BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559

[SF] Kang Seungyoon x Song Minho : Step Up 2

[SF] Kang Seungyoon x Song Minho

Story : Step Up 2







ช่วงนี้ผมไม่ได้ออกไปไหนเป็นพิเศษ วันๆเอาแต่นอนกลิ้งไปเรื่อยเพราะหลังจากจบโปรเจ็กค์อันหนักหน่วงเรามีวันหยุดยาวรออยู่ ผมมองมือถือนิ่งๆ ปกติโทรศัพท์ผมจะมีเสียงข้อความที่ส่งมาจากไอ้ซึงยุนเสมอ แต่ตั้งแต่วันนั้นมันก็แทบจะไม่ส่งข้อความมาเลย

มันไปไหน

ผมคิดก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ ว่าจะไปหามันสักหน่อย ในเมื่อบ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง


ผมกดกริ่งหน้าบ้านก่อนจะเป็นแม่ของมันออกมารับ

“อ้าวตามิ มีธุระอะไรหรือเปล่ามาหาซึงยุนแต่เช้า” แม่มันเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเบี่ยงให้เข้าบ้าน “เข้ามาก่อนๆ ซึงยุนยังนอนอยู่เลย ขี้เกียจตัวเป็นขน”

ผมหัวเราะกับแม่ซึงยุนก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป ห้องทางซ้ายด้านในสุดเป็นห้องที่ผมคุ้นเคยเพราะมาเล่นตั้งแต่เด็ก จะชินก็ไม่แปลก เปิดพรวดพราดเข้าไป ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมายก่อนจะเห็นว่ามันนอนห่อตัวอยู่กับผ้าห่ม

ร้อนจะตายยังกล้าห่อซะขนาดนี้นะเนี่ย

ผมยกขาเขี่ยๆก่อนจะเอาเท้าเหยียบก้นมัน เขย่าขาไปมาเพื่อปลุก มันร้องงืมงำๆ

อ้อนมืออ้อนเท้าแต่เช้านะมึง

ตัดสินใจยกขาออกก่อนจะกระชากผ้าห่มออกเต็มแรง มันร้องออกมาแบบรำคาญสุดๆก่อนจะลุกยืนประจันหน้าผมบนเตียงมันนั่นแหละ สภาพหัวฟูพองแถมเปิดเถิกนั่นเกินจะบรรยาย ไหนจะคราบน้ำลายที่เปื้อนมุมปากแถมขี้ตาเกรอะกรังนั่นอีก มันพยายามลืมตาที่ดูสะลึมสะลือแถมบวมจนแทบจะเหมือนมันกำลังหลับนั่น จ้องเขม่งแถมท้าวเอวอย่างเอาเรื่อง โดยไม่ได้ดูสภาพมันเลยแม้แต่น้อยว่ามันใส่แค่บ็อกเซอร์บางๆนอน แถมที่ที่มันยืนดันหันหลังให้หน้าต่างที่แสงแดดกำลังลอดผ่านม่านมาอีก

คิดดูเอาเองละกันว่าเห็นรูปร่างชัดขนาดไหน

“มึงปลุกกูแต่เช้าเพื่อมายืนจ้องน้องชายกูหรอครับไอ้ซงมินโฮ”

“ใครใช้ให้มึงตื่นสาย”

“สายเหี้ยอะไร กูเพิ่งนอนเมื่อตีสี่ มึงมีปัญหาอะไรถึงบุกบ้านกูแบบนี้ห๊ะ”มันบ่นก่อนจะหาวปากกว้าง มืออีกข้างล้วงเข้าไปเกาในกางเกง...

กรัง...

เกรอะกรังมาก

สังคังกินหรอถึงทำอะไรโคตรน่าเกลียดขนาดนี้

ผมคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกมาหรอก ยืนมองมันเกาจนสาแก่ใจก่อนที่มันจะชะงักมือ สงสัยเพิ่งได้สติตอนตาผมมองมันเกานี่แหละมั้ง

“มะ...มึงไปรอหน้าห้องกูไป กูจะไปอาบน้ำ”

“มึงอาย”

มันไม่ตอบคำถามก่อนจะเบือนหน้าหนี หูมันแดงขึ้นบ่งบอกว่ามันเพิ่งนึกได้ว่าทำอะไรลงไปต่อหน้าผมแน่ๆ

“ไม่ทันละมั้งมึง มากกว่านี้กูก็เห็นมาละ”

“หุบปากมึงเลย”มันพูดก่อนวิ่งไปคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ล็อกเสร็จสรรพก่อนตะโกนไล่ผม “มึงไปข้างล่างเลยไอ้ดำ”

“มึงว่าใครดำห๊ะ”

“มึงนั่นแหละ”

“กูดำแต่กูเร้าใจนะ มึงจะลองอีกรอบไหม”

“ไอ้...” สรรพสัตว์เลื้อยคลานดังออกมาจากห้องน้ำ ผมหัวเราะก่อนจะเดินออกจากห้องมัน



จะว่าไป เมื่อเช้าผมหงุดหงิดทำไมวะ

แค่มาเจอมันผมก็อารมณ์ดีขึ้นเป็นกองแล้ว

ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเจอแม่ไอ้ซึงยุนแต่งตัวเตรียมออกจากบ้าน สงสัยจะไปทำงานแน่ๆ ผมยกยิ้มก่อนจะรอจนอีกฝ่ายเดินออกจากไป หันหลังเดินเข้าครัวก่อนจะเตรียมอาหารจัดบนโต๊ะเสร็จสรรพ

ก็อย่างว่า ด้วยความที่ผมกับมันเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ รู้ใจหมดกันเกือบทุกอย่างแหละ

