[SF] Kang Seungyoon x Song Minho
Story : Step Up 9
“มึงกินให้มันดีๆหน่อยสิวะ”
“หือ?”
ซึงยุนอ้าปากค้างก่อนที่ผมจะส่ายหน้า
เหลือเกินจริงๆ
ผมยกมือขึ้นแตะที่มุมปากตัวเองเป็นเชิงว่าปากเปื้อนให้อีกฝ่ายดู
มันทำหน้าเหลอหลาก่อนจะรับทิชชู่จากมือผมไปเมื่อเข้าใจได้สักที
ก่อนที่มือจะเช็ดจนเรียบร้อยและยิ้มแหยๆมาให้
ท้าวคางมองไอ้ซึงยุนมันที่เช็ดปากเรียบร้อยก่อนจะกินต่อ
ไอ้ซึงยุนมันกินเก่งพอๆกันกับผม แต่ร่างกายของมันกลับบอบบางได้ขนาดนี้
จำได้ว่าก่อนหน้านี้ผมเคยถามมันว่าได้ลองกินยาถ่ายพยาธิบ้างไหม
ผมตอบรับคือมันถีบผม...นั่นแหละ ถีบจนแทบจุกที่อกแล้วก็ปึงปั๋งหนีไป
ตัวบางแค่นี้แท้ๆแต่แม่งแก้มโคตรย้วย
ตรงนั้น....ก็กระชับมือดีเหมือนกัน
“นี่มึงคิดอะไรกามๆอยู่ใช่ไหม”
“เห็นกูเป็นคนยังไง”
ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจแม้ภายในจะสะดุ้งเฮือกว่ามันรู้ทัน ก่อนที่ไอ้ซึงยุนจะส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายอีกครั้ง
มันเลิกสนใจผมก่อนจะหันไปพยายามอย่างยิ่งในการที่จะยัดไส้กรอกที่เต็มไปด้วยซอสและผักใส่ปาก
ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะอดอยากอะไรเบอร์นั้น ก่อนที่จะหันมายิ้มแก้มตุ่ย
ที่เรื่องกินนี่อารมณ์ดีนักนะ
“มึงกะไม่กินมื้อเย็นเลยหรอ”
“ไม่ กูลดน้ำหนัก”
“หุ่นอย่างมึงนี่ควรลดอะไรไม่ทราบ อย่าผอมไปมากกว่านี้เลย”
“ก็กูไม่อยากหมีอย่างมึงนี่หว่า”
มันบ่นอุบแต่ผมกลับได้ยินเต็มๆ ผมแยกเขี้ยวก่อนจะเอ่ย
“ทำไม หุ่นอย่างกูนี่ไม่เร้าใจยังไงไม่ทราบหือ?” สวนกลับก่อนจะเอื้อมมือปาดครีมที่เลอะมุมปากมัน
มันชะงักแต่ผมไม่ได้สนใจต่อ “หุ่นอย่างกูนี่แหละกระชากมึงขึ้นสวรรค์มากี่ทีแล้ว”
“ไอ้...” ใบหน้าของไอ้ซึงยุนแดงก่ำจนผมต้องหลุดหัวเราะ
ส่งน้ำดื่มให้มันก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงิน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายสามแล้ว
เรานั่งกันนานเกินไปจนผมคิดว่าไม่แปลกที่พนักงานจะมองหน้าเราทั้งคู่
หลังจากที่ผมกับมันเถียงกันเรื่องจ่ายค่าอาหาร (ซึ่งมันชนะผม
มันบอกว่าผมออกค่าทริปมาเยอะเกินไปแล้ว) เราก็เดินออกมาด้านนอก
อากาศร้อนนิดๆทำให้ใบหน้าของไอ้ซึงยุนแดงนิดหน่อย
“มึงมาเดินทางนี้”
ระหว่างที่เราเดินกลับบ้านพัก ผมให้มันเดินเบี่ยงเข้าด้านขวามือของผม
หนึ่งเพราะว่าทางด้านขวาอยู่ริม
มันจึงปลอดภัยเวลาที่มีรถผ่าน(ถึงตอนนี้จะไม่มีก็เถอะ)
สองเพราะผมจะได้จับมือมันง่ายมากขึ้น
