัน

สะโพกกระแทกถี่มากขึ้นเมื่อน้องส่ายสะโพกรับด้วยตนเอง ความเสียวกระสันจับใจที่แสดงออกผ่านทางสีหน้าของน้องตอนไม่รู้ตัวมันทำให้ซึงฮุนแทบบ้า

ซึงฮุนคร่ำครวญในใจ อายุที่ต่างกันมากเกินแอบทำให้คิดว่าทำไมกัน ทำไมน้องไม่เกิดให้เร็วกว่านี้ ทำไมพี่ไม่เกิดให้ช้ากว่านี้....

“อึก พี่ฮูนฮูน” น้องน้ำตาคลอก่อนจะกำข้อมือซึงฮุนแน่น เข่าน้องวางบนแขนผมก่อนที่ผมจะดันชิดอก น้องหันมาก่อนจะละมืออีกข้างเพื่อคล้องคอ เหนี่ยวรั้งและสอดเข้ากลุ่มผม ทั้งจิกและดึงจนเจ็บแต่มันคงไม่เท่ากับที่น้องรู้สึกอยู่

“เจ็บหรอหืม พี่ทำเบาๆนะ” จูบขมับก่อนที่น้องจะเงยหน้า ริมฝีปากแตะสองสามครั้งและเริ่มดูดดึงอีกครั้ง ผมเองหยุดขยับส่วนล่างเพราะอยากให้น้องหายใจสะดวกกว่านี้หน่อย

หัวใจของผมเต้นแรงมาก...มากพอๆกับที่ผมรู้สึกได้จากน้องเช่นกัน
“พี่ฮูนฮูน ปีนี้พี่อายุเท่าไรแล้วหรอ”

คำถามที่ไม่คาดคิดถูกถามออกมาจากน้อง ใบหน้าซบนิ่งเพราะพยายามควบคุมลมหายใจอยู่ ผมลูบหัวก่อนตอบแผ่วเบา

“ปีนี้พี่ก็ยี่สิบสามแล้วครับ”

“ผมกับพี่ห่างกันแปดปีเลยหรอ” น้องเงยหน้า ดวงตาเล็กใสนั่นมองมาที่ผม ผมปล่อยมือออกจากเรียวขานุ่มก่อนจะลูบผมแผ่วเบา

“ใช่แล้วหล่ะ น้องยูนยังเด็กน้อยอยู่เลย”

“พี่...”

“เราลำบากใจไหมที่คบกับพี่หืมซึงยุน” ผมตัดสินใจถอนร่างกายออกจากน้อง ใบหน้าน่ารักแหยเก ผมพลิกอีกฝ่ายนอนราบก่อนจะหนุนแขนน้อยๆนั่น ใบหน้าซุกเข้าอกอุ่นของน้องที่ผมชอบ

น้องยังเด็กอยู่เลย

ผมเห็นแก่ตัวไปไหมนะที่ทำให้น้องกลายเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่น้องควรเจอคนอื่นที่ดีกว่าผม

“พี่ฮูนฮูน...”

“ครับ”

“ผมชอบที่พี่เป็นแบบนี้กับผมนะ ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าพี่หมายความว่าอย่างไงเท่าไรนัก  น้องยูนชอบพี่ฮูนฮูนที่เป็นแบบนี้นะ”

น้องค่อยๆดันตัวเองขึ้นมาก่อนจะกอด

สัมผัสนุ่มนิ่มกลับอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมคิดว่าผมตัดสินใจไม่ผิดที่ปล่อยให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้จริงๆ

ผมกระชับร่างกายน้องก่อนจะกอดนิ่งๆ ซึมซับความรู้สึกดีๆที่มีให้น้องและความไร้เดียงสาให้มากที่สุด

“เป็นอะไรหรอ เงียบทำไม พี่ฮูนฮูน...ไม่ทำต่อหรอ”

น้องถามออกมาแผ่วเบา ใบหน้าขาวใสแดงระเรื่อขณะเอ่ยถาม

น้องน่ารักขนาดนี้แล้วพี่จะอดใจได้อย่างไงนะ

“เราห้ามไปทำตัวน่ารักแบบนี้กับใครนะเข้าใจไหม ต้องเป็นแบบนี้กับพี่คนเดียวนะ”

“ฮะ”

“ดีมาก”หอมแก้มฟูนุ่มก่อนจะค่อยๆดันน้องนอนราบไปกับผืนเตียงนุ่ม ยกแขนน้องให้คล้องที่คอก่อนจะเริ่มปลุกเร้าอารมณ์อีกครั้ง ร่างกายที่ไร้เดียงดาแต่กลับอ่อนหวานเหลือเกิน ผมชอบที่มันเป็นแบบนี้ และผมคิดว่าโชคดีจริงๆที่ได้เจอกับน้อง




แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนผ่านหน้าต่างที่เปิดกว้างไว้ และผมเองก็นั่งมองน้องมาได้สักพักแล้ว

แก้มยุ้ยซบกับหมอนดูนุ่มนิ่มเหลือเกิน ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มที่ร้องครวญเมื่อคืนดูบอบช้ำจากการระดมจูบจากผม ร่างกายบอบบางขาวผ่องมีร่องรอยแดงไปทั่ว ผมพิจารณาดวงตาที่ปิดอยู่ก่อนลอบสำรวจไปทั่ว

กลับมารอบนี้เสียงน้องแปร่งๆไปเล็กน้อย ตอนแรกก็ไม่ได้ทันสังเกตเท่าไรแต่พอมาฟังเมื่อคืนแล้วเสียงน้องเริ่มต่ำลง สงสัยจะแตกหนุ่มแน่ๆ ผมอมยิ้มเมื่อได้เห็นความเติบโตของน้องอีกครั้ง

รู้สึกเหมือนเป็นพ่อน้องชอบกล เห็นเด็กโตหน่อยไม่ได้ต้องยิ้มต้องบันทึกเก็บไว้

แต่ภูมิใจไง อุตส่าห์เลี้ยงอุตส่าห์สอนมากับมือ

วางกล้องถ่ายรูปก่อนจะเดินเข้าไปหาน้องเมื่อเห็นว่าน้องเริ่มขยับร่างกายเบาๆ

เพราะรักจึงอยากถนอมให้มากที่สุด และเพราะรัก...ช่องว่างระหว่างอายุของเราจึงกลายเป็นศูนย์

