BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

[OS] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon : Trust

[OS] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon
Story : Trust






Sometimes when I miss you.

I wanna touch.

I can’t control my mind.

Please…hug me my baby.


“มาทำไม!!”สียงตวาดอย่างเกรี้ยวกราดของคุณนายคังทำให้ซึงฮุนก้มหน้านิ่ง มือเล็กและบอบบางทุบอกของซึงฮุนจนเจ็บแต่เขากลับทำได้เพียงแค่ยืนอยู่นิ่ง จนสุดท้ายคุณนายอีแม่ของเขาต้องเข้ามาปรามเมื่อเห็นว่าลูกชายของตนเองถูกทุบตีแต่กลับไม่หลีกหนีแม้แต่น้อย

“ซึงฮุนอา เดียวอยู่นี่ก่อนนะจ๊ะ ถ้าจะกลับโทรหาแม่นะ”

ปัง


ความรู้สึกผิดเกาะกุมหัวใจจนทำให้สองขาไม่สามารถก้าวไปไหนได้แม้แต่น้อย ซึงฮุนยังคงได้ยินเสียงสะอื้นดังจากห้องข้างๆอยู่ ภาพตรงหน้าดูพร่าเลือนเหลือเกินเมื่อหยาดม่านน้ำตาเริ่มคลอตรงหน้า บดบังภาพที่เขากลับมาเพื่อมองเห็นและไม่อยากเห็นเช่นกัน

“ซึงยุนครับ...ลุกขึ้นสิคนดีของพี่”

เดินเข้าไปที่เตียงแม้ขาจะอ่อนแรงเกินทน  มือที่สั่นเทาค่อยๆเอื้อมไปกุมมือสีซีดของอีกฝ่าย ลูบด้วยความถนอมสุดหัวใจ สายน้ำเกลือที่ห้อยระโยงระ ยางรอบตัว แผลที่แขนขานุ่มและรอยถลอกมากมายตามผิวขาวนุ่มที่เขาเคยสัมผัส ยิ่งมองซึงฮุนยิ่งปวดใจขึ้นทุกขณะ...

มันเป็นเพราะเขา

เป็นเพราะเขามาช้าไป

เพราะตัวเขาคนเดียว....





“พี่ฮูนฮูน อยู่ไหนแล้วอ่า ผมรออยู่ที่ร้านขนมแล้วน้า” น้ำเสียงออดอ้อนปลายสายทำให้ซึงฮุนหลุดยิ้ม เมื่อเด็กน้อยของเขาวันนี้ออดอ้อนได้น่ารักเหลือเกิน แม้จะไม่เห็นหน้าแต่ซึงฮุนก็พอนึกออกว่าสีหน้าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร

“พี่บอกให้เรารออยู่บ้านก็ไม่เชื่อ แล้วทำไมต้องโทรมาอ้อนหืมเด็กดี” เอ่ยเสียงนุ่มใส่ปลายสายก่อนจะถอยรถเข้าที่จอด เมื่อมาถึงจุดหมาย แต่ซึงฮุนยังไม่แวะเข้าไปหาเด็กน้อยหรอก

เขาอยากเซอร์ไพรส์อะไรบางอย่าง

ซึงฮุนกลับมาหาเด็กน้อยหลังจากที่อีกฝ่ายต้องเทียวบินหาหลายครั้ง ตัวเขาใช่ว่ามีเวลามาก แค่ปิดเทอมสองอาทิตย์ก็ไม่เพียงพอต่อความคิดถึงต่ออีกฝ่ายแล้ว เขาอยากใช้เวลาอยู่กับอีกฝ่ายให้มากที่สุด

เสียงปลายสายยังคงงุ้งงิ้งยิ่งทำให้อยากฟัดแก้มนุ่มมากขึ้น ถึงกาลเวลาจะทำให้คังซึงยุนโตกว่าเดิมมากก็ตาม

แต่แฟนเด็กก็คือแฟนเด็กอยู่ดี

“ซึงยุนอา เดี๋ยววางก่อนนะครับ สั่งขนมรอพี่ก่อนเลยเข้าใจไหม”

ส่งยิ้มให้โทรศัพท์แม้รับรู้ว่าอีกฝ่ายคงมองไม่เห็นก็ตามก่อนจะหันไปเลือกแหวนเมื่อเดินมาถึงร้านที่ต้องการ

ไม่ใช่ว่าต้องการรวบรัดแต่เขาแค่อยากให้อีกฝ่ายเฉยๆ ถ้าจะมองว่าเป็นการตีตราจองก็คงไม่ผิดเท่าไรนัก ถ้าจะรอจนน้องอายุยี่สิบก็คงใช่ที่ ไม่ใช่ว่าซึงฮุนไม่เชื่อใจน้อง แต่เป็นเพราะไม่เชื่อใจคนอื่นมากกว่า

ในเมื่อน้องน่ารักมากขนาดนี้ ขอประกาศความเป็นเจ้าของสักหน่อยคงไม่ผิด

ยกยิ้มก่อนเจอแหวนที่ถูกใจ แอบหยิบด้าย(ที่แอบวัดนิ้วน้องตอนที่หลับ) ส่งให้พนักงานสาวเพื่อหาขนาดที่พอดีก่อนจะกดเข้าโปรแกรมแชท ก่อนสายตาจะสะดุดกับข้อความหนึ่ง

ข้อความจากแฟนเก่า...

