BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2559

[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon : But I… [10]




[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon

Story : But I… [10]




ผ่านมาร่วมสัปดาห์แล้วที่ผมมาอยู่บ้านพี่จีโฮ ถ้าถามว่าผมยังโกรธไอ้แทฮยอนไหม ผมคิดว่าผมไม่ได้โกรธมันแล้วนะ เพียงแต่ว่าที่ผมไม่กลับเพราะว่าต้องอยู่ช่วยพี่ชายสุดหล่อทำงานต่างหากหล่ะ

“ซึงยุน เอากาวส่งมา”

ผมหยิบกาวส่งให้พี่เขาที่ตอนนี้แบมือมาแต่สายตาจ้องไปที่โมเดลที่ดูท่าคงไม่เสร็จง่ายๆในชั่วโมงนี้แน่ ผมหันไปมองนาฬิกาก่อนจะลุกขึ้นยืน

“พี่”

“หือ”

“เอาไรมะ ผมจะไปซื้อข้าวข้างล่าง”

“นี่กี่โมงแล้วอ่ะ”

“สองทุ่มแล้ว”

“งั้นไม่ต้องไป”

“อ้าว” ผมมองพี่จีโฮด้วยความไม่เข้าใจ “พี่ไม่หิวข้าวหรอ นี่พี่ไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันแล้วนะ”

“มันอันตราย เอาเหอะ  นั่งรอแปปเดี๋ยว...”

จู่ๆเสียงกริ่งห้องก็ดังขึ้น  พี่จีโฮพยักหน้าให้ไปเปิดประตูก่อนที่จะกลับไปสนใจงานต่อ ผมลุกไปแบบมึนๆก่อนจะพบว่าคนที่มาเป็นบุคคลที่เจอหน้าครั้งล่าสุดตอนที่เขามาส่งนั่นแหละ

“มาทำไม”

“มาหาแฟน” ยิ้มตาปิดตามสไตล์ก่อนจะยกกล่องข้าวให้ดู “หิวใช่ไหม พี่ซื้อข้าวมาให้”

ผมมองบนก่อนพึมพำออกมา คนอะไรหลงตัวเองซะจริง แต่ริมฝีปากก็อดยิ้มไม่ได้ที่อีกฝ่ายซื้อมาให้

“ใครแฟนพี่ห๊ะ”

“ก็รู้ๆกันอยู่”ซึงฮุนขยิบตาก่อนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ “เรารู้อยู่ว่าพี่หมายถึงใคร”

“เสร็จแล้วโว้ย!!!” เสียงพี่จีโฮตะโกนออกมาดังลั่นจากในห้อง “มึงจะจีบน้องกูตรงประตูอีกนานไหมไอ้ซึงฮุน เข้ามาดิวะ”

“เออ มึงนี่ก็ขัดจังวะ” พี่ซึงฮุนละใบหน้าออกก่อนจะยกมือขึ้นยีผมของผม ผมสะบัดก่อนแยกเขี้ยวใส่ กล่องข้าวและขนมวางไว้ที่โต๊ะก่อนที่ร่างสูงเพรียวจะเดินไปหาพี่จีโฮ

“งานมึงเสร็จตรงไหนเนี่ยไอ้จีโฮ”

“นี่แหละ ส่วนของกูอ่ะเสร็จแล้ว เดียวกูจะเอาอีกครึ่งหนึ่งไปทำต่อที่สตู กูนัดเพื่อนไว้” ผมเดินเข้ามาเห็นพี่จีโฮเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

“อ้าว แล้วมึงให้กูมาทำไมเนี่ย”

“กูให้มึงมานอนเป็นเพื่อนซึงยุน”

“เดี๋ยวนะพี่จีโฮ ผมนอนคนเดียวได้” ผมพูดขัดอีกฝ่ายที่กำลังกวาดทุกสิ่งใส่กระเป๋า

“ไม่เอา พี่เป็นห่วง อย่างน้อยไอ้ซึงฮุนมันก็ยังวางใจได้...”