มันเดินเอาผ้าคลุมหัวลงมาด้วย ผมลุกขึ้นหยิบน้ำส่งให้มันหนึ่งแก้วก่อนจะเดินอ้อมมาเช็ดหัวให้แบบที่เคยทำให้ตามปกติ มันนั่งหลับตาพริ้มเมื่อผมทั้งเช็ดทั้งนวดให้ก่อนจะเอาผ้าลงไปพาดเก้าอี้ตัวที่ไม่ได้นั่ง เดินกลับมานั่งที่เดิมก่อนส่งข้าวให้มันและหยิบของตัวเองอีกอัน

“บ้านมึงไม่มีข้าวกินหรอ”

“มี แม่กูทำอร่อยด้วย แต่กูกลัวหมาบางตัวเหงา เลยนั่งกินเป็นเพื่อน”

“สัส” มันแยกเขี้ยวก่อนที่จะลงมือตักอาหารเข้าปาก รอยยิ้มพึงพอใจทุกครั้งที่มันกินอาหารระบายออกมาน้อยๆ

ผมไม่เคยรู้สึกว่ามันน่ามองมาก่อนเลยจนกระทั่งวันนี้

“ไอ้มินโฮ มึงจะกินไหม”

มันพูดทั้งๆที่ข้าวยังเต็มปากก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อเหมือนคนหิวโหยรุนแรง ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะเริ่มกินบ้าง ถึงแม้ว่าผมจะกินจากที่บ้านมาแล้วก็ตามเถอะนะ

เห็นท่าทีมันแล้วจะปล่อยให้มันนั่งคนเดียวก็คงไม่ใช่เรื่อง

ผมกับมันนั่งกินข้าวจนหมดหม้อ จะว่าไป ผมเองก็ตัวใหญ่ กินจุมันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไอ้ซึงยุนนี่ดิ...

“เอาอีก”

“สัส ถ้วยที่ห้าแล้วนะมึง”

“เมื่อคืนกูใช้แรงเยอะ น่าตักมาเหอะ อย่าบ่นเป็นคนแก่เลย” ผมตักให้มันด้วยท่าทีสะบัดสะบิ้งก่อนจะมองมันตักเอาๆ แก้มซ้ายแก้มขวาขยายไปหมดจนพอง

“มึงช่วยตัวเองหรือไงถึงหมดแรง”

“แค่กๆๆๆๆ”มันสำลักข้าวที่เข้าปากอย่างรุนแรงจนผมต้องส่งน้ำให้ กลัวมันจะขาดใจซะก่อน มันมองผมตาเหลือกทั้งๆพยายามกระดกน้ำกิน ผมขำออกมากับท่าทีตลกๆนัก หยิบแก้วเพื่อเทให้อีกรอบก่อนส่งทิชชู่ให้มันเช็ดมันรับอย่างเคืองๆก่อนจะแหวออกมาเสียงดัง

“บ้านมึงสิ ปากหมาขนาดนี้กลับบ้านมึงไป๊ กูจะได้นอน”

“มึงรีบกินเหอะ เดี๋ยวกูกลับก็ได้”

ผมแกล้งพูดเสียงเรียบๆ มันชะงักก่อนจะยื่นมือมาอังหน้าผาก

จู่ๆหัวใจผมก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ มือนุ่มนิ่มที่สัมผัสมันทำให้ผมรู้สึกดี

“ตัวมึงก็ไม่ร้อนนี่” มันละมือออก ผมรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่มันรีบละไป “ปกติต้องอยู่เล่นกันก่อนนี่หว่า”

“มึงกับกูนี่ก็เกือบยี่สิบห้าแล้วนะซึงยุน ทำตัวเป็นเด็กไปได้”

“ก็เพราะมึงนั่นแหละ”

“ห๊ะ? กูเนี่ยนะ” ผมชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างไม่เข้าใจ

“เออ เพราะมึงอยู่กับกูตลอดเวลา เสมอต้นเสมอปลายกับกูแบบนี้ไง กูถึงหลงคิดว่าไม่โตสักที”

ผมชะงักไปน้อยๆกับสิ่งที่มันพูดออกมาก่อนจะก้มไปกินข้าวต่ออย่างไม่สนใจตัวผมที่ตอนนี้กำลังเตลิดไปไกลกับคำพูดชวนคิดของมัน

เอาอีกแล้ว

ไอ้ความรู้สึกวูบโหวงแปลกๆเกิดขึ้นอีกแล้ว

ผมนั่งมองมันกินจนหมดก่อนจะลุกขึ้นเก็บจานชามให้มันเรียบร้อย ส่วนไอ้เพื่อนสนิทตอนนี้นอนแบะขาอ้ากว้างพุงขยายอยู่ที่โซฟาโน่น

“มึงล้างต่อเองนะไอ้สัส กูกลับบ้านละ”

“กลับจริงดิมินโฮ”มันคว้าข้อมือผมที่กำลังเดินผ่าน ผมชะงักนิ่งก่อนมองมันที่ส่งยิ้มตาปิดกลับมา

ไอ้ห่า

ใจกูสั่นเพราะมึงมากี่ครั้งแล้วเคยรู้ตัวบ้างไหมไอ้คังซึงยุน

“นั่งอยู่กับกูเป็นเพื่อนก่อนนะ กูเหงา”

ผมถอนหายใจออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

มึงเล่นพูดออกมาขนาดนี้กูจะปฏิเสธได้ไหมหล่ะ

“เออ”

ก็ได้แต่บ่นแล้วก็ยอมมันทุกทีนี่แหละวะไอ้ซงมินโฮเอ้ย





#ฟิคเพื่อนมินยูน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น