เพราะว่าผมเองรักน้องมากเกินกว่าจะสนคำพูดคนอื่นเช่นกัน

“น้องยูน อรุณสวัสดิ์ครับ”

ผมขอตัวไปดูแลน้องก่อนนะ )



 #ALLBBHN

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[SF] Kang Seungyoon x Song Minho : Step Up 3

[SF] Kang Seungyoon x Song Minho

Story : Step Up 3




“มึงจะออกไปไหนหรือเปล่าวันนี้” ไอ้ซึงยุนพูดหลังจากที่ผมนั่งลงข้างๆมัน มือมันถือขนมขบเคี้ยวทั้งๆที่เมื่อครู่มันยังบ่นว่ามันอิ่มตัวแทบแตก

“กูมาเพราะออกมาหามึง มึงไม่ได้ส่งข้อความไปหากูเลย” ผมพูดก่อนจะตีมือมันไปหนึ่งทีและหยิบขนมมากินบ้าง มันดูการ์ตูนเรื่องอะไรสักอย่างที่ผมเองเคยเห็นว่ามันดูหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยจำได้สักทีว่าชื่อเรื่องอะไร ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปถามมัน “นี่มึงยังไม่โตจริงๆ ด้วยว่ะ มัวแต่ดูการ์ตูน”

“การดูการ์ตูนมันได้บ่งบอกอายุ เรื่องแบบนี้ต่อให้แปดสิบก็ดูได้ มึงนี่ปากหมา” มันพูดทั้งที่เคี้ยวขนมต่อ สายตาไม่ได้ละจากจอคงเพราะถึงฉากสำคัญ ผมมองก่อนจะควักโทรศัพท์ขึ้นมากดข้างๆมันแทน มันละสายตามามองครู่เดียวก่อนที่จะวกสายตาไปดูโทรทัศน์ต่อ

ผมกับมันนั่งเงียบๆ ผมสไลด์โปรแกรมอินสตาแกรมไปเรื่อยๆก่อนจะเผลอหันไปมองมันอีกครั้ง ตอนนี้มันอ้าปากค้างน้อยๆ คงเพราะปากห้อยๆของมันแน่ๆถึงทำให้ผมตัดสินใจยกโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าโปรแกรมถ่ายภาพและเล็งไปที่มัน ถ่ายเผื่อสองสามรูปก่อนจะเปิดดู หลุดขำน้อยๆกับท่าทีของคนในภาพ มันดูท่าจะไม่รู้ตัวเท่าไรนัก ริมฝีปากแดงอ้าน้อยๆ แต่สายตาจริงจัง มองไปที่จอการ์ตูนไม่กระพริบตาเลยสักนิด ผมเลือกภาพทีชัดเจนที่สุดก่อนจะกดเข้าโปรแกรมอินสตาแกรมอีกครั้ง อัพโหลดรูปภาพก่อนจะคิดเขียนแคปชั่นลงไป

-วันหยุดกับเด็กติดการ์ตูน #เด็กชายคัง #ปากห้อย-

ยกยิ้มเมื่ออัพโหลดสำเร็จ ผมมักจะติด #เด็กชายคัง เสมอ เพราะมันชอบทำตัวเหมือนเด็ก แถมความจริงถ้านับตามปีเกิดผมแก่กว่ามันเกือบปีได้ด้วยซ้ำ ผมรีเฟรชจอเมื่อเห็นคนที่ติดตามผมต่างเริ่มกดหัวใจให้ก่อนจะเปิดไปหน้าหลักตัวเองและสะดุดมือ

ผมเล่นอินสตาแกรมมาเกือบสามปีได้ ลงรูปประมาณเกือบสามร้อยรูป แต่เกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นรูปมัน...

ผมคิดว่าความคิดผมไม่ค่อยปกติเท่าไรนัก ที่จะลงรูปเผลอเพื่อนสนิทตัวเองมากขนาดนี้

“มึงเป็นไรวะ กูเห็นจ้องจอนานละนะ”

เสียงคนข้างๆดังขึ้น ผมมองมันก่อนจะกดปิดจอล็อคไป ส่ายหัวและลุกขึ้น

“เปล่า กูไม่ได้เป็นอะไร เดี๋ยวกูว่าจะกลับบ้านละนะ”

“เออๆ แล้วแต่มึง” มันพูดก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์เพราะมีเสียงเรียกเข้าพอดี ผมยืนนิ่งเพื่อรอดูว่าเป็นใครโทรมา

มันเงยหน้าก่อนจะแสดงสีหน้าลำบากใจแปลกๆ ผมเลิกคิ้วกับท่าทีนั้น

“ใครโทรมาวะ”

มันยิ้มขืน ก่อนจะตอบ

“กูขอโทษนะมินโฮ แต่มึงช่วยกลับบ้านไปแต่งตัวใหม่หน่อย กูว่าเราต้องออกไปข้างนอกแล้วหล่ะ”




ผมนั่งเขย่าขาน้อยๆ ก่อนมือจะเอื้อมไปหยิบเครื่องดื่มที่สั่งไว้ ไอ้ซึงยุนตีหน้าขาผมเป็นเชิงไม่ให้สั่นก่อนจะหันไปมองคนตรงข้ามแทน ผมอดจะทำหน้าหงุดหงิดออกมาไม่ได้เมื่อเห็นว่าคนที่มันนัดให้ออกมาเป็นเพื่อนคือใคร

พี่ดาร่าคนสวยอะไรนั่นไงหล่ะ

แล้วทำไมต้องเอาผมมาด้วยก็ไม่รู้

หงุดหงิด

ผมตัดสินใจลุกขึ้นตอนที่เห็นมันเอามือกุมกับผู้หญิงคนนั้น เดินออกมาทั้งอย่างนั้นแหละก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ปกติผมไม่ได้เป็นคนที่เสพติดอะไรแบบนี้เลยนะ แต่มีช่วงนี้แหละที่ผมถึงกับต้องเอากลับมาสูบอีกครั้ง

เคยสูบครั้งหนึ่งแต่เพราะว่าไอ้ซึงยุนมันไม่ชอบผมเลยหยุดสูบไป ไม่คิดว่าแค่พกมาเล่นๆวันนี้จะได้สูบอีกครั้ง