ไอ้สิงโตนี่แหละพี่ที่วางใจไม่ได้เลยอ่ะ

ผมได้แต่เถียงในใจเพราะตอนนี้อีกฝ่ายหิ้วของเดินออกไปเรียบร้อย ก่อนหันมากำชับพี่ซึงฮุนเสียงดุ

“อย่าทำน้องกูช้ำนะมึง เบาๆบ้าง”

พี่ซึงฮุนหัวเราะออกมาเสียงดัง ส่วนผมหน้าร้อนผ่าว อ้าปากพะงาบๆ

จนเสียงประตูห้องปิดไป พี่ซึงฮุนหันมายิ้มให้

“ยิ้มอะไรวะ”

“พูดไม่น่ารักเลยนะเราอ่ะ”

“มะ...ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ กลับไปได้แล้วน่า”ผมดันหลังอีกฝ่ายให้เดินไปที่ประตู แต่ไอ้พี่บ้านี่ก็เอาแต่ขืนตัวไว้

“พี่ไม่กลับหรอกคืนนี้อ่า เดียวพี่นอนเป็นเพื่อนเรานั่นแหละ”

“ผมไม่ให้..”

“นะครับ” พี่ซึงฮุนหันมามองก่อนจับมือกุมเบาๆ “นะครับซึงยุนอา”

“...”ผมเม้มปากหน้าแดงก่ำเมื่อเจอมุกตื้อแบบนี้เข้าไป ก่อนที่อีกฝ่ายจะฉีกยิ้มเมื่อเห็นผมนิ่ง

“ดีมากไอ้ลูกหมา”

“ใครหมาวะ ไม่ใช่ซะหน่อย”

“โอ๋ๆๆๆ ไม่หมาก็ไม่หมา อย่าหงุดหงิดแล้วพูดไม่เพราะซี่”

ผมทำแก้มพองลมก่อนจะพยายามสะบัดมือออก พี่ซึงฮุนละออกก่อนจะเดินอ้อมหลังเพื่อดันตัวผมให้ไปที่โต๊ะอาหารแทน ผมนั่งลงเมื่ออีกฝ่ายดันเก้าอี้ให้เรียบร้อย ก่อนจะแกะขนมที่อีกฝ่ายซื้อมาฝากกิน พี่ซึงฮุนหยิบข้าวกล่องออกจากถุงก่อนจะเดินไปที่ครัว หยิบโน่นจับนี่คล่องแคล่ว

“พี่มาที่นี่บ่อยหรอ” ผมถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเปิดเตาแก็ส “เฮ้ยนั่นจะทำอะไร นั่นไม่ใช่ข้าวกล่องหรอ”

“ไม่ใช่หรอก พี่จะทำกับข้าวให้เรากินนั่นแหละ กินขนมรอไปก่อนนะ”

ผมเม้มปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆก่อนตั้งใจทำอาหาร รอยยิ้มมุมปากน้อยๆกับสายตาที่ดูมุ่งมั่นทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ รู้สึกดีแปลกๆเพราะเกิดมานอกจากแม่ก็มีพี่เขาคนแรกที่ผมได้มองแผ่นหลังเวลาทำอาหารแบบนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่เขามีเสน่ห์มากจริงๆ

ท้าวคางมองพี่เขาที่กำลังรื้อของสดในถุง (ที่ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเอาเข้ามาเมื่อไร ผมมั่นใจว่าในห้องพี่จีโฮไม่มีอะไรแบบนี้แน่ๆ) ออกมา มือใหญ่ๆนั่นไม่น่าเชื่อว่าเวลาหยิบจับหรือแม้กระทั่งหั่นผักจะดูดีได้มากขนาดนี้

“เวลาพี่เงียบๆนี่ก็ดูดีนะ”

ผมพูดออกมาตามที่นึก พี่ซึงฮุนหัวเราะก่อนที่จะหันมาท้าวเอวทั้งๆที่มือขวานั่นถือมีดอยู่

“ย่าห์ๆๆ ปกติพี่เป็นยังไงห๊ะซึงยุน”

“ปกติหรอ....ไม่รู้ดิ”

ผมตอบก่อนจะเงียบไป

นั่นดิ ปกติพี่ซึงฮุนเขาเป็นยังไงวะ

จะว่าไปแล้ว ผมยังไม่เคยได้สนใจอะไรพี่เขาเป็นจริงเป็นจังด้วยซ้ำ

รู้แค่ว่าเป็นรุ่นพี่ปีสาม เรียนวิศว เป็นเฮดวินัย

นอกนั้นผมไม่รู้อะไรเลย

นั่งเงียบสักพักอาหารก็มาเสิร์ฟตรงหน้า ผมตาลุกวาวด้วยความหิวเป็นพื้นเดิมก่อนจะคว้าช้อนเตรียมตักเข้าปากอย่างรวดเร็ว

“เดียวๆๆใจเย็นนะซึงยุน มันร้อน”

