[OS] LEE SEUNGHOON X KANG SEUNGYOON
Story
: adrenaline 03
ปล.เรื่องนี้เป็นเรื่องก่อนพาร์ท Special นะ
สัมผัสเบาบางของคุณมันช่างเย้ายวนใจ
ผมได้แต่มองมันเคลื่อนไหวอย่างเลือนราง
เชื่องช้า...แต่เร้าอารมณ์
ผมคิดว่าผมจมดิ่งกับมันจนเกินไปเพราะคุณ
“ทำไมมาไม่โทรมาบอกก่อน”
“หือ?ถ้าผมโทรบอกก่อนผมจะได้เห็นหรอว่าคุณยั่วไอ้นั่น”
ซึงฮุนเอ่ยออกมาแบบหัวเสียเล็กน้อย โอเค เขายอมรับว่าไม่น้อยเท่าไร
มาก...มากชนิดที่ว่าอยากจะเกรี้ยวกราดใส่อย่างเต็มที่เลยนั่นแหละ
อันที่จริงจะไปโกรธซึงยุนก็คงใช่เรื่องหรอก ในเมื่อซึงฮุนกับซึงยุนไม่ได้เป็นอะไรกัน
มันไม่ได้มีอะไรยืนยันชัดเจนเลยสักนิดว่าเราคบกันแล้ว
ถึงแม้ท่าทีมันจะดูมากกว่าคนอื่น
อันนี้ต้องยอมรับว่าทั้งเขาและซึงยุนเต็มใจให้มันเกิดขึ้น แต่นั่นแหละ...
“ผมไม่ได้ยั่ว”
“คุณไม่รู้ตัวสักนิดเลยหรอ?”
ซึงฮุนเสยผมที่ชื้นเหงื่อเพราะร้อน
เหงื่อของเขาออกมามากด้วยอากาศอบอ้าวในห้องบวกกับแอลกอฮอลที่เขาดื่มไปนิดหน่อย
ยิ่งตอนนี้เราทั้งสองคนยืนคุยกันอยู่หลังร้านแบบนี้ จำได้ว่าตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแบบนี้เลย
แค่คิดว่าออกมาดื่มเล็กน้อยกับเพื่อนและนัดมาที่นี่ ไม่คิดว่าจะเห็นอะไรแบบนี้เหมือนกัน โชคดีที่ขอแยกกับเพื่อนมาก่อนและโชคร้ายที่เขาดันมาเห็นไอ้ฉากที่ซึงยุนกำลัง...อืม
นั่นแหละ
ตลกร้ายที่เล่นเอาคืนนี้เขาหมดอารมณ์สุขสันต์กับการฉลองกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานเลยทีเดียว
“คุณแม่งงี่เง่า”
“อ๋อหรอ”
ซึงฮุนเริ่มขึ้นเสียง เขาจำได้ว่ามันนานมากแล้วที่เขาไม่ได้พูดกวนประสาทใคร
จะว่าเป็นนิสัยเสียก็ได้
เขาไม่นิยมชมชอบที่คนของตัวเองไปสุงสิงกับคนอื่นเท่าไรนักหรอก
ผ่านมาเท่าไรซึงฮุนไม่ว่า
แต่ถ้าตอนนี้เป็นของเขา ใครก็ห้ามยุ่งทั้งนั้น
“คุณมันเหลือเกินจริงๆ จะไปไหนก็ไปเถอะ พอที”
ซึงยุนเอ่ยออกมาแบบหมดอารมณ์ เขาสะบัดหน้าหนีด้วยหมดคำพูด
ความเป็นจริงซึงยุนก็ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรขนาดนี้ก็ได้
แค่อยากจะอธิบายว่าที่เห็นมันไม่ใช่อย่างที่คิด
แต่เล่นเจอกวนกลับแบบนี้เขาก็หมดคำอธิบาย
ซึงยุนหันกลับมาที่ล็อกเกอร์ในห้อง
ไม่ได้สนใจซึงฮุนที่ยืนอยู่ด้านหลังจะมีท่าทียังไง
ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อโดนกระชากกลับ
“ผมยังพูดไม่จบซึงยุน”
“คุณแม่งต้องการอะไรจากผมวะ!”
ซึงยุนเริ่มขึ้นเสียงบ้าง
แผ่นหลังรู้สึกเจ็บพอสมควรเพราะเมื่อครู่กระแทกกับบานประตูเหล็ก
เสียงลมหายใจดังในขณะที่ทั้งสองคนเงียบ ซึงฮุนที่เห็นว่าอีกฝ่ายเม้มปากแน่นเริ่มรู้สึกตัว
“ขอโทษ...”
“เก็บคำขอโทษของคุณไปเลย”
“เจ็บมากไหม”
ซึงฮุนเสียงอ่อนลง ซึงยุนยิ่งรู้สึกแย่
เจ็บกายมันไม่เท่าไร แต่เจ็บที่ความรู้สึกนี่แหละ
“ตอนทำทำไมไม่คิด สนใจทำไม จะไปไหนก็ไป”
ซึงยุนกระชากแขนกลับ ผลักที่อกซึงฮุนก่อนจะชี้นิ้วไปที่ประตู
“ไม่ ไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ”
ซึงฮุนส่ายหน้า ซึงยุนเม้มปากแน่น
ลมหายใจร้อนพรูออกมาด้วยเก็บอารมณ์เต็มที
“ต่อให้ผมไปมั่วกับใคร มันก็เรื่องของผม”
“...”