อัดสารนิโคตินเข้าปอดอีกสองอึกก่อนจะขยี้ทิ้งเมื่อนึกได้ว่าไอ้ซึงยุนไม่ชอบ หยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนส่งไลน์หาด้วยความหงุดหงิด

“กูจะกลับบ้านแล้ว เชิญมึงสวีทต่อเหอะ”

กดออกก่อนจะโทรหาแทฮยอนด้วยความหงุดหงิดใจ

“เฮ้ย แทฮยอน คืนนี้ที่เดิมเหอะ”

ผมทนไม่ได้จริงๆที่ต้องเห็นมันกับผู้หญิงคนนั้น คนอื่นจะมองยังไงก็ช่างเหอะ




ผมนั่งกระดกเหล้าด้วยสีหน้าเซ็งๆนิดหน่อย เพราะเมื่อมาถึงที่แล้วกลับพบว่าคนที่ผมนัดไม่ได้มาแค่คนเดียว แทฮยอนนั่งส่งยิ้มเป็นเชิงขอโทษก่อนจะมองไปที่อาจารย์อี...แฟนมันนั่นแหละ

“ขอโทษนะมินโฮ พอดีอาจารย์เขาเพิ่งกลับมาเมื่อวานก่อนก็เลย...”

“เออ ไม่เป็นไร นี่ต้องขอโทษมากกว่าที่ชวนออกมา” ผมพูด ถึงจะหงุดหงิดใจแค่ไน แต่การจะไปเหวี่ยงใส่เพื่อนใส่อาจารย์ก็ใช่เรื่อง “ ผมขอโทษนะครับอาจารย์ที่ชวนแทฮยอนออกมาแบบนี้”

“ไม่ต้องเรียกอาจารย์หรอก ตอนนี้อยู่นอกมหาลัย เรียกพี่ก็ได้”

“ออ...ครับ” ผมหลุดเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอาจารย์ที่ค่อนข้างเป็นมิตรแต่เฮี้ยบเวลาสอนที่เพื่อนในรุ่นร่ำลือกันมา กลายเป็นคนธรรมดาที่ดูอบอุ่น ท่าทีเอาใจใส่ที่แสดงออกกับแทฮยอนทำให้ผมรู้สึกดีที่อย่างน้อยแทฮยอนเองก็ได้แฟนที่ดีขนาดนี้ และนั่นทำให้ผมหมดกังวลใจในเรื่องความรักของเพื่อนคนนี้ไปได้บ้าง

ลองตัดภาพไปที่ไอ้ซึงยุนสิ...

ฮึ้ย หงุดหงิด

กระดกเหล้าเข้าปากเหมือนน้ำเปล่าก่อนจะมองการแสดงบนเวทีไปเรื่อย ร่างกายที่ได้รับแอลกอฮอลกรึ่มๆไม่ได้ทำให้มีอารมณ์อยากออกไปเต้นเท่าไรนัก ผมมองแทฮยอนกับอาจารย์ออกไปเต้นบนฟลอร์ ท่าทางคลอเคลียนั่นดูน่ารักดีเหมือนกัน คงเพราะผมไม่เคยเห็นแทฮยอนเวอร์ชั่นนี้ก็ได้

โทรศัพท์ของแทฮยอนสั่นก่อนผมจะถือวิสาสะหยิบขึ้นมารับสาย

“ฮัลโหล”

“แทฮยอน อยู่กับมินโฮไหม”

“เออ กูมินโฮ” ผมกรอกเสียงลงไปเมื่อรู้ว่าเป็นใครโทรมา ปลายสายเงียบไปอึดใจก่อนจะตอบกลับมา

“มึงอยู่ไหนวะ”

“กูอยู่ผับ ที่เดิม มึงมีไรหล่ะ”

“เดียวกูไปหา”

“มึงจะมาทำไมไอ้ซึงยุน ในเมื่อมึงก็อยู่กับพี่ดาร่าคนสวยนั่นมึงแล้วนี่”

“...”

“ถ้ามึงจะมาหากูเฉยๆ มึงไม่ต้องมาหรอก กูไม่มีเรื่องที่จะคุยด้วย”

“นี่มึงเป็นไรวะไอ้มินโฮ มึงโกรธอะไรกูหล่ะ”

“กูว่ามึงโง่ว่ะไอ้คังซึงยุน”

“...”

“กูแสดงออกขนาดนี้ กูทำกับมึงขนาดนี้มึงยังกล้าถามกูอีก”

“ไอ้...”

“ตอนนี้กูเมา แล้วกูก็ควบคุมสติไม่ค่อยได้ มึงไม่ต้องมาดีแล้ว ค่อยคุยกันเหอะ”

ผมกดตัดสายก่อนจะวางโทรศัพท์แทฮยอนไว้ที่โต๊ะ อาจารย์เดินกลับมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาว่าใครโทรมา ผมส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่มีอะไร ก่อนจะส่งของทั้งหมดของแทฮยอนคืน

“อาจารย์เดี๋ยวผมกลับก่อนละครับ ฝากบอกแทฮยอนด้วย”

“อ้าว ทำไมรีบกลับ”

“เดี๋ยวแม่ผมว่าหน่ะครับ ผมจ่ายไว้แล้วนะ” เอ่ยลาเสร็จสรรพก่อนจะเดินออกมาทางประตูหลังร้าน ยืนพิงระเบียงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำเอามึนๆไม่น้อยก่อนจะสะบัดหัว

เรื่องราวมันเลยเถิดมาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ ความรู้สึกที่ผมมีมันมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ

“กูว่าเราควรทำให้มันชัดเจนไหมซึงยุน อย่าทำให้ทรมานแบบนี้เลย”




วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[OS] Lee Seunghoon x Song Minho : Beside Me

[OS] Lee Seunghoon x Song Minho

Story : Beside Me







เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้นดังเช่นทุกวัน

มือขาวค่อยๆเลื้อยออกจากผ้าห่มที่คลุมมิดชิด ขนลุกชันน้อยๆเมื่อสัมผัสกับแอร์ที่ปรับไว้อุณหภูมิต่ำ จับโทรศัพท์ก่อนปลดล็อคทั้งๆที่ไม่ได้โผล่ออกมาเพื่อให้นาฬิกาหยุดส่งเสียงรบกวน

ซึงฮุนชักมือกลับเข้าผ้าห่มก่อนจะค่อยๆดึงผ้าห่มคลุมตัวเองอีกครั้ง ผ้าผืนหนาม้วนจนร่างกายเปลือยของอีกฝ่ายโผล่ออกมา

ฮื่อ...ฮยองอ่ามินโฮร้องออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกหนาว แขนค่อยๆเอาผ้าห่มออกก่อนที่จะดึงอีกฝ่ายแนบอกแทน มินโฮหอมหน้าผากทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาก่อนจะพูดออกมาเบาๆ ผมหนาวนะ

มินโฮลากมือไปลูบที่หลังเปลือยสองสามทีก่อนจะลากลงมาเรื่อยๆ...

