[OS] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon
Story : Trust
Sometimes when I miss you.
I wanna touch.
I can’t control my mind.
Please…hug me my baby.
“มาทำไม!!”สียงตวาดอย่างเกรี้ยวกราดของคุณนายคังทำให้ซึงฮุนก้มหน้านิ่ง
มือเล็กและบอบบางทุบอกของซึงฮุนจนเจ็บแต่เขากลับทำได้เพียงแค่ยืนอยู่นิ่ง
จนสุดท้ายคุณนายอีแม่ของเขาต้องเข้ามาปรามเมื่อเห็นว่าลูกชายของตนเองถูกทุบตีแต่กลับไม่หลีกหนีแม้แต่น้อย
“ซึงฮุนอา เดียวอยู่นี่ก่อนนะจ๊ะ ถ้าจะกลับโทรหาแม่นะ”
ปัง
ความรู้สึกผิดเกาะกุมหัวใจจนทำให้สองขาไม่สามารถก้าวไปไหนได้แม้แต่น้อย
ซึงฮุนยังคงได้ยินเสียงสะอื้นดังจากห้องข้างๆอยู่ ภาพตรงหน้าดูพร่าเลือนเหลือเกินเมื่อหยาดม่านน้ำตาเริ่มคลอตรงหน้า
บดบังภาพที่เขากลับมาเพื่อมองเห็นและไม่อยากเห็นเช่นกัน
“ซึงยุนครับ...ลุกขึ้นสิคนดีของพี่”
เดินเข้าไปที่เตียงแม้ขาจะอ่อนแรงเกินทน มือที่สั่นเทาค่อยๆเอื้อมไปกุมมือสีซีดของอีกฝ่าย
ลูบด้วยความถนอมสุดหัวใจ สายน้ำเกลือที่ห้อยระโยงระ ยางรอบตัว
แผลที่แขนขานุ่มและรอยถลอกมากมายตามผิวขาวนุ่มที่เขาเคยสัมผัส
ยิ่งมองซึงฮุนยิ่งปวดใจขึ้นทุกขณะ...
มันเป็นเพราะเขา
เป็นเพราะเขามาช้าไป
เพราะตัวเขาคนเดียว....
“พี่ฮูนฮูน อยู่ไหนแล้วอ่า ผมรออยู่ที่ร้านขนมแล้วน้า”
น้ำเสียงออดอ้อนปลายสายทำให้ซึงฮุนหลุดยิ้ม เมื่อเด็กน้อยของเขาวันนี้ออดอ้อนได้น่ารักเหลือเกิน
แม้จะไม่เห็นหน้าแต่ซึงฮุนก็พอนึกออกว่าสีหน้าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร
“พี่บอกให้เรารออยู่บ้านก็ไม่เชื่อ แล้วทำไมต้องโทรมาอ้อนหืมเด็กดี”
เอ่ยเสียงนุ่มใส่ปลายสายก่อนจะถอยรถเข้าที่จอด เมื่อมาถึงจุดหมาย
แต่ซึงฮุนยังไม่แวะเข้าไปหาเด็กน้อยหรอก
เขาอยากเซอร์ไพรส์อะไรบางอย่าง
ซึงฮุนกลับมาหาเด็กน้อยหลังจากที่อีกฝ่ายต้องเทียวบินหาหลายครั้ง
ตัวเขาใช่ว่ามีเวลามาก แค่ปิดเทอมสองอาทิตย์ก็ไม่เพียงพอต่อความคิดถึงต่ออีกฝ่ายแล้ว
เขาอยากใช้เวลาอยู่กับอีกฝ่ายให้มากที่สุด
เสียงปลายสายยังคงงุ้งงิ้งยิ่งทำให้อยากฟัดแก้มนุ่มมากขึ้น
ถึงกาลเวลาจะทำให้คังซึงยุนโตกว่าเดิมมากก็ตาม
แต่แฟนเด็กก็คือแฟนเด็กอยู่ดี
“ซึงยุนอา เดี๋ยววางก่อนนะครับ สั่งขนมรอพี่ก่อนเลยเข้าใจไหม”
ส่งยิ้มให้โทรศัพท์แม้รับรู้ว่าอีกฝ่ายคงมองไม่เห็นก็ตามก่อนจะหันไปเลือกแหวนเมื่อเดินมาถึงร้านที่ต้องการ
ไม่ใช่ว่าต้องการรวบรัดแต่เขาแค่อยากให้อีกฝ่ายเฉยๆ ถ้าจะมองว่าเป็นการตีตราจองก็คงไม่ผิดเท่าไรนัก
ถ้าจะรอจนน้องอายุยี่สิบก็คงใช่ที่ ไม่ใช่ว่าซึงฮุนไม่เชื่อใจน้อง
แต่เป็นเพราะไม่เชื่อใจคนอื่นมากกว่า
ในเมื่อน้องน่ารักมากขนาดนี้ ขอประกาศความเป็นเจ้าของสักหน่อยคงไม่ผิด
ยกยิ้มก่อนเจอแหวนที่ถูกใจ แอบหยิบด้าย(ที่แอบวัดนิ้วน้องตอนที่หลับ)
ส่งให้พนักงานสาวเพื่อหาขนาดที่พอดีก่อนจะกดเข้าโปรแกรมแชท ก่อนสายตาจะสะดุดกับข้อความหนึ่ง
ข้อความจากแฟนเก่า...