ขมวดคิ้วก่อนจะกดโทรออกเมื่ออ่านข้อความจบ

เขาจำได้ว่าไม่น่าจะมีใครรู้ว่าเขากับซึงยุนคบกับอยู่ แต่ทำไมเนื้อหาในข้อความนั่นกลับทำให้หวั่นใจได้ขนาดนี้

รอสายสักพักก่อนที่เสียงสัญญาณจะตัดเป็นเสียงหวานแหลมที่เขาเคยพูดคุย

“ว้าว แปลกจังนะซึงฮุนโทรหาฉันด้วย”

“เธอต้องการอะไรโซมี” เอ่ยแบบไม่คิดเกริ่นอะไรให้มากความ ปลายสายเงียบก่อนจะตอบกลับมาเสียงเรียบขึ้น

“เปล่า ฉันคิดถึงนายนะซึงฮุน”

“แต่เราไม่มีอะไรจะคุยกันแล้วนะ ผมว่าเราจบกัน...”

“เพราะไอ้เด็กนั่นใช่ไหมซึงฮุน”

“อย่าเอาน้องเขามา...”


“แล้วไอ้รูปที่คุณจูบกับมันคืออะไร!!!คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก ฉันแทบบ้าตายตอนที่คุณบอกเลิกฉัน คิดว่าฉันจะยอมหรอ”

“คุณจะทำอะไร เรื่องของเรามันจบแล้วนะ” ซึงฮุนหรี่ตาเมื่อน้ำเสียงปลายสายปนสะอื้น

“ถ้าฉันไม่ได้คุณ ก็อย่าหวังว่าคุณกับไอ้เด็กนั่นจะมีความสุข!

“โซมี โซมี!!!” เสียงตัดหายไปแล้วแต่ใจของซึงฮุนกลับกังวลหนักกว่าเก่า ซึงฮุนเดินไปรับของก่อนจะออกจากร้านอย่างรวดเร็ว เดินไปที่จอดรถก่อนจะสตาร์ทด้วยใจที่กังวล

จากนี่ไปถึงที่นัดก็สิบนาที

ซึงฮุนหยิบโทรศัพท์ขึ้นก่อนโทรไปที่ซึงยุนอีกครั้ง

“พี่ฮูนอา ยังไม่มาถึงอีกหรอ” เสียงสดใสปลายสายทำให้ซึงฮุนอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกรอกเสียงนุ่มลงไปแม้ใจจะกังวลมากก็ตาม

“ซึงยุนอา อย่างอแงสิครับเด็กดี อีกสิบนาทีพี่จะไปถึงนะ”

“ฮะ”

“สั่งไรกินยังหืม” ถามด้วยความเป็นห่วงทั้งที่ใจกังวลมากมาย

โซมีเป็นคนน่ากลัว ความจริงเรื่องแฟนเก่าข้อนี้ทำให้ซึงฮุนไม่คลายความกังวลแม้แต่น้อย

“พี่ฮูน อ๊ะ พี่ ผมเจอเพื่อน ผมขอคุยกับเพื่อนก่อนนะ”

“เดี๋ยว”

อีกฝ่ายตัดสายไปแล้ว ซึงฮุนอ้าปากค้างก่อนจะมองนาฬิกา

การจราจรเชื่องช้ากว่าปกติ คงเพราะวันนี้เป็นวันหยุดเลยยิ่งทำให้รถแทบไม่ขยับ เพียงอีกไม่ไกลเขาจะถึงร้านที่นัดแล้ว

เสียงเรียกเข้าดังขึ้นหลังจากผ่านไปได้สักพัก

-ลูกหมาน้อย-

ซึงฮุนยกยิ้มเมื่อเห็นว่าใครโทรมา คงโทรมาเร่งเขาแน่ๆ มือเลื่อนไปกดรับก่อนกรอกเสียงนุ่มเข้าไป

“อะไรหืมเด็กน้อย...”

“สวัสดีครับ นี่เจ้าหน้าที่กู้ภัยนะครับ ไม่ทราบว่าเป็นผู้ปกครองเจ้าของโทรศัพท์ไหมครับ....”

มือสั่นเทาเมื่อเสียงปลายสายกรอกมาไม่ใช่เสียงคนรักของตนเอง ความกลัวคลืบคลานเข้ามาในใจเมื่อรับรู้ความจริง...




“มึงสืบได้หรือยังว่าใครทำ” น้ำเสียงเย็นชากรอกเสียงไปที่ปลายสาย ซึงฮุนให้มินโฮ เพื่อนสนิทของเขาตามสืบเรื่องทะเบียนรถที่จับได้จากกล้องวงจรปิดแล้ว

ยิ่งดูยิ่งเหมือนจงใจชนแล้วหนี

มันไม่ใช่อุบัติเหตุแน่ๆ คนที่เขาเองสงสัยมันก็มี แต่ไม่อยากลงความเห็นอะไรถ้าหลักฐานไม่แน่นหนามากพอ

“อืม ขอบใจมึงมากนะ”กรอกเสียงก่อนจะกดวางสาย เดินไปหาซึงยุนที่ยังคงหลับนิ่ง ลมหายใจสงบไม่ค่อยทำให้กังวลเท่าไร เมื่อสอบถามอาการทางแพทย์ก็พบว่าไม่มีความกระทบกระเทือนอะไรมาก มีเพียงแค่บาดแผลทางภายนอกแต่สมองไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรยิ่งทำให้อุ่นใจ  ซึงฮุนใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคนบนเตียงที่หลับมาเข้าวันที่สามแล้ว ในใจกังวลเรื่อยๆ