พอเลยมินโฮอา เมื่อคืนยังไม่พออีกหรือไงซึงฮุนส่ายหัวก่อนจะกัดไหล่เบาๆ มินโฮร้องออกมาก่อนจะค่อยๆผละตัวออก

ซึงฮุนเผยอปากน้อยๆค้างไว้เพราะอีกฝ่ายถดตัวหนี เป็นภาพที่น่ารักยามเช้าอีกวันที่มินโฮตื่นมาเห็น

ฉีกยิ้มออกมาน้อยๆเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมลืมตา มองตามร่างกายที่เปลือยเปล่ามีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ที่เจ้าตัวชอบใส่นอน ซึงฮุนเป็นคนขี้ร้อนก็จริงแต่คงไม่เท่ามินโฮเพราะว่าเขาเองปรับแอร์ต่ำเสียจนอีกฝ่ายโหยหาผ้าห่มหนาขนาดนี้

อรุณสวัสดิ์ครับฮยอง

งืมมม ขอนอนอีกนิดได้ไหม เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลยนะ

ไม่ได้แล้วครับ สามโมงแล้วนะ

“....” ซึงฮุนไม่ตอบแต่หลับทั้งๆอย่างนั้น มินโฮยิ้มออกมาก่อนที่จะค่อยๆเอาผ้าห่มออกจากตัวเอง คว้ากางเกงนอนสวมทับก่อนจะค่อยๆบิดขี้เกียจ ร่างกายเมื่อยล้าเล็กน้อยเพราะที่นอนไม่ได้กว้างขวางมากพอที่จะให้ผู้ชายสองคนนอนเบียดด้วยกัน แต่กลับได้ความอิ่มอกอิ่มใจเพราะร่างบางกว่าของคนพี่เป็นเหมือนความอบอุ่นให้เขากอดตลอดคืน ซึงฮุนทิ้งเมทตัวเองมาหลบอยู่ที่นี่หลายคืนติดกันแล้ว เพราะงานที่ต้องทำจนดึกดื่น ทั้งซึงฮุนและมินโฮต่างช่วยกันคิดเนื้อเพลงและเตรียมการสำหรับอัลบั้มต่อไป เขาสองคนจึงอยู่ด้วยกันตลอดเวลา

มินโฮปล่อยให้ฮยองขี้เซานอนต่ออีกสักพักก่อนจะพาตัวเองไปอาบน้ำ ไอร้อนออกมาฟุ้งทำให้คลายความล้าสะสมได้บ้าง ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีก่อนเสียงประตูจะเปิดเข้ามา

ซึงฮุนเดินเข้ามาแบบมึนๆ ผ้าขนหนูรัดเอวสอบไว้ต่ำก่อนจะเริ่มแปรงฟัน เสียงกรอกแกร๊กดังปะปนกับเสียงฮัมเพลง มินโฮรั้งม่านที่กั้นออกก่อนจะมองซึงฮุน

ฮยอง อาบน้ำด้วยกันไหม

ไม่เอาอ่ะ กลัวไม่ได้อาบ

หืม...มานี่เลยมินโฮดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ๆก่อนจะดึงผ้าขนหนูออก ซึงฮุนสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเล่นแบบนี้

ฮื้อออ ไม่เอาน่ามินโฮ

เอาแปรงมานี่มินโฮปิดน้ำจากฝักบัวก่อนจะจับแปรงสีฟันที่คาปากอีกฝ่าย ยีฟันหน่อยครับฮยองคนดี

มินโฮค่อยๆขยับแปรงให้ ถึงร่างกายเปลือยตรงหน้าจะทำให้มินโฮใจเต้นแรงมากก็ตาม แต่ก็พยายามไม่มองต่ำเพราะต้องไปสนามบินวันนี้เพื่อไปจีน ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายก็ต้องการคนตรงหน้า เพราะทุกวันนี้ด้วยตารางงานที่มีทำให้เขาสองคนไม่มีเวลาไปมากกว่าการนอนข้างกันเลยแม้แต่น้อย

แต่ยังดีที่อีกฝ่ายยังคอยอยู่ใกล้ๆตลอด ขืนเป็นเหมือนตอนสมัยแข่งโชว์มีหรือตอนที่ต้องไปถ่ายแบบที่จีนเขาคงได้บ้าตายเพราะคิดถึงแน่ๆ

ก้มหน้าหน่อยฮยอง จะได้สระผมหลังจากบ้วนปากเสร็จมินโฮก็กดอีกฝ่ายลงเล็กน้อยเพราต้องสระผมให้

งืออออซึงฮุนร้องออกมาน้อยๆเมื่อมินโฮราดฝักบัวลงไป ร่างบางนั่นดิ้นขลุกขลักก่อนจะนิ่ง ทำให้มินโฮชโลมยาสระผมได้ง่ายขึ้น มือหนาขยี้เบาๆเพราะกลัวอีกฝ่ายเจ็บ

มินโฮ...

หืม

อยากหรอ

มินโฮสะดุ้งเมื่อมืออีกฝ่ายเอื้อมมาจับต้นขาทั้งสองข้าง

ฮยอง...มะ ไม่เล่นแบบนี้สิ เดียวน้ำเข้าตา

ซึงฮุนหัวเราะน้อยๆก่อนที่อีกฝ่ายจะล้างผมให้จนเสร็จจึงเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเจ้าเล่ห์แบบปิดไม่มิดยิ่งทำให้มินโฮเสียวสันหลังขึ้นมา

อยากไหมหืมมินโฮอา...

