[SF]
Lee Seunghoon x Kang Seungyoon
story
: But I… [9]
“ซึงยุน มึง....”ผมเดินผ่านไอ้แทฮยอนไป พยายามไม่สนใจเสียงเรียกมัน
สายตาของมินโฮ และอีกคนที่อยู่ในรถนั่น โชคดีที่สามคนนั่นไม่ได้ตามมา
ผมเดินได้นอนทบทวนอะไรต่างๆในห้องนอนเพียงลำพัง
ผมรู้สึกแย่ และผมทำตัวไม่ดี
ผมรู้ตัว รู้ทุกอย่างแหละ
นอนมองเพดานเงียบๆเผื่อความรู้สึกในใจจะดีขึ้นแต่ก็รู้ว่าไอ้สิ่งที่ทำไปมันคงจะไม่มีประโยชน์เท่าไร
ก่อนจะตัดสินใจเก็บของเพื่อไปนอนกับพี่จีโฮ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าต้องออกไปเจอไอ้แทฮยอนอยู่กับแฟนมัน
ถึงหลายครั้งมันจะไปค้างกับอีกคนก็เหอะ หยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาพี่ชายก่อนจะเก็บเสื้อผ้าไปพลางๆ
ผมบอกพี่แกประมาณสองสามประโยคก่อนที่จะวางโทรศัพท์และรูดซิปกระเป๋าเมื่อเตรียมของเสร็จ
ผมสะพายสัมภาระทุกอย่าง มองไปรอบๆห้องเพื่อนึกว่าลืมอะไรหรือเปล่า
ก่อนจะเปิดประตูไปและชะงักค้าง
เป็นไอ้แทฮยอนกับพี่มินโฮนั่งอยู่โซฟาตัวยาว
ส่วนพี่ซึงฮุนนั่งอยู่อีกฟากหนึ่ง
พี่ซึงฮุนหันมามองก่อนจะสะกิดมินโฮและดึงออกไปข้างนอกห้องพักผ่อน
ส่วนไอ้แทฮยอนมันนั่งมองผมก่อนเอ่ยออกมานิ่งๆ
“นั่นมึงจะไปไหน”
“กูจะไปหาพี่จีโฮ พี่ให้กูไปช่วยงาน” ผมโกหกมันออกไป
เบนสายตาออกเพราะไม่อยากมองหน้ามันไปมากกว่านี้
“มึงหลบตากูทำไมซึงยุน มีอะไรก็พูดกันดิ กูเพื่อนมึงนะ”
“...”
“กูรู้มึงโกรธกูที่กูไม่ออกไปกินเหล้าด้วยอ่ะ กูรู้ตัวนะว่าช่วงนี้กูไม่ค่อยมีเวลาให้มึงเหมือนเมื่อก่อน”
“...”
“กูขอโทษ ไอ้ซึงยุน”
“มึงจะขอโทษกูทำไมหล่ะ ในเมื่อกูก็ไม่ได้มีสิทธิในตัวมึงเท่าไอ้หมีดำอยู่แล้วนี่”
“มึงนี่งี่เง่าว่ะ”
“กูก็เป็นแบบนี้แหละ”ผมตอบก่อนจะเดินเบี่ยงออก
ไอ้แทฮยอนลุกขึ้นมาก่อนจะจับมือผมกำไว้แน่น มันพยายามระงับอารมณ์ที่พยายามจะต่อยผมอยู่น่าดู
มันถึงทำแค่กำข้อมือผมแน่น
“ไอ้ซึงยุน...”
“มึงพอใจหรือยังแทฮยอน กูเจ็บทั้งข้อมือทั้งความรู้สึก
มึงจะปล่อยกูได้หรือยัง”
“กูอยากต่อยมึงชิบ”
“มึงจะต่อยก็ต่อยสิ ตามใจมึง”
ผมกับมันจ้องตานิ่งๆ
ก่อนแทฮยอนมันจะถอนหายใจออกมาแรงๆและปล่อยข้อมือออก
มันเค่นยิ้มออกมาให้ผมรับรู้ว่าฝืนขนาดไหน
“เพราะมึงเป็นเพื่อนกู เป็นเพื่อนที่กูเปิดใจ
เป็นเพื่อนที่กูรักมากคนเดียวกูถึงต่อยมึงไม่ลง กูรู้ว่าครั้งนี้กูผิดจริงแต่มึงฟังกูหน่อยดิ
อย่าโกรธกูดิ”มันพูดออกมายาวๆเป็นครั้งแรกที่มันเปิดใจออกมา
ผมมองมันที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ก่อนจะรู้สึกว่าจิตใจที่ขุ่นมัวของผมค่อยๆจางหายลง
ยังไงเพื่อนมันก็คือเพื่อนสินะ
โกรธมันได้ไม่นานจริงๆ
“เดี๋ยวกูก็หาย ปล่อยกูไว้งี้สักพักนะมึง”
“มึงจะหนีกูไปอ่ะ”
“มึงพูดอย่างกับกูเป็นแฟนมึง”
“มึงยิ่งกว่าแฟนอีกไอ้ซึงยุน กูอยากบอกให้มึงรู้ไว้”
จู่ๆผมก็รู้สึกแปลกๆกับสิ่งที่มันพูดมา มันคลายมือออกก่อนจะเกาหัว
นี่มันอะไรเนี่ย
“กูแค่จะไปนอนบ้านพี่ กูไม่ได้จะย้ายออก”
“เออ ต่อให้มึงจะย้ายกูก็ไม่ให้ย้าย”
“เหอะ ไอ้...” ผมละคำก่อนจะจัดแจงตัวเองอีกครั้ง “ถ้ากูสบายใจขึ้นเมื่อไรเดี๋ยวกูกลับมาเอง
มึงไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก กูก็ผิดที่งี่เง่าอย่างที่มึงว่ากูนั่นแหละ”
“แล้วมึงไปยังไง แฟนไปส่งหรอ”
“ใครแฟนกู”ผมมองมันหน้างงๆ มันยิ้มออกมาเป็นเชิงล้อเลียน
“ก็พี่สิงโตของมึงไง”
“กูไม่ได้...”