(อันนี้ขอเก็บกำไรเล็กๆน้อยๆเหอะ)
“มึงฉวยโอกาส”
“กูเปล่า”
ลอยหน้าลอยตาเถียงคอแทบเคล็ด แต่มือกลับสอดประสานแนบแน่น
นานๆทีจะได้จับแบบนี้นอกจากในห้อง มันก็ดีไปอีกแบบ ผมยิ้มกริ่ม
เราทั้งสองคนเดินมาจนใกล้ถึงบังกะโลที่พัก
สายตาของซึงยุนมองไปที่ด้านหน้าก่อนจะพบว่ามีศาลาเรือนเล็กอยู่
มันชี้มือไปที่นั่นเป็นเชิงว่าจะไปนั่งก่อนที่ผมจะพยักหน้าหงึกหงัก
ก็แหม เพิ่งกินอิ่ม
ต้องรอให้ท้องเบามากกว่านี้หน่อยค่อยว่ากันเถอะ
อิอิ
"ไปนั่งโน่นกัน" มันเอ่ยชวนผมทั้งที่ลากมาแล้วเรียบร้อย
ผมยกมืออีกข้างลูบหัวมันจนมันทำเสียงฮึดฮัด ผมหัวเราะก่อนจะเดินตามมาจนถึงที่
ศาลาที่ใต้ร่มไม้ใหญ่บังเกือบครึ่งทำให้เรามีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น
มันถอดรองเท้าก่อนจะเดินไปนั่งที่ริมศาลา ผมค่อนข้างชอบที่ตรงนี้เลยหล่ะ
มองมันที่นั่งยิ้ม ข้างๆกันมีบ่อปลาเล็กอยู่
น้ำสีใสทำให้เห็นเงาสะท้อนของเราเองเหนือผืนน้ำ ท่าทีของมันดูมันดูผ่อนคลายมากโข
เอาตามตรงผมดีใจที่ได้เห็นท่าทีมันที่เป็นแบบนี้มากๆ
"ชอบหรอ?"
เอ่ยถามทั้งที่รู้ว่ามันจะตอบว่ายังไง
"มาก"
มันตอบแค่นั้นและนั่นหมายความว่ามันพึงพอใจจริงๆ
รอยยิ้มหวานวาดบนใบหน้า ริมฝีปากมันขยับเล็กน้อยเพราะเพิ่งอมลูกอมที่ผมส่งให้ทาน
....น่าจูบ
จู่ๆความรู้สึกนี้ก็พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง
ผมมองมันครู่ใหญ่โดยไม่พูดไม่จา
จนมันเอ่ยขึ้นมาทั้งที่ไม่มองหน้า
"มองแทบกินแล้วนั่น"
"ก็กูอยากกิน"
"มึงแม่งกาม---"
ผมขยับเข้าหามันจนไหล่ชนกับเสา
เนื่องด้วยความเป็นส่วนตัวที่ค่อนข้างมากทำให้ยิ้มออกมา แนบริมฝีปากที่แก้มใสของมันที่ตอนนี้นิ่งค้างไปครู่ใหญ่
ก่อนที่จะผละออกให้อีกฝ่ายโวยวายใส่
แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักนิด
มันยิ้มร้ายก่อนจะหอมแก้มผมกลับ
กลิ่นหวานๆจากลูกอมมิ้นท์ลอยมาให้ได้กลิ่น ผมนิ่งไป
ปกติมันไม่เคยเข้าหาผมแบบนี้เลย
“มึงดูอึ้งอะไรขนาดนั้นวะ”
มันหัวเราะผมที่ตอนนี้นิ่งค้าง
ผมเบิกตาเล็กน้อย
รอยยิ้มกว้างของมันถูกส่งต่อมา
ก่อนที่มือทั้งสองที่ตอนนี้ดูจะเย็นสบายเล็กน้อยจะยกขึ้นวางทาบแก้มทั้งสองข้างของผม
มือมันกุมก่อนแรงกดจะถูกส่งต่อมา จับให้ใบหน้าผมหันไปมาเล็กน้อยทั้งซ้ายขวาและจบลงด้วยการยกริมฝีปากแนบที่หน้า
นี่ผมจะบ้าตายจริงๆนะเนี่ย มันไม่เคยเป็นแบบนี้
“ฮ่าๆๆๆหน้ามึงตลกอ่ะมินโฮ”
“นี่กูช็อกจริงๆนะเนี่ย มึงเป็นใคร ไม่ใช่ไอ้ซึงยุนแน่ๆ”
“เดี๋ยวกูโบกแม่ง”
