BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[Ficlet] LEE SEUNGHOON X SONG MINHO : ABOUT 30 MINUTES








[Ficlet] LEE SEUNGHOON X SONG MINHO

Story : ABOUT 30 MINUTES








ช่วงเวลาแต่ละวันมันช่างผ่านไปเชื่องช้าสำหรับการรอคอยเสมอ

ข้อนี้ซึงฮุนรู้ดี มันเป็นอะไรที่ทรมานสำหรับการต้องอดทนรออะไรสักอย่างโดยที่ไม่สามารถทำอะไรเลย ซึงฮุนยังคงยืนอยู่ที่หน้ากระจกในห้องซ้อมเต้น วันๆไม่ได้ออกไปไหนมากกว่านี้ หอพัก ห้องซ้อมเต้น ห้องอัดเสียง ชีวิตที่วนลูปเหมือนช่วงสมัยเป็นเด็กฝึกวนกลับเข้ามาในชีวิตประจำวันอีกครั้ง ซึงฮุนปาดเหงื่อที่ซึมออกมา เขายังคงเต้น...เต้นโดยที่ไม่รู้ว่าเต้นไปเพื่ออะไร

ในตอนแรกเขาเต้น...เพราะเขารักมัน

รักความเป็นอิสระ รักที่มันแสดงถึงความเป็นตัวของตนเอง



พอเขาเริ่มเป็นเด็กฝึกเพื่อตามความฝัน เขาได้อยู่ที่นี่ ที่ที่เขาเฝ้ามองมาตั้งแต่ยังแรกรุ่น

เขารู้มันไม่ใช่เรื่องง่าย และเขาต้องอดทน แม้จะอยู่ในช่วงที่ต้องเลือก แต่เขาก็ยังคงเต้น

และเขาจะเต้นไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะไม่สามารถทำมันได้



แต่ตอนนี้เขากำลังรู้สึกมึนงง

เหมือนคำถามเดิมๆสมัยวัยรุ่นเริ่มกลับมา ว่าทำไมเขาถึงเลือกที่จะเต้นมันวนกลับมาอีกครั้ง

และเขาไม่สามารถตอบมันได้เต็มปากเต็มคำเหมือนเมื่อก่อน

ว่าเพราะอะไร เพื่ออะไรกันแน่ที่เขายังอยู่กับชีวิตที่วนลูปแบบนี้





ผ้าซับเหงื่อผืนนุ่มถูกยื่นมากระทบใบหน้าไม่รู้ตัว ซึงฮุนเหลือบสายตาผ่านกระจกก่อนจะพบว่าเป็นมินโฮที่ยื่นมันมาให้ สายตาเต็มไปด้วยความกังวลเล็กๆของคนเด็กกว่านั่นทำให้ซึงฮุนรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่

“ฮยอง เหนื่อยใช่ไหม”

มินโฮทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เผยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความกังวลใจเช่นทุกครั้งที่เปิดประตูห้องซ้อมออกมาแล้วเจอฮยองที่เขารักสุดหัวใจนั่งนิ่งๆอยู่หน้ากระจก มันเหมือนมีกำแพงบางอย่างที่ทำให้มินโฮรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายมีเรื่องที่คิดมากและยากที่จะเอ่ย

ถอนหายใจก่อนจะยื่นมือไปวางที่เข่าอีกฝ่าย เอ่ยออกมาหลังจากปล่อยให้ความเงียบปกคลุมมาได้สักพัก

“ฮยองอา”

“หืม”

“ผมขอเวลาสามสิบนาที ออกไปข้างนอกกับผมนะ”





ซึงฮุนรู้ดีว่ามินโฮไม่ค่อยได้พักผ่อนเท่าไรนัก อีกคนมียูนิตที่ต้องแยกออกไปแล้วไหนจะงานอื่นๆอีกมากมาย คนเด็กกว่าอาจจะเหนื่อยมามากก็ได้ แม้ใจจริงซึงฮุนจะอยากให้มินโฮพักมากกว่า แต่ความดื้อของมินโฮมันมีมากพอๆกันจนสุดท้ายซึงฮุนต้องยอมแพ้ อากาศช่วงตีสามไม่ร้อนอบอ้าวแต่ก็ไม่ได้เย็นอะไร ซึงฮุนที่สวมกางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามตามปกติเวลาซ้อมเต้นสวมรองเท้าผ้าใบสีสดใส ยืนรอมินโฮที่ขอตัวเอาของไปเก็บที่ห้องอัดเสียงก่อนจะเดินกลับมาพร้อมผ้าปิดปากสองผืน มินโฮบรรจงสวมมันให้กับซึงฮุนจนคนพี่ต้องหลุดขำ

“ฮยองเหมือนคนเป็นง่อยหรอ?”

“เปล่าหรอกน่า” อีกฝ่ายสวมมันให้ซึงฮุนจนเสร็จแกล้งยู่ปาก ก่อนที่จะสวมของตนเองบ้าง เมื่อเสร็จจึงเดินออกจากตึกทางประตูหลัง ลัดเลาะตามซอยมืดที่มินโฮมั่นใจว่าจะไม่มีใครมาตามถ่ายรูปเขาสองคนได้แน่นอนก่อนจะเดินคู่กันเรื่อยๆ

มินโฮพามาที่สวนสาธารณะใกล้ๆก่อนจะบอกให้ซึงฮุนนั่งรออยู่ตรงเก้าอี้ว่าง และเดินหายไปอีกทาง คนพี่คว้าโทรศัพท์ออกมานั่งเล่นรอเวลา ผ่านไปได้สักพักความเย็นเครื่องดื่มอัดลมก็กระทบที่แขน ซึงฮุนขอบคุณน้อยๆ เปิดมันเพื่อดื่มก่อนจะปิดปากเช่นเดิมเพราะกลัวว่าจะมีใครบังเอิญมาเห็น ถึงแม้มันจะดึกมากก็ตามเถอะ

มินโฮมองท่าทีคนพี่ที่เริ่มนั่งเหม่ออีกครั้ง ก่อนจะนั่งข้างกันบ้าง ปล่อยให้สายลมในค่ำคืนฤดูร้อนพัดผ่านไปพร้อมกับความรู้สึกต่างๆ

“ฮยอง”

เอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบ ซึงฮุนละสายตาที่ทอดมองไปไกลหันกลับมามองมินโฮก่อนจะเลิกคิ้ว

“ผมขอโทษที่มีเวลาให้ฮยองแค่นี้นะ ถึงมันจะสั้นไปหน่อย”

เพียงแค่นั้นซึงฮุนก็ยกยิ้มอ่อนทันที ภายใต้ผ้าปิดปากริมฝีปากบางเอ่ยออกมาแผ่วเบา ซึงฮุนสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากอีกฝ่ายชัดเจน และนั่นทำให้สิ่งที่เขากังวลอยู่เจือจางลงไปบ้าง

แม้มินโฮจะไม่เก่งเรื่องที่จะพูดปลอบใจใครสักคน แต่อีกฝ่ายเลือกที่จะใช้เวลาสั้นๆเพื่อทำให้เขารู้สึกดีได้ และนั่นคือสิ่งที่มินโฮมักทำให้กับซึงฮุนเสมอเวลามีเรื่องไม่สบายใจทุกอย่าง

เพราะมินโฮคือความสบายใจที่สุดของซึงฮุน



“ความจริงนายไม่ต้องพยายามขนาดนี้ก็ได้นะมินโฮอา”