“คุณเห็นว่าผมเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรอซึงฮุน คุณต้องการแบบนั้นไม่ใช่หรอ”
เอ่ยออกมาแม้เสียงจะสั่น ก่อนจะถอยออกมาเมื่อซึงฮุนเห็นว่าหยาดน้ำตาอีกฝ่ายคลอหน่วย
แต่ใบหน้าที่ยังคงแสดงถึงความดื้อดึงที่มีอยู่
ซึงยุนน้ำตาไหล เขาไม่เคยรู้สึกเสียความรู้สึกขนาดนี้มาก่อนสักนิด
“ออกไป”
“ซึงยุน...”
“คุณออกไปเถอะ...และอย่ากลับมาอีกเลย ผมขอละ”
“มึงเป็นอะไร”
ซึงฮุนไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
วันนี้เลิกงานเร็วเป็นพิเศษเพราะงานเอกสารที่ควรจะเซ็นต์หมดลงแล้ว
เลขาที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนอายุมากกว่าตอนนี้นั่งลงตรงข้ามกัน
“กูไม่ได้เป็นไร”
“บุหรี่มะ?”
“พ่อกูด่าตายห่า ทำห้องเขาเหม็น”
ซึงฮุนเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ เอาตามตรงไม่นึกอยากด้วยนั่นแหละถึงได้นั่งจมอยู่แบบนี้
“ปกติวันศุกร์จะรีบกลับบ้านไปเที่ยวนี่หว่า วันนี้แปลกนะ”
ซึงฮุนยักไหล่ก่อนจะลุกขึ้น บิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยสิ่งที่กังวลใจขึ้นมา
จะว่าจนตรอกหรืออะไรก็ตามที แต่ตอนนี้เขาต้องการที่ปรึกษาแค่นั้นเอง
“พี่...มึงว่ากูผิดไหมที่โมโหคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“หือ? เมีย? ชู้?”
“กูหมายถึงว่า...คือกูกับเขาอ่ะยังไม่ได้คบกัน แต่กูก็มีคุยกันบ้าง”
“คนที่มึงให้กูสืบอ่ะนะซึงฮุน”
“เออ”
พูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
เอาตามตรงคือตอนนี้ซึงฮุนสับสนไปหมดว่าควรจะเอายังไงต่อดี เพราะผ่านมาหลายวันแล้วที่ซึงฮุนไม่ได้ติดต่อกลับไป
อีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทีจะส่งข้อความมาหาอีกทั้งที่ปกติอย่างน้อยจะส่งมาสักข้อความหนึ่ง
หรือว่าเรื่องของเรามันจะจบลงแล้วกันนะ
ไม่
ซึงฮุนไม่ยอมให้มันจบลงหรอก
“มึงรักเขาขนาดนี้มึงไม่รู้ตัวเลยหรอ”
“กูเนี่ยนะ?” ซึงฮุนหันกลับมาก่อนจะชี้นิ้วที่อกของตนเอง
หัวเราะออกมาเล็กน้อย “เออ กูรู้สิ กูรักเขา”
“มึงรักเขาแต่มึงคงไม่ได้ฟังเขาอธิบายเลยสินะ”
“...เดี๋ยวนะ นี่กูเล่าเรื่องซึงยุนให้ฟังแล้วหรอ”
“กูก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นมั้ง มึงเกริ่นแบบนี้กูเดาออกหรอก
ยิ่งนิสัยมึงมันจ้องแต่จะเอาตัวเองถูกด้วยแล้วอ่ะ
อย่าลืมสิกูแก่กว่ามึงแถมอยู่กับมึงมาตั้งแต่เด็ก”
คนที่มีสรรพนามเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่เอ่ยออกมายาวเหยียด
ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าคนน้องดูร้อนรนมากขึ้น
“นี่ ซึงฮุน”
“หือ?”
“มึงเคยได้ยินไหม หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง”
“...”
“มึงเคยรู้จักกันยังไง ตอนง้อมึงก็ทำแบบนั้นสิวะ...”
