[OS]
Lee Seunghoon x Nam Taehyun
Story
: Make Love
I'm not the
best
but I'm trying
my best.
ฉันไม่ใช่คนดีที่สุด
แต่ฉันก็พยายามที่สุดแล้ว.
อีซึงฮุนทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง
สถานที่แปลกใหม่ทำให้ไม่รู้สึกชินเท่าที่ควร
อาจเพราะเป็นครั้งแรกที่เขามานั่งอยู่ที่นี่ก็เป็นได้
เวลาเกือบเที่ยงคืนไม่ใช่เวลาที่ควรออกมานัก แต่อีซึงฮุนไม่คิดจะปฏิเสธคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวของตนที่ส่งข้อความมาหาอยู่แล้ว
และก็ไม่คิดเลยเช่นกันว่าอีกฝ่ายจะเรียกออกมาเพียงเพื่อกล่าวสิ่งที่ไม่น่าฟังเท่าไร
‘อีซึงฮุน ฉันว่าเราเลิกกันเถอะ’
หัวเราะสมเพชตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมา หลังจากยืนเงียบหาเสียงตัวเองไม่เจอเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
กับผู้หญิงที่เดินมาบอกเลิกเมื่อครู่ จะว่าเสียดายมันก็ไม่ใช่ เพราะอีซึงฮุนเองก็มีคนเข้ามาหามากมาย
แต่ที่ดูจะคบกันยืดสุดคงเป็นคนเมื่อครู่
เดินเลียบไปทางร้านค้าเพื่อที่จะหาซื้ออะไรมาดื่มแก้อาการคิดไม่ตกของตัวเอง
ไหนๆก็ออกมาแล้ว จะกลับบ้านดึกคงไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
เมื่อเลือกซื้อสิ่งที่ถูกใจได้ อีซึงฮุนก็เดินมาที่สนามกีฬา
หวังว่าการมานั่งกินอะไรเงียบๆเพียงลำพังคงทำให้ความรู้สึกเมื่อครู่หายไปบ้าง
แต่กลับค้นพบว่าตนเองคิดผิด
เสียงลูกบาสกระทบพื้นดังหนักแน่น อีซึงฮุนนั่งเพ่งสายตามองไปที่สนาม
ใครกันมาเล่นบาสอะไรช่วงใกล้เที่ยงคืนแบบนี้
มองไปก่อนจะเห็นบุคคลที่อยู่กลางสนามบาส
แน่นิ่งเพราะคิดว่าสิ่งที่เห็นอาจเป็นอะไรที่ตาฝาดไป
ร่างกายบาง ผิวขาวผ่องในชุดกีฬานั่นเป็นอะไรที่คุ้นเคย ผมสีสว่างเปียกลู่เพราะหยาดเหงื่อสะกดสายตาให้มองไปเงียบๆ
แขนขาวๆนั่นยกลูกบาสก่อนจะชู้ตลงห่วงอย่างแม่นยำ
เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งกันในวันที่โหดร้ายแบบนี้
เมื่อเขาค้นพบว่าคนตรงหน้าคือใคร
ทำไมเขาจะจำไม่ได้
ว่าความคุ้นเคยตรงหน้าเคยเป็นสิ่งที่ปรารถนาที่สุดของอีซึงฮุนมาก่อน
บุคคลที่เป็นรักแรกของเขา บุคคลที่ไม่อาจละสายตา บุคคลที่ทำให้ได้แต่เพียงพร่ำเพ้อคิดไปเองว่าเป็นของของเขาทั้งตัวและหัวใจโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวสักนิด
ตัดสินใจลุกขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายทรุดตัวนอนแผ่กับสนาม
เดินเข้าไปก่อนจะยืนอยู่ ลังเลนิดหน่อยที่จะเอ่ยชื่อออกมา
“นัมแทฮยอนอา....”
ต่างคนต่างนั่งเงียบ มีเพียงสายลมที่พัดมาเบาๆพอทำให้รู้สึกดี
“พี่สบายดีหรอ” เป็นอีกฝ่ายที่เอ่ยขึ้นมาหลังจากปล่อยให้ความเงียบปกคลุม แทฮยอนไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกมาเพราะรู้สึกแปลกใจมากกว่าที่อีกฝ่ายรู้จักชื่อตัวเอง
แทฮยอนเป็นเพียงรุ่นน้องร่วมสถาบันกับอีซึงฮุน แค่นั้นจริงๆ
แม้มีมีหลายเหตุการณ์ที่ชวนให้รู้สึกแปลกใจ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แทฮยอนได้คุยกับอีกฝ่าย หลังจากที่อีซึงฮุนเรียนจบ เขาก็ไม่ได้รู้ข่าวคราวอะไรอีก อีซึงฮุนค่อนข้างมีเสน่ห์และดังพอตัว ทั้งที่สมัยเรียนก็เรียนคนละชั้นปีแต่ไม่รู้ทำไมมักเห็นสายตาของอีกฝ่ายมองมาเสมอ
ไม่ว่าเวลาที่เดินสวนกัน..
