[SF] Kang Seungyoon x Song Minho
Story
: Step Up 2
ช่วงนี้ผมไม่ได้ออกไปไหนเป็นพิเศษ
วันๆเอาแต่นอนกลิ้งไปเรื่อยเพราะหลังจากจบโปรเจ็กค์อันหนักหน่วงเรามีวันหยุดยาวรออยู่
ผมมองมือถือนิ่งๆ ปกติโทรศัพท์ผมจะมีเสียงข้อความที่ส่งมาจากไอ้ซึงยุนเสมอ
แต่ตั้งแต่วันนั้นมันก็แทบจะไม่ส่งข้อความมาเลย
มันไปไหน
ผมคิดก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ ว่าจะไปหามันสักหน่อย
ในเมื่อบ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง
ผมกดกริ่งหน้าบ้านก่อนจะเป็นแม่ของมันออกมารับ
“อ้าวตามิ มีธุระอะไรหรือเปล่ามาหาซึงยุนแต่เช้า”
แม่มันเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเบี่ยงให้เข้าบ้าน “เข้ามาก่อนๆ ซึงยุนยังนอนอยู่เลย
ขี้เกียจตัวเป็นขน”
ผมหัวเราะกับแม่ซึงยุนก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป
ห้องทางซ้ายด้านในสุดเป็นห้องที่ผมคุ้นเคยเพราะมาเล่นตั้งแต่เด็ก จะชินก็ไม่แปลก
เปิดพรวดพราดเข้าไป
ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมายก่อนจะเห็นว่ามันนอนห่อตัวอยู่กับผ้าห่ม
ร้อนจะตายยังกล้าห่อซะขนาดนี้นะเนี่ย
ผมยกขาเขี่ยๆก่อนจะเอาเท้าเหยียบก้นมัน เขย่าขาไปมาเพื่อปลุก
มันร้องงืมงำๆ
อ้อนมืออ้อนเท้าแต่เช้านะมึง
ตัดสินใจยกขาออกก่อนจะกระชากผ้าห่มออกเต็มแรง
มันร้องออกมาแบบรำคาญสุดๆก่อนจะลุกยืนประจันหน้าผมบนเตียงมันนั่นแหละ
สภาพหัวฟูพองแถมเปิดเถิกนั่นเกินจะบรรยาย
ไหนจะคราบน้ำลายที่เปื้อนมุมปากแถมขี้ตาเกรอะกรังนั่นอีก มันพยายามลืมตาที่ดูสะลึมสะลือแถมบวมจนแทบจะเหมือนมันกำลังหลับนั่น
จ้องเขม่งแถมท้าวเอวอย่างเอาเรื่อง
โดยไม่ได้ดูสภาพมันเลยแม้แต่น้อยว่ามันใส่แค่บ็อกเซอร์บางๆนอน
แถมที่ที่มันยืนดันหันหลังให้หน้าต่างที่แสงแดดกำลังลอดผ่านม่านมาอีก
คิดดูเอาเองละกันว่าเห็นรูปร่างชัดขนาดไหน
“มึงปลุกกูแต่เช้าเพื่อมายืนจ้องน้องชายกูหรอครับไอ้ซงมินโฮ”
“ใครใช้ให้มึงตื่นสาย”
“สายเหี้ยอะไร กูเพิ่งนอนเมื่อตีสี่
มึงมีปัญหาอะไรถึงบุกบ้านกูแบบนี้ห๊ะ”มันบ่นก่อนจะหาวปากกว้าง
มืออีกข้างล้วงเข้าไปเกาในกางเกง...
กรัง...
เกรอะกรังมาก
สังคังกินหรอถึงทำอะไรโคตรน่าเกลียดขนาดนี้
ผมคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกมาหรอก
ยืนมองมันเกาจนสาแก่ใจก่อนที่มันจะชะงักมือ
สงสัยเพิ่งได้สติตอนตาผมมองมันเกานี่แหละมั้ง
“มะ...มึงไปรอหน้าห้องกูไป กูจะไปอาบน้ำ”
“มึงอาย”
มันไม่ตอบคำถามก่อนจะเบือนหน้าหนี หูมันแดงขึ้นบ่งบอกว่ามันเพิ่งนึกได้ว่าทำอะไรลงไปต่อหน้าผมแน่ๆ
“ไม่ทันละมั้งมึง มากกว่านี้กูก็เห็นมาละ”
“หุบปากมึงเลย”มันพูดก่อนวิ่งไปคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ
ล็อกเสร็จสรรพก่อนตะโกนไล่ผม “มึงไปข้างล่างเลยไอ้ดำ”
“มึงว่าใครดำห๊ะ”
“มึงนั่นแหละ”
“กูดำแต่กูเร้าใจนะ มึงจะลองอีกรอบไหม”
“ไอ้...” สรรพสัตว์เลื้อยคลานดังออกมาจากห้องน้ำ ผมหัวเราะก่อนจะเดินออกจากห้องมัน
จะว่าไป เมื่อเช้าผมหงุดหงิดทำไมวะ
แค่มาเจอมันผมก็อารมณ์ดีขึ้นเป็นกองแล้ว
ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเจอแม่ไอ้ซึงยุนแต่งตัวเตรียมออกจากบ้าน
สงสัยจะไปทำงานแน่ๆ ผมยกยิ้มก่อนจะรอจนอีกฝ่ายเดินออกจากไป
หันหลังเดินเข้าครัวก่อนจะเตรียมอาหารจัดบนโต๊ะเสร็จสรรพ
ก็อย่างว่า ด้วยความที่ผมกับมันเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ
รู้ใจหมดกันเกือบทุกอย่างแหละ
มันเดินเอาผ้าคลุมหัวลงมาด้วย ผมลุกขึ้นหยิบน้ำส่งให้มันหนึ่งแก้วก่อนจะเดินอ้อมมาเช็ดหัวให้แบบที่เคยทำให้ตามปกติ
มันนั่งหลับตาพริ้มเมื่อผมทั้งเช็ดทั้งนวดให้ก่อนจะเอาผ้าลงไปพาดเก้าอี้ตัวที่ไม่ได้นั่ง
เดินกลับมานั่งที่เดิมก่อนส่งข้าวให้มันและหยิบของตัวเองอีกอัน
“บ้านมึงไม่มีข้าวกินหรอ”
“มี แม่กูทำอร่อยด้วย แต่กูกลัวหมาบางตัวเหงา เลยนั่งกินเป็นเพื่อน”
“สัส” มันแยกเขี้ยวก่อนที่จะลงมือตักอาหารเข้าปาก รอยยิ้มพึงพอใจทุกครั้งที่มันกินอาหารระบายออกมาน้อยๆ
ผมไม่เคยรู้สึกว่ามันน่ามองมาก่อนเลยจนกระทั่งวันนี้
“ไอ้มินโฮ มึงจะกินไหม”
มันพูดทั้งๆที่ข้าวยังเต็มปากก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อเหมือนคนหิวโหยรุนแรง
ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะเริ่มกินบ้าง ถึงแม้ว่าผมจะกินจากที่บ้านมาแล้วก็ตามเถอะนะ
เห็นท่าทีมันแล้วจะปล่อยให้มันนั่งคนเดียวก็คงไม่ใช่เรื่อง
ผมกับมันนั่งกินข้าวจนหมดหม้อ จะว่าไป ผมเองก็ตัวใหญ่
กินจุมันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไอ้ซึงยุนนี่ดิ...
“เอาอีก”
“สัส ถ้วยที่ห้าแล้วนะมึง”
“เมื่อคืนกูใช้แรงเยอะ น่าตักมาเหอะ อย่าบ่นเป็นคนแก่เลย”
ผมตักให้มันด้วยท่าทีสะบัดสะบิ้งก่อนจะมองมันตักเอาๆ แก้มซ้ายแก้มขวาขยายไปหมดจนพอง
“มึงช่วยตัวเองหรือไงถึงหมดแรง”
“แค่กๆๆๆๆ”มันสำลักข้าวที่เข้าปากอย่างรุนแรงจนผมต้องส่งน้ำให้ กลัวมันจะขาดใจซะก่อน
มันมองผมตาเหลือกทั้งๆพยายามกระดกน้ำกิน ผมขำออกมากับท่าทีตลกๆนัก
หยิบแก้วเพื่อเทให้อีกรอบก่อนส่งทิชชู่ให้มันเช็ดมันรับอย่างเคืองๆก่อนจะแหวออกมาเสียงดัง
“บ้านมึงสิ ปากหมาขนาดนี้กลับบ้านมึงไป๊ กูจะได้นอน”
“มึงรีบกินเหอะ เดี๋ยวกูกลับก็ได้”
ผมแกล้งพูดเสียงเรียบๆ มันชะงักก่อนจะยื่นมือมาอังหน้าผาก
จู่ๆหัวใจผมก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
มือนุ่มนิ่มที่สัมผัสมันทำให้ผมรู้สึกดี
“ตัวมึงก็ไม่ร้อนนี่” มันละมือออก
ผมรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่มันรีบละไป “ปกติต้องอยู่เล่นกันก่อนนี่หว่า”
“มึงกับกูนี่ก็เกือบยี่สิบห้าแล้วนะซึงยุน ทำตัวเป็นเด็กไปได้”
“ก็เพราะมึงนั่นแหละ”
“ห๊ะ? กูเนี่ยนะ” ผมชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
“เออ เพราะมึงอยู่กับกูตลอดเวลา เสมอต้นเสมอปลายกับกูแบบนี้ไง กูถึงหลงคิดว่าไม่โตสักที”
ผมชะงักไปน้อยๆกับสิ่งที่มันพูดออกมาก่อนจะก้มไปกินข้าวต่ออย่างไม่สนใจตัวผมที่ตอนนี้กำลังเตลิดไปไกลกับคำพูดชวนคิดของมัน
เอาอีกแล้ว
ไอ้ความรู้สึกวูบโหวงแปลกๆเกิดขึ้นอีกแล้ว
ผมนั่งมองมันกินจนหมดก่อนจะลุกขึ้นเก็บจานชามให้มันเรียบร้อย
ส่วนไอ้เพื่อนสนิทตอนนี้นอนแบะขาอ้ากว้างพุงขยายอยู่ที่โซฟาโน่น
“มึงล้างต่อเองนะไอ้สัส กูกลับบ้านละ”
“กลับจริงดิมินโฮ”มันคว้าข้อมือผมที่กำลังเดินผ่าน ผมชะงักนิ่งก่อนมองมันที่ส่งยิ้มตาปิดกลับมา
ไอ้ห่า
ใจกูสั่นเพราะมึงมากี่ครั้งแล้วเคยรู้ตัวบ้างไหมไอ้คังซึงยุน
“นั่งอยู่กับกูเป็นเพื่อนก่อนนะ กูเหงา”
ผมถอนหายใจออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
มึงเล่นพูดออกมาขนาดนี้กูจะปฏิเสธได้ไหมหล่ะ
“เออ”
ก็ได้แต่บ่นแล้วก็ยอมมันทุกทีนี่แหละวะไอ้ซงมินโฮเอ้ย
#ฟิคเพื่อนมินยูน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น