และนั่นทำให้ซึงฮุนบากหน้ามาที่ผับอีกครั้งหลังจากหายไปเกือบอาทิตย์
แต่กลับค้นพบว่าร้านปิด
“ไอ้...เชี่ยเอ้ย”
อุทานออกมาด้วยความเซ็ง ซึงฮุนเตรียมจะหมุนตัวกลับ
เขาคิดว่าพรุ่งนี้เขาคงจะมาใหม่ก่อนที่จะเห็นว่ามีใครสักคนเดินออกมาจากในร้าน
ซึงฮุนปรี่เข้าไปหาทันทีด้วยจำได้ว่าเป็นบาร์เทนเดอร์ที่เคยเจอในนั้น
“นี่ๆ น้องอ่ะ”
“หือ? อ๋อ คุณลูกค้า”
อีกฝ่ายจำซึงฮุนได้ทันที ซึงฮุนโล่งใจก่อนจะเอ่ยถาม
“ทำไมวันนี้ร้านปิดอ่ะ”
“ครับ? ออ ปิดมาเกือบสามวันแล้วครับ ผมนึกว่าคุณรู้เสียอีก
เห็นสนิทกับเจ้านาย”
ซึงฮุนกลืนน้ำลายเล็กน้อย นี่ร้านปิดตั้งแต่วันที่เขามาวันนั้นเลยสินะ
“เจ้านายเขาไม่ค่อยสบายเท่าไรหน่ะครับ ตอนนี้พักอยู่ด้านบน
วันนี้ผมแค่แวะมาเอาของเฉยๆ”
“ขอบใจมาก เดี๋ยวจะขึ้นไปดูสักหน่อย”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับก่อนซึงฮุนจะเดินเข้าไปในร้าน
บรรยากาศวันนี้เงียบสนิทแปลกตา เขาไม่เคยเข้าประตูฝั่งพนักงานมาก่อน
ไฟด้านในมืดไปเสียหมดก่อนที่ซึงฮุนจะค่อยๆเดินขึ้นชั้นสอง
แสงไฟสว่างวาบลอดผ่านบานประตูมา ซึงฮุนเดินเข้าไปตามทางระเบียงก่อนจะเคาะประตูห้อง
ยืนรอเพียงชั่วครู่ก่อนอีกฝ่ายจะเดินออกมาเปิด
“ไหนบอกแค่มาเอาของ....ซึงฮุน?”
ซึงยุนชะงักคำพูดที่กำลังจะพูดออกไปจนหมดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
ซึงฮุนมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้มีแผ่นเจลลดไข้แปะอยู่ที่หน้าผาก
ใบหน้าซีดรวมทั้งริมฝีปากอิ่มที่เคยสีสดนั่นดูน่าใจหาย
หยาดเหงื่อชื้นเต็มเสื้อนอนสีดำที่สวมใส่
“มาทำไมไม่ทราบ?”
“มาหาคุณนั่นแหละ ไม่สบายหรือ?”
ซึงฮุนประหม่าไม่น้อย ท่าทีอีกฝ่ายยังมึนตึงใส่กันยิ่งทำให้หน่วงในใจ
“ตาแตกหรอ? กลับไปเถอะ วันนี้ผมไม่มีแรงจะเถียงคุณหรอก...”
“คุณไปหาหมอหรือยัง?”
ซึงฮุนเอ่ยขัดก่อนจะจับที่ข้อมือเล็ก ความร้อนที่ส่งผ่านมานั้นสูงจนน่าตกใจ
ซึงยุนพยายามสะบัดออกแต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงเท่าที่ควรนัก
“ไม่ได้ไป..”
“คุณควรไปหา”
“เรื่องของผม”
“อย่าดื้อนักเลยคุณ ผมขอเถอะ”
ซึงยุนมองอีกฝ่ายนิ่งๆก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“คุณมีสิทธิ์ขอด้วยหรือ ผมไม่เห็นจำได้...”
“ผมจะพาคุณไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“ไม่ ซึงฮุน ปล่อย...ปล่อยผมสิ อ๊ะ”
ซึงยุนร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อซึงฮุนรั้งกายให้เข้าใกล้
ก่อนที่จะรวบมือทั้งสองข้าง ล็อคร่างกายที่ร้อนผ่าวของซึงยุนก่อนจะลากไปตามระเบียง
ซึงยุนทั้งดิ้นและพยายามในการผลักออก แต่ด้วยพิษไข้ที่สูงเต็มทีทำให้เรี่ยวแรงหายไปมากกว่าปกติ
ซึงฮุนพาอีกฝ่ายมาขึ้นรถก่อนจะขู่ไม่ให้ออก
เดินไปที่ร้านเพื่อปิดมันก่อนจะกลับมาอีกครั้ง อีกฝ่ายตัวร้อนจนน่าตกใจ
ซึงยุนเองหมดคำพูดที่จะเอ่ยออกมาด้วยเพลียมากกว่าปกติ
ลมหายใจร้อนพรูออกมาอย่างน่าสงสาร
ซึงฮุนหันกลับไปหยิบเสื้อคลุมมาคลุมร่างกายอีกฝ่าย ร้อนใจไปหมดอย่างที่ไม่เคยเป็น
ก่อนจะต่อสายหาใครสักคนที่ซึงยุนไม่รู้จัก
“ไอ้หมอ คลินิกมึงเปิดไหม?...เออ อย่าเพิ่งปิด กูขอเวลาสิบนาที เออๆ
กูจะพาคนไปฉีดยา มึงรอกูแปปนึง”
ซึงยุนหลับตา น้ำตาไหลออกมาช้าๆจนเปรอะแก้มใส
ซึงฮุนวางสายก่อนจะเหลือบตามองทั้งที่ใจกระตุกวูบไปหมด
พยายามเร่งความเร็วรถมากขึ้น อีกฝ่ายดูจะไข้หนักจริงๆ ทั้งที่ตอนแรกยังด่าเขาอยู่
แต่ตอนนี้กลับนอนน้ำตาไหลเสียอย่างนั้น
“สนใจกันทำไมเล่า...”