“ตื่นสักทีเถอะซึงยุน พี่จะบ้าตายแล้วนะ” จูบมืออีกฝ่ายก่อนความรู้สึกแย่จะถาโถมเข้ามา

ซึงฮุนไม่ได้นับถือศาสนาใดเป็นพิเศษ แต่ครั้งนี้หัวใจเขากลับไร้ทางพึ่งจนถึงที่สุด

พระเจ้า

ผมขอแค่ซึงยุนฟื้นคืนมา แค่น้องฟื้นมา

ผมไม่ขอมากไปใช่ไหม







ซึงฮุนเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยก่อนจะต้องหลบสายตาคุณนายคังที่มองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง จะบอกว่าเป็นความเจ็บปวดเล็กๆก็คงไม่ผิด เป็นเพราะดูแลน้องไม่ดีมากพอถ้าอีกฝ่ายจะโกรธก็คงไม่แปลกอะไร ในเมื่อซึงยุนเองก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่เขาเฝ้ารักเฝ้าถนอมมานาน

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกอีกครั้ง เสียงรอสายยิ่งทำให้หัวใจรู้สึกคุกรุ่น

“ฮัลโหล”

เสียงปลายสายติดจะยินดีตอบรับกลับมา มันช่างตรงข้ามกับความรู้สึกผมเหลือเกิน

“ถ้าซึงยุนเป็นอะไรไป อย่าคิดว่าฉันจะเอาเธอไว้ จำไว้โซมี”

เสียงปลายสายหัวเราะกลับมา ผมตัดสายทิ้งก่อนจะกลับไปบ้านเพื่อสะสางเรื่องนี้ให้เสร็จ

แต่ขาที่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากเขตโรงพยาบาล เสียงโทรศัพท์จากแม่ก็เรียกเข้ามา

“ครับแม่”

“ซึงยุนฟื้นแล้ว ลูก ซึงยุน...”

ซึงฮุนวิ่งกลับไปในตัวโรงพยาบาลก่อนที่จะได้ฟังด้วยซ้ำ นัยน์ตาร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้ออกมา สองเท้าสาวรวดเร็วก่อนที่จะเปิดประตูเต็มแรง

น้ำตาไหลออกมาจริงๆ

เพียงแค่รอยยิ้มอีกฝ่ายส่งมาแม้ดูอ่อนแรงมากตามที

“พี่ฮูนฮูน....ผมกลับมาแล้วฮะ”


“พี่อ่ะ หยุดป้อนผมได้แล้ว ไม่ได้เป็นง่อยซะหน่อย” น้ำเสียงงอแงดังขึ้นอีกครั้ง ผมวางช้อนที่ตักโจ๊กอุ่นๆลงก่อนจะลูบหัวซึงยุนเบาๆ ริมฝีปากอีกฝ่ายเบะน้อยๆ ท่าทีน่ารักนั่นน่าเอ็นดูเกินทน

ซึงฮุนได้แต่คิดในใจเท่านั้น แต่สีหน้าที่แสดงออกมาช่างตรงข้ามกับความรู้สึกเหลือเกิน

“แต่เราป่วยอยู่ก็เพราะพี่ ถ้าพี่ไม่ห่วงพี่จะเฝ้าดูแลเราแบบนี้ไหม”

“...”

“เราดื้อนะน้องยูน”

“ง่า พี่ฮูนฮูน” เหมือนมีหูน้อยๆลู่ลงพร้อมกับหางคล้ายเวลาลูกหมาโดนเจ้าของดุ ซึงฮุนเกือบหลุดยิ้มแต่พยายามห้ามใจไว้อีกครั้ง

“แล้วผมมาอยู่โรงพยาบาลกี่วันแล้วหรอ”

“วันนี้วันที่สี่ครับ”

“อ่า...พี่ฮูนฮูนก็ใกล้กลับแล้วสิ” น้องทำหน้าเศร้าก่อนก้มหน้าชิดอก

สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว

ซึงฮุนยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆโน้มตัวไปจูบหน้าผาก กอดอีกฝ่ายแนบอกด้วยความถนอมสุดหัวใจ

“พี่ขอโทษที่ทำให้เราเป็นแบบนี้นะ”

“พี่ไม่ได้ทำซะหน่อย มันเป็นอุบัติเหตุ...”

“พี่ถามเราจริงๆซึงยุน ตอนที่พี่ไม่อยู่มีคนส่งข้อความแปลกๆมาไหม”

เหมือนจี้ใจดำน้องเข้าเต็มๆ ซึงยุนนิ่งก่อนจะพูดตะกุกตะกัก

“มะ...ไม่ฮะ”

“โกหกพี่พี่จะลงโทษ”

น้องทำตาลอกแล่กก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาน้อยๆ ผมมองก่อนจะนั่งลงบนเตียงคนไข้น้อง โชคดีที่ผมจองห้องพิเศษไว้จึงไม่มีใครเข้ามารบกวนได้

ผมค่อยๆเอื้อมมือไปจับท้ายทอยน้องเบาๆก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปแตะริมฝีปากนั่น ไม่ได้รกล้ำอะไรมาก กดย้ำจนสุดท้ายน้องดันอกออกและพูดออกมา

“ก็มีส่งแปลกๆมาบ้างฮะเวลาไปโรงเรียน...”

