[OS] Kang Seungyoon x Lee Seunghoon x Song Minho
Story : Pitfall (Sweet Day)
“พี่ซึงฮุน พี่มินโฮ”
ซึงยุนเดินมาสะกิดคนตัวโตสองคนบนที่นอนก่อนจะผละออกไปบ้างนอกอีกครั้ง
วันนี้เป็นวันธรรมดาอีกวันที่ทั้งสองคนตื่นด้วยเสียงของซึงยุน
มินโฮลืมตาก่อนจะลุกขึ้นนั่งแบบมึนๆ
“พี่มินโฮพี่มีประชุมสามโมงนะ”
เสียงตะโกนของซึงยุนดังลอดมาจากในครัวก่อนที่มินโฮจะหันไปปลุกซึงฮุน
“พี่ซึงฮุน มีงานหรือเปล่าวันนี้”
“อื่อ พี่คอนเฟอร์เรนซ์ผ่านพี่จินวูแล้ว ไม่มีๆ”
ร้องบอกเบาๆก่อนจะเอาผ้านวมออกเช่นกัน นั่งมึนมองหน้ากันก่อนจะผลัดกันหาวออกมา
“พี่สองคนนี่นะ ต้องให้เข้ามาหรือไง”
เป็นเสียงซึงยุนบ่นจากข้างนอกก่อนเสียงฝีเท้าจะเดินขึ้นบันไดจะดังขึ้น
ซึงยุนเปิดประตูก่อนจะพบคนรักสองคนนั่งงอยู่บนเตียง “ตื่นได้แล้วน่า”
ซึงยุนเดินขึ้นไปคนที่นอนหลังใหญ่ก่อนจะนั่งลงตรงกลาง
คว้าคอของซึงฮุนก่อนจะแตะริมฝีปากเบาๆจนเกิดเสียง และหันกลับไปทางมินโฮบ้าง
“อรุณสวัสดิ์ครับ ตื่นได้หรือยัง”
“ตื่นแล้วครับ”
เป็นมินโฮที่ยกยิ้มกับการทักทายยามเช้าน่ารักๆของซึงยุน
ก่อนที่จะเป็นซึงฮุนลูบหัวซึงยุนเบาๆตอบรับ
เขาทั้งสามคนต่างยิ้มให้กัน
เป็นอีกเช้าที่พวกเขาอยู่กันพร้อมหน้าเพราะว่าซึงฮุนทำเรื่องโอนสาขาให้คิมจินวู
เลขาพ่วงพี่คนสนิทที่ตอนนี้เริ่มเข้ามาบริหารร่วมกันดูแลแทนแล้ว
ส่วนตัวเขาทำเรื่องย้ายมาอยู่กับมินโฮและซึงยุนที่ต้องการให้มาเหลือเกินจนสมใจคนเด็กสุด
“วันนี้พี่มินโฮประชุมถึงกี่โมง” ตักข้าวส่งให้มินโฮก่อนจะหยิบตะเกียบให้ซึงฮุนที่รออยู่
ซึงยุนเดินไปมาระหว่างที่ถามคำถามเพราะตั้งแต่ซึงฮุนย้ายมาพวกเขาสามคนก็ตัดสินใจที่จะให้แม่บ้านเข้ามาแค่ทำความสะอาดและจิปาถะอื่นๆแทน
ซึงฮุนก็ยังไม่ชินเท่าไรนักกับการที่มีคนรับใช้ตลอดเวลาและซึงยุนก็เริ่มสนใจการทำอาหารมากขึ้น
หน้าที่เลยไปอยู่ที่ซึงยุน ซึงดูจะพอใจมากที่ได้ทำอาหารให้กับคนรักทานเพราะเริ่มเบื่อขนมปังจริงจัง
“วันนี้พี่ประชุมบอร์ดบริหาร อาจมีดินเนอร์ค่ำอีก”
ซึงยุนชะงักมือก่อนจะหันกลับมามองเขม็ง
“ไม่ใช่ว่าแม่นางแบบนั่นมาเกาะแกะอีกนะ” ซึงยุนพูดเหน็บก่อนจะนึกถึงนางแบบตัวเล็กที่ตอนนี้มีข่าวกับมินโฮ
ไม่ใช่ว่าซึงยุนไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ค้าบริษัท
แต่มันก็อดคิดไม่ได้นี่นา!