อีกฝ่ายพูดออกมาแบบนั้นทั้งเบือนหน้าหนี
ซึงฮุนผละมือมากุมมือที่ร้อนผ่าวนั่นแน่นก่อนจะเอ่ยออกมา
“ผมขอโทษ ซึงยุน ขอโทษนะครับ”
ใช้เวลาไม่นานในการพาอีกฝ่ายมาหาหมอ
โชคดีที่เพื่อนของซึงฮุนไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากความ
อีกฝ่ายเตรียมพร้อมก่อนจะลงมาตรวจให้ถึงที่รถ ซึงฮุนเดินวนเหมือนหนูติดจั่นนอกรถก่อนที่เพื่อนเขาจะออกมา
“ไอ้ซึงฮุน”
“อะไร”
“ไข้สูงมาก ถ้ามาช้ากว่านี้จะช็อคแล้ว แล้วเหมือนจะเจ็บที่หลังด้วย
แต่กูสั่งยาให้หมดแล้ว มึงมัวเอาคนไข้ไปไหนมา”
อ้าปากค้างเมื่อเจอเพื่อนที่ปกติไม่ค่อยพูดมากด่าเสียยับจนซึงฮุนต้องยกมือขอเวลานอก
“เดี๋ยว มึง อย่าเพิ่งด่ากู กูขอดูคนป่วยก่อน
วันหลังกูจะให้มึงด่าใหม่”
“เออ ก็ได้ มึงอย่าลืมให้กินยาตามที่สั่งด้วย แล้วนี่ใคร
เพื่อนใหม่มึงหรอ ทำไมไม่เห็นเคยเจอ”
ซึงฮุนพะวงหน้าพะวงหลังก่อนจะเอ่ยออกมาแบบไม่มองหน้าเพื่อน
“ว่าที่แฟนกู”
“หือ เขาเอาคนอย่างมึงด้วยหรอ?”
“มึงนี่...ปากหมา นี่หมอหรือหมาวะ” ซึงฮุนบ่นอย่างอ่อนใจ
ไม่เข้าใจเท่าไรนักว่าไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องบ่นตัวเอง “กูโกหกหรอก ตอนนี้ยังไม่ใช่
อนาคตไม่แน่”
“กูไม่เห็นมึงเคยคบกับใครสักที...”
“เออหน่ะ ขอบใจนะไอ้หมอ เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีทีหลัง
กูพาคนไข้กลับบ้านก่อน”
ซึงฮุนพูดแบบนั้นก่อนจะพาอีกฝ่ายกลับ ขับรถออกมาได้สักพักก่อนจะนึกได้
“ซึงยุน”
“...ฮื่อ”
อีกฝ่ายยังไม่หลับ ซึงฮุนยกมือขึ้นจับที่ฝ่ามืออีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยถาม
“คืนนี้ให้ผมไปเฝ้าคุณที่ห้องนะ”
ซึงยุนไม่ได้ตอบอะไร อีกฝ่ายพยักหน้าก่อนจะนิ่วหน้าอีกครั้ง
จะด้วยฤทธิ์ยาที่ทำให้ซึงยุนดูดื้อกว่าตอนแรกน้อยลงหรืออะไรก็ตาม
เขานึกขอบคุณมันมากถึงมากที่สุด ก่อนจะตัดสินใจขับรถเร็วขึ้น
“ซึงฮุน”
“หืม ครับ ว่าไง”
“ไม่ไปห้องผม...ไปบ้านคุณ”
ห๊ะ
ซึงฮุนหันกลับมามองซึงยุนด้วยความตกใจ
ก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายพูดออกมาและหลับไปแล้ว ถอนหายใจอีกครั้ง
อีกไม่ถึงสองช่วงถนนจะถึงบ้านของซึงยุนแล้วแท้ๆ
แต่พออีกฝ่ายพูดแบบนั้นเขากลับยินดีอย่างยิ่งที่จะหักพวงมาลัยกลับบ้านอีกทางทันที
เมื่อมาถึงบ้านของซึงฮุน แม่บ้านที่ดูจะรู้งานดีเปิดประตูให้เขา
ซึงฮุนขอบคุณอีกฝ่ายก่อนจะอุ้มเข้ามาด้านใน เดินขึ้นชั้นสองของบ้าน
โชคดีที่พ่อและแม่หลับไปหมดแล้ว ซึงฮุนจึงไม่ต้องมานั่งตอบคำถามอะไรอีก วางอีกฝ่ายแผ่วเบาบนเตียงกว้าง
เขาไม่เคยพาใครเข้าบ้านมาก่อน นั่นอาจจะทำให้ใครๆแปลกใจ ซึงยุนหลับสนิท
ลมหายใจยังคงร้อนผ่าวอย่างน่าเป็นห่วง ก่อนที่ซึงฮุนจะเดินออกไปจากห้อง
เขาเพียงแค่ต้องการให้อีกฝ่ายพักผ่อนมากกว่านี้
ตัดสินใจปล่อยให้แม่บ้านที่เขาสั่งเมื่อครู่มาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกฝ่าย
เมื่อเสร็จทุกอย่าง
ซึงฮุนขอบคุณที่อีกฝ่ายเป็นธุระให้แลเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง
สีหน้าของอีกฝ่ายดูโอเคขึ้นกว่าเมื่อครู่นิดหน่อย
แผ่นเจลลดไข้ผืนใหม่ถูกแปะที่หน้าผาก คลุมผ้านวมผืนหนาให้อีกชั้นก่อนจะนั่งด้านข้างเตียง
“หายเร็วๆนะ”
ซึงฮุนทำได้เพียงแค่เอ่ยแค่นี้จริงๆ
ซึงยุนตื่นเช้ามาก่อนจะรู้สึกงงไม่น้อย สถานที่ไม่คุ้นเคยทำให้สับสน
ที่นี่นี่ไหน?