อย่ายั่วผมสิ เรามีงานนะ

แต่ฮยองอยากนะ

มินโฮอ้าปากเหวอกับคำพูดอีกฝ่าย กว่าจะรู้ตัวริมฝีปากเล็กนั่นก็จู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ลิ้นเล็กๆค่อยๆละเลียดที่ริมฝีปากช้าๆเป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะค่อยๆสอดเข้าไปเพียงเล็กน้อย

มินโฮจะไม่ทน

มันนานครั้งมากที่ซึงฮุนจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งๆที่เขาก็พยายามหักห้ามใจแต่บางทีเขาก็เดาความคิดคนตรงหน้าไม่ค่อยได้

บางครั้งก็อายจนแทบหลบหน้า บางครั้งก็กล้าเสียจนใจเขารับไม่ทัน

มินโฮวางมือที่เอวก่อนจะบีบเบาๆ ตอบรับสัมผัสแนบแน่นก่อนจะผละออกและสัมผัสซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างกายที่เปียกชื้นและปราศจากเสื้อผ้ายิ่งเป็นดั่งเชื้อเพลิงทำให้เกิดอารมณ์เตลิดได้ง่ายขึ้น

ซึงฮุนละออกก่อนที่จะอังหน้าผากชนกัน ยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นว่ามินโฮเริ่มจะคล้อยตามแล้ว ก่อนที่จะจูบที่ลำคอแผ่วเบา มินโฮเม้มปากแน่นเพราะอีกฝ่ายกัดที่ลำคอก่อนจะเปิดฝักบัวเพราะกลัวว่าเสียงจะเล็ดลอดออกไป มินโฮลูบแผ่นหลังเป็นเชิงบอกให้ใจเย็นๆเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำรอยไว้

ใจเย็นนะฮยอง ฮือ...

นิดหน่อยไม่ได้หรอ ใส่เสื้อหนาๆไปละกันวันนี้อ่ะ

ร่างกายของมินโฮกระตุก ใบหน้าคมเชิดขึ้นเมื่อมืออีกฝ่ายสัมผัสที่ส่วนนั้น ซึงฮุนสอดขาก่อนเสียดสีกันแผ่วเบา มินโฮยกมือทั้งสองข้างสัมผัสยอดอกคนตรงหน้าก่อนความอดทนจะสิ้นสุดลง ริมฝีปากครอบครองยอดอกก่อนดูดดึงอย่างแรงจนซึงฮุนเผลอกำมือแน่นขึ้น ซึงฮุนรูดรั้งของมินโฮแรงขึ้นจนเสียงครางฮืมในลำคอดังออกมา ยิ้มอย่างพอใจทั้งที่โดนกัดจนขึ้นรอยเขี้ยว

มะ...มินโฮ

ฮยองนี่มันน่าจริงๆ ผมบอกแล้วใช่ไหมว่ามีงานวันนี้ เดียวก็ไม่มีแรงเดินอีก

งั้นก็ไม่ต้องใส่ อ๊ะ สิ

ถึงโน่นเมื่อไรฮยองไม่รอดแน่

จะรอดูละกันซึงฮุนยกยิ้มก่อนที่บทสนทนาจะขาดหายไป กลายเป็นเสียงความสุขที่กำลังเติมเต็มกันและกันแทน



มินโฮนั่งอยู่เบาะหลังยู่ปากเล็กน้อยจนซึงฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆจับสังเกตได้ หลุดหัวเราะเพราะมินโฮตอนนี้เหมือนเด็กน้อยเหลือเกิน เอื้อมมือไปจับก่อนที่มินโฮจะสะบัดออกและหันหน้าหนี

ฮยองไม่ต้องเลย

เสียงมินโฮค่อนข้างดังจนซึงยุนที่นั่งเบาะหน้าหันมามองพร้อมๆกับแทฮยอน

เป็นไรอ่ะฮยองซึงยุนพูดออกมาเมื่อเห็นท่าทีมินโฮ ซึงฮุนยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร

จะให้บอกได้ไงว่าเมื่อเช้ายั่วอีกฝ่ายและทำให้มินโฮจนเสร็จ แต่ตัวเองกลับไม่ยอมให้มินโฮทำคืน

ไม่เป็นไรหรอก แค่เด็กเอาแต่ใจหน่ะ

จินวูมองมาก่อนจะหัวเราะกับพูดประชดประชันเล็กๆของซึงฮุน นั่งมาได้สักพักก็ถึงสนามบิน

มินโฮอา อย่างอนฮยองสิ

ฮึ ไม่ต้องเลย ไปนั่งกับจินวูฮยองโน่น ผมไม่นั่งด้วยแล้วรอบนี้อ่ะ

น่า มินโฮ เอางี้...ซึงฮุนหยุดพูดก่อนจะยื่นนิ้วก้อยให้ เดียวไปถึงจีนเมื่อไร ฮยองยอมทุกอย่างเลย นะครับ

มินโฮเบือนหน้าหนีก่อนจะแอบลอบยิ้มขึ้นมาและกลับไปหน้าบึ้งเหมือนเดิม

ซึงฮุนยังง้อน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

เพราะมินโฮเคยเป็นแบบนี้อีกฝ่ายจึงรู้ว่าควรทำอย่างไง

มินโฮเดินลงจากรถตามหลังเมมเบอร์ในวง ใบหน้านิ่ง ตลอดเวลาแทบจะไม่มองซึงฮุนแม้แต่น้อย มินโฮเอาแต่ตามติดซึงยุนจนแทฮยอนรำคาญ

ฮยอง มาเดินตามซึงยุนทำไมแทฮยอนทำหน้านิ่งถามอีกฝ่าย

เปล่า ไม่ได้ตามมินโฮตอบหน้าตาย

ทะเลาะกับซึงฮุนฮยองอีกอ่ะดิ หน้าโคตรบึ้ง

ต้องฉีกยิ้มแบบนายหรือไงมินโฮยื่นมือไปจิ้มอีกฝ่ายเพื่อแหย่เล่น แทฮยอนปัดมือออกก่อนทำหน้ารำคาญและเดินหนี มินโฮหัวเราะน้อยๆที่แกล้งมักเน่ของวงได้ ก่อนที่จะหันไปเห็นซึงฮุนยืนคุยกับเมเน ดูท่าอีกฝ่ายคงชอบการถ่ายรูปขึ้นมาเพราะตอนนี้มือเรียวนั่นกำลังรับกล้องถ่ายรูปมากระชับแน่น