ขมวดคิ้วก่อนจะกดโทรออกเมื่ออ่านข้อความจบ
เขาจำได้ว่าไม่น่าจะมีใครรู้ว่าเขากับซึงยุนคบกับอยู่
แต่ทำไมเนื้อหาในข้อความนั่นกลับทำให้หวั่นใจได้ขนาดนี้
รอสายสักพักก่อนที่เสียงสัญญาณจะตัดเป็นเสียงหวานแหลมที่เขาเคยพูดคุย
“ว้าว แปลกจังนะซึงฮุนโทรหาฉันด้วย”
“เธอต้องการอะไรโซมี” เอ่ยแบบไม่คิดเกริ่นอะไรให้มากความ
ปลายสายเงียบก่อนจะตอบกลับมาเสียงเรียบขึ้น
“เปล่า ฉันคิดถึงนายนะซึงฮุน”
“แต่เราไม่มีอะไรจะคุยกันแล้วนะ ผมว่าเราจบกัน...”
“เพราะไอ้เด็กนั่นใช่ไหมซึงฮุน”
“อย่าเอาน้องเขามา...”
“แล้วไอ้รูปที่คุณจูบกับมันคืออะไร!!!คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก
ฉันแทบบ้าตายตอนที่คุณบอกเลิกฉัน คิดว่าฉันจะยอมหรอ”
“คุณจะทำอะไร เรื่องของเรามันจบแล้วนะ” ซึงฮุนหรี่ตาเมื่อน้ำเสียงปลายสายปนสะอื้น
“ถ้าฉันไม่ได้คุณ ก็อย่าหวังว่าคุณกับไอ้เด็กนั่นจะมีความสุข!”
“โซมี โซมี!!!”
เสียงตัดหายไปแล้วแต่ใจของซึงฮุนกลับกังวลหนักกว่าเก่า ซึงฮุนเดินไปรับของก่อนจะออกจากร้านอย่างรวดเร็ว
เดินไปที่จอดรถก่อนจะสตาร์ทด้วยใจที่กังวล
จากนี่ไปถึงที่นัดก็สิบนาที
ซึงฮุนหยิบโทรศัพท์ขึ้นก่อนโทรไปที่ซึงยุนอีกครั้ง
“พี่ฮูนอา ยังไม่มาถึงอีกหรอ”
เสียงสดใสปลายสายทำให้ซึงฮุนอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย
ก่อนจะกรอกเสียงนุ่มลงไปแม้ใจจะกังวลมากก็ตาม
“ซึงยุนอา อย่างอแงสิครับเด็กดี อีกสิบนาทีพี่จะไปถึงนะ”
“ฮะ”
“สั่งไรกินยังหืม” ถามด้วยความเป็นห่วงทั้งที่ใจกังวลมากมาย
โซมีเป็นคนน่ากลัว
ความจริงเรื่องแฟนเก่าข้อนี้ทำให้ซึงฮุนไม่คลายความกังวลแม้แต่น้อย
“พี่ฮูน อ๊ะ พี่ ผมเจอเพื่อน ผมขอคุยกับเพื่อนก่อนนะ”
“เดี๋ยว”
อีกฝ่ายตัดสายไปแล้ว ซึงฮุนอ้าปากค้างก่อนจะมองนาฬิกา
การจราจรเชื่องช้ากว่าปกติ
คงเพราะวันนี้เป็นวันหยุดเลยยิ่งทำให้รถแทบไม่ขยับ
เพียงอีกไม่ไกลเขาจะถึงร้านที่นัดแล้ว
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นหลังจากผ่านไปได้สักพัก
-ลูกหมาน้อย-
ซึงฮุนยกยิ้มเมื่อเห็นว่าใครโทรมา คงโทรมาเร่งเขาแน่ๆ
มือเลื่อนไปกดรับก่อนกรอกเสียงนุ่มเข้าไป
“อะไรหืมเด็กน้อย...”