หรือเวลาที่อยู่ในห้องสมุด...
เวลาทานข้าว
หรือเวลาใดๆก็ตาม จะว่าแทฮยอนเป็นคนคิดมากไปเองก็อาจจะใช่ แต่มันเป็นเรื่องจริงที่เกือบทุกครั้งที่เผลอเงยหน้าแล้วจะต้องเห็นว่าอีกฝ่ายมองมาทางตนเอง
“อืม นายดูไม่เปลี่ยนไปเลยนะ”
“พี่ก็ไม่เปลี่ยนเลยเหมือนกัน” แทฮยอนเอนหลังก่อนพูดออกมา พยายามไม่เกร็งเพราะคนตัวสูงข้างๆ มองบนฟ้าก่อนทำท่าทางสบายๆออกมา
แตกต่างจากอีซึงฮุน
ในจิตใจของอีซึงฮุนมีความต้องการ มีความกระหายอยาก และมีความรู้สึกอยากครอบครองคนข้างกายมากกว่า
น่าสมเพช
อีซึงฮุนเป็นคนน่าสมเพชเสียจริง
นี่อาจจะเป็นความจริงที่แฟนสาวขอเลิกก็ได้
หลายครั้งที่เขาแสดงท่าทีไม่สนใจเธอคนนั้นอาจเพราะว่าใจจริงของเขาไม่ได้เป็นของเธอ...แต่อาจเป็นของนัมแทฮยอน คนที่เขาไม่เคยแม้แต่จะพูดคุยด้วยซ้ำ แต่ทำได้แค่จดจ้องอีกฝ่าย
เพราะกลัว ว่าหากผลีผลามไปอาจไม่เป็นไปอย่างที่ใจคิด
เพราะความกลัวคือสิ่งที่เป็นนามธรรม และเขาก็เข้าใจมันเกินกว่าจะกล้าทำอะไรไปตรงๆ
บทสนทนาสั้นๆเรียบง่าย แต่กลับทำให้ความรู้สึกเมื่อสมัยที่อีซึงฮุนยังแอบมองคนตรงข้างกายกลับมาอีกครั้ง เป็นความรู้สึกทุกอย่างที่ทำให้อีซึงฮุนลืมไปหมดว่าเขาออกมาเพราะอะไร เหมือนดั่งหัวใจที่กลับมาทำหน้าที่สูบฉีดเลือดของตัวเองตามหน้าที่ที่ควรจะเป็น
ด้วยความที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานพอสมควร ถึงแม้อีซึงฮุนจะเป็นฝ่ายพูดมากกว่า แต่การที่แทฮยอนยังมีการตอบรับกลับมาก็ทำให้อีซึงฮุนใจชื้นไม่น้อย เรื่องราวถูกส่งต่อแก่กันและกัน ทำให้อีซึงฮุนเริ่มคิดถึงเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง ความรู้สึกตีตื้นขึ้นมาในใจ นึกเสียดายที่ไม่กล้าคุยกับแทฮยอนในสมัยก่อน จนปล่อยให้เวลาผ่านมานานขนาดนี้
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ เพราคนเราไม่มัวพะวงเวลาเหมือนยามทุกข์
อีซึงฮุนมองนาฬิกาข้อมือ ย่างเข้าตีหนึ่งแล้วที่นั่งคุยกัน
อีซึงฮุนไม่รู้...
เขาไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะได้เจอกันอีกครั้งหรือไม่ แต่เขาคิดว่าเขาอยากลองเสี่ยงดูสักครั้ง
“มีคนที่คบอยู่ไหมตอนนี้” เอ่ยคำถามที่ตกตะกอนในใจอีซึงฮุนมานานออกมาเพียงเบาๆ
“ก็ไม่มีหรอกครับ ทำไมหรอ” แทฮยอนหันมามองด้วยความสงสัย ร่างบางชะงักไปเมื่อสบตากับอีกฝ่าย
“ก็ถ้านายไม่มีใคร...งั้นเราลองมาคบกันดูไหม”
อีซึงฮุนไม่อยากเชื่อเลยว่าตอนนั้นจะกล้าพูดออกไป หัวใจสั่นไหวออกมาทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องราวในครั้งนั้นแม้จะผ่านมานานหลายเดือนแล้วก็ตาม
ใบหน้าของแทฮยอนที่เคยเรียบเฉยกลับดูวูบไหว แก้มขาวดูฝาดชมพูออกมาระเรื่อยามค่อยๆพูดตอบรับออกมายังติดตรึงในความคิด แม้ในคราแรกจะบ่งบอกถึงความไม่มั่นใจในตัวอีซึงฮุนเองเท่าไรนักก็ตาม
แทฮยอนเป็นคนพูดน้อย ค่อนข้างหวงตัว
เป็นคนน่ารักที่อีซึงฮุนอยากดูแล
ความรู้สึกอยากครอบครองน้อยลงกว่าช่วงวัยแรกรุ่น เพราะอีกฝ่ายเกรงกลัว มันไม่ใช่ครั้งแรกของอีซึงฮุนสำหรับความรักในรูปแบบนี้ มันไม่ได้เป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจเท่าไรนักถ้าจะเอ่ยว่าอีซึงฮุนเองก็มีความรักทั้งกับชายและหญิง เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องเพศเท่าไร อาจดูเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักแต่เขากลับมองว่าตนเองเป็นผู้ล้มเหลวในด้านนี้มากกว่า
ความรักเป็นเรื่องยากเสมอ
ยากที่จะหาเจอ และก็ยากที่จะรักษามัน
แทฮยอนก็เหมือนผู้ชายทั่วไป เพียงแต่ไม่ใช่คนที่พาดโผน ชอบอยู่เงียบๆ ไม่ติดการสัมผัสทางกาย ต่างกับอีซึงฮุนชัดเจนเกือบทุกด้าน
แต่อีซึงฮุนมีความสุข เขากลับมองว่าความรักในรูปแบบนี้อาจเป็นสิ่งที่เขาตามหามานานแล้วก็ได้
และมันบรรลุทุกอย่างเพราะนัมแทฮยอน
เพราะความรักไม่ได้แสดงออกแค่ทางกาย
หากกายแนบชิดแต่หัวใจไม่ใช่อย่างที่เป็น ก็ไม่มีเหตุผลที่ควรจะเรียกมันว่าความรัก
“คิดดีแล้วใช่ไหมแทฮยอน พี่ไม่ได้บังคับเรานะ” อีซึงฮุนเอ่ยออกมาอย่างข่มอารมณ์ เขารู้ตัวว่าตนเองไม่ใช่คนที่อ่อนโยนกับเรื่องบนเตียง ยิ่งอดทนกับแทฮยอนในเรื่องนี้มานาน เขายิ่งรับรู้ว่ามันเหมือนกับระเบิดเวลาที่พร้อมทำลายทุกสิ่งเสมอ
“อืม...”อีกฝ่ายตอบรับก่อนใบหน้าพิงไหล่อีซึงฮุน กอดคอแน่นเมื่อถูกพามาที่เตียงนอน
“ถ้าอยากจะหยุด ก็บอกได้เลยนะเข้าใจไหม” ประทับริมฝีปากก่อนเริ่มไล่เลียคนตรงหน้า คนที่พร้อมที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันกับเขา
ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกังวลเกี่ยวกับเขาได้ขนาดนี้เช่นกัน
นัมแทฮยอนที่เดินมาและบอกว่าอยากสัมผัสกันมากกว่านี้ ในวันครบรอบที่คบกันมากว่าสามปีเล่นเอาหัวใจของอีซึงฮุนกระตุกวูบ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าอยากสัมผัสคนตรงหน้าขนาดนั้น
"ซึงฮุน..." แทฮยอนร้องออกมาเมื่อถูกสัมผัสช่วงกลางตัว อีซึงฮุนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแทฮยอน หัวใจเหมือนถุกกระตุกวูบกับภาพที่เห็น แทฮยอนยกมือขึ้นปิดริมฝีปากที่สั่นเทา “พี่จะทำแรงๆก็ได้นะ ไม่ต้องถนอมผมมากหรอก”
“นายจะเจ็บเอาหน่ะสิ”
“พี่ทำตามที่ใจพี่อยากทำเถอะ ผมอยากรู้ว่าพี่รู้สึกกับผมแบบไหน”
อดไม่ได้...