“ต่อไปมีอะไรต้องบอกพี่ เข้าใจไหม”

น้องเงยหน้ามองผมก่อนจะแสดงสีหน้าสงสัย

“พี่รู้แล้วกันน่า น้องยูนกินยาเร็ว จะได้นอนพัก พรุ่งนี้เดี๋ยวเราก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”

“จริงหรอฮะ”

“จริงสิ” ผมยิ้มน้อยๆเมื่ออีกฝ่ายดูดีใจว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาล “แต่เราต้องพักผ่อนเยอะๆเข้าใจไหม”

“ฮะ” น้องยกยิ้มจนตาปิดก่อนทานยาอย่างว่าง่าย  ริมฝีปากดูนุ่มนิ่มที่ตอนนี้อาจจะซีดเซียวไปบ้างยกยิ้มกว้างก่อนจะมุดตัวลงผ้าห่ม ผมจับตัวน้องก่อนจะเอาของไปเก็บไว้ข้างๆ และลงมานั่งข้างน้อง สอดมือเข้ากุมเบาๆ น้องยกมือขึ้นก่อนเอาแนบที่ใบหน้าและหลับตาลง เพราะฤทธิ์ยาที่ทานไปเมื่อครู่ทำให้น้องเข้าสู่ห้วงนิทราง่ายๆ

ตอนนี้ได้เวลาเคลียร์กับต้นเหตุที่ทำให้น้องเจ็บตัวแล้วหล่ะ


“ขอบใจมากมินโฮ” ผมยกยิ้มก่อนจะมองหลักฐานการแจ้งความที่อีกฝ่ายส่งมาให้  หลังจากเดินออกมาจากสถานีตำรวจ

ใครกล้าทำคนของเขาอย่าคิดว่าจะเอาไว้ลอยนวล

สรุปแล้วคนร้ายคือโซมีจริงๆอย่างที่คาดไว้ ซึงฮุนเองก็จัดการวิธีที่เรียกได้ว่าทำเอาอีกฝ่ายกระอักไปพอสมควร

ใครดีมาเขาก็ดีกลับ แต่อย่าให้ถึงคราวที่เขาโมโห

เขาคงปราณีกับคนที่คิดจะพรากชีวิตคนรักเขาไปไม่เป็นเท่าไรนักหรอก


“พี่ฮูนฮูนฮะ” น้ำเสียงออดอ้อนดังขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เจ้าตัวมาถึงบ้าน คุณนายคังเปลี่ยนท่าทีไปมากขึ้นเมื่อเห็นว่าซึงยุนกลับมาบ้านและปลอดภัยดีทุกอย่าง ซึงฮุนเองก็รู้สึกโล่งใจทีไม่ต้องอึกอัดกับสายตานั้นอีก

“ว่าไงหืมน้องยูน”

“ผมยังไม่ได้กินเค้กเลย”

“เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้”

“งื้ออออ”น้องดิ้นเมื่อผมรั้งตัวให้เดินไปนั่งพัก

เด็กนี่ จะดื้อเกินไปแล้ว

ต้องย้ำเตือนกันสักหน่อยแล้วสินะ

“อ๊ะ พี่ฮูน...” น้องร้องออกมาเสียงแผ่วเมื่อซึงฮุนรั้งอีกฝ่ายให้นั่งตัก คลอเคลียแถวคอเด็กน้อยในอ้อมกอดจนเห็นว่าอีกฝ่ายขนคอลุกชัน อาจเพราะว่าจั้กจี้หรืออะไรก็ตาม ยกยิ้มมุมปากก่อนเอ่ยเสียงแข็ง

“ไปข้างนอกทำไมหือซึงยุน อยู่กับพี่ทั้งวันแล้วยังไม่พอใจอีกหรอ”

ใบหูน้องแดงก่ำก่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของซึงฮุน

ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะสอดมือเข้าไปด้านหน้า สัมผัสมืออีกฝ่ายและกุมไว้ค่อยๆ โชคดีที่แผลตามร่างกายน้องไม่ได้มีมาก และหายไปเกือบหมดแล้ว
“หันมาทางนี้สิเด็กดีของพี่”

น้องค่อยๆหันมาก่อนจะก้มหน้าหงุด ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะค่อยๆลูบผมอีกฝ่าย หอมหน้าผากแผ่วเบาและเอาหน้าผากชนกัน

“เรารู้ไหมว่าพีแทบบ้าตอนรู้ว่าเราเป็นอะไร พี่ไม่อยากให้เราเจ็บตัว พี่ไม่อยากให้เราห่างจากพี่อีกเลยรู้ไหม”

“พี่ฮูนฮูน...”

“พี่รักเรานะ”

ประโยคสั้นๆที่เอ่ยออกมาก่อนที่ความเย็นเฉียบจะถูกสวมใส่ที่นิ้วเรียวสวย ซึงยุนเบิกตากว้างก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่าย

แหวนเงินที่เลือกมาเพื่อคนของเขาโดยเฉพาะ

“พี่จองตัวเราแล้วนะซึงยุน ต่อไปมีอะไรต้องบอกพี่นะครับเด็กน้อยของพี่”

“ฮื้อออ พี่ฮูนฮูน” อีกฝ่ายร้องฮือออกมาก่อนจะสวมกอดเต็มแรง ซึงฮุนกอดและลูบหัวก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เสียงตอบรับอู้อี้และความเปียกชื้นที่ไหล่ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายดีใจมากมายขนาดไหน

“พี่ฮูนฮูน น้องยูนก็รักพี่ฮูนฮูนนะ”