“แหน่ะ หึงพี่อีกแล้วนะไอ้ตัวเล็กนี่”
“เปล่าซะหน่อย...” ซึงยูนทำแก้มพองลมก่อนจะมองอีกฝ่ายที่ยกกาแฟดื่ม
สายตามองตามซึงฮุนที่ยื่นสูทให้
“พี่ไปละนะ” ยื่นหน้ามาหอมแก้มซึงยูนเบาๆก่อนจะยีหัว
และหันกลับไปโค้งให้ซึงฮุน ซึงฮุนยกยิ้มก่อนโบกมือเป็นเชิงให้ระวังตัว
ก่อนจะหันมามองซึงยูนที่ก้มหน้าเขี่ยข้าว
“วันนี้ออกไปข้างนอกกันไหมซึงยุนอา”
“หือ” ซึงยุนเงยหน้ามองซึงฮุน เพราะร้อยวันพันปีซึงฮุนไม่ค่อยได้ออกไปไหนกับซึงยุนสักครั้ง
จะมีก็แต่ตอนออกไปพร้อมกันสามคนเท่านั้น
“ไปกินข้าวนอกบ้านกัน ไหนๆ มินโฮก็ไม่อยู่ พี่มีที่อยากไปด้วยหน่ะ”
“ทีนี่....”
ซึงยุนพูดออกมาเสียงเบาเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงสถานที่ที่ซึงฮุนอยากมา
โบสถ์ที่ซึงยุนมักมาภาวนาบ่อยๆ
และเป็นสถานที่ที่ซึงยุนและซึงฮุนพบกันครั้งแรก
“อืม ที่นี่นี่แหละ” ยกยิ้มก่อนพาอีกฝ่ายไปพบบาทหลวง
ท่านยิ้มให้ทั้งสองคนก่อนถาม
“มิสเตอร์อี...กันเด็กน้อยผู้หลงทาง” เสียงเนิบช้าเอ่ยเบาๆ
“บาทหลวงสบายดีนะครับ”
“สบายดีเท่าทีเธอเห็นนั่น ว่าแต่วันนี้คนข้างหลังเธอ
ไม่มาภาวนาเท่าไรนักแล้วหรือ”
“ครับ” ซึงยุนยกยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้
ทั้งที่ปกติมาไม่ค่อยพบใครนัก “ไม่คิดว่าบาทหลวงจะจำผมได้เลย”
“สถานที่นี้มักมีผู้หลงทางในชีวิตมาบ่อยครั้ง
เธอเป็นคนที่บาทหลวงจำได้เสมอ”
ซึงยุนยกยิ้ม ก่อนมองหน้าซึงฮุน
เพราะความมืดมนหลงทางทำให้เราบังเอิญมาพบกัน
ทั้งซึงยุน ซึงฮุน และมินโฮ
“น่าแปลกที่เธอไม่พาอีกคนมาด้วย ติดงานหรือ”
“บาทหลวงรู้จักมินโฮด้วยหรือครับ”
“ผู้คนหลากหลายมักแวะเวียนมามิสเตอร์อี” บาทหลวงตอบข้อข้องใจซึงฮุน “มิสเตอร์ซงมาที่นี่บ่อยอยู่เช่นกัน”
ซึงฮุนและซึงยุนมองหน้า ก่อนที่บาทหลวงจะขอตัวออกไปทำธุระ
เหลือเพียงคู่รักสงคนนั่งที่เก้าอี้ตัวยาว
“มินโฮมาที่นี่บ่อยมาก
ตอนที่เขามีเรื่องไม่สบายใจ...ผมก็พบกับเขาครั้งแรกที่นี่เหมือนกัน”
ซึงยุนพูดหลังจากนั่งคิดอะไรได้สักพัก “พี่คิดว่ามินโฮเป็นอะไร”
“พี่ไม่แน่ใจเท่าไรนะซึงยุน รายนั้นไม่ค่อยบอกอะไรแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
ซึงฮุนลูบหน้าก่อนจะมองอีกฝ่าย “กังวลหรอซึงยุน”
“ก็นิดหน่อย อีกฝ่ายไม่ค่อยบอกอะไรผมเหมือนกัน ยกเว้นจะเค้นเอา”
ซึงฮุนหลุดหัวเราะเมื่อซึงยุนเข้าโหมดดื้อ เขาไม่ได้มองว่าเป็นเป็นเรื่องน่ารำคาญเท่าไรหากความรู้สึกนั่นเกิดขึ้นเพราะเป็นห่วงอีกฝ่ายอย่างจริงจัง
ลูบหัวซึงยุนแผ่วเบาก่อนจะกุมมือ
“พี่รักเรานะซึงยุน...รักเราเหมือนที่พี่เองก็รักมินโฮ”
“ผมก็รักพี่ทั้งสองคนเหมือนกัน”
“อย่าคิดมากเลยเรื่องมินโฮ พี่คิดว่าอีกฝ่ายมีเหตุผล”
ซึงยุนช้อนตามองอีกฝ่าย
ใบหน้าที่ดูกังวลใจทำให้ซึงฮุนรู้สึกคิดไม่ผิดที่พาอีกฝ่ายมาสถานที่แห่งนี้
สถานที่แห่งความทรงจำที่ทั้งสามคนต่างมีร่วมกัน
แม้ช่วงเวลาและสถานการณ์จะต่างกันมากก็ตาม
“อยากไปไหนอีกหรือเปล่าครับคุณหนู”