“โอ้ย”ผมคายออกอย่างรวดเร็วเมื่อถูกลวกปาก พี่ซึงฮุนหัวเราะก่อนจะรีบคว้าน้ำส่งให้

ผมรับมาก่อนดื่มจนหกเลอะไปหมด ไม่ไหว มันร้อนมากจริงๆ

“ทำไมไม่บอกเร็วๆวะพี่”

“หึ พี่จะรู้ไหมว่าเราหิวขนาดนั้น”

พี่ซึงฮุนหัวเราะก่อนจะเอาทิชชู่เช็ดน้ำที่หกเลอะตรงคอให้ ผมนิ่งเพราะรู้สึกแปลกๆ

เขินแปลกๆ

โอ้ย

ทำไมอะไรมันดูแปลกๆไปหมดเลยวะวันนี้

“อ้าปากครับน้องซึงยุน”

พี่ซึงฮุนตักข้าว(ที่พี่เขาทำนั่นแหละ) เป่าเบาๆสองสามทีก่อนจะทำท่าอ้าปากตอนยื่นช้อนมาให้

 “อ้าปากเร็ว”

“ผมกินเองได้”

“ซึงยุนอา เร็วๆ”

ผมอ้าปากงับก่อนจะเคี้ยว ปฏิเสธไม่ได้ว่าอร่อยมากจนเผลอพูดออกมา พี่ซึงฮุนหัวเราะก่อนจะตักอีกคำ

สรุปความหิวทำให้ผมนั่งกินทั้งๆที่อีกฝ่ายป้อนจนหมดจานนั่นแหละ

“โอ้ยยย อิ่มอ่ะ”ผมเอนหลังพิงก่อนจะมองพี่เขาถือจานไปล้าง

อันนี้ออกจะเกินไปนิดหนึ่ง ผมลุกก่อนจะเดินไปแย่งน้ำยาล้างจานออกจากมืออีกฝ่าย

“เดี๋ยวล้างเอง พี่ไปนั่งเหอะ”

ก้มหน้าก้มตาล้างเงียบๆ เลยไปจนถึงเครื่องครัวที่ใช้ทำเมื่อกี้ด้วย พี่ซึงฮุนยืนพิงซิงค์ก่อนมองมาที่ผม

ผมไม่กล้าเงยหน้าเพราะเขินแปลกๆ พี่เขาก็ยืนกอดอกทั้งที่สายตาไม่ได้ละจากผมไปไหน

ความเงียบปกคลุมเราสองคน

เป็นความเงียบที่ไม่ได้ทำให้ผมอึดอัด มันสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

“ซึงยุนอา”

จู่ๆพี่ซึงฮุนก็พูดขึ้น ผมกำลังเช็ดมือชะงักก่อนจะหันมามองพี่ซึงฮุนที่ยกยิ้ม

“พี่คิดมาตลอดนะตั้งแต่ที่พี่ตัดสินใจครั้งแรกที่พี่จะจีบเราอ่ะ”

“...”

“พี่คิดว่าเราอ่ะทำให้พี่ชอบมาตลอดเลย จนตอนนี้พี่ถึงรู้ว่าพี่อ่ะคิดผิด”

“...”

ผมหันมาจ้องอีกฝ่ายที่ยังคงยิ้มตาเขม็ง

“พี่...”

“จะพูดอะไรกันแน่ไอ้สิงโตแก่ ทนผมไม่ได้หรือไง”

พี่ซึงฮุนหลุดหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นว่าผมเริ่มหงุดหงิด แถมเรียกสรรพนามไม่น่ารักออกมาอีก

“เปล่า พี่แค่คิดว่าพี่จะเลิกชอบเรา”

“...”

“แล้วเปลี่ยนเป็นรักให้มากขึ้นแค่นั้นเอง”

ผมรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวเมื่ออีกฝ่ายฉีกยิ้มออกมาหลังพูดจบ

พี่ซึงฮุนยกแขนเป็นเชิงบิดขี้เกียจก่อนจะวางแขนพาดที่ไหล่ผม เขย่าเบาๆก่อนจะละออกและเดินเข้าห้องพี่จีโฮไป

“ไอ้พี่บ้าเอ้ย”

แล้วผมเป็นบ้าอะไร ทำไมหยุดยิ้มไม่ได้วะเนี่ย





ผมเดินเข้าห้องนอนอีกห้องที่ตอนนี้เหมือนจะเป็นห้องสำหรับผมโดยเฉพาะ  อาบน้ำเพราะวันนี้รู้สึกเหนียวตัวแปลกๆ ก่อนจะใส่กางเกงขาสั้นเสื้อย้วยๆตามปกติที่จะใส่นอนนั่นแหละ เดินออกห้องมาเพื่อจะดูโทรทัศน์ มองไปรอบๆเหมือนไม่มีใครอยู่

ไปไหน?