ก่อนจะได้ลุกสำรวจ กลับมีคนเดินเข้ามาเสียก่อน
“คุณซึงยุนคะ อีกสักพักจะมีอาหารนำเข้ามาให้ กรุณารอสักครู่นะคะ”
“ครับ? เดี๋ยวก่อนครับ อย่าเพิ่งไป” ซึงยุนสับสนไปหมด
ก่อนที่อีกฝ่ายจะชะงักไป “ที่นี่ที่ไหนหรอครับ”
“ที่นี่คือบ้านคุณซึงฮุนค่ะ เมื่อคืนคุณหนูพาคุณเข้ามา”
ซึงยุนงงสุดขีดก่อนจะต้องยกมือกุมขมับ
เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่
ก่อนที่แม่บ้านจะเอ่ยกำชับให้รอที่ห้องเนื่องด้วยคำสั่งของซึงฮุนฝากมา
ซึงยุนถอนหายใจก่อนจะนอนที่เตียงอีกครั้ง
ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้
สงสัยคงต้องรอให้อีกฝ่ายกลับมาเสียก่อน
ซึงฮุนเดินขึ้นชั้นสองของบ้านทันทีที่มาถึง
หลังจากประชุมด่วนทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์กินเวลาไปโข
หลุดสบถออกมาหลายครั้งด้วยความเป็นห่วงคนที่ห้องแถมแอบออกมาโทรศัพท์เพื่อถามไถ่อาการจากแม่บ้านที่บ้านเกือบทุกสองชั่วโมง
แอบโล่งใจที่อีกฝ่ายดูจะไม่ดื้อหนีไปก่อนจะได้รับคำอธิบาย ซึงฮุนกลับบ้านเร็วที่สุดในรอบหลายปี
ก่อนจะรีบขึ้นห้องนอนตัวเองไป
พบว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่บนเตียงของตัวเอง
“ปะ...เป็นไงบ้าง”
จู่ๆความกลัวก็ครอบงำซึงฮุนทันทีที่เห็นหน้าอีกฝ่าย
ซึงฮุนไม่กล้าเข้าใกล้ซึงยุนเท่าไรนักเนื่องด้วยยังกลัวว่าอีกฝ่ายโกรธอยู่
ความเย็นชาแผ่ออกมาจนน่าใจหาย
“ก็ดี ผมอยากกลับแล้ว คุณจะให้ผมกลับได้หรือยัง”
ซึงฮุนถอนหายใจออกมาทันที เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจ
ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ นั่งลงที่ด้านหน้าอีกฝ่ายที่ตอนนี้เบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“ไม่เอาน่า คุณอยู่กับผมก่อน”
“คุณอยากอยู่กับคนอย่างผมด้วยหรือ?”
“ผมขอโทษ”
ซึงยุนเม้มปากเช่นนิสัยเดิม ซึงฮุนมองมันก่อนจะพยายามอย่างยิ่งในการกุมมืออีกฝ่ายที่ดึงกลับ
ฝ่ามือของอีกฝ่ายไม่ได้ร้อนผ่าวมากบ่งบอกว่าอาการคงดีขึ้นทำให้ซึงฮุนเบาใจ ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียดุแบบไม่จริงจังนัก
“ไม่เอาสิ ไม่หนีผมแบบนี้นะคุณ”
“...”