“ไอ้พี่บ้า” ซึงยุนตีก่อนยิ้มเขินกับสรรพนามที่อีกฝ่ายพูด “พี่บอกจะพาผมเที่ยว”
“งั้นเที่ยวอยู่ในใจพี่แบบนี้นั่นแหละ” ซึงยุนกรอกตาเล็กน้อยเมื่อเจอมุกหยอดอีกฝ่าย
“อายุอานามก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่ ดูพูดเข้า”
“5555 พี่ก็เห็นเราชอบนี่”
มันก็จริง
ซึงยุนยกยิ้มทั้งที่ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ
“เดินเล่นอย่างนี้ไปเรื่อยๆก็ได้ ผมอยากชิว”
“ครับผม”
ซึงฮุนกุมมืออีกฝ่ายก่อนจะพาเดินตามทาง
แถวนี้เป็นย่านการค้าที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมบ่อย ผู้คนไม่ได้มากมายถึงกับขนาดเบียดเสียดทำให้ทั้งสองคนจูงมือไปได้
เดินเล่นซึมซับความรู้สึกดีๆที่มีแก่กัน นานครั้งที่ซึงยุนจะได้ออกมาเที่ยวเหมือนเป็นการผ่อนคลายไปในตัว
“แวะร้านนี้กัน”
ซึงฮุนพาอีกฝ่ายเดินเข้าร้านอาหารกึ่งบาร์
“มีอาหารเกาหลีด้วยอ่ะ ทำไมผมไม่เคยเห็นร้านนี้” ซึงยุนพูดด้วยความตื่นเต้น
ก่อนที่จะนั่งลงที่โต๊ะที่ซึงฮุนพามา บริกรเดินมาเพื่อส่งรายการอาหาร พูดเป็นภาษาเกาหลีก่อนที่ซึงฮุนจะล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา
“ถ่ายรูปกันครับ”
ยกยิ้มให้กล้องเมื่ออีกฝ่ายทำหน้าตาอ้อนซบที่ไหล่ เลือกดูรูปก่อนจะกดตั้งเป็นวอลเปเปอร์โทรศัพท์
“น่ารักนะเรา”
“พี่ก็น่ารัก...” ซึงยุนเหลือบตามองซึงฮุนก่อนสายตาจะชะงักไปทางด้านหลัง “ทำไม”
“หือ” ซึงฮุนมองตามอีกฝ่ายก่อนจะเห็นสิ่งที่ทำให้ซึงยุนนิ่งไป
ซงมินโฮ กับคู่ค้าที่เคยตกเป็นข่าวกัน
“พี่...ผมไม่อยากกินแล้ว”
ซึงยุนวางอาหารที่พร่องไปได้เพียงนิดเดียว
ใบหน้าเศร้าขึ้นจนซึงฮุนใจเสีย
“กลับไหม”
“อืม”
น่าใจหายเมื่อเห็นท่าทีอีกฝ่าย
ซึงฮุนที่ไม่อยากขัดใจมากจึงเรียกบริกรมาเช็คบิล เสียงที่ดังคุ้นหูทำให้มินโฮที่นั่งโต๊ะไม่ไกลนักชะงักมือที่กำลังทานอาหารและเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าเศร้าของซึงยุนทำให้หัวใจของซงมินโฮกระตุกรัว
ไม่น่า
อีกฝ่ายเห็นงั้นหรอ
ซงมินโฮกระอักกระอ่วนเมื่ออีกฝ่ายเดินฝ่ายแต่ไม่มองหน้าสักนิด
ส่วนซึงฮุนที่เดินตามหลังหยุดที่โต๊ะก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว
“กลับไปเคลียร์ด้วย ห้ามดึกเข้าใจไหม”
มองหน้า ตบบ่าเป็นเชิงเข้าใจก่อนที่จะเดินตามคนตัวเล็กไป
มินโฮอยากจะลุกเสียตอนนี้ ถ้าหากไม่ติดว่าคนตรงหน้าเป็นคู่ค้าคนสำคัญ...เขาคงไม่ทนเห็นใบหน้าที่แทบจะน้ำตาคลอนั่นแน่ๆ
ซงมินโฮ
ไอ้บ้าเอ้ย
ซึงยุนนั่งนิ่งตลอดทาง
ใบหน้าที่เหงาหงอยทำให้ซึงฮุนอดไม่ได้ที่จะกุมมืออีกฝ่ายที่เหม่อออกนอกหน้าต่างขณะที่ติดสัญญาณไฟแดง
“ซึงยุน”
“หือ”
ซึงฮุนไม่พูดอะไร ก่อนจะจับใบหน้าใสนั้นเชยขึ้น
ริมฝีปากประกบเพียงแผ่วเบาก่อนจะผละออกและจับศีรษะซบบ่า ยกมือขึ้นลูบหับเบาๆ
“ไม่คิดมากนะครับ ไว้ใจมินโฮเถอะ มันไม่มีอะไรหรอก”
“ผมรู้ พี่ซึงฮุน...ผมรู้”
“รู้แล้วทำไมยังงอแง”
“ผมกลัว...ผมแค่กลัวแค่นั้นเอง”
“...”