“ครับๆๆๆ”หัวเราะออกมาน้อยๆเมื่อเด็กน้อยในอ้อมอกกลายเป็นเด็กขี้แยเสียแล้ว “ไหน น่ารักขนาดนี้ให้พี่ให้รางวัลหน่อยสิคนดี”

ซึงฮุนผละออกก่อนจะค่อยๆประกบริมฝีปากและละออกเพียงเสี้ยวนาที

ความรู้สึกบอกผ่านทางสายตา ก่อนจะชักนำให้ริมฝีปากประกบกันอีกครั้งตลอดช่วงเวลาแสนหวาน

ราวกับจะย้ำเตือนให้เชื่อใจกันและกันตลอดไป



 I Love you,


Always



#2Seung

#ALLBBHN

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

[OS] Kang Seungyoon X Nam Taehyun : V-Line, Maknae Line

[OS] Kang Seungyoon X Nam Taehyun

Story : V-Line, Maknae Line




PS.เหตุเกิดจากวีไลน์ของนัมแทฮยอน




คอนเสิร์ตในวันนี้จบลงแล้ว พรุ่งนี้พวกเขาทั้งหมดจะเดินทางกลับเกาหลีกัน

ต่างคนต่างโค้งขอบคุณทางทีมงานทั้งหมดก่อนจะแยกย้ายกัน

ซึงยุนยิ้มให้สต๊าฟก่อนจะออกมา เตรียมขึ้นรถกลับที่พักเพื่อพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับเกาหลีแล้ว แถมด้วยตารางงานอีกสองวันเขาจะต้องไปจีนอีกเพื่อถ่ายทำรายการของจีนที่มีมินโฮไปด้วยกัน ซึงยุนเปิดรถตู้ก่อนจะเข้าไปที่เบาะหลังสุด มองไปที่ซึงฮุนกับมินโฮทีนั่งหัวเราะงุ้งงิ้งกันตามประสาแฟนก่อนจะเห็นว่าจินวูเองก็หลับด้วยความเพลียเช่นกัน

พลันสายตากลับมองหาอีกคนก่อนที่มินโฮจะพูดขัดขึ้นมาทั้งที่ไม่เงยหน้า

“แทฮยอนกลับไปก่อนแล้ว เห็นบอกเพลียมากเลยกลับไปกับเมเนก่อน”

“ไม่ได้มองหาสักหน่อย” ซึงยุนยู่ปากเมื่อถูกอีกฝ่ายจับไต๋ได้

เหอะ

ทำไมต้องมองหาคนนั้นกันเล่า

“นี่ยังโกรธแทฮยอนเรื่องบนเวทีอีกหรอไง” เป็นซึงฮุนที่เอ่ยขึ้นมา

ทำไมจะไม่รู้ว่าซึงยุนเป็นคนที่ค่อนข้างหวงของ โดยเฉพาะ ของของเขา

ซึงยุนฟึดฟัดเมื่อนึกถึงตอนที่ขึ้นเวที ฉากที่แทฮยอนยกเสื้อขึ้นจนเห็นกล้ามเนื้อที่ตนเองภูมิใจนักหนาให้แฟนคลับดู มันเป็นอารมณ์ที่ไม่เชิงว่าหวงหรอก แต่เขาไม่ได้ชมชอบเท่าไรหากว่าใครจะต้องเห็นมัน

ซึงยุนรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่ามากเมื่อนึกถึงจุดนี้ มือเรียวสวยขยี้หัวตัวเองก่อนเอาหูฟังยัดหูเพื่อตัดขาดบทสนทนาจากทุกคนบนรถ

ซึงฮุนและมินโฮมองหน้ากันเมื่อเห็นท่าทีนั้น คงงอนอะไรกันมาอีกแน่ๆถึงได้หน้าบึ้ง ก่อนที่จะตัดสินใจเงียบและไม่พูดอะไรออกมา

เรื่องของสองคนนี้ไม่ค่อยมีใครเข้าใจได้เท่าเจ้าตัวเอง

บางครั้งงอนจนไม่พูดจา พอผ่านไปไม่นานก็กลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเป็นนิสัยของมักเน่ไลน์คู่นี่ไปเสียแล้ว


ซึงยุนปิดประตูห้องก่อนจะล้มตัวนอนด้วยความอ่อนเพลีย อัปโหลดรูปลงอินสตราแกรม เลื่อนดูบนทามไลน์ไปเรื่อย ก่อนจะหยุดที่รูปของแทฮยอน...

จู่ๆก็รู้สึกโมโหอีกฝ่ายขึ้นมานิดๆ

แทฮยอน...บ้าเอ้ย



ซึงยุนน่าจะหลับไปแล้วแน่ๆ...

แทฮยอนค่อยๆเดินเข้าห้องของซึงยุนหลังจากที่ขอกุญแจเมเนฮยองมาได้

เหตุผลที่ดึกดื่นขนาดนี้ต้องเข้ามาเพราะว่าอีกฝ่ายได้ข้อความจากซึงฮุนฮยองว่าซึงยุนมีอาการหงุดหงิดนั่นแหละ ทั้งๆที่ปกติซึงยุนไม่ใช่คนที่จะฉุนเฉียวกับอะไรง่ายขนาดนั้น

แทฮยอนเดินเข้ามาส่วนในห้อง ไฟยังเปิดสว่าง สายตากวาดมองจนเห็นคนที่เขาตั้งใจเข้ามาหา