จู่ๆผมก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งไอ้แทฮยอนและมินโฮเห็นอะไรบ้าง
“มึงก็มีคดีต้องเคลียร์กับกูนะซึงยุนนี่”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”ผมโบกมือไปมา มันหัวเราะหึก่อนจะส่ายมือเชิงว่าเข้าใจที่ผมจะสื่อก่อนจะตบบ่าผมเบาๆ
“มึงรู้สึกอย่างไงก็ควรพูดนะ ไม่ใช่มาปากแข็งขนาดนี้ ซึนมากเดียวหมาคาบไปกินหมด”
ผมไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้อง เห็นพี่ซึงฮุนกับมินโฮยืนอยู่
ผมเดินผ่านไปก่อนจะรู้ว่ามีคนเดินตามมาอยู่
“ไปไหนหือซึงยุน”
“ไปหาพี่จีโฮ”
“มันไปเข้าค่ายนี่”
“อ่า”
“แล้วไปทำไม”
“อยากไป มีปัญหาอะไรมะ”
ผมหันมาตอบคำถามอีกฝ่ายที่ดูจะพูดมากเสียเหลือเกิน
พี่ซึงฮุนยกยิ้มก่อนจะยกมือยีหัวเบาๆ ผมสะบัดก่อนจะโวยวายออกมา
“ย่าห์!!!”
“คิดมากหัวล้านนะซึงยุน พี่ถามเพราะห่วงหรอก”
“ผมดูแลตัวเองได้”
“แต่พี่ก็อยากดูแลเรานี่นา”
“แม่ง อย่ามาเต๊าะ”
“ไม่ให้เต๊าะแฟนพี่แล้วจะให้เต๊าะใครหล่ะ”
“เชิญไปเต๊าะกับคนที่ชื่อจินวูโน่นไป” ผมสะบัดออกมาก่อนเดินเข้าลิฟต์
พี่ซึงฮุนแย่งของในมือไปถือก่อนส่งยิ้มตาปิดมา แก้มยกฟูดูน่ารัก..
เดี๋ยว
เมื่อกี้ผมคิดว่าน่ารักหรอ
ไม่ๆๆๆๆ
“คิดอะไรยุ่งเหยิงนะเรา ออกจากลิฟต์ได้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
ผมถูกจูงมือมาแบงงๆก่อนจะรู้ตัวก็ถึงรถของอีกฝ่าย
พูดถึงรถ นึกถึงที่ก่อนหน้านี่อีกแล้ว
ผมรู้สึกแปลกๆก่อนจะยกมือขึ้นเกาจมูก
พี่ซึงฮุนที่มองมายิ้มก่อนจะชะงัก
“ข้อมือโดนอะไรมา”
“อ่อ...”ผมยกมือดู “มะ ไม่มีไร”
“นี่เราทะเลาะกับแทฮยอนแรงมากถึงกับลงมือกันเลยหรอ”
“ก็ไม่หรอก...ทำไรหน่ะ” ผมร้องออกมาเสียงหลง
ความเจ็บแปลบเมื่อมืออีกฝ่ายสัมผัสมาที่ข้อมือทำให้ผมนิ่วหน้า
น้ำตาผมเล็ดออกมาจนคนที่จับมืออยู่มองเห็นต้องใช้มืออีกข้างปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆ
“เจ็บขนาดนี้ยังบอกไม่เป็นอะไรอีก จริงๆเลยนะเราเนี่ย”
พูดเป็นเชิงข่มขู่ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างประคองข้อมือที่เจ็บ เป่าก่อนจูบตรงรอยแดงๆนั่น
ผมรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวกับความอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้จนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงใจเต้นแรงของผม
พี่ซึงฮุนเป่าอีกสองสามที “หายแดงเร็วๆนะเจ้าข้อมือ
อย่าทำให้เจ้าของนายเจ็บมากกว่านี้ พี่เป็นห่วงเขา”
ก่อนจะเงยหน้ามาส่งยิ้มตาปิดเป็นเอกลักษณ์และค่อยๆวางมือของผมไว้ที่หน้าตักของเขา
ตลอดระยะทางที่เขาขับรถ มือของเราต่างกุมกันตลอดทาง
แวะร้านขายยาและบังคับให้ผมรอก่อนจะซื้อยาทาข้อมือและนมรสกล้วยกับนมเปรี้ยวมาให้
แสดงออกถึงความใส่ใจและรับรู้ว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไรชัดเจน
มันทำให้ผมลืมความเจ็บเพราะมัวแต่ใจเต้นแทน
ไอ้บ้า ไอ้ฉวยโอกาส
ไอ้พี่ซึงฮุนเอ้ย
พี่ทำให้ผมรู้สึกดีจนแทบบ้าแล้วรู้ไหม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น