“ผมเป็นคนไม่ดีเลย ทั้งที่ความจริงมันไม่ควรเป็นแบบนี้
ผมไม่สมควรได้รับความสุข”
“...”
“ผมไม่ควรได้รักพี่สองคนด้วยซ้ำ
ผมไม่เหมาะสมเลย...ทั้งพี่เองและก็พี่มินโฮ”
“อย่าพูดอย่างนี้”
ซึงฮุนกุมมืออีกฝ่ายก่อนขยับเปลี่ยนเกียร์รถเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนสี “พี่จะทำให้เรารู้ซึงยุน
เราเป็นคนที่มอบความรัก ทั้งที่พี่ไม่สมควรด้วยซ้ำ”
อัตราเร็วเพิ่มขึ้นจนน่าใจหาย
ซึงยุนก้มหน้ากัดปากทั้งที่น้ำตาไหลออกมา ไม่มีเสียงสะอื้นออกมา
เขารู้ว่าซึงฮุนกำลังโมโห
มันเป็นครั้งแรกที่ซึงฮุนแสดงอารมณ์ออกมาแบบนี้
กลัว...
เปิดประตูรถก่อนจะปิดมันเต็มแรงเมื่อถึงบ้านพัก
ซึงฮุนเดินอ้อมมาเปิดรถก่อนก้มตัวเข้าไปดึงอีกฝ่ายอุ้มขึ้นบ่า
แม่บ้านที่อยู่ตกใจเมื่อเห็นว่าสองคนกลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก คิ้วซึงฮุนขมวดเป็นปมส่วนซึงยุนร้องไห้สะอื้น
ซึงฮุนส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไรก่อนจะอุ้มอีกฝ่ายขึ้นห้องนอน
วางอีกฝ่ายไม่เบาเท่าไรนักก่อนจะยืนเอ่ยเสียงนิ่ง
“ไหน พูดมาซิซึงยุน”
“...”
“เมื่อกี้เราพูดอะไรกับพี่”
“...”
“เราบอกว่าไม่สมควรรักพวกพี่งั้นหรอ”
ซึงยุนไม่พูดอะไรออกมา เม้มปากแน่น
ใบหน้าและปลายจมูกแดงก่ำจนคนที่ยืนอยู่อดใจอ่อนไม่ได้
แต่ซึงฮุนต้องอดทน ต้องแข็งใจ
เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่มีคุณค่า ทั้งที่ตัวเองมีค่ามากขนาดนี้
“เงยหน้ามองพี่คังซึงยุน” เอ่ยออกมาเต็มเสียงก่อนจะกอดอกนิ่ง
ซึงยุนเงยหน้าช้าๆ ท่าทีตัวสั่น
“พี่...”
“รักพี่ไหม”
อีกฝ่ายพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าลงไปจนชิดอก
ซึงฮุนขยับจนชิดอีกฝ่ายก่อนจะสวมกอดแน่น
ปล่อยให้อีกฝ่ายร้องไห้เงียบๆก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนลง
“ไม่คิดอย่างนี้นะ พี่โกรธเรามาก รู้ตัวไหม”
เสียงอู้อี้ดังจากอกก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง “มันไม่มีอะไรทั้งนั้น พี่จะรอให้มินโฮอธิบาย
ถ้ามันมี...พี่ต่อยให้เอง”
ซึงยุนส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะกอดแน่น เขาไม่ได้ต้องการแบบนั้น
เขาไม่ได้ต้องการให้คนรักมาทะเลาะกันเอง และเขาก็ไม่ได้ต้องการมีปากเสียง
เขาแค่รักมากไป...แค่นั้นเอง
ซึงฮุนกอดอีกฝ่าย ลูบศีรษะไปมาจนเสียงสะอื้นลดลง ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอบ่งบอกว่าอีกฝ่ายคงเหนื่อยจากการเที่ยวเล่นวันนี้และความรู้สึกที่ต้องแบกรับจนเผลอหลับไป ซึงฮุนค่อยๆผละอีกฝ่ายออกเพื่อให้นอนพัก
ขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆแล้วแต่มินโฮยังไม่กลับมา
ละออกก่อนจะเดินลงมาพบกับแม่บ้านที่ยืนทำหน้าไม่สบายใจเท่าไรนัก
“ผมโอเคครับ กลับก่อนเถอะ กว่ามินโฮจะกลับมาคงดึก”
โค้งให้อีกฝ่ายเฉกเช่นปกติก่อนที่แม่บ้านจะละออกไป
ซึงฮุนนั่งคิดทบทวนอะไรในใจก่อนที่ครู่ต่อมาเสียงรถจะแล่นเข้ามาในเขต
“พะ...พี่”มินโฮกระหืดกระหอบเดินเข้ามาหาอีกฝ่าย เสื้อสูทเรียบในช่วงเช้ายับย่น
“ซึงยุน...”