“ก็นะ” อีกฝ่ายแค่เกาหัวแก้เขินเมื่อรู้ว่าซึงฮุนจับได้ถึงเหตุผลที่ตนเองพาออกมาข้างนอกทั้งที่ไม่มีอะไรเลยก็ตาม หัวเราะน้อยๆก่อนที่ซึงฮุนจะกุมมือมินโฮเบาๆ

“ขอบใจนะมินโฮ ฮยองสบายใจขึ้นเยอะเลย”

“ดีแล้วค----“ บทสนทนาหายไปเสียดื้อๆเมื่อซึงฮุนยื่นหน้าเข้าหามินโฮ ลมหายใจร้อนของซึงฮุนอยู่ใกล้แค่เอื้อม ก่อนที่มินโฮจะหลุดยิ้มและยอมโอนอ่อนตามคนพี่อย่างง่ายดายโดยการแนบริมฝีปากบนผ้าผืนเล็กที่กั้นไว้ บดคลึงพอรู้สึกดีนิดหน่อยก่อนจะผละออก

“กลับหอกันเถอะฮยอง”

มินโฮรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวแปลกๆกับสัมผัสที่แม้จะผ่านผ้าผืนบางก็ตาม เอ่ยออกมาตะกุกตะกักนิดหน่อย ก่อนจะลุกกะทันหัน แต่ไม่วายจะยื่นมือให้ซึงฮุนอยู่ดี

ซึงฮุนหลุดยิ้มก่อนจะยื่นมือให้มินโฮ กุมไว้แน่นๆและลุกขึ้นเพื่อกลับไปทำหน้าที่ของตนเองอีกครั้ง

หมดเวลาสามสิบนาทีสำหรับเขาทั้งสองคนแล้วที่จะอยู่ให้ห้วงแห่งความฝัน

แต่ถึงแม้ว่าความจริงที่รออยู่ในวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนจะทำให้ซึงฮุนรู้สึกท้อแค่ไหนก็ตาม เขาคงจะจดจำค่ำคืนสามสิบนาทีที่มินโฮมอบให้เพื่อผ่านมันไปให้ได้ตลอดไป

“ขอบคุณ...ที่อยู่ข้างกันนะ”






#ALLBBHN

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[Ficlet] KANG SEUNGYOON X NAM TAEHYUN : PAST

[Ficlet] KANG SEUNGYOON X NAM TAEHYUN



Story : PAST










ซึงยุนหลุบตาเมื่อได้ฟังเพลงที่แทฮยอนอัพเดทลง Soundcloud ใบหน้าที่เคยสดใสและริมฝีปากที่ยกยิ้มเสมอตอนนี้เรียบนิ่งและหลุบตาลง เพลงจังหวะช้าและเสียงร้องที่แปลกจากปกติ รวมทั้งความหมายเช่นเพลง Good man ทำให้ซึงยุนรู้สึกเศร้าลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ


ซึงยุนกดปุ่ม Favorite ก่อนที่จะ Reply ซ้ำๆ


บรรยากาศทะมึนรอบกายในสตูดิโอที่มีเพียงแค่ซึงยุนอยู่เพียงคนเดียว แอร์เย็นฉ่ำยิ่งทำให้เคลิบเคลิ้มได้ง่ายขึ้น ส่วนคนอื่นต่างก็กลับไปอยู่ที่หอพักเพื่อพักผ่อน หลังจากคืนก่อนเข้ามาที่ตึกเพื่อทำเพลงจนไม่ได้พัก


คิดมาก


ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว


สะบัดหัวน้อยๆเมื่อเริ่มปวดหัว อาจเพราะมีเรื่องให้ต้องทำมากเกินไปก็เป็นได้ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าไม่ควรฝืนร่างกายไปมากกว่านี้ ซึงยุนข่มตานอนหลับทั้งที่ในหูยังมีเพียงเสียงที่เขาต้องการอยากให้อยู่ด้วยกันในช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดในความรู้สึกตอนนี้


ซึงยุนต้องการแทฮยอนเหลือเกิน






ประตูเปิดออกอย่างแผ่วเบาก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะค่อยๆสอดตัวเข้ามา บรรยากาศในห้องเงียบสงัดต่างจากปกติที่ควรจะเป็น แทฮยอนเดินเข้าไปในห้องมืดๆหลังจากที่ทอดสายตามองคนบนโซฟาหน้าแล้วพบว่าหลับอยู่ ไม่อยากจะรบกวนอีกฝ่ายไปมากกว่านี้ แต่หัวใจก็คิดถึงยิ่งกว่าสิ่งใด


แทฮยอนรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเกิดผลกระทบกับอีกคนมากเท่าไร


การที่แทฮยอนตัดสินใจเปิดแอคเคาท์ใน Soundcloud รวมทังอัพเดทเพลงลงนั้น อาจเป็นผลดีและผลเสียต่อวงและค่าย ข้อเท็จจริงอันนี้เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ใช่ว่าเขาจะไม่ได้คุยกับซึงยุนก่อน แน่นอนว่าซึงยุนที่เป็นถึงลีดเดอร์ย่อมรู้ดีถึงผลที่จะตามมา แต่ถึงแม้จะพูดคุยกันแล้วจนสุดท้ายมีปากเสียงกันเล็กน้อยจนไม่ได้พูดคุยกัน แทฮยอนก็ยังตัดสินใจที่จะทำมันลงไปอยู่ดี


“ขอโทษนะ”


มีเพียงเสียงลมหายใจที่คงที่ตอบรับกลับมาในความเงียบสงัด



แทฮยอนเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายก่อนจะนั่งลงเบาๆเพราะไม่อยากให้อีกคนตื่นมา ใบหน้าของซึงยุนที่ไม่ได้ฉาบไปด้วยเครื่องสำอางดูเหนื่อยล้าเกินกว่าวัยยี่สิบสามปีที่ควรจะเป็น ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยยามเผลอไผล อีกฝ่ายคู้ตัวน้อยๆเพราะอากาศที่เย็นฉ่ำของแอร์ ก่อนที่แทฮยอนจะตัดสินใจหยิบโค้ทของอีกฝ่ายที่กองอยู่แค่สะโพกให้ขึ้นมาคลุมไหล่ด้วย หูฟังของซึงยุนหลุดออกมาจนทำให้แทฮยอนต้องหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินทำนองที่คุ้นเคยดังลอดมาจากในนั้น





แน่นอนว่าแทฮยอนรู้จักมันดี เพราะเป็นเพลงที่แทฮยอนคลุกคลีกับมันมาร่วมสัปดาห์ก่อนจะตัดสินใจลง





แทฮยอนมองอีกฝ่ายก่อนจะยกยิ้ม ทั้งที่ในวันนี้ซึงยุนเพิ่งโดนท่านประธานเรียกเข้าไปตำหนิเรื่องของแทฮยอนเองแท้ๆ แต่กลับยังคงฟังเพลงของเขาเสียอย่างนั้น แทฮยอนเดาไม่ผิดเท่าไรแต่ไม่คิดว่าซึงยุนจะต้องมาโดนไปด้วย ถ้าหากไม่ใช่ว่ามินโฮบอกเขา เขาก็คงไม่รู้เช่นกันว่าอีกฝ่ายต้องมาโดนอะไรแบบนี้ เพราะถ้าหากรอให้ซึงยุนบอก อีกฝ่ายก็คงไม่บอกอะไรอยู่ดี


“ขอบคุณที่อดทนกันฉันนะซึงยุน”