นี่คือคำถามที่ผมคิดในใจ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย

เปิดทีวีก่อนนอนขวางบนโซฟา พี่จีโฮนี่มีพร้อมทุกอย่างจริงๆ รายการเพลงกำลังฉายเลย

ดูจนจบก่อนสายตาจะเหลือบไปทางนาฬิกาที่ติดไว้

ห้าทุ่ม

ผมมองไปที่ห้องนอนพี่จีโฮ

หรือพี่เขาจะนอนไปแล้ววะ

ผมค่อยๆย่องไปที่ประตูห้องช้าๆ

ทำไมต้องย่องละเนี่ย

เถียงกับตัวเองในใจก่อนจะแอบแง้มประตูเพื่อดู แต่กลับไม่พบใครสักคน

“เหอะ ไหนบอกจะอยู่ด้วยกันไงวะ”

พูดออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนจะล้มตัวนอนบนโซฟานุ่ม เร่งแอร์ขึ้นพร้อมที่เปลี่ยนช่องไปจนกระทั่งหยุดอยู่ช่องหนังฝรั่งที่กำลังฉายอยู่

ผมนั่งดูนิ่งๆก่อนที่จะตัวแข็ง รู้สึกเกร็งเพราะในนั่นกำลังถึงฉากเลิฟซีนพอดี

ยกมือขึ้นปิดตาแต่แหวกช่องนิ้วพอให้เห็นได้

ก็คนมันอยากรู้...

ผมเอามืออกก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อฉากมันเริ่มจะ...เอิ่ม นั่นแหละ

“อยากหรอซึงยุนอา...”

“เฮ้ย!!!” ผมตกใจก่อนเด้งตัวอย่างแรงเมื่อได้ยินเสียงกระซิบข้างหนู

เป็นพี่ซึงฮุนที่ยืนหัวเราะกับท่าทีตลกๆของผมอยู่

“แม่ง เข้ามาตอนไหนวะ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง”

ผมลูบอกอย่างแรง หัวใจเต้นเป็นผีบ้าเข้าอย่างรุนแรงเพราะอีกฝ่ายแกล้งเมื่อครู่

“พี่ก็ว่าพี่ไม่ได้เข้ามาเงียบๆนะ มีแค่บางคนนั่นแหละที่มัวแต่ดุหนังโป๊จนไม่ฟังใคร”

“หนัง...หนังโป๊บ้าอะไร หนังมันไม่ได้เรท...”

อื้อ...อา

เสียงในโทรทัศน์หยุดคำพูดผม ผมค่อยๆหันไปมองก่อนจะเห็นเต็มๆตา

จ้องโทรทัศน์นิ่งทั้งผมทั้งคนที่เถียงกันเมื่อครู่

เหมือนผมได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของพี่ซึงฮุน

กว่าจะได้สติ จนพระนางได้กันเสร็จนั่นแหละ

มือไม้ที่สั่นเทาของผมรีบคว้ารีโมทก่อนจะกดปิดอย่างรวดเร็ว

ผมไม่กล้าหันไปมองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆนี่เลยให้ตายเหอะ

เราสองคนต่างเงียบก่อนที่พี่ซึงฮุนจะแสร้งกระแอ่มไอออกมา

“พะ..พี่ออกไปเอาของที่หอมา เดียวคืนนี้พี่นอนห้องไอ้จีโฮนะ”

“อ...อืมๆๆๆ”ผมพยักหน้าก่อนที่อีกฝ่ายจะยิ้มและเดินเข้าห้องไป


“โฮ่....”

ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะลูบอก

เมื่อกี้มันอะไรกันเนี่ย

ใจเต้นระส่ำอย่างกับคนบ้าเลย

นั่นสั่นหัวเพื่อสะบัดไอ้ภาพติดตานั่นออกก่อนจะเดินเข้าห้องไป หมดสิ้นซึ่งอารมณ์อยากดูโทรทัศน์ เดินไปปิดไฟทุกที่ก่อนจะมองไปที่ห้องนอนพี่จีโฮ แสงไฟลอดออกมานั่นทำให้ผมสงสัยแต่ไม่ได้อะไรมากมาย

ผมเดินเข้าห้องนอนตัวเองก่อนจะคว้าโทรศัพท์มาเล่น ส่งข้อความหาไอ้แทฮยอนก่อนจะเลื่อนสายตาไป
หยุดที่แชทแชทหนึ่ง

ผมมองก่อนจะตัดสินใจกดส่งไป

KSY : นอนยัง

ผมยกโทรศัพท์มองนิ่งๆ แอบหลุดขำชื่อที่พี่เขาตั้ง สักพักข้อความส่งกลับมา

พี่สิงโตแก่ของน้องหมา : ยังเลย พี่ทำการบ้านอยู่

KSY : เห

KSY : งานเยอะแล้วมาทำไม

เม้มปากเมื่อคนในสนทนาเงียบหายไป กดเล่นเกมส์ก่อนจะรีบปิดเมื่อข้อความเข้า

พี่สิงโตแก่ของน้องหมา : พี่ห่วงเรานั่นแหละ

KSY : ผมไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย

KSY : (ส่งสติกเกอร์เบ่งกล้าม)

พี่สิงโตแก่ของน้องหมา : งั้นเราก็อย่าน่ารักมาก รู้ไหมเรามีเสน่ห์อ่ะ

KSY : ผมไม่มีหรอกน่า

พี่สิงโตแก่ของน้องหมา : นี่ไม่รู้ตัวหรือไงว่าเราหวานจนพี่อยากกินไปหมดทั้งตัวแล้ว

ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เผลอทำหน้าแบบไหน

แต่ตอนนี้กลิ้งไปมาบนที่นอนแคบๆนี่จนเสียงมันดังไปหมด

ผมไม่ได้เขิน

ผมสาบานเลย

ผมหลุดยิ้มออกมาน้อยๆก่อนที่สมองจะสั่งการให้พิมพ์อะไรบางอย่างส่งไป

อะไรบางอย่างที่ผมคิดว่าควรทำให้มันชัดเจนเสียทีระหว่างพี่ซึงฮุนกับผม




ผมนอนไขว่ห้างอย่างอารมณ์ดีเมื่อคิดว่าพออีกฝ่ายได้อ่านข้อความแล้วจะทำหน้าอย่างไง

  ไม่ถึงห้านาทีอีกฝ่ายก็เดินมาเปิดประตูห้องผมอย่างรุนแรง

“ซึงยุน!!!!

พี่ซึงฮุนทำหน้าตกใจ มือที่ถือโทรศัพท์โบกไปมาในมือน่ากลัวจะพังเหลือเกิน

“ว่าไง”

“จริงนะ เราห้ามโกหกพี่นะ”

“อืม”

“ล้อพี่เล่นหรือเปล่า”

“ก็ถ้าถามอีกก็จะไม่ให้แล้ว”

“โอเค....” พี่ซึงฮุนเดินเข้ามาก่อนจะกระโจนใส่ผมเต็มแรง “พี่ไม่อดทนแล้วนะรู้ไหม”

“ก็ไม่ต้องอดทนแล้วไง”

“โอ้ย ไอ้ลูกหมาบ้าเอ้ย” พี่ซึงฮุนหอมแก้มผมอย่างแรง “ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่นะ ขอบคุณ”

“หึ บ้าบอว่ะ”

“พูดไม่เพราะเลย ต้องโดนลงโทษนะ”

พี่ซึงฮุนพูดก่อนจะก้มลงหอมแก้มทั้งสองข้างเต็มแรง ผมหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะผลักออก

“ไปทำงานได้แล้ว”

“หืม พี่ขออีกไม่ได้หรอ”

“ไปทำงานพี่ก่อนเหอะ เดี๋ยวไม่เสร็จ”

“อ่า”

“งั้นผมล็อคห้องนะ”

“หน่ะ พี่ไปทำงานต่อก็ได้ๆๆๆ ไม่ต้องล็อค ออ ไม่ต้องรอพี่นะ นอนไปเลย” อีกฝ่ายยีหัวเต็มแรงก่อนจูบหน้าผากผมแล้วรีบเดินไปทำงาน ผมมองอีกฝ่ายก่อนก้มดูข้อความที่ส่งไป ก่อนจะคลุมโปงเมื่อรู้สึกเขินกับสิ่งที่ทำลงไป




‘KSY : อยากกินก็มากิน  ผมยอมรับคำบอกรักพี่แล้วนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น