“นอนไปแล้ว...ร้องไห้หลับไป”
มินโฮชะงักกับคำตอบก่อนจะเงยหน้ามองคนพี่
สีหน้าเรียบนิ่งที่ซึงฮุนส่งมาทำให้หัวใจมินโฮหวั่นตาม
“ผมขอโทษ”
“คนที่ควรขอโทษไม่ใช่พี่ แต่เป็นซึงยุน”
ซึงฮุนปล่อยมือออกจากอกก่อนถอนหายใจ “ซึงยุนร้องไห้เพราะคิดว่าไม่ควรมีความรัก
เราไม่เห็นค่าเขามากพอหรอมินโฮ”
เหลือเพียงความเงียบระหว่างซึงฮุนและมินโฮที่ต่างคนต่างจมไปในห้วงความคิด
“ไปอาบน้ำไปมินโฮ เดี๋ยวพี่ขึ้นไปดูซึงยุนก่อน เราก็ค่อยตามไปละกัน”
ตัดสินใจเดินออกไปจากบริเวณนั้นก่อนเดินขึ้นชั้นสอง
มินโฮถอนหายใจก่อนเดินเพื่อไปอาบน้ำ เปลี่ยนใจอาบน้ำที่อีกห้องเพราะไม่อยากรบกวนอีกคนที่คงนอนอยู่ที่ห้องนอนก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน
ซึงฮุนนั่งอยู่ที่ปลายเตียง
ไฟห้องถูกหรี่ลงก่อนที่มินโฮจะเดินอ้อมอีกฝั่งไปดูซึงยุน
“สงสัยหลับอีกรอบ คงเพลีย วันนี้พี่พาไปโบสถ์มา”
พูดเพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนการแต่งตัวเป็นชุดนอนไปแล้ว
มินโฮพยักหน้าก่อนจะสอดตัวใต้ผ้าห่ม มองหน้าคนรักที่ตอนนี้ดูบวมเล็กน้อย ซึงฮุนเดินไปปิดไฟก่อนจะล้มตัวนอนตามเช่นกัน ตะแคงใบหน้าเข้าหาฝั่งซึงยุนและมินโฮก่อนจะสอดแขนกอดซึงยุนพาดไปถึงอีกคน “นอนเถอะ”
“ฝันดีครับพี่ ขอโทษนะ”
“อืม ฝันดี ไม่ต้องคิดมาก”
มินโฮรู้สึกอึดอัดในช่วงกลางดึกก่อนจะตื่นขึ้นมา
ดวงตาไม่ค่อยชินกับความมืดเท่าไรนักก่อนจะพบว่าเป็นซึงยุนที่นั่งอยู่ เหลือบมองนาฬิกาก่อนจะพบว่าเป็นเวลาช่วงตีหนึ่งกว่าๆ
“เป็นอะ...” ไม่มีแม้แต่สัญญาณอะไร
ซึงยุนนั่งทับที่หน้าขาอีกฝ่ายก่อนจะเลิกเสื้อของมินโฮขึ้นอย่างรวดเร็วเสียจนตั้งตัวไม่ติด
ริมฝีปากคลอเคลียที่ใบหูมินโฮร้อนผ่าวจนต้องเบือนหน้าหนีไปหาซึงฮุนที่ตอนนี้ยังคงหลับสนิท
“ซะ..ซึงยุน”
คนบนตักดึงให้ลุกนั่ง มินโฮชันตัวขึ้นมาก่อนริมฝีปากจะประกบอย่างเอาแต่ใจและผละออก
“พี่ทำให้ผมเสียใจ”
พูดก่อนก้มลงเอาจมูกเขี่ยที่ซอกคอ
ขบเม้มที่ใต้กกหูจนมินโฮครางฮืมออกมา
“พี่ออกไปกับคนนั้น พี่ไม่อธิบาย”
“อึก”
ร้องออกมาอีกครั้งเมื่อซึงยุนใช้ฟันกัดที่ต้นคอย้ำๆ
แม้ไม่แรงมากแต่เล่นเอาความเจ็บแปล๊บแล่นไปทั่วร่างกาย
ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียแผ่วเบา
“ผมน้อยใจพี่มากนะพี่มินโฮ พี่ไปไหนไม่ค่อยบอกเลย”
ละออกมาอีกครั้งก่อนดูดดึงที่ลำคออีกข้าง ไม่ต้องเดาให้ยากพรุ่งนี้คงเป็นรอยจ้ำไปทั่วทั้งซ้ายขวา
มินโฮยกมือขึ้นลูบหลังอีกฝ่ายอย่างกลั้นใจเมื่อสะโพกนุ่มยกเสียดสีกับกางเกงนอน
ความบางของมันแทบทำให้รับรู้ถึงตัวตนกันและกัน ปล่อยให้ซึงยุนดูดดึง
ขบเม้มและกัดตามที่อีกฝ่ายต้องการแม้ว่าริมฝีปากที่ร้อนผ่าวจะสั่นเทา
ซึงยุนร้องไห้ไปดูดดึงต้นคอไป จนมินโฮต้องบีบคลึงสะโพกแผ่วเบา
“พี่ขอโทษ พี่ขอโทษนะซึงยุน”
จ๊วบ...