อดใจไว้ไม่ได้เมื่อประโยคที่ดูจะน่ารักติดกับออดอ้อนนั่นออกมา
หัวเราะออกมาน้อยๆก่อนประกบริมฝีปากเป็นเชิงขอบคุณ ความแข็งขืนผ่านเนื้อผ้าออกมาทำให้อีซึงฮุนยิ้มมุมปาก
"มีอารมณ์เหมือนกันนี่ นึกว่าจะทื่อเป็นท่อนไม้" หยอกคนตรงหน้าก่อนจะได้แรงตีเบาๆเป็นผลตอบแทน
อีซึงฮุนถอดกางเกงอีกฝ่ายออกทันที แทฮยอนร้องออกมาเสียงหลงเมื่อมือใหญ่บีบเฟ้นร่างกายรุนแรง
แต่เป็นความรุนแรงที่แทฮยอนรู้สึกยินดีและสุขสม
ไม่มีความอ่อนโยน ไม่มีความเห็นใจ
อีซึงฮุนรูดรั้งแกนกายแทฮยอนอย่างรุนแรงจนน้ำซึมออกมา ก้มลงเลิกเสื้อก่อนจะกัดยอดอกที่ตอนนี้แข็งสู้ลิ้นดีเหลือเกิน
เจ็บแต่กลับรู้สึกดี
แค่เป็นสัมผัสจากอีซึงฮุน แทฮยอนก็พร้อมยอมอย่างง่ายดาย
แทฮยอนเอื้อมมือมาปลดเข็มขัดกางเกงให้อีกฝ่าย อีซึงฮุนเห็นดังนั้นจึงค่อยๆดึงอีกฝ่ายให้นั่งก่อนจะยืนเข่าให้อีกฝ่ายถอดเสื้อผ้าถนัดๆ
"เร็วๆครับ พี่ใจร้อน" พูดก่อนส่งยิ้มให้ใจเต้นแรง มือขาวปลดจนเสร็จ ความแข็งขืนตรงหน้าทำให้แทฮยอนเผลอเบือนหน้าหนี แต่อีซึงฮุนกลับจับใบหน้าอีกฝ่ายให้เผชิญตรงๆ
"ขอทำรุนแรงหน่อยนะ"ลุกยืนก่อนสอดใส่ในปากอีกฝ่ายอย่างรุนแรง ความใหญ่ทำให้แทฮยอนสำลักเพราะใส่มาเต็มแรงแถมลึกถึงคอหอย ยกมือตีหน้าขาเป็นเชิงบอกให้เบาแรงแต่กลับกลายเป็นว่าสอดใส่แรงกว่าเดิม
"อ่า อ่าส์"เชิดหน้าเพราะโพรงปากอุ่นร้อนดีเหลือเกิน ดึงออกก่อนประกบจูบด้วยความพึงพอใจ ลิ้นแลกลิ้นทั้งๆที่มือถอดเสื้อผ้าคนตัวเล็กออก ผิวขาวๆแค่บีบเบาๆก็มีรอยแดงยิ่งทำให้สติขาดผึ่ง อีซึงฮุนซุกไซร้ซอกคอที่ตอนนี้เอียงให้อย่างโดยดี ดูดดึงจนมีรอยแดง อีซึงฮุนต้องการแสดงความเป็นเจ้าของให้มากกว่านี้ มากพอที่จะบอกให้รู้ว่าตนเองรักอีกฝ่ายมากแค่ไหน
"อ่า อ่า" สอดใส่เข้ามาทีเดียวจนหมด ไม่มีการเตรียมตัวอะไรทั้งนั้นจนแทฮยอนน้ำตาไหลออกมา ต่างคนต่างเชิดหน้าเมื่อถูกเติมเต็มจากกันและกัน ช่องทางสีสดตอดรัดถี่รัวจนแทบเสร็จออกมา มือของอีซึงฮุนรูดรั้งอีกฝ่าย ก้มลงจูบปลอบลึกล้ำ
เหมือนจะใจร้อน แต่ก็เย็นอย่างไม่น่าให้อภัย
อีซึงฮุนเหมือนกับน้ำแข็งแห้งที่วางไว้ก็เหยียบเย็น แต่หากสัมผัสคงได้เป็นแผล
อีซึงฮุนละริมฝีปากออกมองก่อนจะยกยิ้ม จับข้อมือทั้งสองข้างของแทฮยอนขึงกับที่นอน
"อ้าขากว้างๆก็พอ" พูดจบก่อนจะเริ่มขยับสะโพกสอบทันที ความแสบขัดทำเอาแทฮยอนนิ่วหน้า หายใจหอบเพราะความเจ็บและความเสียว ก่อนจะกระทั้นไปโดนจุดกระสันเต็มแรง
