BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

[SF] Kang Seungyoon x Song Minho : Step Up 9

[SF] Kang Seungyoon x Song Minho

Story : Step Up















“มึงกินให้มันดีๆหน่อยสิวะ”

“หือ?”

ซึงยุนอ้าปากค้างก่อนที่ผมจะส่ายหน้า

เหลือเกินจริงๆ

ผมยกมือขึ้นแตะที่มุมปากตัวเองเป็นเชิงว่าปากเปื้อนให้อีกฝ่ายดู มันทำหน้าเหลอหลาก่อนจะรับทิชชู่จากมือผมไปเมื่อเข้าใจได้สักที ก่อนที่มือจะเช็ดจนเรียบร้อยและยิ้มแหยๆมาให้

ท้าวคางมองไอ้ซึงยุนมันที่เช็ดปากเรียบร้อยก่อนจะกินต่อ ไอ้ซึงยุนมันกินเก่งพอๆกันกับผม แต่ร่างกายของมันกลับบอบบางได้ขนาดนี้ จำได้ว่าก่อนหน้านี้ผมเคยถามมันว่าได้ลองกินยาถ่ายพยาธิบ้างไหม ผมตอบรับคือมันถีบผม...นั่นแหละ ถีบจนแทบจุกที่อกแล้วก็ปึงปั๋งหนีไป

ตัวบางแค่นี้แท้ๆแต่แม่งแก้มโคตรย้วย ตรงนั้น....ก็กระชับมือดีเหมือนกัน

“นี่มึงคิดอะไรกามๆอยู่ใช่ไหม”

“เห็นกูเป็นคนยังไง” ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจแม้ภายในจะสะดุ้งเฮือกว่ามันรู้ทัน ก่อนที่ไอ้ซึงยุนจะส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายอีกครั้ง มันเลิกสนใจผมก่อนจะหันไปพยายามอย่างยิ่งในการที่จะยัดไส้กรอกที่เต็มไปด้วยซอสและผักใส่ปาก ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะอดอยากอะไรเบอร์นั้น ก่อนที่จะหันมายิ้มแก้มตุ่ย

ที่เรื่องกินนี่อารมณ์ดีนักนะ

“มึงกะไม่กินมื้อเย็นเลยหรอ”

“ไม่ กูลดน้ำหนัก”

“หุ่นอย่างมึงนี่ควรลดอะไรไม่ทราบ อย่าผอมไปมากกว่านี้เลย”

“ก็กูไม่อยากหมีอย่างมึงนี่หว่า”

มันบ่นอุบแต่ผมกลับได้ยินเต็มๆ ผมแยกเขี้ยวก่อนจะเอ่ย

“ทำไม หุ่นอย่างกูนี่ไม่เร้าใจยังไงไม่ทราบหือ?” สวนกลับก่อนจะเอื้อมมือปาดครีมที่เลอะมุมปากมัน มันชะงักแต่ผมไม่ได้สนใจต่อ “หุ่นอย่างกูนี่แหละกระชากมึงขึ้นสวรรค์มากี่ทีแล้ว”

“ไอ้...” ใบหน้าของไอ้ซึงยุนแดงก่ำจนผมต้องหลุดหัวเราะ ส่งน้ำดื่มให้มันก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงิน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายสามแล้ว เรานั่งกันนานเกินไปจนผมคิดว่าไม่แปลกที่พนักงานจะมองหน้าเราทั้งคู่ หลังจากที่ผมกับมันเถียงกันเรื่องจ่ายค่าอาหาร (ซึ่งมันชนะผม มันบอกว่าผมออกค่าทริปมาเยอะเกินไปแล้ว) เราก็เดินออกมาด้านนอก อากาศร้อนนิดๆทำให้ใบหน้าของไอ้ซึงยุนแดงนิดหน่อย

“มึงมาเดินทางนี้”

ระหว่างที่เราเดินกลับบ้านพัก ผมให้มันเดินเบี่ยงเข้าด้านขวามือของผม

หนึ่งเพราะว่าทางด้านขวาอยู่ริม มันจึงปลอดภัยเวลาที่มีรถผ่าน(ถึงตอนนี้จะไม่มีก็เถอะ)

สองเพราะผมจะได้จับมือมันง่ายมากขึ้น (อันนี้ขอเก็บกำไรเล็กๆน้อยๆเหอะ)