“ผมขอโทษที่ใจร้อน ผมขอโทษที่ไม่ฟังคุณ” ซึงฮุนเอ่ยออกมา เขารู้สึกเศร้าใจที่ทำแบบนั้นไป
ด้วยความสัตย์จริง เขาไม่ชอบที่อีกฝ่ายเย็นชาแบบนี้เลยสักนิด “ซึงยุน คุณมองผมสิ”
ซึงยุนยังคงเบือนหน้าหนีเช่นเดิม
“ผมอยากกลับห้องผมแล้ว”
“แต่เมื่อคืนคุณยังอยากมาบ้านผมอยู่เลยนะ”
ซึงยุนหันหน้ากลับมา ก่อนจะเอ่ยเสียงแข็ง
“ผมพูดแบบนั้นตอนไหนไม่ทราบ”
“คุณพูดมันออกมาแล้ว ซึงยุน” ซึงฮุนลุกขึ้น ก่อนจะกอดอีกฝ่ายแน่น
“ผมรู้ว่าคุณคงอยากมา ไม่งั้นคุณคงไม่พูดแบบนั้น”
“ปล่อยผมเถอะ”
“คุณมาคนแรกเลยนะรู้ไหม ไม่เอา ไม่งอแงสิ ไม่น่ารักเลย”
“ก็ไม่ต้องรักสิ” ซึงฮุนได้ยินเสียงบ่นของอีกฝ่าย แต่แขนเริ่มยกขึ้น
แม้ไร้เรี่ยวแรง แต่ซึงฮุนกลับยิ้มออกมาเล็กๆ อีกฝ่ายคงจะให้อภัยเขาบ้างแล้ว
“ดีกันนะ”
“ไม่รู้ด้วยแล้ว”
“อ้าว ทำไมอย่างงั้นหล่ะหือ” ซึงฮุนผละออกเมื่ออีกฝ่ายเสียงอ่อนลง
ก่อนจะยกมือของซึงยุนขึ้น เกี่ยวนิ้วมือเข้ากับอีกฝ่ายก่อนส่งยิ้ม ซึงฮุนง้อคนไม่ค่อยเป็นเท่าไรนัก
แต่เขาหวังว่าจะทำให้อีกฝ่ายดีขึ้นมาบ้าง “อยู่กับผมก่อน
อย่างน้อยก็แค่ถึงพรุ่งนี้ก็ยังดี อยู่ให้แน่ใจก่อนว่าคุณอาการโอเคขึ้นแล้ว
โอเคไหม”
“...ผมไปไหนไม่ได้อยู่ดี ผมไม่มีรถ”
ซึงฮุนยิ้มออกมาก่อนจะหอมหน้าผากอีกฝ่าย
...เขาจะคิดว่านั่นเป็นการให้อภัยที่น่ารักที่สุดแล้วกันนะ
ซึงฮุนพาอีกฝ่ายลงมาด้านล่างเมื่อถึงเวลาทานอาหาร
อีกฝ่ายไม่มีอาการเวียนศีรษะแล้ว และนั่นทำให้ซึงฮุนโล่งใจที่สุด
เขาคิดว่าควรพาอีกฝ่ายลงมาเดินสำรวจบ้านบ้าง
ก่อนจะพบว่าพ่อและแม่ของเขาอยู่ที่โต๊ะอาหาร ซึงยุนเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปชั่วขณะ
เขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้
ใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับซึงฮุนมากโข
ซึงฮุนยิ้มออกมาก่อนจะแนะนำให้พ่อและแม่รู้จักกับซึงยุน
บทสนทนาค่อนข้างสั้นแต่ซึงยุนกลับรู้สึกอุ่นใจพอสมควรที่ไม่ได้ถูกรังเกียจอะไร
ทั้งสองใจดีมากกว่าที่คิดกลัวไว้ ใช้เวลาในการทานอาหารร่มกันเพียงครู่เดียวด้วยต้องเร่งรีบออกไปธุระจึงทำให้ไม่ได้คุยกันมากนัก
ซึงฮุนไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
เขาค่อนข้างชินที่ต้องเห็นพ่อและแม่ออกเดินทางไปต่างประเทศกะทันหันแบบนี้เสมอ กอดทั้งพ่อและแม่ของตนเองก่อนจะมองอีกฝ่ายเดินออกไปเพราะรถมารอรับ
และหันกลับมาทางซึงยุนที่ยืนส่งข้างๆกัน
“พ่อแม่ผมใจดีใช่ไหมหล่ะ”
“...ก็ดีกว่าที่นึกกลัวไว้”
ซึงยุนตอบตามตรง ก่อนที่ซึงฮุนจะยิ้มกว้าง
“ใช่ไหมหล่ะ คุณอยากมาเป็นสะใภ้บ้านผมไหม พ่อตาแม่ยายใจดีนะ”
ซึงยุนไม่ได้ตอบรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ นั่นทำให้ซึงฮุนเบาใจว่าอย่างน้อยเขาก็ยังมีหวังมากกว่านี้
พาอีกฝ่ายเดินกลับมาที่ด้านในก่อนจะเอ่ยออกมา
“คราวหน้าถ้ามาผมจะพาคุณไปนั่งเล่นที่สวนด้านหลัง คุณต้องชอบแน่ๆ”
“หรอ...ไม่รู้สิ” ซึงยุนทำหน้าคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมา
“ผมว่าตอนนี้ผมอยากนั่งเล่นที่เตียงคุณมากกว่า”
ซึงฮุนเบิกตากว้างขึ้นมาเล็กน้อย
มองอีกฝ่ายที่ยกยิ้มมุมปากก่อนจะหัวเราะ
“คุณยังไม่หายดีเลย”
“แต่ผมได้ยินมาว่าคนเป็นไข้ต้องทำให้เหงื่อออกเยอะๆนี่นา...”
