BABYHOONIE

BABYHOONIE

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon : But I… [11]

[SF] Lee Seunghoon x Kang Seungyoon

Story : But I… [11]






“โอ๊ตตึย่าห์ มานี่มา” ผมเรียกเจ้าลูกหมาขายาวของพี่ซึงฮุน ได้ยินอีกฝ่ายบอกมานานแล้วว่าที่หอเลี้ยงหมาไว้ ผมเองก็ยังไม่เคยเห็น วันนี้ดีจริงที่ได้มาเจอมัน

เรื่องราวคืนก่อนหลังจากที่อีกฝ่ายบอกจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อที่จะเข้ามาหาผม กลายเป็นว่ากว่างานจะเสร็จก็เช้าของอีกวัน ผมเปิดประตูห้องพี่จีโฮเข้าไปก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายสลบคากองงานเลยทีเดียว

ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

...จริงๆนะ ไม่มีอะไร

ผมนั่งลูบลูกหมาขนเตียนก่อนที่มันจะเดินซนไปมา เมื่อเห็นว่าเจ้าของตัวจริงเดินตามมันจึงละออกจากผมเพื่อไปหาอีกฝ่าย ท่าทางอิดโรยนั่นทำให้ผมอดเป็นห่วงไม่ได้ อีกฝ่ายอุตส่าห์ไปรับผมที่คณะมาเพราะว่าผมเองยังไม่ได้กลับไปนอนที่หอ แทฮยอนก็ออกไปทำงานรับจ้างพิเศษซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคืออะไรเพราะยังไม่ได้คุยกับมันเลย

“ความจริงไม่ต้องไปรับก็ได้นะ เดี๋ยวกลับไปหอพี่จีโฮเองก็ได้”

“อยากเจอแฟนน่า แวะมาให้พี่ชาร์จแบตหน่อย” พี่ซึงฮุนพูดแค่นั้น ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนพรมที่ผมนั่งอยู่ หัวเกยที่ตักก่อนจะหลับตาพริ้ม

ผมนั่งตัวแข็งทื่อ เกิดมาไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับผมสักครั้ง

เป็นครั้งแรก....อีซึงฮุนเป็นครั้งแรก

จู่ๆหน้าผมก็รู้สึกร้อนแปลกๆ ให้ตายเหอะ คิดอะไรไปไกลกัน

เสียงลมหายใจผะแผ่วสม่ำเสมอทำให้ผมก้มลงมองอีกฝ่าย ใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้าปรากฏเด่นชัดทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะลูบผมแผ่วเบา เส้นผมนุ่มลื่นออกสีน้ำตาลอ่อนๆที่คล้ายกับสีของดวงตาที่ดูอบอุ่นยามที่จดจ้องมาทางผม

“เรียนหนักน่าดูเลยสินะเนี่ย”

พูดออกมาแผ่วเบาก่อนจะลูบไปเรื่อยๆ ไม่มีเสียงอะไรออกมา ผมได้แต่มองอยู่แค่นั้น อีกฝ่ายดูท่าจะเผลอหลับจริงจัง ผมลอบสำรวจใบหน้านั่นก่อนจะมองไปทั่วทั้งห้อง มองไปทั่วก่อนสุดท้ายสายตาจะมาหยุดที่คนตรงตักอีกครั้ง

จู่ๆใจก็เต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาเงียบๆ

...อยากจูบ

เมื่อรู้สึกก็ควรแสดงออกไปตรงๆใช่ไหมนะ?

ผมเอามือสัมผัสเส้นผมของพี่ซึงฮุน ปัดออกเบาๆหลังจากลูบมันมานาน ก่อนที่จะค่อยๆโน้มตัวลง ระมัดระวังไม่ให้ผมหน้าม้าของตัวเองโดนอีกฝ่าย ริมฝีปากผมค่อยๆประทับลงที่อวัยวะที่เดียวกันก่อนจะผละออกอย่างรวดเร็ว

ตาเบิกกว้างก่อนจะมองด้วยใจหวั่นๆ

หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ตัวนะ...

ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังหลับสนิท ยกยิ้มและเอ่ยออกมาเบาๆ

“ให้รางวัลกับความเหนื่อยและก็พยายามหรอกนะ ไอ้พี่สิงโตบ้า”




“อ่า พี่ขอโทษนะ พี่นอนไปนานไหม”

“ไม่นานหรอกมั้ง ขาชาเลยเนี่ย” ผมเหน็บอีกฝ่ายเบาๆ พี่ซึงฮุนหัวเราะก่อนจะหยิบผ้ากันเปื้อนและเดินไปที่ครัว

อีกฝ่ายลงมือทำอาหารด้วยความคล่องแคล่ว ผมเดินเข้าไปในครัวก่อนจะอิงตู้เย็นและถาม

“พี่ทำอะไรอ่ะ”

“ทำข้าวผัดกิมจิให้เรากิน”พี่ซึงฮุนพูดทั้งๆที่ไม่ได้ละสายตามามอง ผมดูท่าทีนั้นก่อนจะเดินเข้าไปทางด้านหลัง วางมือลงบนเอวทั้งสองข้างของอีกฝ่ายก่อนมองเลยมา

อีซึงฮุนตัวแข็งค้างเมื่อเจอโหมดนี้ของผม โหมดที่ผมไม่เคยทำกับใครมาก่อนนอกจากคนที่ผมจะสนิทมากๆจริงๆ

“ตั้งใจทำนะ” ผมพูดแค่นั้นก่อนผละออกมานั่งรอที่โต๊ะทานข้าว มองอีกฝ่ายที่แข็งเป็นหินก่อนหลุดขำ “เป็นอะไร เจอผีหรือไง”

“เดี๋ยวนี้กล้าเข้าหาพี่ก่อนด้วยหรอ”

“หรือไม่ชอบหล่ะ ไม่ชอบก็ไม่ทำ”

“ชอบดิ แฟนน่ารัก”

ผมแอบหน้าแดงเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายใช้คำว่าแฟนกับผม

“หึ บ้าบอ ทำให้เสร็จๆสักที หิว เดี๋ยวจะกลับไปทำงานที่หอแล้ว”

“เห ไม่นอนกับพี่หรอ”

“เคยนอนด้วยหรือไง”

“แล้วที่เคยสัญญาจะให้กินหล่ะ” อีกฝ่ายปิดฝาหม้อก่อนหันกลับมาทำหน้าตากรุ้มกริ่ม ผมลุกลี้ลุกลนก่อนเหวดังลั่น

“บ้า ไม่ให้กินเว้ย หมดเวลา”

“พูดจาไม่น่ารัก เดี๋ยวโดนจูบ”

“กล้าหรือไง ถ้าผมไม่เต็มใจหน่ะ”

“หึหึหึ”

“ไอ้สิงโตแก่ พูดดีๆนะเว้ย”

พี่ซึงฮุนค่อยๆเดินเข้ามา มือที่ปลดผ้ากันเปื้อนออกช้าๆสายตาจริงจังทำให้ผมลุกออกจากเก้าอี้ก่อนจะค่อยๆถอยหลังหนี

เมื่อพี่เขาก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ผมก็จะถอยหลังไปทีละก้าว

“อย่าเข้ามานะ...เหวอ”

“เสร็จพี่หล่ะ” ผมนอนมึนเมื่อจู่ๆหงายลงโซฟาแบบไม่รู้ตัว ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ทุกที ไม่ทันได้ลุกขึ้นก็กลายเป็นว่าพี่ซึงฮุนประชิดตัวเป็นที่เรียบร้อย

“พะ..พี่ ปล่อยดิ ไม่เล่นนะเว้ย”

“แล้วพี่ดูเป็นคนเล่นๆหรอ”