เสียงดูดดึงที่ซอกคอเริ่มดังขึ้นโดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรกลับ ริมฝีปากอิ่มของซึงยุนดูดดึงรุนแรงขึ้น
เล็บจิกไหล่กว้างผ่านเนื้อผ้าบาง
“พี่ไม่ได้นอกใจเรา พี่ทำเพราะงาน พี่ไม่มีทาง อึก...นอกใจเรา”
มินโฮเงยหน้าตามแรงดึงที่ซึงยุนชักนำ
มือเรียวขย้ำกลุ่มผมของมินโฮก่อนดึงไปทางด้านหลัง กัดทั้งที่สั่นไหวก่อนที่ริมฝีปากของคนบนตักจะร้องออกมาแผ่วเบาเมื่อรับรู้ว่าคนรักอีกคนตื่นขึ้นมาเช่นกัน
“ซึงยุนอา...” ซึงฮุนพูดออกมาเสียงแผ่วก่อนสอดมือบดขยี้ยอดอกใต้เสื้อนอนอีกครั้ง
“หมดเวลางอนแล้วตัวเล็ก”
“ไม่ร้องไห้นะ พี่ขอโทษ” จูบซับน้ำตาให้อีกฝ่ายก่อนจะเริ่มตั้งตัวได้
ริมฝีปากลากไล้ไปที่ดวงตาที่วันนี้บวมช้ำก่อนจะยกมือกอบกุมใบหน้าหวาน “ยกโทษให้พี่นะ”
“พี่บ้า มีอะไร อึก มะ ไม่บอกกัน”ทุบอกมินโฮก่อนที่จะร้องออกมาเมื่อซึงฮุนจับสะโพกให้ยกสูงขึ้น
เรียวขาสวยถูกยกเล็กน้อยเพื่อรูดเอากางเกงนอนตัวบางออก ความเย็นของแอร์ตกกระทบเนื้อที่โผล่พ้นเสื้อนอน
มินโฮปลดกระดุมเสื้อนอนของซึงยุนเพียงสองสามเม็ดก่อนรูดให้ตกที่ข้อพับแขนเผยไหล่ขาว
“พวกพี่ อ๊ะ ขี้โกง”
“ไม่ๆ พี่ไม่ได้ขี้โกงนี่ เราเริ่มก่อน”
ซึงฮุนพูดเสียงแผ่วก่อนเริ่มดูดดึงเนื้ออ่อนต้นขาที่ตอนนี่สั่นไหวน้อยๆ พึมพำออกมาไม่เป็นคำพูดก่อนที่มินโฮจะเป็นฝ่ายปรนเปรอซึงยุนบ้าง
ริมฝีปากเข้มขบเม้มที่ริมฝีปากนุ่มหยุ่นก่อนกวาดลิ้นเข้าไปเมื่ออีกฝ่ายเผยออกรับ
นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าอีกฝ่ายยกโทษให้แล้ว
ลูบหัวเป็นเชิงขอบคุณที่เข้าใจก่อนจะยกมือทั้งสองข้างวางที่อก
นิ้วโป้งเกลี่ยถูไถจนยอดอกแข็งขืน ซึงยุนสั่นเมื่อถูกปรนเปรอทุกจุดที่ตนเองชอบ
น้ำตาและเสียงสะอื้นเหือดหายไปเหลือเพียงเสียงครางออกมาด้วยความพึงพอใจ มือปัดป่ายดึงกางเกงนอนของมินโฮลงจนเห็นอันเดอร์แวร์ที่มินโฮใส่
ผละริมฝีปากออกก่อนแอ่นตัวเมื่อมินโฮก้มลงดูดดึงยอดอก
“อ่ะ..อา พี่ พี่”
ร้องออกมาไม่เป็นภาษาเมื่อทั้งซึงฮุนและมินโฮพร้อมใจกันปรนเปรอไม่หยุด
รับรู้ความเปียกชื้นที่ช่องทางหลังเมื่อซึงฮุนสอดลิ้นเข้ามา
อ้าขาออกกว้างทั้งที่สั่น ส่วนอกก็แอ่นขึ้นเมื่อแรงดูดดึงมาพร้องกับขบกัด
“อึก อื้อ อ่า ลึกๆพี่ซึงฮุน”
ซึงฮุนยกมือจับสะโพกที่เริ่มส่ายตอบรับ บีบขย้ำและตีเบาๆพอให้อีกคนรู้สึกดี
ผละออกจากช่องทางหลังที่ชุ่มฉ่ำก่อนเห็นว่าอีกคนเคลิ้มมากขึ้น
“วันนี้เอายังไงพี่ให้เลือก”
“ตามใจซึงยุ...อึก” ไม่ปล่อยให้เว้นจังหวะนาน