“สวัสดีครับ นี่เจ้าหน้าที่กู้ภัยนะครับ ไม่ทราบว่าเป็นผู้ปกครองเจ้าของโทรศัพท์ไหมครับ....”
มือสั่นเทาเมื่อเสียงปลายสายกรอกมาไม่ใช่เสียงคนรักของตนเอง
ความกลัวคลืบคลานเข้ามาในใจเมื่อรับรู้ความจริง...
“มึงสืบได้หรือยังว่าใครทำ” น้ำเสียงเย็นชากรอกเสียงไปที่ปลายสาย
ซึงฮุนให้มินโฮ
เพื่อนสนิทของเขาตามสืบเรื่องทะเบียนรถที่จับได้จากกล้องวงจรปิดแล้ว
ยิ่งดูยิ่งเหมือนจงใจชนแล้วหนี
มันไม่ใช่อุบัติเหตุแน่ๆ คนที่เขาเองสงสัยมันก็มี
แต่ไม่อยากลงความเห็นอะไรถ้าหลักฐานไม่แน่นหนามากพอ
“อืม ขอบใจมึงมากนะ”กรอกเสียงก่อนจะกดวางสาย
เดินไปหาซึงยุนที่ยังคงหลับนิ่ง ลมหายใจสงบไม่ค่อยทำให้กังวลเท่าไร
เมื่อสอบถามอาการทางแพทย์ก็พบว่าไม่มีความกระทบกระเทือนอะไรมาก
มีเพียงแค่บาดแผลทางภายนอกแต่สมองไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรยิ่งทำให้อุ่นใจ
ซึงฮุนใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคนบนเตียงที่หลับมาเข้าวันที่สามแล้ว
ในใจกังวลเรื่อยๆ
“ตื่นสักทีเถอะซึงยุน พี่จะบ้าตายแล้วนะ”
จูบมืออีกฝ่ายก่อนความรู้สึกแย่จะถาโถมเข้ามา
ซึงฮุนไม่ได้นับถือศาสนาใดเป็นพิเศษ
แต่ครั้งนี้หัวใจเขากลับไร้ทางพึ่งจนถึงที่สุด
พระเจ้า
ผมขอแค่ซึงยุนฟื้นคืนมา แค่น้องฟื้นมา
ผมไม่ขอมากไปใช่ไหม
ซึงฮุนเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยก่อนจะต้องหลบสายตาคุณนายคังที่มองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง
จะบอกว่าเป็นความเจ็บปวดเล็กๆก็คงไม่ผิด เป็นเพราะดูแลน้องไม่ดีมากพอถ้าอีกฝ่ายจะโกรธก็คงไม่แปลกอะไร
ในเมื่อซึงยุนเองก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่เขาเฝ้ารักเฝ้าถนอมมานาน
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกอีกครั้ง เสียงรอสายยิ่งทำให้หัวใจรู้สึกคุกรุ่น
“ฮัลโหล”
เสียงปลายสายติดจะยินดีตอบรับกลับมา
มันช่างตรงข้ามกับความรู้สึกผมเหลือเกิน
“ถ้าซึงยุนเป็นอะไรไป อย่าคิดว่าฉันจะเอาเธอไว้ จำไว้โซมี”
เสียงปลายสายหัวเราะกลับมา
ผมตัดสายทิ้งก่อนจะกลับไปบ้านเพื่อสะสางเรื่องนี้ให้เสร็จ
แต่ขาที่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากเขตโรงพยาบาล เสียงโทรศัพท์จากแม่ก็เรียกเข้ามา
“ครับแม่”
“ซึงยุนฟื้นแล้ว ลูก ซึงยุน...”
ซึงฮุนวิ่งกลับไปในตัวโรงพยาบาลก่อนที่จะได้ฟังด้วยซ้ำ
นัยน์ตาร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้ออกมา สองเท้าสาวรวดเร็วก่อนที่จะเปิดประตูเต็มแรง
น้ำตาไหลออกมาจริงๆ
เพียงแค่รอยยิ้มอีกฝ่ายส่งมาแม้ดูอ่อนแรงมากตามที
“พี่ฮูนฮูน....ผมกลับมาแล้วฮะ”
“พี่อ่ะ หยุดป้อนผมได้แล้ว ไม่ได้เป็นง่อยซะหน่อย” น้ำเสียงงอแงดังขึ้นอีกครั้ง
ผมวางช้อนที่ตักโจ๊กอุ่นๆลงก่อนจะลูบหัวซึงยุนเบาๆ ริมฝีปากอีกฝ่ายเบะน้อยๆ
ท่าทีน่ารักนั่นน่าเอ็นดูเกินทน
ซึงฮุนได้แต่คิดในใจเท่านั้น
แต่สีหน้าที่แสดงออกมาช่างตรงข้ามกับความรู้สึกเหลือเกิน
“แต่เราป่วยอยู่ก็เพราะพี่ ถ้าพี่ไม่ห่วงพี่จะเฝ้าดูแลเราแบบนี้ไหม”
“...”