ผมเม้มปากเมื่ออีกฝ่ายทอดสายตามองมาแบบจริงจัง ก่อนจะเบือนหน้าหนี

“มะ...ไม่รู้ อะ”ผมร้องออกมาเมื่ออีกฝ่ายดึงตัวเข้าแนบอ้อมกอดอุ่น มือที่โตกว่าผมลูบหัวพร้อมกับแขนรัดเอวเพิ่มสัมผัสแนบชิดมากขึ้น

ผมทำตัวไม่ถูก

เกิดความเงียบระหว่างผมกับพี่เขาร่วมนาที อีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้นก่อนจะผละออก และ...

ดีดหน้าผาก

“โอ้ย”

“หึหึหึ คิดว่าพี่จะทำอะไรเราทั้งทีไม่ต็มใจหรือไงไอ้ลูกหมา”

“เจ็บนะเว้ย” ผมร้องโว้ยวายออกมา อีกฝ่ายแค่ยิ้ม แต่มือไม่ได้ผละออก ผมลูบบริเวณที่โดนดีด ร้องโอดโอยก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่เงียบผิดปกติ

“วันนี้เป็นไรเนี่ย มาแปลก นั่งจ้องหน้าเงียบๆนานละนะ”

“เปล่า ก็คิดอะไรไปเรื่อยหน่ะ”

“คิดว่าผมน่ารักใช่ปะ” ผมพูดก่อนจะยิ้มตาปิด ยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ไว้ใต้คางตัวเอง ได้ยินเสียงหลุดหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนที่อ้อมกอดที่เอวจะกระชับมากขึ้น

“พี่อยากกลับมาหอแล้วเจอเราทุกวันจังซึงยุน”

“ที่เจอทุกวันนี่ยังไม่พอหรือไง”

“ก็...” อีกฝ่ายกระชับกอดมากขึ้น “เวลาพี่เจอเราข้างนอกพี่กอดแบบนี้ไม่ได้นี่นา”

“เลี่ยนว่ะ”

“พูดจริงเหอะ” ผมแกะมืออีกฝ่ายออกก่อนจะเด้งตัวยืนขึ้น เห็นท่าทีกังวลอีกฝ่ายแล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา

“นี่ ฟังนะ”

“...”

“มีอะไรไม่สบายใจก็พูด ไม่ใช่มาทำกังวลแบบนี้ รู้ไหมคนอื่นเขาห่วงเนี่ย”

“...”

“พี่แม่ง”

สุดท้ายผมก็ทนเห็นสีหน้าแบบนั้นไม่ไหว ค่อยๆจับไหล่อีกฝ่ายก่อนจะทำสิ่งที่คิดว่าคงจะเป็นครั้งเดียวที่พี่เขาจะได้จากผมแล้วหล่ะ

ผมกอดพี่เขาก่อนจะค่อยๆลูบที่ท้ายทอย ทำเสียงโอ๋เอ๋แบบที่แม่ผมชอบทำสมัยที่ยังอยู่กับท่านเวลาที่ผมกังวลก่อนพูดออกมา

“ไอ้สิงโตแก่ หยุดกังวลได้แล้ว”

ก่อนที่จะผละออกมา รู้สึกทำไมวันนี้ผมกล้าทำอะไรแบบนี้มากก็ไม่รู้

อีกฝ่ายดูจะอึ้งๆกับสิ่งที่ผมทำพอดู ผมหันหน้าหนีก่อนจะเดินไปที่ครัว ตักอาหารก่อนจะพูดเสียงดังแก้อาการเขินของตัวเอง

“พี่ มากินข้าวสิวะ”

“อ่า ครับๆ”อีกฝ่ายแย่หยุดอึ้งก่อนจะยิ้มออกมา

ผมหวังว่าสักวันความกังวลของพี่เขาจะหายไป

พอๆกับความขี้อายปากแข็งของผมเช่นกัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น