“มึงฉวยโอกาส”

“กูเปล่า”

ลอยหน้าลอยตาเถียงคอแทบเคล็ด แต่มือกลับสอดประสานแนบแน่น นานๆทีจะได้จับแบบนี้นอกจากในห้อง มันก็ดีไปอีกแบบ ผมยิ้มกริ่ม เราทั้งสองคนเดินมาจนใกล้ถึงบังกะโลที่พัก สายตาของซึงยุนมองไปที่ด้านหน้าก่อนจะพบว่ามีศาลาเรือนเล็กอยู่ มันชี้มือไปที่นั่นเป็นเชิงว่าจะไปนั่งก่อนที่ผมจะพยักหน้าหงึกหงัก

ก็แหม เพิ่งกินอิ่ม

ต้องรอให้ท้องเบามากกว่านี้หน่อยค่อยว่ากันเถอะ

อิอิ


"ไปนั่งโน่นกัน"  มันเอ่ยชวนผมทั้งที่ลากมาแล้วเรียบร้อย ผมยกมืออีกข้างลูบหัวมันจนมันทำเสียงฮึดฮัด ผมหัวเราะก่อนจะเดินตามมาจนถึงที่ ศาลาที่ใต้ร่มไม้ใหญ่บังเกือบครึ่งทำให้เรามีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น มันถอดรองเท้าก่อนจะเดินไปนั่งที่ริมศาลา ผมค่อนข้างชอบที่ตรงนี้เลยหล่ะ

มองมันที่นั่งยิ้ม ข้างๆกันมีบ่อปลาเล็กอยู่ น้ำสีใสทำให้เห็นเงาสะท้อนของเราเองเหนือผืนน้ำ ท่าทีของมันดูมันดูผ่อนคลายมากโข เอาตามตรงผมดีใจที่ได้เห็นท่าทีมันที่เป็นแบบนี้มากๆ

"ชอบหรอ?"

เอ่ยถามทั้งที่รู้ว่ามันจะตอบว่ายังไง 

"มาก"

มันตอบแค่นั้นและนั่นหมายความว่ามันพึงพอใจจริงๆ รอยยิ้มหวานวาดบนใบหน้า ริมฝีปากมันขยับเล็กน้อยเพราะเพิ่งอมลูกอมที่ผมส่งให้ทาน

....น่าจูบ

จู่ๆความรู้สึกนี้ก็พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง

ผมมองมันครู่ใหญ่โดยไม่พูดไม่จา จนมันเอ่ยขึ้นมาทั้งที่ไม่มองหน้า

"มองแทบกินแล้วนั่น"

"ก็กูอยากกิน"

"มึงแม่งกาม---" ผมขยับเข้าหามันจนไหล่ชนกับเสา เนื่องด้วยความเป็นส่วนตัวที่ค่อนข้างมากทำให้ยิ้มออกมา แนบริมฝีปากที่แก้มใสของมันที่ตอนนี้นิ่งค้างไปครู่ใหญ่ ก่อนที่จะผละออกให้อีกฝ่ายโวยวายใส่

แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักนิด

มันยิ้มร้ายก่อนจะหอมแก้มผมกลับ กลิ่นหวานๆจากลูกอมมิ้นท์ลอยมาให้ได้กลิ่น ผมนิ่งไป

ปกติมันไม่เคยเข้าหาผมแบบนี้เลย

“มึงดูอึ้งอะไรขนาดนั้นวะ”

มันหัวเราะผมที่ตอนนี้นิ่งค้าง ผมเบิกตาเล็กน้อย

รอยยิ้มกว้างของมันถูกส่งต่อมา ก่อนที่มือทั้งสองที่ตอนนี้ดูจะเย็นสบายเล็กน้อยจะยกขึ้นวางทาบแก้มทั้งสองข้างของผม มือมันกุมก่อนแรงกดจะถูกส่งต่อมา จับให้ใบหน้าผมหันไปมาเล็กน้อยทั้งซ้ายขวาและจบลงด้วยการยกริมฝีปากแนบที่หน้า

นี่ผมจะบ้าตายจริงๆนะเนี่ย มันไม่เคยเป็นแบบนี้

“ฮ่าๆๆๆหน้ามึงตลกอ่ะมินโฮ”

“นี่กูช็อกจริงๆนะเนี่ย มึงเป็นใคร ไม่ใช่ไอ้ซึงยุนแน่ๆ”