“เราดื้อนะน้องยูน”
“ง่า พี่ฮูนฮูน” เหมือนมีหูน้อยๆลู่ลงพร้อมกับหางคล้ายเวลาลูกหมาโดนเจ้าของดุ
ซึงฮุนเกือบหลุดยิ้มแต่พยายามห้ามใจไว้อีกครั้ง
“แล้วผมมาอยู่โรงพยาบาลกี่วันแล้วหรอ”
“วันนี้วันที่สี่ครับ”
“อ่า...พี่ฮูนฮูนก็ใกล้กลับแล้วสิ” น้องทำหน้าเศร้าก่อนก้มหน้าชิดอก
สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว
ซึงฮุนยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆโน้มตัวไปจูบหน้าผาก กอดอีกฝ่ายแนบอกด้วยความถนอมสุดหัวใจ
“พี่ขอโทษที่ทำให้เราเป็นแบบนี้นะ”
“พี่ไม่ได้ทำซะหน่อย มันเป็นอุบัติเหตุ...”
“พี่ถามเราจริงๆซึงยุน ตอนที่พี่ไม่อยู่มีคนส่งข้อความแปลกๆมาไหม”
เหมือนจี้ใจดำน้องเข้าเต็มๆ ซึงยุนนิ่งก่อนจะพูดตะกุกตะกัก
“มะ...ไม่ฮะ”
“โกหกพี่พี่จะลงโทษ”
น้องทำตาลอกแล่กก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาน้อยๆ
ผมมองก่อนจะนั่งลงบนเตียงคนไข้น้อง โชคดีที่ผมจองห้องพิเศษไว้จึงไม่มีใครเข้ามารบกวนได้
ผมค่อยๆเอื้อมมือไปจับท้ายทอยน้องเบาๆก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปแตะริมฝีปากนั่น
ไม่ได้รกล้ำอะไรมาก กดย้ำจนสุดท้ายน้องดันอกออกและพูดออกมา
“ก็มีส่งแปลกๆมาบ้างฮะเวลาไปโรงเรียน...”
“ต่อไปมีอะไรต้องบอกพี่ เข้าใจไหม”
น้องเงยหน้ามองผมก่อนจะแสดงสีหน้าสงสัย
“พี่รู้แล้วกันน่า น้องยูนกินยาเร็ว จะได้นอนพัก
พรุ่งนี้เดี๋ยวเราก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
“จริงหรอฮะ”
“จริงสิ” ผมยิ้มน้อยๆเมื่ออีกฝ่ายดูดีใจว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาล “แต่เราต้องพักผ่อนเยอะๆเข้าใจไหม”
“ฮะ” น้องยกยิ้มจนตาปิดก่อนทานยาอย่างว่าง่าย ริมฝีปากดูนุ่มนิ่มที่ตอนนี้อาจจะซีดเซียวไปบ้างยกยิ้มกว้างก่อนจะมุดตัวลงผ้าห่ม
ผมจับตัวน้องก่อนจะเอาของไปเก็บไว้ข้างๆ และลงมานั่งข้างน้อง สอดมือเข้ากุมเบาๆ
น้องยกมือขึ้นก่อนเอาแนบที่ใบหน้าและหลับตาลง
เพราะฤทธิ์ยาที่ทานไปเมื่อครู่ทำให้น้องเข้าสู่ห้วงนิทราง่ายๆ
ตอนนี้ได้เวลาเคลียร์กับต้นเหตุที่ทำให้น้องเจ็บตัวแล้วหล่ะ
“ขอบใจมากมินโฮ” ผมยกยิ้มก่อนจะมองหลักฐานการแจ้งความที่อีกฝ่ายส่งมาให้
หลังจากเดินออกมาจากสถานีตำรวจ
ใครกล้าทำคนของเขาอย่าคิดว่าจะเอาไว้ลอยนวล
สรุปแล้วคนร้ายคือโซมีจริงๆอย่างที่คาดไว้
ซึงฮุนเองก็จัดการวิธีที่เรียกได้ว่าทำเอาอีกฝ่ายกระอักไปพอสมควร
ใครดีมาเขาก็ดีกลับ แต่อย่าให้ถึงคราวที่เขาโมโห
เขาคงปราณีกับคนที่คิดจะพรากชีวิตคนรักเขาไปไม่เป็นเท่าไรนักหรอก
“พี่ฮูนฮูนฮะ”