มินโฮยืนเล่นมือถือฆ่าเวลาก่อนที่จะขึ้นเครื่อง เขารับพาสปอร์ตจากจินวูฮยองก่อนจะเดินเข้าเกสท์ไป

มินโฮรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ตลอดระยะเวลาที่นั่งเครื่องบินเอาแต่นอนเพราะอาการปวดหัวเริ่มเตือนเบาๆ เขาคิดว่าคงไม่สบายเพราะการพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอเป็นแน่




เมื่อถึงโรงแรมที่พักมินโฮวางกระเป๋าเสื้อผ้าก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา รอบนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ร่างกายเหมือนจะเพลียมากแปลกๆ อาจเกิดจากความเมื่อยล้าสะสมเพราะต้องเข้าห้องซ้อมเพลงใหม่ๆ ออกงานต่างๆหรืออะไรก็ตาม มินโฮเดินเข้าห้องน้ำก่อนจะเริ่มอาบน้ำ พลันหัวก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า ใบหน้าที่ดูตึงเครียดก็พลันยิ้มออกมาน้อยๆ

ฮยองของเขาวันนี้จะง้อยังไงกันนะ

พอคิดแล้วก็หยุดยิ้มไม่ได้ เมื่อเงยหน้ามองกระจกแล้วเห็นรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ของตนเองก็หุบยิ้มก่อนจะแปรงฟัน เพราะว่าวันนี้เขาได้นอนคนเดียวเลยไม่ต้องกังวลว่าใครจะรออาบน้ำ ซึงฮุนกับจินวูได้นอนห้องเดียวกัน ส่วนแทฮยอนและซึงยุนก็นอนห้องเดียวกัน

มินโฮอาบน้ำเสร็จก่อนจะนั่งเช็คโทรศัพท์ ถ่ายรูปเล่นก่อนจะได้รับข้อความจากคนที่เขางอนอยู่

-เดี๋ยวไปหานะ-

แค่ไม่กี่วินาทีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น มินโฮเดินไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินนำเข้ามา

มินโฮอา ยังงอนฮยองอีกหรอหืม

เปล่าซะหน่อยมินโฮทำท่าจะนั่งแต่กลับกลายเป็นว่าซึงฮุนจับแขนอีกฝ่ายก่อน มินโฮรู้สึกเหมือนโลกหมุนแต่พยายามยืนนิ่งไว้ แต่กลับกลายเป็นซึงฮุนพูดโวยวายออกมา

นี่นายตัวร้อนนะมินโฮ ไม่สบายหรอซึงฮุนกดอีกฝ่ายนั่งบนโซฟา มือเรียวอังหน้าผากก่อนจะพูดออกมา ใบหน้าเริ่มนิ่งจนมินโฮรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเริ่มเข้าสู่โหมดโหด

ซึงฮุนมองก่อนจะกอดอก

ซงมินโฮ มีอะไรจะบอกฮยองไหม

นี่ผมงอนฮยองอยู่นะมินโฮเริ่มใบหน้าเจื่อนลง ซึงฮุนเห็นแบบนั้นก็รู้สึกใจอ่อน แต่จะให้เลิกเคร่งคงไม่ได้

งอนได้ แต่สุขภาพทำไมไม่ดูแล ถ้าเกิดเป็นหนักกว่านี้รู้ใช่ไหมว่ามันส่งผลต่องาน

“...”

เริ่มปวดหัวตั้งแต่เมื่อไร

ก็...เมื่อตอนนั่งเครื่องมา

ทำไมไม่บอกฮยอง

ก็ผม...

ซึงฮุนเดินออกจากห้องไป มินโฮทรุดหน้าก้มลงกับเข่า ความรู้สึกแย่โถมเข้ามาในใจ ตาปิดลงก่อนจะหงายพิงโซฟาไป หลับตานิ่งเพราะเริ่มปวดหัวหนักขึ้น ต้องรีบพัก ไม่งั้นเขาจะไปซ้อมพรุ่งนี้ไม่ได้อีก...

เสียงประตูดังขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะเป็นซึงฮุนเดินเข้ามา

ซึงฮุนมองไปที่มินโฮที่นอนหลับไปแล้ว ลมหายใจสนิททำให้ซึงฮุนแอบลอบถอนใจเบาๆ รู้ว่าไม่สบายแทนที่จะรีบใส่เสื้อผ้าเข้านอน แต่ดูท่าที่มือยังค้างโทรศัพท์ไว้กับแชทตัวเองก็ได้แต่ยกยิ้มน้อยๆ

เป็นอีกครั้งที่ซึงฮุนต้องแบกมินโฮไปที่ที่นอน มันไม่ได้เป็นอะไรที่หนักหนา แต่การที่ขนาดลำตัวต่างกันขนาดนี้เล่นเอาแขนล้าได้เช่นกัน ซึงฮุนเร่งแอร์เพิ่มขึ้นเพราะอุณหภูมิที่มีอยู่เย็นเกินไป หยิบโทรศัพท์ส่งหาจินวูฮยองเพื่อบอกว่าคืนนี้คงได้ค้างที่ห้องนี้เพราะมีเด็กไม่สบายก่อนขอโทษ มือวางโทรศัพท์ก่อนจะหันมามองคนที่หลับไม่รู้เรื่องอีกครั้ง

มินโฮเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ เมื่อซึงฮุนค่อยๆแหวกชุดคลุมอาบน้ำออก ร่างกายเปลือยเปล่าที่ปราศจากซับในทำให้จิตใจของซึงฮุนพลุกพล่าน

"ร้อน ร้อนไปหมดเลยนะ"