อีกฝ่ายคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จแน่ๆเพราะผ้าเช็ดผมยังคงคาอยู่ที่หัว แต่คอที่พิงพนักเก้าอี้ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายคงเผลองีบหลับไปเหมือนดังเช่นทุกครั้งที่ทำงานเหนื่อยๆแล้วต้องการพักสายตา

ลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้แทฮยอนยิ้มออกมา

ท่าทางเวลาหลับของซึงยุนทำให้อดไม่ได้ที่จะหอมหน้าผากเบาๆ แทฮยอนไม่ใช่คนที่หวือหวาในเรื่องการแสดงออกทางความรักเท่าไรนัก เดินไปหยิบผ้าห่มผืนนุ่มมาก่อนจะคลุมกายบางของอีกคน

เดี๋ยวค่อยถามพรุ่งนี้ละกัน

เมื่อคิดได้แบบนั้นจึงเตรียมหันหลังกลับห้องตนเอง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมือเรียวของคนที่คิดว่าหลับไปแล้วจับที่ข้อมือก่อนออกแรงดึง

ซึงยุนจ้องเขม็งเมื่อแทฮยอนหันมามองด้วยความสงสัย ริมฝีปากอวบเอ่ยออกมาก่อนเม้มน้อยๆ

“จะไปไหน”

“กลับห้องไง ก็เห็นว่าซึงยุนหลับอยู่นี่”

“นายนี่มันจริงๆเลย” ซึงยุนพูดก่อนจะลุกขึ้นมองหน้าตรงๆ สายตาที่แสดงออกถึงความโกรธทำให้แทฮยอนยกมือขึ้นชี้ตัวเองแบบงงๆ

ซึงยุนโกรธเขาหรอ

แล้วอะไรหล่ะ

ไม่ทันได้คิดอะไรมากมาย ซึงยุนก็เลิกเสื้อของแทฮยอนออกไปคาอยู่เหนืออก ก่อนที่มือเรียวจะตีที่หน้าท้องอย่างแรง

“โอ้ย”

“ชอบอวดนักใช่ไหม มีหน่อยไม่ได้เลยนะ”

“นี่หรือว่าที่อารมณ์ไม่ดีเพราะหวง?”

แทฮยอนพูดออกมาก่อนคำตอบที่ได้รับจะเป็นใบหน้าแดงระเรื่อน้อยๆของซึงยุน แทฮยอนหลุดยิ้มออกมาทันที

“ซึงยุนอา...”

“อะไร ไม่ใช่สักหน่อย”

“แล้วเป็นอะไรอารมณ์ไม่ดีหล่ะ บอกกันได้ไหม”

“เปล่า ไม่รู้ด้วยแล้ว กลับไปเลยนะ”

“ไม่กลับ” แทฮยอนพูดก่อนจะดึงมืออีกฝ่ายให้สัมผัสที่กลางลำตัว ซึงยุนเบือนหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายจับมือให้ลูบเบาๆ

“ปล่อย...”

“นี่ของนายนะซึงยุน...อย่าหึงเลยน่า”

ซึงยุนชักมือกลับและตีอีกคนอย่างแรง แทฮยอนหัวเราะก่อนจะดึงอีกคนมากอดเบาๆ

“คิดมากจริงๆเลยซึงยุน เอางี้ไหม เดี๋ยวคืนนี้นอนเป็นเพื่อน”

“ไม่เอา”

“ไม่เอาจริงดิ” แทฮยอนเลิกคิ้วก่อนทำหน้านิ่ง

ซึงยุนผลักอีกฝ่ายให้ไปที่ประตู ก่อนที่แทฮยอนจะเป็นคนขืนตัวไว้

“ซึงยุนอา...นอนด้วยนะ นะๆ”

ซึงยุนมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา

บางที การที่แทฮยอนเป็นแบบนี้ก็ทำให้ซึงยุนรู้สึกตลกพอดู

ใครบอกกันว่าแทฮยอนเป็นคนนิ่งๆ

“ก็แล้วแต่ละกัน”

ซึงยุนยิ้ม ก่อนทดไว้ในใจ

เดี๋ยวคืนนี้จะทบต้นทบดอกให้หมดเลย

โทษฐานโชว์ของเขาให้คนอื่นดูดีนัก




ซึงยุนล้มตัวนอนหลังจากที่มือสวยเอื้อมไปที่สวิตซ์ไฟตรงข้ามแทฮยอนเพื่อเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทรา แทฮยอนนอนพิงหัวเตียงก่อนจะเช็คโทรศัพท์ ไฟที่ยังสว่างทำให้สุดท้ายซึงยุนตัดสินใจพลิกตัวกลับมา

“แทฮยอน หยุดเล่นได้แล้ว”

“หืม”

“...”

ซึงยุนหยิบโทรศัพท์ออกจากมือแทฮยอนก่อนจะโยนมันลงข้างๆ พลิกตัวขึ้นนั่นตักอีกฝ่ายก่อนจะจับไหล่นิ่ง แทฮยอนเบิกตากว้างเมื่อคนตรงหน้าเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

“นายนี่มันจริงๆเลยแทฮยอน”

“...”