น้ำเสียงออดอ้อนดังขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เจ้าตัวมาถึงบ้าน
คุณนายคังเปลี่ยนท่าทีไปมากขึ้นเมื่อเห็นว่าซึงยุนกลับมาบ้านและปลอดภัยดีทุกอย่าง
ซึงฮุนเองก็รู้สึกโล่งใจทีไม่ต้องอึกอัดกับสายตานั้นอีก
“ว่าไงหืมน้องยูน”
“ผมยังไม่ได้กินเค้กเลย”
“เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้”
“งื้ออออ”น้องดิ้นเมื่อผมรั้งตัวให้เดินไปนั่งพัก
เด็กนี่ จะดื้อเกินไปแล้ว
ต้องย้ำเตือนกันสักหน่อยแล้วสินะ
“อ๊ะ พี่ฮูน...” น้องร้องออกมาเสียงแผ่วเมื่อซึงฮุนรั้งอีกฝ่ายให้นั่งตัก
คลอเคลียแถวคอเด็กน้อยในอ้อมกอดจนเห็นว่าอีกฝ่ายขนคอลุกชัน อาจเพราะว่าจั้กจี้หรืออะไรก็ตาม
ยกยิ้มมุมปากก่อนเอ่ยเสียงแข็ง
“ไปข้างนอกทำไมหือซึงยุน อยู่กับพี่ทั้งวันแล้วยังไม่พอใจอีกหรอ”
ใบหูน้องแดงก่ำก่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของซึงฮุน
ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะสอดมือเข้าไปด้านหน้า
สัมผัสมืออีกฝ่ายและกุมไว้ค่อยๆ โชคดีที่แผลตามร่างกายน้องไม่ได้มีมาก
และหายไปเกือบหมดแล้ว
“หันมาทางนี้สิเด็กดีของพี่”
น้องค่อยๆหันมาก่อนจะก้มหน้าหงุด ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะค่อยๆลูบผมอีกฝ่าย
หอมหน้าผากแผ่วเบาและเอาหน้าผากชนกัน
“เรารู้ไหมว่าพีแทบบ้าตอนรู้ว่าเราเป็นอะไร พี่ไม่อยากให้เราเจ็บตัว
พี่ไม่อยากให้เราห่างจากพี่อีกเลยรู้ไหม”
“พี่ฮูนฮูน...”
“พี่รักเรานะ”
ประโยคสั้นๆที่เอ่ยออกมาก่อนที่ความเย็นเฉียบจะถูกสวมใส่ที่นิ้วเรียวสวย
ซึงยุนเบิกตากว้างก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่าย
แหวนเงินที่เลือกมาเพื่อคนของเขาโดยเฉพาะ
“พี่จองตัวเราแล้วนะซึงยุน ต่อไปมีอะไรต้องบอกพี่นะครับเด็กน้อยของพี่”
“ฮื้อออ พี่ฮูนฮูน” อีกฝ่ายร้องฮือออกมาก่อนจะสวมกอดเต็มแรง ซึงฮุนกอดและลูบหัวก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
เสียงตอบรับอู้อี้และความเปียกชื้นที่ไหล่ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายดีใจมากมายขนาดไหน
“พี่ฮูนฮูน น้องยูนก็รักพี่ฮูนฮูนนะ”
“ครับๆๆๆ”หัวเราะออกมาน้อยๆเมื่อเด็กน้อยในอ้อมอกกลายเป็นเด็กขี้แยเสียแล้ว
“ไหน น่ารักขนาดนี้ให้พี่ให้รางวัลหน่อยสิคนดี”
ซึงฮุนผละออกก่อนจะค่อยๆประกบริมฝีปากและละออกเพียงเสี้ยวนาที
ความรู้สึกบอกผ่านทางสายตา
ก่อนจะชักนำให้ริมฝีปากประกบกันอีกครั้งตลอดช่วงเวลาแสนหวาน
ราวกับจะย้ำเตือนให้เชื่อใจกันและกันตลอดไป
I Love you,
Always
#2Seung
#ALLBBHN