“เดี๋ยวกูโบกแม่ง”

มันพูดอย่างระอาใจ ก่อนจะผละออกและมองผมที่นิ่งๆไป ก่อนสุดท้ายจะซบที่ไหล่ผม

ไอ้เชี่ย

พ่อครับแม่ครับ คุณแม่ของซึงยุนครับ ไอ้ซึงยุนแม่งมาแปลกมาก

“ขอบคุณนะ”

หลังจากผมนั่งสติแตกมาได้สักพัก ประโยคนี้ก็ลอยมาเบาๆ ผมเข้าใจในทุกอย่างทันที

ที่แท้ก็อ้อนเพราะอยากขอบคุณกันนี่เอง

ผมยิ้มกว้าง ท่าที่ผ่อนคลายและรอยยิ้มสบายใจของมันบ่งบอกว่ามันคงรู้สึกดีมากจริงๆ ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่ม ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมามากกว่านั้นก่อนจะเลื่อนมือไปกุมที่มือมัน ผมค่อนข้างชอบเลยทีเดียวหล่ะ บางทีการนั่งเฉยๆโดยที่ไม่พูดอะไรออกมามันก็ดีไปอีกแบบ

เหมือนความรู้สึกที่ใช้ใจเป็นบทสนทนามากกว่า

รับรู้ถึงแรงกดที่มีมากขึ้น ผมเหลือบตามองที่ไหลก่อนจะพบว่าแพขนตาที่ทาบลงนั้นนิ่งไป ลมหายใจที่เริ่มสม่ำเสมอทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้

“หลับเสียละ ไอ้ซึงยุนเอ้ย”

เอ่ยออกมาเหมือนจะบ่นแต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เพียงยิ้ม แน่นอนว่าผมเองก็สุขใจไม่ต่างจากมัน ก่อนจะพบว่าเป็นเวลาสักครู่ใหญ่แล้ว ผมขยับกายเล็กน้อยก่อนที่ซึงยุนจะรู้สึกตัว มันยีตาก่อนจะลุกขึ้นโดนอาศัยแรงดึงจากมือของผม

“ขอโทษนะ กูหลับยาวเลย”

“เออ ไม่เป็นไร”

ผมรับคำมันก่อนที่เราจะเดินออกจากศาลาด้วยกัน อากาศเย็นลงด้วยเวลาทำให้เราสาวเท้ากันเชื่องช้า บรรยากาศอะไรดูจะเป็นใจไปเสียหมด

เดินไปได้ไม่ไกลนักก็จะถึงบ้านพักแล้ว จู่ๆไอ้ซึงยุนก็พูดขึ้นมา

“มึง...มินโฮ”

“หือ?”

“คืนนี้มาห้องกูดิ”

ผมอ้าปากค้างก่อนจะหยุดเดิน มันทำหน้างงว่าผมหยุดเดินทำไมก่อนจะพยายามดึงมือให้เดินต่อ

“มะ..เมื่อกี้มึงพูดไงนะซึงยุน”

“อะไร? ก็ให้มาห้องไง”

“มึงรู้ตัวไหมเนี่ยว่าพูดอะไรออกมา”

“เอ้า กูพูดกูก็ต้องรู้...”มันเงียบเสียงก่อนจะเบิกตาเล็กน้อย “เชี่ย มินโฮ มึงรีบเดินเดี๋ยวนี้”

“อะ..เอ๊ะ”

“มึงนี่มันบื้อ”

มันรีบกระชากแขนผมยิกๆก่อนจะดึงให้เข้าไปในโซนบ้านพักของตัวเอง มันเอามือสอดเข้ากางเกงผมก่อนที่ผมจะทันร้องห้ามอะไร มันรีบไขกุญแจห้องและผลักตัวผมเข้าไปในนั้น

“มึงรีบอะไร”

“เมื่อกี้...เมื่อกี้”

“ทำไม?”

“เปล่า...กูแค่ปวดท้องเข้าห้องน้ำ”

อ้าว

ผมเหวอหนักเมื่อสรุปมันแค่ปวดท้อง ก่อนมันจะทำหน้าตายและเดินเข้าห้องน้ำไป เกาหัวก่อนจะพึมพำออกมา

“อะไรของมึงวะเนี่ย ไอ้บ้าเอ้ย”





#ฟิคเพื่อนมินยูน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น