หลุดเสียงหลงเมื่อความรู้สึกดีแทรกซึม อีซึงฮุนยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเสียวมากขึ้น มือจับข้อเท้าทั้งสองข้างก่อนอ้าออกกว้าง ขยับควงแรงๆก่อนกระแทกไม่หยุด
แทฮยอนกระตุกก่อนจะปลดปล่อยออกมา น้ำสีขาวขุ่นเปรอะเยิ้มที่หน้าท้อง
"หึ เยอะเหมือนกันนะ"จับอีกฝ่ายอยู่ในท่าคลานก่อนกดสะโพกให้โก่งขึ้น ดึงออกเกือบสุดก่อนกระแทกเข้าไปเต็มแรง แทฮยอนผวาเฮือก หยาดเหงื่อซึมออกตามไรผมจนเปียกชุ่ม
เสียงเตียงขยับยังไม่ดังเท่าเสียงเนื้อกระทบกับ อีซึงฮุนไม่ออมแรงจนแทฮยอนแทบทรุด แขนสั่นก่อนที่จะถูกแนบหลังลงมากอด มือทั้งบีบทั้งขย้ำหน้าอกราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นสตรี สะกิดยอดอดที่แข็งขืนก่อนหอบกระเซ่าข้างหูแข่งกับอีกฝ่าย
"แฮ่ก พะ พี่ขอกระแทกแรงๆนะ จะเสร็จแล้ว" บังคับใบหน้าหวานให้หันมาแลกลิ้น สะโพกสอบก็กระแทกถี่ยิบก่อนแทฮยอนจะเสียววาบจากความอุ่นร้อนที่พุ่งในช่องทางหลัง
ทรุดลงกับที่นอนทั้งๆที่ยังไม่ได้ถอดถอนกายออก อีซึงฮุนมองแทฮยอนที่นอนหอบหายใจ ทั้งที่ปกติแล้วแทฮยอนไม่ใช่คนที่จะสื่ออารมณ์อะไรออกมาเก่งเท่าไรนัก แต่สิ่งที่เกิดเมื่อครู่ทำให้อีซึงฮุนรู้สึกดี
อย่างน้อยสีหน้าที่มีอารมณ์ร่วมของแทฮยอน รวมทั้งร่างกายที่ไม่ขัดขืนก็บ่งบอกว่าอีกฝ่ายรู้สึกดีกับเขาเช่นกัน
“แทฮยอนอา”
“หืม”
“ขอบคุณนะที่ยอมพี่ขนาดนี้” หอมหน้าผากอีกฝ่ายเบาๆ สีหน้าที่ดูอึดอัดช่องทางหลังของแทฮยอนทำให้อีซึงฮุนยิ้มออกมา “อึดอัดหรอ”
“ไม่หรอก”
“งั้นต่อนะ” พูดก่อนจะขยับเบาๆจนแทฮยอนยู่หน้า อีซึงฮุนหัวเราะก่อนจะถอนตัวออกมา มองแทฮยอนทำหน้าแปลกๆ
ถึงจะอยากต่ออีกหลายรอบแค่ไหนแต่ความเป็นห่วงร่างกายคนตรงหน้าย่อมมีมากกว่า เพราะรู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่คนอารมณ์อ่อนโยนในเรื่องบนเตียงเท่าไร จัดท่าทางอีกฝ่ายให้นอนในท่าที่สบายก่อนจะเร่งแอร์เพื่อคลายความร้อน แทฮยอนยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะผล็อยหลับไป อีซึงฮุนห่มผ้าให้อีกฝ่ายก่อนจะสอดตัวนอนข้างๆ จับอีกฝ่ายกอดแนบอกปัดไรผมและจูบด้วยความทะนุถนอมสุดหัวใจ
อีซึงฮุนคิดทบทวนเรื่องราวระหว่างเขากับแทฮยอน
ยิ่งความทรงจำจากวันนั้นจนถึงวันนี้มีมากเท่าไร
อีซึงฮุนยิ่งรู้สึกขอบคุณกับความรักที่มีให้เท่านั้น
“พี่รักเรานะ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น