“ต้องให้เริ่มก่อนหรือไง”

ซึงยุนมุ่ยหน้า มือขย้ำคอปกเสื้ออีกฝ่ายแน่น แทฮยอนยกยิ้มก่อนยกมือสัมผัสที่เอวเบาๆ

“ก็เห็นเหนื่อย เลยไม่อยากกวนไง...อย่ามาบ่นทีหลังละกัน”

แทฮยอนพูดก่อนจะยิ้มออกมา มือลูบที่ต้นขาอีกฝ่ายเบาๆ ความเย็นของมือทำให้ซึงยุนสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะเป็นฝ่ายร่นชุดคลุมโรงแรมอีกฝ่ายออกบ้าง

“ปล่อยให้ตัวเย็นขนาดนี้ได้ยังไง เบาแอร์หน่อยไหม เดี๋ยวไม่สบาย” ซึงยุนพูดเรียบๆ ทำท่าจะละออกก่อนที่แทฮยอนจะดันตัวขึ้นจากหัวเตียง ขยับใบหน้าเข้าใกล้กว่าเดิมพร้อมรั้งอีกฝ่ายไว้

“ไม่ต้องหรอก”

“...”

“เดี๋ยวก็อุ่นแล้ว”

พูดเพียงแค่นั้นก่อนที่ริมฝีปากบางจะประกบเบาๆ ขบเม้มริมฝีปากล่างเป็นเชิงขออนุญาตก่อนที่เรียวลิ้นจะค่อยๆสอดเข้าไปช้าๆ ไม่ได้รุกล้ำรุนแรง

ซึงยุนค่อยๆยกตัวขึ้นก่อนที่จะแหวกสาบเสื้อคลุมนอนออก ปลดเชือกรัดเอวก่อนจะลูบที่หน้าท้องทั้งๆที่ริมฝีปากไม่ได้ละไปไหน มืออีกข้างจับที่ไหล่แข็งก่อนจะค่อยๆบดเบียดเข้าหาอีกฝ่ายอีกครั้ง

สัมผัสเบาๆแต่ทำเอาแทฮยอนสั่นไปทั้งหัวใจ

พอๆกับซึงยุนเองที่เริ่มหายใจติดขัดกับรสจูบที่เริ่มวาบหวามขึ้นเต็มที

“ฮื่อ...พอก่อน”ซึงยุนผละหน้าออกก่อนจะถอยตัวออกมา น้ำใสไหลเปรอะรอบปากที่บวมเจ่อทำให้แทฮยอนอดใจไม่ไหว

ทุกครั้ง...

เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่จะอารมณ์อยู่เหนือทุกสิ่ง

“ไม่ละออกได้ไหม อยากอุ่นกว่านี้”

“เดี๋ยวก็ได้อุ่นแล้วน่า ใจร้อนจริง” ซึงยุนบ่น แทฮยอนหลุดขำ

นี่ขนาดอยู่ด้วยกันบนเตียงยังบ่นเลย ทำตัวเป็นลีดเดอร์ตลอดเวลาจริงๆ

“เลิกทำหน้าที่หัวหน้าวงบ้างเถอะ...มาทำหน้าที่ คนของฉันบ้างก็ได้”

แทฮยอนไม่รอให้อีกฝ่ายละไปไหน แขนสะบัดชุดคลุมออกก่อนที่ร่างกายจะเปลือยเปล่าอย่างง่ายดาย ซึงยุนมองด้วยใบหน้านิ่งๆแต่หูแดงก่ำอย่างอดไม่อยู่ แทฮยอนหัวเราะน้อยๆและค่อยๆผลักซึงยุนก่อนจะพูดเสียงเรียบ

“มองสิซึงยุน มันเป็นของนายนะ ของนายคนเดียว”

“หยุดพูด...อื้อ”

แทฮยอนก้มลงจูบอีกฝ่ายก่อนจะปลดเลิกชุดนอนขึ้น ลูบเอวที่ตอนนี้บางเสียยิ่งกว่าตัวเองก่อนจะเลื่อยไปที่ยอดอก บดคลึงเบาๆสลับแรง เสียงซึงยุนอื้ออึงเรื่อยๆดังออกมาจากลำคอยิ่งทำให้แทฮยอนมีควาสุข ละออกก่อนจะถอดเสื้ออีกฝ่ายด้วยแรงอารมณ์ที่มีก่อนจะครอบริมฝีปากลงที่ยอดอกซ้าย

“อึก แทฮยอน” ซึงยุนชันตัวก่อนจะเกร็งเมื่อสัมผัสเปียกชื้นอยู่ตรงตัว มองอีกฝ่ายที่เปลือยเปล่าแล้วด้วยความรู้สึกดี

แทฮยอนหุ่นดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

และไม่แปลกใช่ไหมที่เขาจะหวงคนตรงหน้ามาก...มากเสียไม่อยากให้ใครเห็น

เชิดหน้าก่อนร้องออกมาเมื่ออีกฝ่ายขบกัดเบาๆ มือยกขยุ้มผมนิ่มด้วยความพึงพอใจสุดขีด โดยไม่ทันรู้ตัวว่าอีกฝ่ายถอดกางเกงให้ตนเองเมื่อไร

“อ่ะ..อ๊ะ แทฮยอน แทฮยอนอา”ร้องออกมาเลสียงหลงเมื่อริมฝีปากนิ่มที่ไล้อยู่เมื่อครู่ลดลงไปครอบครองแกนกายตัวเอง หายใจติดขัด สะโพกขึงเครียดจนแทฮยอนรู้สึกได้

“ไม่เกร็งสิ” ผละปากออกก่อนเริ่มรูดรั้งอีกครั้ง ลิ้นไล้เลียเก็บทุกหยาดหยดที่ซึมออกมาก่อนจะครอบลงไปอีกครั้ง