มันพูดอย่างระอาใจ ก่อนจะผละออกและมองผมที่นิ่งๆไป
ก่อนสุดท้ายจะซบที่ไหล่ผม
ไอ้เชี่ย
พ่อครับแม่ครับ คุณแม่ของซึงยุนครับ ไอ้ซึงยุนแม่งมาแปลกมาก
“ขอบคุณนะ”
หลังจากผมนั่งสติแตกมาได้สักพัก ประโยคนี้ก็ลอยมาเบาๆ ผมเข้าใจในทุกอย่างทันที
ที่แท้ก็อ้อนเพราะอยากขอบคุณกันนี่เอง
ผมยิ้มกว้าง ท่าที่ผ่อนคลายและรอยยิ้มสบายใจของมันบ่งบอกว่ามันคงรู้สึกดีมากจริงๆ
ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่ม ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมามากกว่านั้นก่อนจะเลื่อนมือไปกุมที่มือมัน
ผมค่อนข้างชอบเลยทีเดียวหล่ะ บางทีการนั่งเฉยๆโดยที่ไม่พูดอะไรออกมามันก็ดีไปอีกแบบ
เหมือนความรู้สึกที่ใช้ใจเป็นบทสนทนามากกว่า
รับรู้ถึงแรงกดที่มีมากขึ้น
ผมเหลือบตามองที่ไหลก่อนจะพบว่าแพขนตาที่ทาบลงนั้นนิ่งไป ลมหายใจที่เริ่มสม่ำเสมอทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้
“หลับเสียละ ไอ้ซึงยุนเอ้ย”
เอ่ยออกมาเหมือนจะบ่นแต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เพียงยิ้ม
แน่นอนว่าผมเองก็สุขใจไม่ต่างจากมัน ก่อนจะพบว่าเป็นเวลาสักครู่ใหญ่แล้ว
ผมขยับกายเล็กน้อยก่อนที่ซึงยุนจะรู้สึกตัว มันยีตาก่อนจะลุกขึ้นโดนอาศัยแรงดึงจากมือของผม
“ขอโทษนะ กูหลับยาวเลย”
“เออ ไม่เป็นไร”
ผมรับคำมันก่อนที่เราจะเดินออกจากศาลาด้วยกัน
อากาศเย็นลงด้วยเวลาทำให้เราสาวเท้ากันเชื่องช้า บรรยากาศอะไรดูจะเป็นใจไปเสียหมด
เดินไปได้ไม่ไกลนักก็จะถึงบ้านพักแล้ว จู่ๆไอ้ซึงยุนก็พูดขึ้นมา
“มึง...มินโฮ”
“หือ?”
“คืนนี้มาห้องกูดิ”
ผมอ้าปากค้างก่อนจะหยุดเดิน มันทำหน้างงว่าผมหยุดเดินทำไมก่อนจะพยายามดึงมือให้เดินต่อ
“มะ..เมื่อกี้มึงพูดไงนะซึงยุน”
“อะไร? ก็ให้มาห้องไง”
“มึงรู้ตัวไหมเนี่ยว่าพูดอะไรออกมา”
“เอ้า กูพูดกูก็ต้องรู้...”มันเงียบเสียงก่อนจะเบิกตาเล็กน้อย “เชี่ย
มินโฮ มึงรีบเดินเดี๋ยวนี้”
“อะ..เอ๊ะ”
“มึงนี่มันบื้อ”
มันรีบกระชากแขนผมยิกๆก่อนจะดึงให้เข้าไปในโซนบ้านพักของตัวเอง มันเอามือสอดเข้ากางเกงผมก่อนที่ผมจะทันร้องห้ามอะไร
มันรีบไขกุญแจห้องและผลักตัวผมเข้าไปในนั้น
“มึงรีบอะไร”
“เมื่อกี้...เมื่อกี้”
“ทำไม?”
“เปล่า...กูแค่ปวดท้องเข้าห้องน้ำ”
อ้าว
ผมเหวอหนักเมื่อสรุปมันแค่ปวดท้อง
ก่อนมันจะทำหน้าตายและเดินเข้าห้องน้ำไป เกาหัวก่อนจะพึมพำออกมา
“อะไรของมึงวะเนี่ย ไอ้บ้าเอ้ย”
#ฟิคเพื่อนมินยูน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น