ซึงฮุนพูดได้แค่เพียงเท่านี้ เมื่อความเรียบเนียนของผิวสีน้ำผึ้งที่ปรากฏต่อหน้า แม้จะเห็นบ่อยครั้งแต่มันก็ทำให้อดลูบไล้ไม่ได้ ความร้อนจากร่างกายบ่งบอกว่าพิษไข้คงใกล้มารุมเร้าเป็นแน่ ซึงฮุนจึงทำได้เพียงหักห้ามใจ ประคองอีกฝ่ายพิงเตียงนอน มือเอื้อมไปคว้ายาและน้ำที่อุตส่าห์ไปขอซึงยุนมา ปลุกคนที่ดูสะลึมสะลือให้ตื่นก่อนจะป้อนมินโฮเชื่องช้า พยายามยกน้ำให้ดื่มมากๆ มินโฮทำตามเป็นอย่างดีเมื่ออีกฝ่ายใส่ใจมากขนาดนี้ น้ำบางส่วนหกเลอะเปรอะอก

"เช็ดตัวหน่อยไหม หนาวหรือเปล่า"

"ฮยอง....ฮยองยังโกรธผมใช่ไหม"

"มีสิทธิด้วยหรอหืมมินโฮ นายก็งอนฮยองนี่"

"ไม่งอนแล้ว ผมขอโทษ"

"หึ เด็กน้อยเอ้ย" ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะกอดอีกฝ่ายหลวมๆ"ไม่โกรธแล้วเหมือนกัน คราวหน้าไม่สบายให้บอกนะเข้าใจไหม ไม่ใช่เอาแต่ดื้อแบบนี้"

"ฮยองดุผม"

"ไม่ได้ดุ แค่บอกดีๆแล้วไม่ฟังเอง เดียวใส่เสื้อผ้าก่อนนะจะได้ไม่หนาว"

"ไม่เอาๆ เดี๋ยวผมกอดฮยองก็อุ่นแล้ว"

มินโฮยิ้มอ้อนออกมา แม้จะไม่สดใสมากเพราะอากาศปวดหัวเริ่มรุมเร้าแต่ก็ทำให้ซึงฮุนรู้สึกเอ็นดูไม่น้อย คลุมผ้าให้คนที่บอกว่าจะไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนจะหันไปเปิดไฟโทนอ่อนไว้ สอดร่างกายในผ้าห่มผืนเดียวกันก่อนหอมหน้าผาก

นอนได้แล้วนะรู้ไหม ฝันดีนะ

ฝันดีครับฮยอง





ซึงฮุนสะดุ้งตื่นตอนกลางดึก เหมือบมองนาฬิกาก่อนจะพบว่าป็นช่วงเวลาตีสี่กว่าๆแล้ว หันไปมองคนในอ้อมกอดพบว่าเป็นมินโฮที่ลืมตามองอยู่

“ทำไมไม่นอน” มือเอื้อมไปสัมผัสหน้าผากก่อนละมือออก “ตัวไม่ร้อนแล้ว ดีจัง”

“ผมอยากกอดฮยอง”

“ก็กอดอยู่ไม่ใช่หรือไง แขนหน่ะ....”

ซึงฮุนเงียบเสียงลงเมื่ออีกฝ่ายลูบเอวเบาๆ มือสอดเข้ามาในสาบเสื้อก่อนจะไล้แถวสะดือ สัมผัสหนักเบาไม่เท่ากัน นัยน์ตาคมมองมาผ่านความมืดสลัวเพราะแสงไฟปิดตอนไหนไม่รู้ มีเพียงแสงสะท้อนจากหน้าต่างที่ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายแสดงท่าทีออกมาเช่นไร

ไม่มีคำพูดให้แก่กันและกัน และไม่มีสัญญาณเตือนถึงการเริ่มต้น

ซึงฮุนลูบโครงหน้าคมที่ดูดีก่อนจะประทับริมฝีปากที่หน้าผาก กึ่งดันตัวขึ้นก่อนแขนอีกข้างจะยกขึ้นเพื่อรั้งขอบชุดคลุมที่หมิ่นเหม่ของมินโฮออกจากไหล่กว้างที่ดูอบอุ่น ลุกนั่งก่อนที่ดันมินโฮให้พิงหัวเตียง หยิบหมอนรองหลังให้และดันขาออก

“เป็นเด็กดีนะมินโฮ”

ริมฝีปากรุกล้ำเพื่อหาความหวานละมุนจากคนตรงหน้าก่อนที่มินโฮจะเผยอปากน้อยๆให้อีกฝ่ายสอดลิ้นเข้ามา ความแห้งผากในคราวแรกกลับได้รับความชุ่มฉ่ำจนเกิดเสียง ฟังดูน่าอายแต่กลับทำให้หัวใจของมินโฮตื่นเต้นขึ้น

ซึงฮุนดันตัวแนบชิดมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายละริมฝีปากออก หอบหายใจทั้งๆที่เมื่อครู่ไม่ได้รุนแรงแต่กลับสูบพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างกายของมินโฮโอนอ่อนอย่างง่ายดาย ซึงฮุนดันขามินโฮก่อนจะจับให้พาดเอวตัวเอง ริมฝีปากทาบทับลงอีกครั้งก่อนจะไล้ลงมาที่ลำคอที่ดูจะเกร็งไปหมดทุกจุดที่ริมฝีปากลากผ่าน แลบลิ้นเล็กๆเพื่อละเลียดอย่างอ่อนโยนเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีกับสัมผัสที่จะเกิดขึ้น

มันไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งที่สอง หรือครั้งที่เท่าไรแล้วก็ตามที แต่ซึงฮุนก็อยากถนอมให้มากที่สุดอยู่ดี ถึงสุดท้ายจะควบคุมไม่ค่อยได้ก็ตาม

มินโฮเอื้อมมือปลดเสื้อนอนของซึงฮุน แต่ไม่ได้จับออกแต่อย่างใด ก่อนที่จะวางมือไว้ที่อก บีบเบาๆทั้งที่มือสั่น ละวางทุกอย่างเพื่อให้ซึงฮุนควบคุม วันนี้เขายอมทุกอย่างที่จะให้ซึงฮุนครอบครอง มันไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่หากการนอนรอรับความสุขจากคนที่รักจะทำให้เจ็บบ้าง เขาเข้าใจความรู้สึกของซึงฮุนพอๆกับซึงฮุนที่เข้าใจความต้องการของเขา

ร่างกายของมินโฮสั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ ริมฝีปากที่ครอบครองยอดอกดูดดึงแรงบ้างเบาบ้าง มินโฮนิ่วหน้าแต่ไม่ยอมละสายตาจากซึงฮุน ยิ้มเพื่อบอกว่าตนเองไม่เป็นไรก่อนจะเชิดหน้า