ยิ่งซึงยุนร้องออกมาเท่าไร แทฮยอนยิ่งรู้สึกดี

“อ่ะ อา แทฮยอน จะถึง...” เชิดหน้าร้องก่อนที่อีกฝ่ายจะปลดปล่อยออกมาอย่าง่ายดาย น้ำสีขาวขุ่นเปรอะริมฝีปากและใบหน้าของแทฮยอน แต่กลับมีเพียงรอยยิ้มที่ตอบรับ

แทฮยอนไม่ได้ว่าอะไรให้มากความ และซึงยุนก็รู้ตัวดีว่าตัวเองต้องการอะไร

ซึงยุนลุกขึ้นก่อนจะคร่อมอีกฝ่าย มือกอบกุมความแข็งขืนของแทฮยอนก่อนที่แทฮยอนจะนำมือที่เปรอะเมื่อครู่สอดใส่เข้าทางช่องทางร้องของซึงยุน ซึงยุนกัดไหล่ของแทฮยอนทั้งๆที่มือรูดรั้งแกนกายแทฮยอนจนเสียงหายใจถูกระบายออกมาด้วยความกระสัน

“อืม...ดีมากซึงยุน ดี..”

“อ่ะ...ไม่ไหวแล้ว ไม่เอานิ้วแล้ว”

“อีกนิดนะ เดี๋ยวเดินไม่ไหว”

แทฮยอนสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปอีกสองนิ้วก่อนที่ซึงยุนจะร้องออกมาเสียงหลง ความเจ็บแปลบปะปนมากับความเสียวซ่านอย่างน่ากลัว แทฮยอนชักนิ้วเข้าออกเบาๆก่อนจะงอนิ้วเข้า ตำแหน่งที่คุ้นเคยของซึงยุนถูกกระตุ้นจนซึงยุนสะดุ้งเต็มแรง

“อ่า อ๊า แท..แท”เผลอยกสะโพกรับนิ้วก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง หยาดน้ำอุ่นเปรอะหน้าท้องตนเองและแทฮยอนไปทั่ว

“ขอนะ” แทฮยอนพูดก่อนจะชักมือออก ปาดคราบน้ำขุ่นก่อนชโลมแกนกายตัวเอง รูดรั้งเพียงสองสามครั้งก่อนจะสอดใส่ในร่างกายของซึงยุน แช่ไว้นิ่งๆก่อนจะจูบริมฝีปากเบาๆ

“ซึงยุนอา...ดีจัง”

“อึก...แน่นอ่ะ” ซึงยุนบ่นทั้งน้ำตาคลอ แทฮยอนยกยิ้มก่อนจะดูดดึงยอดอกเบาๆ

“รู้สึกดีไหม อยู่ข้างบน”

“อย่าแกล้งสิ” ซึงยุนจิกอีกฝ่าย ร่างกายรับรู้ว่ากำลังตอดรัดอีกคนยิ้งทำให้เลือดสูบฉีดที่ใบหน้า แทฮยอนมองความน่ารักนั้นก่อนจะหอมแก้มเบาๆ

“นี่ไงเห็นไหมซึงยุน  ฉันเป็นของนายนะ”

“ไอ้บ้าเอ้ย อึก อ๊ะ มาพูด...อ๊า”

เมื่อเห็นซึงยุนทำท่าจะบ่นแทฮยอนจึงสวนแกนกายแรงๆไปสองที ร่างสั่นคลอนด้วยความเสียววูบก่อนที่สะโพกจะขยับรับเบาๆ

ต่างคนต่างกัดฟันกับความเสียวที่รุมเร้า จนสุดท้ายแทฮยอนเป็นฝ่ายทนไม่ไหว

“ไม่ไหวแล้ว ขอแรงๆนะ” จับต้นขาซึงยุนแยกออกกว้างก่อนที่จะสวนสะโพก ค่อยๆถอยออกมาช้าๆก่อนจะกระทั้นเต็มแรง

เสียงหน้าขากระทบกันรุนแรงจนดังไปทั่วห้องที่เงียบสงัด ความร้อนแผ่ซ่านจากภายในทั้งที่อุณหภูมิจากแอร์เย็นเฉียบ ร่างกายเกี่ยวกระหวัดและกอบโกยความวาบหวามที่เติมเต็มไปด้วยความรักทุกอยาดหยดอย่างคนไม่รู้จักพอ

“อ่ะ แทฮยอน แทฮยอนอา”

“ฮื้อ ซึงยุนนา ซึงยุน”

“ใกล้แล้ว อ่ะ...อา”

“ฮื่อ อีกนิดนะ อีกนิดนะครับ”

แทฮยอนรูดรั้งแกนกายของซึงยุนเต็มแรง จนซึงยุนสั่นก่อนจะปลดปล่อยออกมาในที่สุด แทฮยอนกระแทกอีกสองสามครั้งก่อนที่ความอุ่นร้อนจะทำให้ซึงยุนสะดุ้งจากข้างใน

เหลือเพียงเลสียงหอบหายใจแก่กันและกัน

และเหลือเพียงความละมุนละไมจากริมฝีปากที่เริ่มประกบกันอีกครั้ง และอีกครั้ง

“เห็นไหม บอกแล้ว ทุกอย่างของแทฮยอนเป็นของซึงยุนนะ”


“ฮื่อ...รักนายนะ”

“รักเหมือนกันแหละน่า”


ยกยิ้มก่อนที่ร่างกายจะตอบรับอีกครั้ง

และอีกครั้งว่าสิ่งที่พูดไม่ได้ผิดจากความจริงแม้แต่น้อย