ลูบหัวแผ่วเบาก่อนที่แทฮยอนจะก้มลงเพื่อแนบริมฝีปากลงที่อวัยวะเดียวกันกับอีกฝ่าย ให้ภาษาทางกายบอกความรู้สึกทุกสิ่งที่ควรจะเป็น แทฮยอนไม่เก่งเรื่องพูดมันออกมา ทำได้แต่สื่อสารออกมาในรูปแบบอื่น ผละออกช้าๆ มองใบหน้าขาวใสที่ยังคงหลับอยู่ ก่อนจะเปลี่ยนไปกดแอร์เพิ่มอุณหภูมิให้มากขึ้นเนื่องจากเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่สบายและเดินออกจากห้องไปเพราะไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายมากกว่านี้






“ฉันสิต้องขอบคุณนายมากกว่าแทฮยอน”


เอ่ยไล่หลังเสียงบานประตูปิดลงดังขึ้น ก่อนที่ซึงยุนจะยกมือขึ้นลูบริมฝีปากในความมืดและยกยิ้มเบาๆ


อย่างน้อยความรู้สึกแย่ๆของซึงยุนก็ได้ถูกปัดเป่าออกไปบ้างแล้ว แม้ว่าการกระทำของแทฮยอนจะไม่ชัดเจนแต่สำหรับซึงยุนนั่นดีมากแล้วที่แทฮยอนเดินเข้ามา กระชับเสื้อมากขึ้นก่อนจะลุกนั่งเพื่อทำเพลงเงียบๆอีกครั้ง



จิตใจที่ย่ำแย่อย่างน้อยก็ได้รับการเยียวยาจากอีกฝ่ายแล้ว



เป็นความรู้สึกที่เข้าใจได้แค่เพียงซึงยุนและแทฮยอนเท่านั้นจริงๆ









#ALLBBHN






วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[OS] Lee Seunghoon X Kang Seungyoon : HOW TO PLAY VIDEO GAMES BY HOON

[OS] Lee Seunghoon X Kang Seungyoon

Story : HOW TO PLAY VIDEO GAMES BY HOON









ซึงฮุนเดินเข้ามาในบ้านของซึงยุนหลังจากที่คุยแชทไว้ว่าอีกฝ่ายอยากไปเที่ยว ซึงฮุนไม่อยากขัดใจแฟนเด็กเท่าไรนัก ยิ่งช่วงนี้เขาเริ่มทำงานแล้วยิ่งไม่ค่อยมีเวลาให้เหมือนเมื่อก่อน ส่วนซึงยุนเองก็เริ่มเรียนต่อมัธยมปลายแล้วเช่นกัน ซึงยุนเลือกเรียนสายสามัญทั้งที่ตอนแรกเจ้าตัวดูจะสนใจการทำอาหารดี แต่กลับบอกว่าถ้าหากจะให้ทำจริงจังค่อยเริ่มตอนมหาลัยก็ยังไม่สาย หรืออาจจะเรียนเสริมเฉยๆเป็นงานอดิเรกเอาไว้ทำในเวลาว่างก็พอ

“สวัสดีครับ”ทักทายแม่บ้านที่วันนี้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนซึงยุนเพราะคุณนายคังออกไปคุยงานตั้งแต่เช้า “ซึงยุนตื่นหรือยังครับ”

“คุณหนูอยู่บนห้องค่ะ ยังไม่ลงมาเลยวันนี้”

“ขอบคุณครับ วันนี้ผมจะพาซึงยุนออกไปข้างนอกนะครับ อาจจะกลับมาบ่ายๆ” โค้งให้น้อยๆก่อนเดินขึ้นชั้นบน บานประตูที่คุ้นเคยปรากฏแก่สายตา ซึงฮุนเคาะเบาๆ ยืนรอสักพักไม่ได้ยินเสียงตอนรับมาจึงค่อยๆเปิดเข้าไป เห็นว่าอีกฝ่ายใส่หูฟังอยู่ สายตาจดจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์ส่วนมือยังคงกดจอยสติ๊กส์ไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจซึงฮุนแม้แต่น้อย

ซึงฮุนรู้แล้วว่าทำไมเดี๋ยวนี้น้องไม่ค่อยส่งแชทมาเท่าเมื่อก่อน

“ติดเกมส์นี่นา”

“พี่!มาตั้งแต่เมื่อไร” ซึงยุนสะดุ้งเมื่อมืออุ่นวางที่ไหล่ ก่อนจะหันไปมองซึงฮุนที่เพ่งสายตามองที่จอสี่เหลี่ยม เพราะหันเร็วเกินไปใบหน้าจึงเฉียดเพียงนิดเดียว

“ถ้าว่าไม่ค่อยคุยกับพี่เลยหืมเด็กน้อย แล้วนี่เล่นตั้งแต่เมื่อไร คงไม่ใช่ว่าเล่นตั้งแต่เมื่อคืนจนไม่ได้หลับได้นอนหรอกนะ” ซึงยุนสะดุ้งสุดตัวจนทำให้ซึงฮุนหรี่ตาลงอีกครั้ง “หรือจริง?”

“ฮะ...”

“ไอ้เด็กน้อยนี่” พูดเสียงดุก่อนจะยีหัว “วันนี้ไม่ต้องไปข้างนอกแล้วใช่ไหม ไหนบอกว่าจะแต่งตัวรอพี่ไง”

“ตอนนี้กี่โมงแล้วฮะ”

“สิบโมงกว่าแล้วหล่ะ”

ซึงยุนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะเวลานัดกับซึงฮุนคือสิบเอ็ดโมงซึ่งเหลืออีกแค่สิบกว่านาทีเท่านั้น ซึงยุนวางจอยลงก่อนจะทำหน้าสำนึกผิด ซึงฮุนลูบหัวอีกฝ่ายก่อนจะยิ้ม

“ไม่ต้องคิดมากน่า ตกลงวันนี้นอนพักเนาะ”

“ไม่เอาอ่า ผมอยากไปเที่ยวกับพี่นะ”ซึงยุนพุดก่อนจะตัดสินใจปิดเกมส์ ลุกขึ้นก่อนจะกอดซึงฮุนเบาๆ “รอผมแปปเดียวนะฮะพี่ฮูนฮูนอ่า”

ซึงยุนละออกก่อนจะวิ่งไปหาผ้าเช็ดตัวเพื่อเตรียมอาบน้ำ ซึงฮุนมองท่าทีน่ารักนั่นขำๆก่อนจะนั่งมองจอโทรทัศน์ที่ปิดไปแล้ว

น้องเริ่มติดเกมส์แล้วมันจะทำให้เสียการเรียนไหมเนี่ย เดินไปสำรวจโต๊ะเรียนก่อนมอง ตารางการบ้านที่จดด้วยลายมือน่ารักๆนั่นถูกขีดฆ่าไปหลายอันแล้ว นั่นก็แปลว่าน้องยังดีที่แยกเวลาเป็น เสียงน้ำตกกระทบพื้นเริ่มดังมาให้ได้ยินเรื่อยๆ ซึงฮุนเดินสำรวจไปทั่ว

บรรดาหนังสือเรียนวางไว้บนชั้นหนังสือชั้นแรกจนล้น รองลงมาเป็นหนังสือการ์ตูนตามประสาเด็กผู้ชายทั่วไป ซึงฮุนเองก็อ่านเลยไม่ได้ว่าอะไรก่อนสายตาจะมองไปราวกับจะสำรวจ ห้องนอนของซึงยุนเป็นห้องที่สะอาดและเรียบร้อยกว่าห้องเขาสมัยตอนมัธยมอีก ซึงฮุนเองก็ไม่ใช่ว่ามองว่ามันไม่ดีนะ แต่ว่าเขาเองเป็นผู้ชายคนหนึ่ง พวกหนังสือผู้ใหญ่อะไรแบบนั้นเขาเองก็มีบ้าง แอบแปลกใจที่น้องไม่.....