ซึงยุนเอื้อมมือไปรูดรั้นแกนกายของมินโฮก่อนที่จะผละใบหน้าออกไปทางซึงฮุน
รูดกางเกงของซึงฮุนออกก่อนครอบริมฝีปากลงด้วยความใจร้อน ส่วนมืออีกข้างยังคงกำของมินโฮและรูดรั้งอยู่เรื่อยๆ
ซึงฮุนหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใช้ริมฝีปากให้
ลูบหัวก่อนสวนกระแทกเบาๆจนอีกฝ่ายต้องดันหน้าขาของซึงฮุนออกก่อนจะผละจากซึงฮุนไปที่มินโฮบ้าง
“อึก ซึงยุน ร้อนแรงเป็นบ้า”
“ไม่ชอบหรือไง” ซึงยุนคายออกก่อนใช้แก้มนุ่มถูแผ่วเบาสลับไปมา
ซึงฮุนซี้ดปากเมื่อลิ้นเล็กๆยังเลียส่วนปลายราวกับแมวอ้อนทั้งๆที่แกนกายของมินโฮก็อยู่ใกล้กัน
“ถ้าหึงแล้วเป็นอย่างนี้พี่ทำให้หึงบ้างดีไหม”
“ไม่เอา” ซึงยุนขู่เสียงฟ่อก่อนผลักซึงฮุนให้นอนหงายไป
ก้าวขาขึ้นคร่อมก่อนจับแกนกายซึงฮุนจ่อที่ช่องทางหลัง “วันนี้เข้าพร้อมกัน
ผมไม่ไหวแล้ว”
“ตามบัญชาครับ”
“อ่ะ...อึก ใหญ่” ซึงยุนพึมพำเมื่อสอดแกนกายซึงฮุนเข้าไปในช่องทางหลัง
ขยับสะโพกสองสามครั้งก่อนนอนทับซึงฮุนที่รอป้อนจูบแสนหวาน มือของซึงยุนจิกแขนพี่ใหญ่สุดขณะที่อีกฝ่ายเอื้อมมือแหวกก้นกลมที่ขยับขึ้นลงยั่วสายตามินโฮ
มินโฮไม่รอช้าเมื่ออีกฝ่ายต้องการแบบนั้น รูดรั้งแกนกายตัวเองก่อนจะค่อยๆสอดร่างกายเข้าไปมีส่วนร่วมในบทรักครั้งนี้
ซึงยุนผละใบหน้าออก เชิดหน้าก่อนจะเบิกตากว้าง
“อ่ะ อ๊า อ๊า” ร้องออกมาเสียงหลงอย่างไม่กลัวใครจะมาได้ยินเมื่อมินโฮสอดใส่เข้าไปได้เล็กน้อยก่อนที่จะกระทั้นอย่างรุนแรง
“พี่ แรง อึก อ่า”
เหงื่อไหลลงตามลำคอขาวที่ตอนนี้มินโฮกำลังดูดดึง
สะโพกยกตอบรับสอดคล้องทั้งมือของซึงฮุนที่รูดรั้งแกนกายของซึงยุนและแกนกายของทั้งสองคนที่ผลัดกันสอดใส่แตกต่างตามอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น
ซึงฮุนก้มดูดดึงยอดอกล่อตาก่อนกัดมันจนแดงก่ำ มืออีกข้างเค้นสะโพกจนแทบเหลวคามือ
เขาสังเกตว่าอีกฝ่ายมีเนื้อหนังมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แก้มที่พองขึ้นนั่นน่าฟัด
ไหนจะสะโพกที่ผายมากขึ้นเพราะกิจกรรมรักรูปแบบที่ทำอยู่ แม้ไม่ใช่บ่อยครั้งแต่ซึงฮุนสัมผัสได้ว่ารูปร่างของอีกฝ่ายเหมือนผู้หญิงที่ใกล้มีบุตรไม่เชิง
“อ่ะ อ่าๆ มีแรงแค่นี้หรอซึงยุน”
ซึงฮุนพูดหยอกอีกฝ่ายก่อนจะต้องร้องออกมาเหมือนจุกเมื่อแรงขย่มมากขึ้น
“พี่อย่าเสร็จก่อน...อื้อ” มินโฮคว้าคออีกฝ่ายก่อนป้อนจูบ
กระแทกแกนกายเข้าช่องทางร้อนที่ตอดรัดแรงขึ้นเต็มทีแม้ปากจะดีแค่ไหนก็ตาม
“อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่ไหมซึงยุน”