ซึงยุนยิ้มหวาน “และผมก็อยากเหงื่ออกเยอะๆเสียด้วยสิ”
ซึงฮุนหัวเราะออกมาอย่างจริงจัง เขาไม่รอช้าที่จะพาซึงยุนขึ้นไปด้านบนสักนิด
“ให้ตายเถอะ...คุณพูดขนาดนี้แล้ว ผมจะขัดใจคุณได้ยังไงกัน”
ซึงยุนมองอีกฝ่ายที่ขยับเข้านั่งด้านหลังหลังจากที่ออกจากห้องน้ำ
คอเสื้อตกลงกรอมที่ข้อแขน ก่อนซึงฮุนจะลูบแผ่นหลังเนียนแผ่วเบา
“หลังคุณ...ยังดูช้ำอยู่เลย”
ซึงฮุนเอ่ยออกมาแค่นั้น ก่อนที่ซึงยุนจะยู่หน้าเล็กน้อย
ยามที่ความนุ่มหยุ่นแสนคุ้นเคยสัมผัสที่กลางหลัง
บริเวณที่รอยช้ำนั้นซึงยุนกลับไม่รู้สึกเจ็บสักนิด
ลมหายใจของซึงฮุนพรมลงที่แผ่นหลังเนียน หยดน้ำจากเส้นผมของซึงฮุนเกลี่ยทำให้รู้สึกดีแปลกๆ
ก่อนที่แขนจะกระชับเข้าที่เอวและกอดแน่นขึ้น
อดไม่ได้ที่จะต้องขยับหนี
แต่กลับไม่เป็นดังใจสักนิดเพราะซึงฮุนไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดไปเลย
“ฮื่อ...”
“ยั่วผมหรอ”
“ผมดูขี้ยั่วขนาดนั่นเลยหรือไงกันคุณ”
“คุณอยู่เฉยๆก็ยั่ว...”
ซึงฮุนพุดออกมาตามตรง ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าขึ้นมา
พรมจูบที่ต้นคออีกฝ่ายเชื่องช้า ริมฝีปากงับลงเบาๆให้ซึงยุนสะดุ้งเล่น
ก่อนจะปลดเสื้อของตัวเองออกจนหมด
“อ่ะ...อื้อ”
ซึงยุนร้องออกมาด้วยความเผลอไผล
แขนที่ถูกรั้งไปด้านหลังถูกปลดเสื้อออกทั้งสองข้าง
ท่อนบนของเราเปลือยเปล่าเท่าเทียมกัน
ก่อนจะต้องรู้สึกเจ็บจี๊ดยามที่ซึงฮุนเริ่มดูดดึงที่แผ่นหลัง
เอือมมือจิกที่หมอนนุ่มหัวเตียงก่อนจะหอบหายใจหนักหน่วง
ซึงฮุนตามรั้งไม่ยอมปล่อย
ร่างกายของทั้งสองคนตื่นตัวอย่างถึงที่สุดด้วยห่างหายไปนานพอสมควร ก่อนที่จะบีบคลึงที่สะโพกนิ่มแผ่วเบา
ซึงยุนเชิดหน้ามากขึ้น สะโพกมนยกขึ้นลงด้วยรู้สึกดีก่อนจะปรายตามองซึงฮุน
แอบเม้มปากเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพรมจูบที่สะโพกไม่หยุด ซึงฮุนสบตากับซึงยุนนิ่ง
“อ่ะ...อา ซึงฮุน มะ ไม่”
ร้องออกมาด้วยความกระสัน
สะดุ้งกับสัมผัสเปียกชื้นที่ช่องทางหลังจนต้องถอยหนี
ซึงฮุนใช้มือทั้งสองข้างล็อคสะโพกก่อนจะเริ่มเล้าโลมหนักหน่วง เรียวลิ้นเปียกชื้นมอบสัมผัสหนักหน่วงอย่างถึงที่สุด
มือใหญ่แหวกก้อนกลมที่ขยับด้วยเผลอไผลก่อนแหวกออกกว้าง
ช่องทางร้อนตอบรับได้ดีจนต้องยิ้ม
ใช้ฟันคมกัดเบาๆให้อีกฝ่ายสะดุ้งเล่นก่อนจะผละออก
ซึงยุนทรุดตัวลงโดยง่าย หอบหายใจมองซึงฮุนที่เดินเข้าห้องน้ำไป ก่อนที่อีกฝ่ายจะกลับมา
ใบหน้าเปียกชื้นนั่นยิ่งทำให้ร้อนไปหมด
ซึงยุนสาบานในใจ หากไม่เป็นเพราะเขาป่วย เขาจะไม่ให้อีกฝ่ายทำแบบนี้
“อื้อ...อืม”
ร้องออกมาอีกครั้งยามที่อีกฝ่ายใช้ปลายนิ้วสอดใส่เข้ามาเชื่องช้า
กัดริมฝีปากแน่นเมื่อมันขยับเบาๆ ก่อนจะต้องร้องออกมาเสียงหลงเมื่อโดนกระทั้นเข้าถึงด้านในจุดที่ไวต่อสัมผัส
ซึงฮุนโน้มตัวมาด้านหน้า ประกบจูบซึงยุนที่ใบหน้าเหยเกขึ้นกว่าเดิม
ซึงยุนจิกผมอีกฝ่ายแน่นก่อนจะดึงให้ผละออกด้วยหายใจไม่ทัน
“อ่ะ...อา”
“อืม ผมไม่ไหวแล้ว...ซึงยุน”
ซึงยุนชันขาขึ้นโดยง่าย ซึงฮุนตวัดผ้าห่มคลุมร่างกายเปลือยเปล่าทั้งสองก่อนจะนอนซ้อนที่ด้านหลังซึงยุน
ใบหน้าของซึงยุนตะแคงออกทางด้านหน้าต่าง
ก่อนจะต้องเชิดหน้ายามที่กายร้อนสอดใส่เข้ามาเพียงครึ่ง
“ไม่ ซึงฮุน มันแน่น อึก...มันเกินไป...”