“มีหรอ” พูดออกมาแผ่วเบาเมื่อเห็นสันหนังสือแปลกๆอยู่ตรงซอกตู้ใกล้ๆกับโต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะเดินไปเพื่อหยิบมัน

“พะ พี่ฮูนฮูนทำอะไร!!!” ซึงยุนที่ออกจากห้องน้ำเห็นพอดีวิ่งออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะสอดตัวเข้าไปบังไว้ “จะค้นอะไรอ่ะ”

“หือ” ซึงฮุนเหมือนโดนดึงความสนใจไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายออกมาทั้งที่ไม่เรียบร้อยด้วยซ้ำ ผมเปียกชื้นนั่นหยดลงบนเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีขาวที่คอกว้างแสนกว้างเพราะกระดุมยังติดไม่เรียบร้อย แถมบางส่วนเปียกจนเนื้อผ้าแนบผิว...

“พี่ฮูน...”

“ครับ หือ ว่าไง” พยายามอย่างยิ่งยวดในการละสายตาออกก่อนจะร้องออออกมาเบาๆ “ พี่เห้นหนังสือมันตกอยู่ตรงนั้น...”

“มะ ไม่ใช่ของผมนะพี่ ของเพื่อน เพื่อนลืมไว้”

“เพื่อนหรอ เพื่อนเคยมาห้องน้องยูนหรอ” ตีเสียงเข้มจนอีกฝ่ายอึกอัก แอบขำในใจที่เห็นท่าทีลนลานนั่น  “ทำไมไม่เล่าให้พี่ฟังบ้างหืม”

“ก็ ก็ผมกับเพื่อนแค่มาเล่นเกมส์กัน เพื่อนสอน...”

“ก็เลยติดว่างั้น?”

“พี่ฮูนอ่า” ซึงยุนพูดออกมาเหมือนจะร้องไห้จริงๆ จนสุดท้ายซึงฮุนก็ใจอ่อนดุน้องไม่ลงจนได้ ไม่เคยมีสักครั้งจริงๆที่ซึงฮุนจะโมโหหรือโกรธอีกฝ่ายได้

ทุกคนคงไม่เข้าใจเขาเท่าไรนักหากไม่ได้มามีแฟนเป็นเด็กน้อยน่ารักแบบเขา

“พี่อยากโกรธน้องยูนนะ แต่พี่ทำไม่ลงสักที” พูดความรู้สึกออกไปตรงๆก่อนจะดันอีกฝ่ายเข้าอ้อมกอด กลิ่นครีมอาบน้ำและกลิ่นกายปะปนมาเริ่มตีรวนในความรู้สึก ก่อนที่หัวสมองจะพลันคิดอะไรออก “พี่ก็เล่นเป็นนะเกมส์อ่ะ พี่สอนไหม”

“หือ” ซึงยุนเงยหน้าจากอ้อมอกของซึงฮุนจนทำให้ซึงฮุนที่มองอยู่เหมือนโดนแอคแท็กเต็มๆ

ซึงฮุนอยากตะโกนบอกให้โลกรู้ว่าน้องยูนของเขาน่ารักที่สุดในโลกเลย

แต่เดี๋ยวคนอื่นรู้ ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวต้องตามหึงหวงไปมากกว่านี้





สรุปแล้ววันนี้ทั้งคู่ไม่ได้ออกไปข้างนอกจริงๆ ซึงฮุนนั่งมองซึงยุนเปิดเกมส์ก่อนที่ซึงยุนจะนั่งข้างๆ สายตาจดจ้องไปข้างหน้านั่นทำให้หลุดขำน้อยๆ เพราะเด็กยังไงก็คือเด็ก ไม่ได้รับรู้อันตรายทีจะมาถึงสักนิด

“พี่ขอดุฝีมือเราหน่อย เล่นไปเลย เดี๋ยวพี่นั่งอยู่ตรงนี้” ซึงฮุนพูดก่อนจะถอยตัวไปนั่งบนกลางเตียงแทนเพราะน้องลากสายต่อมาจนถึงที่นอน ซึงยุนพยักหน้าก่อนจะจดจ้องที่จออีกครั้ง ซึงฮุนมองอีกฝ่ายที่ขยับจอยไปตัวก็ขยับตามขำๆ ซึงยุนเล่นได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนักคงเพราะเป็นมือใหม่

“อ๊ะ” ซึงยุนร้องออกมาแผ่วเบาเมื่อซึงฮุนขยับตัวไปนั่งซ้อนหลัง วางมือเลยมาที่หน้าขาก่อนจะได้รับสายตางุนงงจากอีกฝ่าย ซึงฮุนแค่ยิ้มก่อนจะวางนิ้วทับบนจอย ขยับให้หลังของอีกฝ่ายแนบมาที่หน้าอกเป็นเชิงพิงมา

“พี่สอนเอง นี่ ขยับตรงนี้สิ”

ซึงฮุนพูดออกมาก่อนขยับนิ้วที่ทาบกับนิ้วของซึงยุน ซึงยุนละสายตาที่สงสัยก่อนจะจดจ่ออีกครั้ง ซึงฮุนพุดแผ่วเบาลงเรื่อยๆจนเหลือแค่เสียงกระซิบใส่หลังใบหู ซึงยุนเม้มปากเพราะรู้สึกจักจี้แปลกๆก่อนจะพยายามควบคุมสติและทำตามที่ซึงฮุนบอก

“ขยับขึ้นเร็วๆสองที นั่นแหละ...อือ นั่นแหละ”

“อ่ะ พะ พี่”

ซึงยุนร้องออกมา ใบหน้าแหยน้อยๆก่อนที่มือจะสั่น หันกลับมามองหน้าซึงฮุนที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทั้งทีมือกำลังสอดไปที่กางเกงขาสั้นของซึงยุน

ไอ้พี่บ้า

ซึงยุนพยายามเพ่งสมาธิไปที่จออีกครั้งก่อนที่จะพบว่าซึงฮุนจะขยับมือกดที่หน้าขาและช่วงท้องน้อย ยิ่งซึงยุนขยับมือมากเท่าไรความแรงมันยิ่งมากขึ้นทุกขณะ

“พี่ฮะ อย่าแกล้งผมสิ”

“ก็เราเล่นเกมส์นี่ เล่นไปสิ พี่ก็เล่นเหมือนกันนะ”

“งื้อ”

ซึงฮุนหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นกอบกุมแกนกลางอีกฝ่าย ซึงยุนเผลอปล่อยจอยเกมส์ร่วงก่อนทีจะร้องออกมาแผ่วเบา หยากน้ำตาคลอขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

“อ่ะ พี่ อ่า”

“อ้าวหยุดเล่นเกมส์แล้วหรอหืมเด็กน้อย”

หยอดอีกฝ่ายก่อนจะอ้าปากเพื่อขบเม้มใบหูเบาๆ ส่งมืออีกข้างสอดใต้เสื้อของซึงยุนที่ตอนนี้สั่นน้อยๆเพราะโดนกระตุ้นอารมณ์