“ฮ่ะ อื้อ ฮยอง ฮยองอ่า...”มือรูดรั้งแกนกายช้าๆแต่บีบรัดจนมินโฮอกครวญครางออกมาไม่ได้ มันรู้สึกดีเกินไป ซึงฮุนกัดน้อยๆก่อนจะลากริมฝีปากลงและไล้เลียเชิงกราน มืออีกข้างจับเอวสอบบีบสลับคลายเพื่อให้อีกฝ่ายอยู่นิ่งก่อนริมฝีปากจะครอบครองแกนกายของมินโฮ ลิ้มลองรสชาติของอีกฝ่ายที่พยายามอดกลั้นเต็มทน

“ฮยอง อย่าเลียแบบนั้น...ฮื้อ”ร้องออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่เมื่อลิ้นกระหวัดส่วนปลาย ขาเริ่มกระตุกจนซึงฮุนต้องละมือไปจับต้นขามินโฮให้อ้าออกกว้าง บีบให้เชื่อใจก่อนจะคายแกนกายออก

“มินโฮ ไหวไหม”

“ฮื้อ ไหว ผมไหว”

“ฮยองขอนะ ช่วยมองมาที่ฮยองทีนะ”

มินโฮเงยหน้าเพื่อมองอีกฝ่ายตามที่ขอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นก่อนที่จะกัดริมฝีปากแน่นเมื่อสัมผัสต่อมายากเกินจะทน ลิ้นสอดเข้าไม่ทำให้เจ็บเพราะความเหนอะหนะจากน้ำลาย ทำไปเพียงสักพักก่อนที่ซึงฮุนจะสอดนิ้วเข้าที่ริมฝีปาก ลากวนสักพักก่อนจ่อที่ช่องทางที่เตรียมไว้

“อ่า ซึงฮุนฮยอง ซึงฮุนอ่า”มินโฮร้องออกมา น้ำตาไหลออกมาเพราะความจุกเสียด ซึงฮุนซับน้ำตาก่อนจะแช่นิ้วนิ่ง ไม่ได้ขยับต่อเพราะช่องทางรัดแน่นเกินไป จูบเพื่อปลอบใจและยิ้มออกมาเมื่อเห็นมือมินโฮเอื้อมมาจับไหล่และจิกแน่น ก่อนจะเริ่มขยับเข้าออกแผ่วเบา

“อึก...”

“รู้สึกยังไง บอกฮยองหน่อย”

“อึก..อย่าแกล้งผม เข้ามาสิ” มินโฮพูดก่อนจะหลับตา รับสัมผัสทุกส่วนจากซึงฮุนที่ปรนเปรอเป็นอย่างดีจนแทบถึงจุดสูงสุด ซึงฮุนถอดกางเกงนอนของตัวเองออกแค่ต้นขาก่อนรูดรั้งเพื่อเตรียมความพร้อมไม่นาน บดเบียดส่วนอ่อนไหวกับช่องทางหลังขอมินโฮก่อนจะค่อยๆสอดใส่เข้าไป

ซึงฮุนสูดลมหายใจแรงเร็วเพราะช่องทางหลังของมินโฮตอบรับดีเหลือเกินจนแทบอดทนไม่ได้ ร้องออกมาเบาๆก่อนลูบหน้าผากมินโฮที่เหงื่อออกเยอะเหลือเกิน

“ฮยองรักเรานะมินโฮ ผ่อนคลายหน่อยเถอะ”

“อึก มันเจ็บ...”

“พอไหม ไม่ทำไหม”

“ไม่เอา”มินโฮพูดออกมาก่อนจะขยับเอวเข้าหา ทั้งมินโฮและซึงฮุนร้องออกมาก่อนประกบจูบนัวเนีย ความเสียวซ่านแล่นริ้วถาโถมใส่จนแทบทนไม่ไหว มินโฮกัดริมฝีปากซึงฮุนแน่นจนบวมเจ่อก่อนจะอ้าออกและร้องเสียหลงไม่หยุดทุกครั้งที่ซึงฮุนเริ่มขยับกายเข้าออก

จากจังหวะเชื่องช้าจนตอนนี้เสียงหน้าขากระทบรุนแรงพอๆกับเสียงร้องของมินโฮ ซึงฮุนกดเอวมินโฮก่อนจะรูดรั้งแกนกายคนใต้ร่างแรงๆ จนมินโฮกระตุกและปลดปล่อยออกมา ซึงฮุนยิ้มก่อนปาดน้ำรักป้ายช่องทางหลังมินโฮและเริ่มสอดใส่อีกครั้ง

“อดทนอีกนิดนะ ฮยองยังไม่เสร็จเลย” จับขาอีกฝ่ายพาดไหล่ตนเองก่อนจะกดขาอีกข้างชิดอกมินโฮ ก้มลงดูดดึงยอดอกและขยับสะโพกสอบเร็วๆ มินโฮจิกหลังจนแสบไปหมดแต่เป็นความเจ็บที่ซึงฮุนเองยอมรับได้เต็มปากเต็มคำว่าชอบเหลือเกิน

“อึก มินโฮอา...” ขยับอีกสองสามทีก่อนที่ปลดปล่อยใส่ช่องทางหลัง มินโฮกระตุกก่อนจะปลดปล่อยอีกรอบเพราะมือที่รูดรั้งไม่หยุดก่อนที่จะแช่ตัวไว้นิ่งๆ จูบนัวเนียและกัดริมฝีปากล่างก่อนจะค่อยๆผละตัวออกมา

“ฮื้อ ฮยอง ไม่ต้องเอาออก นอนทับผมเลย”

“ฮยองหนักนะ”

“ไม่หรอกน่า ขออยู่แบบนี้อีกสักพักนะ”

“ครับๆ” หอมหน้าผากชื้นอีกฝ่ายก่อนยิ้มออกมา “ชอบที่ทำให้ไหม”

“ถามบ้าไรเนี่ย” มินโฮเบือนหน้าหนีก่อนจะยิ้มออกมา “นอนได้แล้วน่า”

“หึ เด็กน้อยจริงๆ ฝันดีนะ”

“ฝันดีครับฮยอง รักฮยองเหมือนกันนะ”