ผละริมฝีปากออกก่อนความฉ่ำเยิ้มจะย้อยออกมาตาม
ซึงฮุนยกคอขึ้นจูบต่อไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตอบอะไรก่อนชันขาเพื่อสวนสะโพกมากขึ้น
กิจกรรมรักของทั้งสามคนใกล้ถึงจุดสิ้นสุดเต็มที
แต่ความร้อนแรงของซึงยุนกลับสวนทางกัน
“อ่า พี่ พี่ ผมจะ”
“อีกนิด อีกนิด” ซึงฮุนกัดที่ไหล่ของซึงยุนที่ไถลซบและร้องครางให้ฟัง
มองใบหน้าชื้นเหงื่อของมินโฮที่หรี่ตามองก่อนที่จะส่งสัญญาณแก่กันและกัน
ก่อนที่ซึงยุนจะกระตุกเต็มแรง
“อ๊า อ้า อึก” ร้องเสียงหลงเมื่อน้ำสีขุ่นพุ่งเปรอหน้าท้องซึงฮุนจนเหนอะหนะไปหมด
ส่วนมินโฮที่กระแทกอีกสองสามครั้งก่อนที่จะหลั่งออกมาพร้อมกับซึงฮุน
ฉีดพ่นความอุ่นร้อนจนซึงยุนผวากำผ้าปูแน่น
“อ่ะ..อา”ร้องครวญเสียงแผ่วเมื่อมินโฮถอนแกนกายออก
น้ำสีขุ่นไหลย้อนออกมาตามจะเปรอะผ้าปูที่นอน ก่อนที่ซึงฮุนจะขยับออกบ้าง
ซึงยุนหอบหายใจแผ่อยู่บนตัวซึงฮุนก่อนที่มินโฮจะเป็นฝ่ายสอดแขนเพื่ออุ้มคนรักที่วันนี้ร้อนแรงเหลือเกินไปล้างตัว
“เจ็บไหมเด็กดื้อ”
“ฮื้อ...แต่รู้สึกดีมากกว่า”
พูดทั้งที่เสียงเริ่มแหบเพราะใช้เสียงมากไป
ดูดดึงไหล่มินโฮที่อุ้มเดินเข้าห้องน้ำทั้งที่เปลือยเปล่า
“อย่าดูด เดี๋ยวพี่เกิดอารมณ์อีก”
ปรามไม่จริงจังก่อนจะเปิดฝักบัวเพื่ออาบน้ำให้อีกฝ่าย
ซึงยุนหมดแรงปล่อยให้มินโฮสอดนิ้วเพื่อทำความสะอาดให้
“อ่ะ อ๊ะ”
“ร้องทำไมเนี่ย” ซึงฮุนเดินตามมาก่อนวางผ้าขนหนูแห้งที่เคาท์เตอร์ กดสบู่อาบให้คนรัก
ถูทั้งซึงยุนและมินโฮจนร่างกายไม่มีคราบเปรอะก่อนจะเช็ดตัว “มินโฮพาซึงยุนเข้าไปเลย
เปลี่ยนผ้าปูแล้ว”
“ครับ”
อุ้มอีกฝ่ายวางบนที่นอนก่อนสวมเสื้อผ้าให้
ส่วนตัวเองแค่สวมกางเกงนอนก่อนล้มตัวลงนอนข้างกัน ไม่นานซึงฮุนก็อาบน้ำเสร็จและล้มตัวนอนด้วยอีกฝั่ง
พักหายใจหายคอก่อนที่มินโฮจะเอ่ยเสียงแผ่ว
“หึงได้รุนแรงมากซึงยุน”
“ร้อนแรงด้วย”
ซึงฮุนเอ่ยย้ำก่อนที่มือของคนที่นอนกลางจะตีทั้งที่ไม่มีแรง
“ไม่ต้องแซวเลย พรุ่งนี้ต้องอยู่ดูแลผมด้วย เจ็บหนักขนาดนี้”
“พี่คงไม่ออกไปไหนแล้วหล่ะ เราทำรอยไว้ขนาดนี้” มินโฮบ่นอุบ
“สภาพแต่ละคนดูไม่จืด อย่างกับโดนหมาฟัด” ซึงฮุนพูดบ้างก่อนที่ซึงยุนจะแก้มพองลม
“รอยที่พี่บอกว่าเหมือนหมาฟัดนั่นเมียพี่ทำนะ”
ทั้งซึงฮุนและมินโฮหัวเราะออกมาน้อยๆกับประโยคที่ดูตลกนั่นก่อนกอดซึงยุน
“น่า พี่ล้อเล่น เนาะมินโฮ”
“อือ นอนได้แล้ว ฝันดีนะ”
“อือ..ผมรักพวกพี่นะ”
“พี่ก็รักเรา” ซึงฮุนหอมแก้มซึงยุนก่อนที่มินโฮจะหอมอีกข้าง
“รักเราเหมือนกันครับ”