ช่วยไม่ได้นะ ซึงฮุนแค่อยากสอนน้องเล่นเกมส์เฉยๆแค่นั้นเอง

ไม่คิดว่าจะเลยมาแบบนี้เลยนะ จริงๆ

“พี่ฮูน พี่ อ่า” ซึงยุนร้องออกมาเมื่อซึงฮุนดึงกางเกงของซึงยุนลงที่ปลายขา ไม่ได้ถอดอกหมดด้วยอารมณ์ที่ร้อนเกินกว่าจะปล่อยอะไรๆมันช้าไปกว่านี้ ส่งมือไปรูดรั้งจากช้าไปเร็ว ทั้งดุดดึงต้นคอน้อยๆ แม้ต้องพยายามไม่สร้างรอยก็ตาม มือซ้ายบดขยี้ยอดอกเด้กน้อยที่อยู่ในตัก หลังของซึงยุนทิ้งน้ำหนักมาจนหมดก่อนจะหลับตาพริ้ม หอบหายใจกับห้วงอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าโดยคนพี่

มือของซึงยุนสั่นทั้งยกเพื่อจิกต้นแขนซึงฮุน ส่วนอีกข้างซึงยุนไขว้มาด้านหลังจะสะเปะสะปะโดนซิปกางเกงซึงฮุน ซึงฮุนเริ่มหายใจแรงเมื่อคนน้องไม่ยอมน้อยหน้า มือเล็กนั่นรูดซิปลงทั้งที่หอบครางอย่างหนักหน่วง มือสั่นอย่างควบคุมไม่ค่อยได้ก่อนจะล้วงเข้าไปกอบกุมแกนกายใหญ่ของคนพี่ช่างแกล้งที่พร่ำบอกว่าจะสอนเล่นเกมส์แก่เขา

นี่มันไม่ใช่เล่นเกมส์แล้ว พี่ซึงฮุนหลอกเขาชัดๆ

ซึงยุนไม่ยอมหรอก

“ฮืม ซี๊ด” เผลอสูดปากเมื่อเด็กน้อยที่ดูจะรู้งานเหลือเกินเริ่มบดขยี้แกนกายส่วนปลายของซึงฮุน ทั้งขยับเอวตอบรับมือจนสะโพกกลมนั่นถูไถกับหว่างขาราวกับกลั่นแกล้ง ก่อนที่สุดท้ายความอดทนของซึงฮุนจะหมดลงอย่างจริงจัง

“เด็กน้อยนี แกล้งพี่หรอ” จับซึงยุนลุกขึ้นก่อนจะดึงกางเกงซึงยุนออก จับน้องนอนคว่ำในท่าคุกเข่าก่อนที่ตัวเองจะทำเพียงแค่ปลดกางเกงลงแค่หน้าขา ขยับนิ้วกดรอบช่องทางร้อนนั่งก่อนจะสอดเข้าไปทีเดียวจนสุด ซึงยุนทรุดหน้ากับหมอนก่อนจะกัดมันเพื่อกั้นเสียง ซึงฮุนขยับนิ้วสองสามครั้งก่อนจะสอดใส่แกนกายเข้าไป

“อึก พี่ พี่ฮูน”

“ฮึ่ม โทษฐานที่สนใจเกมส์มากกว่าพี่”

“อ๊ะ”

“และก็โทษฐานที่คิดจะแกล้งพี่”

ซึงฮุนสวนสะโพกติดๆกันสองสามครั้งก่อนขยับช้าๆ ซึงยุนสะบัดใบหน้าไปมาเพราะอารมณ์ที่วาบหวามเริ่มตีตื้นขึ้นมา เสียงร้องดังลั่นห้องนอนทั้งที่พยายามกลั้นเสียงปะปนมากับเสียงเนื้อกระทบไม่เป็นจังหวะนั่น ซึงฮุนทอดสายตามองก่อนจะดึงเสื้อของซึงยุนขึ้น ก้มลงจูบแผ่นหลังและกัดเบาๆเมื่อสะโพกสอบเริ่มขยับแรงขึ้น

“อ่ะ อา พี่ฮะ”

“ฮือ”

“แรงๆ ผม ผมจะ”

“ได้ครับเด็กดี”

ซึงฮุนยกยิ้มก่อนกระแทกกระทั้นถี่รัว ซึงยุนเชิดหน้าก่อนจะปลดปล่อยออกมาจนเลอะที่นอน ซึงฮุนยิ้มก่อนขยับช้าๆอีกสองสามครั้งและปลดปล่อยตามออกมา

“อึก พี่บ้า” ซึงยุนยกมือตีอกคนพีเมื่อซึงฮุนถอนตัวออกมานอนข้างๆ จับคนน้องให้หนุนแขนก่อนหอมหน้าผากเบาๆ “คราวหน้าผมจะไม่ให้พี่สอนแล้ว เล่นเกมส์บ้าอะไรเนี่ย”

“ไม่ชอบหรอหืมคนดี”

ซึงยุนหน้าแดงก่ำก่อนจะซุกอกซึงฮุน ซึงฮุนหัวเราะออกมาก่อนจะบอกรักอีกฝ่ายเบาๆ พรางครุ่นคิด

คราวหน้าจะสอนอะไรน้องดีนะ?

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon : But I… [13] END

[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon

Story : But I… [13] END










“ซึงยุน มึง กลับเข้าร่มก่อนเหอะ พักได้แล้ว” แทฮยอนเรียกผมที่ตอนนี้ยืนเหม่ออยู่ทั้งที่มือถือค้อนไว้ หันกลับมามองก่อนจะเดินเข้าไปในร่มไม้ที่มันเรียก


ตอนนี้เรามาออกค่ายจิตอาสาที่ทางภาคเหนือเพื่อร่วมโครงการสร้างห้องสมุดแก่เด็กด้อยโอกาส อาจจะดูเป็นโครงการทั่วไปที่มีเกือบทุกมหาลัยแต่ใครจะรู้ว่ายังมีอีกหลายที่ที่ต้องการโครงการแบบนี้ อากาศที่ร้อนระอุทำให้ผมนึกถึงช่วงเรียนซัมเมอร์เมื่อตอนปีหนึ่งอีกครั้ง...

อา..เหมือนมันเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้เอง


ตั้งแต่วันนั้นมันก็ผ่านมาเป็นปีที่สองแล้ว ตอนนี้ผมเป็นนักศึกษาปีสองที่ก้าวเข้าสู่ปีที่สามแล้ว และผมก็ยังอยู่ชมรมจิตอาสาเหมือนตอนปีหนึ่ง แทฮยอนเองก็ไม่ได้ออกจากชมรมเหมือนกันเพราะความขี้เกียจหาชมรมใหม่ มันก็ยังคบกับพี่มินโฮของมันเหมือนเดิม หวานบ้างตีกันบ้างแต่ก็ยังอยู่ด้วยกันสงบสุขดี


ผมก็ยังเป็นนักศึกษาผลการเรียนทั่วไป ไม่ได้นอกลู่นอกทางอะไร แต่ก็เริ่มทำเพลงเป็นของตัวเองบ้างเพราะเริ่มส่งเพลงไปทางค่ายบ้าง แต่เอาจริงๆ ถ้าถามว่าอยากเป็นนักร้องไหม...มันก็อยากนะ แต่ถ้าคำนึงถึงอะไรหลายๆอย่าง ผมคงต้องตอบว่าพอใจกับที่เป็นอยู่ตอนนี้มากกว่า