“ผ่อนคลายนะ...อา ซึงยุนอา”
ซึงฮุนบีบคลึงสะโพกของซึงยุนอย่างหนักหน่วง หยาดเหงื่อของอีกฝ่ายหยดลงที่แขนอีกข้างของซึงฮุนที่รองคอไว้
ก่อนซึงฮุนจะสอดแขนที่ใต้ผืนผ้าห่ม จับปลีน่องยกขึ้นจนผ้าห่มร่นลงไป
ซึงยุนแอ่นสะโพกก่อนจะอ้าปากค้างยามที่ถูกกระแทกใส่จนมิด
เจ็บ...แต่กลับรู้สึกดีจนแทบขาดใจ
ซึงฮุนสอบสะโพกเชื่องช้าแต่กลับเร้าอารมณ์จนถึงที่สุด
ร่างกายแสนคุ้นเคยขยับตามท่วงท่าที่ไม่เคยทำ
ก่อนจะต้องจิกผ้าปูแน่นเมื่อเข้าที่เข้าทาง
“อา อ๊ะ อา...ซึงฮุน ซึง...อึก”
“อา...อีกนิดนะคุณ”
ฟุบหน้าลงกับผืนเตียงก่อนซึงฮุนจะรั้งให้รับจูบ
อ้อมแขนจากคนด้านหลังกอดรัดแน่นก่อนจะต้องผละออกและกดย้ำซ้ำๆ
“อือ..อืม คุณ พอก่อน”
“ไม่ไหวแล้ว...ซึงยุน คุณมัน...”
รูดรั้งกายร้อนของซึงยุนหวังจะช่วยให้อีกฝ่ายคลายความแน่นมากกว่านี้แต่ผลตอบรับกลับทำให้แทบบ้า
ซึงฮุนจะบ้าตายเพราะซึงยุนก็คราวนี้
สะโพกสอบรุนแรงจนกายสั่นไหว
เสียงเนื้อที่กระทบกันยิ่งทำให้ต้องหน้าแดงก่ำด้วยความอาย
ซึงยุนไม่เคยรู้สึกอายขนาดนี้มาก่อน ฟุบหน้าซบลงที่ท่อนแขนของซึงฮุนก่อนจะกัดท่อนแขนแกร่ง
ซึงฮุนสูดปากก่อนจะอัดกระแทกหนักหน่วง
“อ่ะ..อา อื้อ...”
“อา...”
ครางออกมาด้วยความสุขสมก่อนซึงยุนจะอ้าปากค้าง
ริมฝีปากนิ่มถูกกดจูบย้ำซ้ำๆก่อนที่ซึงฮุนจะดึงกายร้อนออกคราเดียว
ซึงยุนสะดุ้งสุดตัวยามคราบเหนอะหนะไหลย้อนออกมา ก่อนที่ซึงฮุนจะพรมจูบรอบใบหน้าใส
อีกครั้ง
“ผมขออีกรอบได้ไหม”เอ่ยออกมาก่อนซึงยุนจะสอดแขนใต้ข้อพับ ชันขาดันให้ชิดอกมากขึ้น
“เหงื่อผมยังออกไม่มากเลย”
“โอ้ย ให้ตาย ซึงยุน” ซึงฮุนระดมจูบราวกับคนบ้า ซึงยุนหัวเราคิกคัก “คุณมันเหลือเกินจริงๆ
ให้ตายเถอะ”
“จะเอาไหม อื้อ”
ซึงฮุนไม่รอให้อีกฝ่ายพูดออกมามากกว่านี้ ก่อนที่ค่ำคืนที่แสนหนาวเหน็บจะผ่านพ้นไป
เหลือเพียงความร้องรุ่มในหัวใจที่พองโตของคนสองคน
TALK
: ไปคอมเมนท์เถอะค่ะที่ #น้องยูนดาวยั่ว
เราหอบเหนื่อยไปหมดแล้ว -////-