“ยืนเหม่ออะไรอ่ะ เอ้า น้ำ” แทฮยอนส่งน้ำเปล่าให้หลังจากเห็นเพื่อนสนิทตัวเองยืนเหม่อแบบนั้น ผมยิ้มรับแห้งๆ


พี่จีโฮตอนนี้เรียนอยู่ปีห้า เตรียมตัวเป็นบัณฑิตเรียบร้อยแล้วเช่นกัน รายนั้นโปรเจกค์ทั้งงานตัวเองและงานจบเยอะแยะ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าการออกแบบของพี่เขาโดนใจหลายบริษัทจนหัวบันไดแทบไม่แห้งเพราะมีคนติดต่อให้ไปทำงานหลังเรียนจบหลายที่มากจริงๆ แต่พี่เขาก็ไม่ได้ตอบรับที่ไหนเพราะอยากเที่ยวเล่นหาแรงบันดาลใจสักปีก่อนเริ่มทำงานจริงๆจังๆ


“นั่นมึงจะไปไหนอ่ะซึงยุน”

“ว่าจะเดินไปตรงโน้นหน่อย เมื่อวานเจอน้ำตก สวยดี”




ผมพูดก่อนจะเดินกลับไปที่บ้านพักสำหรับคนที่ทำจิตอาสาเพื่อเอากล้องถ่ายรูป แบกเป็นมั่นเป็นเหมาะก่อนจะเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสามส่วนหลังจากที่ตอนแรกใส่กางเกงวอร์มยาว ผมเดินไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่จำได้ว่ามีคนในพื้นที่แนะนำมาเมื่อวาน มันไม่ได้ไกลจากที่ที่อยู่เท่าไรนัก

ยกยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นทิวทัศน์ข้างหน้า ก่นจะเริ่มกดชัตเตอร์ทันที บรรยากาศที่ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไปยิ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลาย




“จับโฟกัสก่อนสิ แล้วค่อยกด”

“ผมทำเป็นเหอะ ต้องรอก่อนสิ”

“หึ ปากเก่ง”

“ย่าห์!!!แล้วจะหอมแก้มทำไมวะ”



เผลอลดมือลงเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดก่อนหน้านี้ เหมือนได้ยินเสียงอ่อนโยนนั่นรีรันในหัว ก่อนที่จะสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดนั่นออกไปให้หมด

อา...คิดถึงอีกแล้วสินะ

ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะตัดสินใจวางกล้องลง น้ำตกที่นี่มันใสเสียจนอดไม่ได้ที่จะต้องลงเล่นสักหน่อย ตั้งใจพันขากางเกงขึ้นก่อนจะถอดเสื้อจนเหลือแค่เสื้อกล้าม ก่อนจะค่อยๆหย่อนเท้าลงไป ลงไปไม่ลึกมากก่อนจะค่อยๆใช้มือช้อนน้ำขึ้นมาล้างหน้า นำเย็นที่ไหลผ่านไปให้ความรู้สึกดีจนอดยิ้มไม่ได้



“อย่าแช่น้ำนานนักสิ เดี๋ยวเป็นไข้หรอก”

“นี่แฟนหรือพ่อละเนี่ย สั่งกันจังเลยยยยย”

“ก็ถ้าไม่ห่วงเราก็คงไม่สั่งหรอกน่า ยื่นมือมาดิ พี่จะลงไปเล่นด้วย...”



ชะงักวูบก่อนหันกลับไปมองด้านหลัง เอาอีกแล้ว ฟุ้งซ่านอีกแล้ว

ผมถอนหายใจก่อนจะเดินขึ้นบนฝั่ง หยิบกล้องหยิบเสื้อเอาพาดไหล่ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับ ผมไม่อยากฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้และผมคงต้องยอมรับความจริง

ความจริงที่ว่าผมคิดถึงอีซึงฮุนยิ่งกว่าใคร

ทั้งที่เป็นฝ่ายขอห่างออกมาเอง....




ค่ำคืนนี้มีกิจกรรมนั่งรอบกองไฟ ผมมองไอ้แทฮยอนที่นั่งดีดกีตาร์และร้องเพลง ข้างๆกันมีมินโฮคอยปรบมือ บรรดาเพื่อร่วมค่ายทั้งชายหญิงต่างเคลิบเคลิ้มกับเสียงของแทฮยอน

ผมมองมันที่ยิ้มน้อยๆให้คนรักของมัน แอบอิจฉาหน่อยๆแต่พอมองรอบๆก็มีแต่คนที่เป็นคู่รักเกือบทั้งนั้น


เผลอร้องคลอตามอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะคว้ากีต้าร์ออกมาบ้าง แทฮยอนละสายตาจากมินโฮมองมาทางผม ผมยักไหล่ก่อนจะเช็คสายกีต้าร์ รอจนมันเล่นจนจบเพลงก่อนที่มันจะละมือออกและส่งยิ้มให้ผมเล่นต่อบ้าง


ผมเลือกที่จะเล่นเพลง Sofa ไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไง แต่แทฮยอนมันเหมือนจะชะงักหน่อยๆก่อนจะหันมามอง จังหวะช้าๆเริ่มแผ่วเบาก่อนที่จะทำให้ทุกคนฮัมออกมา ผมยกยิ้มน้อยๆก่อนจะร้องต่อ



니가 있던 소파 앉아 있어 혼자
นีกา อิดตอน โซฟา อันจา อิดซอ ฮนจา
ผมนั่งคนเดียวอยู่บนโซฟาตัวเดิมที่คุณเคยใช้มัน

한숨도 자고 혹시 니가 올까 하고
ทัน ฮันซูมโด มด ชาโก ฮกชี นีกา อลกา ฮาโก
แม้แต่จะหายใจหรือนอนก็ไม่หลับเพราะบางทีคุณอาจกลับมา

멍하니 현관 쪽만 바라봐
มองฮานี ฮยอนกวาน จกมัน พาราบวา
ผมได้แต่เหม่อมองไปที่ทางเข้าหน้าบ้าน

눈을 감고 귀를 막아봐도
ทู นุนนึล คัมโก ควีรึล มักกาบวาโด
พยายามที่จะปิดตาของผมอุดรูหูของตัวเอง

다시 내게 돌아와 추억들이
ทาชี แนเก ทลราวา ชูออกดึลรี
หากแต่ความทรงจำทั้งหมดมันก็หวนกลับมาอีกครั้ง

숨을 참는다고 심장이 멈춰질까
ซุมมึล ชัมนึนทาโก ซิมจังงี มอมชวอจิลกา
เพียงแค่ผมกลั้นลมหายใจไว้หัวใจของผมมันก็แทบจะหยุดเต้น

향한 그리움만 되돌아와
นอล ฮยังฮัน คือรีอุมมัน เดทลราวา
ความปรารถนาของผมเพียงขอแค่ให้คุณกลับมา

니가 있던 소파 없이 혼자
นีกา อิดดอน โซฟา ออบชี นา ฮนจา
โซฟาที่เคยมีคุณนั่งอยู่มันไม่คุณแล้วเหลือก็แค่ผมคนเดียว

자리에만 남아 기다리잖아
อี ชารีเอมัน นัมมา นอล คีดารีจันนา
ผมจะรออยู่ที่นี่ อยู่เพื่อรอคุณนะ


So far 곁에 so far away
So far แน คยอดเท นอน so far away
ไกลจากตัวผมเหลือเกิน คุณอยู่ไกลแสนไกล

미련이라는 먼지만 남은
มีรยอนนีรานึน เก มอนจีมัน นัมมึน แช
ความหวังของผมมันก็เป็นเพียงแค่ซากฝุ่น

기다리잖아
นอล คีดารีจันนา
แต่ผมก็ยังรอคุณอยู่ดี







กิจกรรมรอบกองไฟกว่าจะจบเล่นเอาปาไปเกือบสี่ทุ่มได้ ผมกับไอ้แทฮยอนเดินมาเพื่ออาบน้ำกัน เพราะเนื่องจากเมื่อเย็นทั้งผมกับมันยังไม่ได้อาบน้ำเพราะติดนิสัยอาบน้ำตอนกลางคืนมากกว่า ห้องน้ำแบบที่ใช้ไม้ตีกันรอบๆเปิดหลังคาทำให้เราเห็นดวงดาวในฤดูร้อนแบบนี้ ผมกับมันรีบอาบน้ำด้วยความรวดเร็วเพราะอยากนอนเต็มที พรุ่งนี้เช้าจะต้องตื่นมาทำงานอีก

“แทฮยอน มึงส่งขันให้หน่อย” ผมยื่นมือไปด้านหน้าก่อนที่อีกฝ่ายจะตักราดให้ ผมพึมพำเป็นเชิงขอบใจก่อนที่จะก้มมากขึ้นเพราะฟองน้ำยาสระผมเริ่มเปรอะที่หน้า แถมเริ่มแสบตาเลยเร่งมันยกใหญ่ มือยีผมก่อนจะเงยหน้าขึ้นเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น

“ขอบใจมึง” ผมเอาผ้าเช็ดตัวโปะที่หัวก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับแทฮยอน

ระยะห่างจากบ้านพักกับที่อาบน้ำค่อนข้างไกลพอสมควร ผมกับมันใช้ไฟจากจอโทรศัพท์ส่องเดินก่อนที่จู่ๆแทฮยอนมันจะพูดขึ้นมา

“ซึงยุน”

“หือ”

“มึงเลิกกับพี่ซึงฮุนทำไมวะ”

ผมสะดุดไปชั่วคราวก่อนจะเงยหน้าจากพื้นหันมามองมัน สายตาของมันที่คาดคั้นทำเอาผมที่พยายามเลี่ยงที่จะคุยกับมันในเรื่องนี้ต้องถอนหายใจ ทั้งที่พยายามไม่พูดและไม่นึกถึงมาเกือบสองปีได้แล้ว

“มึง...”

“...”

“กูแค่ไม่เชื่อเรื่องรักแท้ไม่แพ้ระยะทางนั่น”ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดต่อ “ก็แค่กลับไปเป็นเหมือนตอนแรกแค่นั้นเอง มันไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย”

“มึงแน่ใจหรอว่าไม่มีอะไรมากกว่านั้น”

ผมมองมันด้วยความไม่เข้าใจในรูปประโยคนั้นก่อนที่มันจะถอนหายใจบ้าง

“มึงก็ไม่ใช่คนโง่นะซึงยุน ถ้าเอาตามตรง ถึงกูกะมึงจะเป็นเพื่อนกันมาได้ไม่นานก็เถอะ”

“...”

“มึงหลอกคนอื่นได้ แต่มึงหลอกความรู้สึกตัวเองไม่ได้หรอก”

มันพูดย้ำชัดๆ

“ช่วงเดือนหนึ่งก่อนที่พี่เขาจะไปญี่ปุ่น กูก็ไปเที่ยวทะเลกับมึงนะซึงยุน ถึงกูจะขลุกอยู่กับมินโฮตลอดเวลาก็เถอะ แต่มึงอย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะ ว่าพี่เขารักมึงมากขนาดไหน พี่เขาดูแลมึงดีจะตาย”

“ไม่หรอก”

“มึงหน่ะปิดโอกาสตัวเอง” แทฮยอนส่ายหัวกับท่าทีของผม “รักพี่เขาเหมือนกันแท้ๆ แค่มึงรอพี่เขากลับมามึงรอไม่ได้หรือไง แล้วมาทำท่าซังกะตายเหมือนหมาอกหัก ไม่เท่หรอกนะ”

ผมเบะปากกับคำเปรียบเปรยของมัน ก่อนจะเดินมาเรื่อยๆ

เอาตามตรงก็เหมือนอย่างกับที่มันว่านั่นแหละ ถึงผมจะเป็นฝ่ายบอกเลิกก็เถอะ แต่กลับมาทำตัวแบบนี้

น่าตลกดีเหมือนกันแฮะ

“นี่แทฮยอน”

“ว่า?”

“ถ้าเป็นมึงกับพี่มินโฮ มึงจะทำยังไง”

แทฮยอนหันมามองผมก่อนจะส่ายหัวเบาๆ ทำราวกับผมเป็นเด็กน้อย

“ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเลย ถ้าพี่เขารักกู กูรักพี่เขา แค่ระยะทางแค่นี้ เวลาสองปีแค่นี้ไม่ตายหรอก”

“...”

“เดี๋ยวพี่เขาก็กลับมาอาทิตย์หน้าแล้ว ไม่ดีใจหรอ วันที่เรากลับจากค่ายพอดีเลยเนี่ย” แทฮยอนพูดออกมาลอยๆ แต่ผมแกล้งทำเป็นหูทวนลมก่อนจะเดินเข้าบ้านพักไป





เสียงตอกไม้ยังคงดังเรื่อยๆ ผมยกมือขึ้นปาดเหงื่อก่อนจะมองไปข้างล่าง เห็นพวกผู้หญิงเริ่มเดินแจกน้ำก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ เวลาช่วงบ่ายแบบนี้เป็นอะไรที่ร้อนสุดๆจนแทบเป็นลม

“ซึงยุน รับหน่อย”

ผมยันขากับจั่วก่อนจะเอื้อมมือรับสังกะสีที่เพื่อนผู้ชายส่งมา ปากที่คาบตะปูค่อยๆคายออกก่อนจะเริ่มตอกมันอีกครั้ง เสียงโครมครามจากการทำงานยังดังเรื่อยๆ ผมไม่ได้หันไปคุยกับเพื่อนร่วมค่ายคนอื่นเพราะเริ่มเหนื่อยเต็มที เหงื่อหยดซึมจนหน้าม้าของผมแนบกับหน้าผากตัวเอง ปาดเหงื่อซ้ำอีกครั้งก่อนจะรับสังกะสีที่ทยอยส่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

“คนข้างบนอ่า ลงมาพักก่อน”

เสียงตะโกนของผูหญิงสักคนที่ผมเดาว่าคงจะเป็นสวัสดิการนั่นแหละ เรียกผมกับเพื่อนๆบนหลังคา ก่อนที่ผมจะค่อยๆปีนลงมาช้าๆ ผมรับน้ำเย็นราดที่หน้าไปหนึ่งแก้วก่อนจะรับมาอีกแก้วเพื่อกินและราดเสื้อ

“โคตรร้อนอ่ะ”

“เธอไปอาบน้ำเลยก็ได้นะ เดี๋ยวให้คนอื่นผลัดเอา”

“ขอบใจนะ” ผมว่าก่อนจะส่งแก้วคืน “เฮ้ยแทฮยอน ไปน้ำตกนะ”

“เออ” แทฮยอนตะโกนกลับมาก่อนที่ผมจะเดินไปเอาเสื้อผ้าเพราะคิดว่าจะอาบน้ำที่นั่นเลย ไม่รอให้เสียเวลาผมแทบกระโจนใส่น้ำทั้งที่อยู่ในชุดนั้นด้วยซ้ำ ผมแค่ถอดกางเกงยีนส์ออกก่อนจะเหลือแค่บ็อกเซอร์และเสื้อสีขาวตัวเอง ไหนๆมันก็เปียกเหงื่อแล้ว เดี๋ยวกลับไปก็ต้องซักเลยอยู่ดี

ผมกลั้นหายใจก่อนจะดำลงไปใต้ผืนน้ำเมื่อลงไปในบริเวณที่คิดว่าลึกพอสมควรแล้ว ความเย็นฉ่ำแทรกซึมทั่วร่างกายทำให้สดชื่นไม่น้อง ก่อนจะต้องลืมตาในน้ำอย่างตกใจเมื่อรู้สึกว่ามีมือคว้าเข้าที่เอว

“อึก เชี่ย!!!

ซ่า

ผมโดนดึงขึ้นจากน้ำก่อนจะอ้าปากพะงาบๆเพราะตกใจ หอบหายใจรุนแรงและไอออกมาเพราะรู้สึกเหมือนจะเผลอกลืนน้ำไปด้วย มือที่โอบเอวผมยังรัดไว้แน่นก่อนจะตีที่กลางหลัง

“ซึงยุน ซึงยุน ไหวไหม หายใจออกไหม” เสียงทุบหลังดังจนผมไอออกมารุนแรงก่อนที่ผมจะโวยวายออกมา

“เชี่ย!!ใครแกล้งกู....พี่ซึงฮุน!!!!




ซึงฮุนโอบผมขึ้นฝั่งก่อนจะวางให้นั่งจมปุกอยู่ที่โขดหิน ผมอ้าปากพะงาบๆราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ตาเห็น

ไหนแทฮยอนบอกว่าพี่เขาจะกลับตอนปลายสัปดาห์ไง!!!

“ยังสำลักอยู่หรอ” ผ้าขนหนูที่ผมเอามาถูกโปะที่หัวก่อนที่มืออีกฝ่ายจะขยี้เบาๆเพื่อซับน้ำให้ ผมนั่งนิ่งเพราะนึกคำพูดที่จะพูดไม่ออก หัวสมองตื้อไปหมดและเหมือนเครื่องไฟฟ้าที่ช็อตไปเรียบร้อย ได้แต่นั่งเอ๋อฟังเสียงอีกฝ่ายพูดไปเรื่อยๆราวกับว่าตอบคำถามที่คาใจของผม

“พี่กลับมาก่อนเพราะว่าต้องการมาหาเราที่นี่นี่แหละ”

“...”

“พี่เสียใจมากๆตอนที่เราบอกเลิกพี่ แต่พี่ไม่ท้อหรอกนะ เพราะพี่ก็ยังรู้สึกกับเราเหมือนเดิมอยู่ดี พี่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าต่อให้ไล่พี่ไปพี่ก็ไม่ไปไหนอยู่ดี”

“...”

“พี่กลับมาแล้ว...ไอ้ลูกหมาของพี่ พี่กลับมาแล้วนะ”

แหมะ...

“ลูกหมาร้องไห้ทำไมครับ หืม”

น้ำตาของผมมันไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไหลตอนไหน มือที่เกลี่ยออกจากตาของผมเบาๆทำให้ผมรับรู้ว่าอีกฝ่ายมีตัวตนอยู่ตรงหน้าจริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่ผมคิดไปเอง

...อีซึงฮุนอยู่ตรงนี้จริงๆ

“พะ..พี่”

“ไม่ร้องนะคนดี”

“...”

“พี่กลับมาแล้วนะครับ”

พูดย้ำซ้ำๆก่อนจะดึงผมไปกอดแนบอก ผมสะอึกออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

ยอมรับว่าคิดถึง...คิดถึงมากๆจนไม่รู้ว่าจะเอาคำไหนมาบรรยายได้ เหมือนความรู้สึกจุกอกและบทสนทนาที่อยากพูดคุยตลอดช่วงเวลาที่ห่างหายไป ตลอดช่วงเวลาที่ผมไม่ได้ติดต่อพี่เขามันล้นออกมา

“ไอ้บ้าเอ้ย”

ผมตีอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะพูดออกมาอู้อี้เพราะยกมือขึ้นกอดอีกฝ่ายตอบ

“กลับมารอบนี้ไม่ให้ไปไหนแล้วนะไอ้สิงโตแก่”

ได้ยินเสียงอีกฝ่ายขำออกมา จนผมต้องเอามือทุบหลังเบาๆเป็นเชิงโมโหกลบเกลื่อน

“ไม่ไปหรอกน่า หัวใจองพี่อยู่ที่นี่แล้วอะ”

ผมเม้มปากแน่นเมื่ออีกฝ่ายเชยคางผมขึ้น เหมือนบรรยากาศรอบตัวมันเงียบจนได้ยินแค่เสียงหายใจของผมกับพี่เขา

“พี่รักซึงยุนนะ”

...และเสียงหัวใจของผมกับเขาเป็นจังหวะเดียวกัน

“อือ...” ผมอ้อมแอ้มรับก่อนที่จะได้ริมฝีปากประทับมาแรงๆและผละออก ผมมองตาขวางส่วนอีกฝ่ายแกล้งทำจุ๊ๆใส่

“อือนี่คืออะไร พูดออกมาสิ ไม่งั้นจูบนะ”

“ก็อือนั่นแหละ...อ๊ะ ซึงฮุน”

ริมฝีปากประกบลงมาอีกครั้งก่อนจะเม้มเบาๆและผละออก ซึงฮุนยักคิ้วเป็นเชิงกวนๆใส่ผมก่อนรอฟังอีกครั้ง

“พูดสิ”

“ก็...เออ..”

“...”

“รักพี่เหมือนกัน โว๊ะ โอ้ย อีซึงฮุนปล่อยนะเว้ย”

ผมร้องออกมาเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายอุ้มจนตัวลอยก่อนจะเอาจมูกถูเบาๆ ก่อนที่ทั้งผมและเขาจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

อา...

นี่มันมีความสุขซะจนผมไม่อยากจะเชื่อจริงๆ

“ผมรักพี่ซึงฮุนนะ”






#ฮุนนี่เต๊าะเด็ก






Talk :

สวัสดีค่ะ BABYHOONIE เองนะ
เป็นครั้งแรกที่ได้พุดคุยกับทุกคนเลย ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
ฟิคจบลงแล้วเป็นอย่างไงบ้างคะ? บอกตามตรงนี่รู้สึกเสียดายมากๆเพราะเป็นฟิคยาวเรื่องแรกเลยที่แต่ง แต่จุดเริ่มต้นย่อมมีจุดที่สิ้นสุด หวังว่าทุกคนจะสนุกกับฟิคนี้นะคะ

ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมเมนท์ที่พูดคุยกันทั้งในบล็อก แท็กและทวิตเตอร์นะคะ มีทั้งชมทั้งบ่นเรื่องอัพช้าและนานาจิตัง 5555 หวังว่าจะได้กลับมาพบกับรีดเดอร์ทุกคนนะคะ

พุดคุยได้ทางทวิตเตอร์ @Koyteera นะคะ ทวงฟิคได้ ขอฟิคได้ ด่าได้(แต่อย่าแรงนะคะ555)
มีความสุขกับการอ่านนะคะ
BABYHOONIE